การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า – ตอนที่ 39 องค์ที่ 2 ผู้กล้า – เจ้าหญิงแวมไพร์ vs ผู้กล้า (2)

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

“………! อ๊าก…!”

 

มือขวาของฉันถูกตัดขาดกระเด็น

เจ็บแบบจินตนาการไม่ถูกเลย… ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก แต่ก็ยังเจ็บโคตรๆ เลย!

ฉันคิดว่าเหตุผลที่ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นน่าจะเป็นเพราะการอวยพรจากดวงจันทร์ ผลเลยทำให้แผลชา

 

“อ๊าาา! แม้แต่คุณเคนก็เสร็จมันไปแล้ว”

“แต่เธอตัดมือมันไปได้ข้างนึงแล้ว! มันมาได้แค่นี้แหละ…”

 

ก่อนที่เจ้านักบุญนั่นจะทันพูดจบประโยค ฉันก็กระโดดถอยมาจากเธอ คว้ามือขวาที่ถูกฟันไปดูความเร็วเต็มสูบ และเอามันมาต่อกับรอยตัดที่แขนขวาของฉัน

 

“{มิดเดิล ฮีล (ฟื้นฟูระดับกลาง)}……!”

 

ฉันร่ายเวทฟื้นฟูที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันใช้ได้ในตอนนี้ซ้ำๆ ที่แผลนั่น

 

“…ฟู่ว โอเค กลับมาต่อกันแล้ว”

 

จริงๆ แล้ว  {ฟื้นฟูระดับกลาง} เป็นเวทที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บหนักอย่างกระดูกหักได้ แต่ฉันใช้พลังเวทที่สูงของฉันเพื่อทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาเพิ่มขึ้น

 

“ไม่จริงน่า!”

“โกหกใช่มั้ย…!”

“อย่าดูถูกแวมไพร์ในคืนจันทร์เพ็ญสิ!”

 

แต่ยังไง สถานการณ์มันก็ยังอยู่ในวิกฤติอยู่ดีล่ะนะ

…ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะ แต่พลังของผู้กล้านี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

ถ้าฉันประมาทไปแค่นิดเดียว เธอจะใช้ท่าฟันระดับถึงตายใส่ฉันแน่ๆ ถึงสเตตัสของเธอจะต่ำกว่าฉันมาก แต่เธอกลับใช้สเตตัสนั่นได้ดีกว่าฉันซะอีก

 

“………”

“ยังนิ่งเหมือนเดิมเลยสินะ เอาเถอะ… มันก็แน่อยู่แล้วหนิเนอะ ก็เธอยังไม่ได้สติเลยนี่นา”

 

.

.

.

อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยไปเงียบๆ แบบนี้นะ!?

 

นี่เราสู้กันมานานแค่ไหนแล้วนะ?

ถ้าพูดแบบทางกายภาพก็… 20 นาที?

สมรภูมิที่เราใช้ก็ขยับไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เราก็เข้ามาสู้กันในป่าแล้ว

ฉันไม่ใช่แค่ยังจัดการผู้กล้าไม่ได้ แต่ขนาดไอ้นักบุญหรือผู้วิเศษนั่นก็ยังจัดการไม่ได้เลย

เพราะผู้กล้าปกป้องพวกมันนี่แหละ

…บางที นักรบกับจอมยุทธ์อาจจะไม่ได้สำคัญขนาดนั้น เพราะพวกมันไม่สามารถเพิ่มพลังให้กับผู้กล้าได้ ก็เลยใช้กรณีนี้เป็นการฆ่าปิดปากไปด้วยเลยล่ะมั้ง

แต่นักบุญกับผู้วิเศษน่ะไม่เหมือนกัน ผู้วิเศษสามารถร่ายเวทเสริมการโจมตีให้ผู้กล้าได้ และถ้าผู้กล้าได้รับบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย นักบุญก็รักษาให้ทันทีอยู่ดี

เพราะเธอรู้ถึงประโยชน์พวกนี้… ไม่ก็ถูกสอนมาแบบนี้ ผู้กล้าเลยปกป้องพวกