ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 537 หมากรุก

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 537 หมากรุก

บทที่ 537 หมากรุก

ภายในวังเซียนแห่งหนึ่งเหนือแดนเซียน กลิ่นอายเซียนปกคลุมอย่างอุดมสมบูรณ์ สัตว์ร้ายแปลกประหลาดทั้งหลายที่ไม่เคยปรากฏในแผ่นดินหยวนหงมาก่อนล้วนหมอบคลานอยู่บนพื้น

ผู้คนทั้งหลายกำลังถืออาวุธรายล้อมพวกมัน พวกเขาสวมชุดเกราะสีดำและมีกลิ่นอายมุ่งร้าย แต่ละคนกระชับอาวุธขณะคุ้มกันอาณาเขตอย่างแข็งขันและไม่กล้าละสายตาแม้แต่น้อย

บางครั้งก็มีสตรีสองคนถือของในสภาพสวมชุดกระโปรงสีแดงเข้มเคลื่อนผ่านมาอย่างสง่าผ่าเผย พวกนางย่างก้าวแผ่วเบา ทำให้ทุกคนที่กำลังสนทนาอย่างแผ่วเบาเมื่อครู่พากันปิดปากขณะก้มศีรษะเล็กน้อยแล้วปล่อยให้เดินผ่านไปอย่างเงียบงัน

สาเหตุที่คนเหล่านี้ให้ความเคารพก็เพราะในดินแดนขนาดใหญ่เช่นนี้ ห้องโถงเซียนดังกล่าวคือสถานที่ที่มหาจักรพรรดิจิ่วเทียนทำการฝึกฝน!

บนบัลลังก์ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในห้องโถงเซียน ชายผู้หนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิโดยมีกลิ่นอายหนักอึ้งอยู่รอบข้าง

เขาสวมเกราะสมบัติโอ่อ่า ยามสูดลมหายใจ ชุดเกราะก็กระเพื่อมขึ้นลง แล้วอักขระโบราณสีแดงซึ่งอยู่บนนั้นก็เคลื่อนไหวเล็กน้อยเพื่อช่วยในการฝึกฝน!

คนผู้นี้คือร่างหลักของมหาจักรพรรดิจิ่วเทียน!

ทันใดนั้น! เขาค่อยลืมตาขึ้นขณะแสงสีทองกระจายออกมา แล้วกลิ่นอายไร้เทียมทานก็กวาดไปทั่วทั้งดินแดน!

ในตอนนี้ ทุกคนที่คุกเข่าไปทางห้องโถงเซียนพลางตะโกนเสียงดัง “ยินดีด้วยที่มหาจักรพรรดิออกจากการเก็บตัว!”

กลิ่นอายแข็งแกร่งยิ่งพุ่งมาแต่ไกล ทุกคนซึ่งอยู่ในดินแดนต่างตื่นตัวก่อนจะสะกดมันเอาไว้

กลิ่นอายนี้ทรงอำนาจยิ่ง มันไม่ด้อยไปกว่ามหาจักรพรรดิจิ่วเทียนแม้แต่น้อย!

กลิ่นอายดังกล่าวพาบุคคลผู้หนึ่งออกมานอกห้องโถงเซียน เสื้อผ้าของเขาล้ำค่าโอ่อ่า รูปลักษณ์เหมือนชายบ้างหญิงบ้าง แม้ใบหน้านุ่มนวล แต่ก็มีรอยแผลตรงหว่างคิ้วโดยจงใจ ยิ่งทำให้กลิ่นอายเย็นยะเยือก

“จิ่วเทียน ตอนนี้เจ้าออกจากการเก็บตัวแล้ว รีบมาประลองกับข้าโดยไว ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหนหลังจากเก็บตัวมาได้หนึ่งหมื่นปี?!”

เสียงหัวเราะร่าเริงของชายคนนั้นยังคงดังต่อไป ขณะจิตวิญญาณก่อปรากฏในดวงตา

ทุกคนในดินแดนคำนับไปทางชายคนนั้นทันทีพร้อมกับตะโกนด้วยความเคารพ “ยินดีต้อนรับมหาจักรพรรดิเหลยอวี้!”

มหาจักรพรรดิเหลยอวี้ไม่ให้ความสนใจคนเหล่านี้ที่กำลังคุกเข่า ตอนนี้เขาเพียงอยากต่อสู้กับมหาจักรพรรดิจิ่วเทียน

ในตอนนี้ มหาจักรพรรดิจิ่วเทียนผู้กำลังนั่งอยู่ในส่วนลึกของห้องโถงเซียนมีสีหน้าชั่วร้ายอันน่าพรั่นพรึง!

เขาค่อยเงยหน้าขณะครุ่นคิดสิ่งที่เกิดขึ้นในแผ่นดินหยวนหงเมื่อครู่ มันคือสถานที่ที่เขาถูกกำราบและสังหารโดยอุบายวิถีโบราณ!

“แผนการของเจ้าเมื่อครู่ล้วนเพ่งเล็งมาที่ตัวข้าใช่หรือไม่!”

ไม่กี่อึดใจต่อมา เสียงตะโกนอีกเสียงก็มาจากโลกภายนอก

“จิ่วเทียน หรือว่าการบ่มเพาะของเจ้าไม่ก้าวหน้าแต่เป็นถดถอยจนไม่กล้าออกมา? ฮ่า ๆๆ หากเจ้าไม่กล้ารับคำท้า ข้าก็จะยึดครองแดนเก้าสวรรค์เพื่อเจ้าก็แล้วกัน!”

มหาจักรพรรดิจิ่วเทียนหันไปทางนอกห้องโถง เขาคล้ายกับนึกถึงบางอย่างก่อนความหดหู่เมื่อครู่จะหายไปในพริบตา

“เหอะ… เหลยอวี้หรือ?”

มหาจักรพรรดิจิ่วเทียนค่อยยืนขึ้นด้วยสายตาสงบ “ในเมื่อข้าถูกเจ้าลากลงไปในน้ำแล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีใครในแดนเซียนที่จะทนอยู่เฉยได้อีกแล้ว!”

“แม้แต่ห้าพันดินแดนที่อยู่ใต้บัญชาของเจ้า ก็ไม่มีใครสามารถหลีกหนีความข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ได้หรอก!”

“เจ้าไม่อยากต่อสู้กับวิถีโบราณงั้นหรือ? เดี๋ยวข้าจะให้พวกเจ้าทั้งสองต่อสู้กันเอง!”

จิตสังหารพลุ่งพล่านในดวงตาของมหาจักรพรรดิจิ่วเทียน แล้วมุมปากของเขาก็ยกยิ้มอย่างชั่วร้าย

“หากข้าไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ พวกเจ้าทั้งหมดก็อย่าหวังเลย ฮ่า ๆๆ”

ไม่ทราบว่าที่นี่คือที่ใด มันไม่มีท้องนภา ไม่มีปฐพี ไม่มีชีวิต ไม่มีความตาย

ดินแดนกว้างใหญ่มีเพียงกลิ่นอายเบาบางจากที่ใดไม่ทราบ พวกมันฉีกกระชากพื้นที่นี้ก่อนจะกลายเป็นสิบเก้าเส้นแล้วประกอบเป็นกระดานหมากรุกขนาดใหญ่

กลิ่นอายกลุ่มหนึ่งกลายเป็นหมากรุกสีดำและขาวกระจายไปทุกหนแห่ง

ตึง!

สิ้นเสียงอันแผ่วเบา เบี้ยสีขาวก็ตกลงมาขณะทำการเคลื่อนไหวอย่างยอดเยี่ยมเพื่อตัดมังกรสีดำตัวใหญ่ที่เพิ่งถูกวางบนกระดาน

“เหอะ… ทักษะการเล่นหมากรุกของข้าพัฒนาขึ้นไม่น้อย”

เสียงที่แยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิงดังมาจากที่ใดไม่ทราบ จากนั้นเบี้ยสีดำก็ขยับอีกครั้ง การเคลื่อนไหวของมันไม่มีความพิเศษ ให้ความรู้สึกสบายเล็กน้อย

เสียงมั่นคงและเนิบช้าซึ่งอยู่ข้างเบี้ยสีขาวดังขึ้น “มิกล้า มิกล้า หากเป็นเรื่องทักษะการเล่นหมากรุก ท่านยังเหนือกว่าหลายขุมนัก ท่านสามารถพลิกสถานการณ์ทั้งหมดได้เพียงใช้หมากตัวเดียว นับว่าไม่ธรรมดา”

เสียงที่แยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิงบริเวณเบี้ยสีดำหัวเราะอย่างแผ่วเบาด้วยความยินดีเล็กน้อย “เมื่อทำหมากตัวนี้ล้มลง ข้าก็หมดความสนใจในตัวมันเพราะวาสนาของมันได้นำพามาถึงจุดนี้แล้ว แต่หมากตัวนี้ได้สร้างแรงผลักดันจนกลายเป็นจุดวิกฤติที่สุดของสถานการณ์ทั้งหมด”

“กระดานหมากรุกประกอบด้วยสิบเก้าเส้นและสามร้อยหกสิบเอ็ดจุด ในหมู่พวกมันมีดาวแปดดวงกับหนึ่งองค์ประกอบ เมื่อตัวหมากเคลื่อนลงไป มันจะไม่ใช่แค่ตัวหมากขนาดเล็ก แต่ยังส่งผลต่อสถานการณ์โดยรวม หากทุกสิ่งประกอบเข้าด้วยกันจนกลายเป็นตัวหมากขึ้นมา ต่อให้มันจะพ่ายแพ้ ทั้งกระดานก็จะไม่พ่ายตาม แต่ทันทีที่ข้าพ่ายแพ้ ทุกสรรพสิ่งจะแพ้พ่าย!”

เสียงของเบี้ยสีขาวดังขึ้นอย่างสงบขณะเอ่ยอย่างเนิบช้า “ซ่างเฉิน เวลาก็ล่วงเลยมาหลายปีแล้ว การต่อสู้ระหว่างเจ้ากับข้าผ่านมานานเท่าใดก็ไม่ทราบ หรือว่าเจ้าเพียงจะใช้ตัวหมากเพื่อตัดสินผลลัพธ์กับข้า?”

เบี้ยสีดำซึ่งอยู่อีกด้านหัวเราะอย่างแผ่วเบา “ไม่มีใครหยุดยั้งข้าได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่สามารถลากเจ้าเด็กสารเลวจากเก้าสวรรค์เข้ามาสู่สถานการณ์นี้ได้ อย่างที่เจ้าคาดเอาไว้ เจ้าเด็กสารเลวทั้งหลายจากแดนเซียนอาจจะเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้”

“แต่ว่า…”

เสียงของเบี้ยสีดำดูจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ตามคำบอกเล่าของปรมาจารย์ เวลาน่าจะใกล้เข้ามาแล้ว เจ้ากับข้าสามารถปิดตาข่ายตามแผนที่วางเอาไว้ได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องผลแพ้ชนะมากจนเกินไป มันเป็นเพียงคุณธรรมที่จะทำให้โลกทั้งเก้าตกอยู่ในความปั่นป่วน ”

อีกด้าน เบี้ยสีขาวย่อมเห็นพ้อง “ไม่ต้องห่วง แม้ข้าจะขัดแย้งกับเจ้ามาเนิ่นนาน แต่หากเป็นเรื่องใหญ่ พวกเราก็จะจับมือร่วมกัน ทันทีที่เจ้าเด็กสารเลวจากเก้าสวรรค์ออกมา สถานการณ์ก็จะคลี่คลายได้โดยง่าย แต่ว่า เจ้ายังต้องก้าวนำไปอีกขั้นจึงจะทำให้เรื่องราวเป็นไปด้วยดี แล้วเจ้าเด็กสารเลวพวกนั้นก็จะเต็มใจพัวพันกับเรื่องนี้”

“ดี” เสียงของเบี้ยสีดำเงียบไป จากนั้นกลิ่นอายอันเกรี้ยวกราดก็ตรงเข้ามา แล้วกระดานหมากรุกก็ถูกกวาดล้างจนเหลือเพียงความว่างเปล่า

บนโลกใบนี้ไม่หลงเหลือสิ่งใดราวกับเป็นสถานที่แห่งความตาย

แผ่นดินหยวนหง

ท่ามกลางซากปรักหักพังขนาดใหญ่ หมู่เมฆแยกออก ราตรีอันมืดมิดมาเยือนขณะปกคลุมท้องนภาด้วยแรงกดดันสีดำ มีเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่ในห้วงอากาศ

ตี้อู่เหอซั่นมองลู่หยวนผู้อยู่บนท้องนภาขณะกลืนน้ำลาย หัวใจของนางผันผวนไปมา

แม้เป็นเพียงเศษเสี้ยวจิตเทวะของร่างจำแลงมหาจักรพรรดิจิ่วเทียน แต่มันก็ถูกเด็กคนนี้สังหาร!

ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากดาบเมื่อครู่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์จนเทียบได้กับมหาจักรพรรดิ!

หากเด็กคนนี้สามารถก้าวเข้าสู่แดนเซียนและฝึกฝนอย่างเหมาะสม เขาอาจจะสามารถสังหารมหาจักรพรรดิเพื่อกลายเป็นมหาจักรพรรดิเสียเองได้!

หากนางสามารถติดตามลู่หยวนได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น…

ในความคิดของตี้อู่เหอซั่น ความทรงจำในอดีตทั้งหลายยังคงปรากฏขึ้นมา

หลังจากครุ่นคิดแล้ว นางก็เห็นลู่หยวนเคลื่อนลงมา

ตี้อู่เหอซั่นกัดฟันขณะกลับมาหาลู่หยวน นางพลันคุกเข่าให้อีกฝ่ายแล้วทำการคารวะ

“ตี้อู่เหอซั่นเต็มใจที่จะจงรักภักดีต่อท่าน โปรดพาข้าไปกับท่านด้วย!”

———————————

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท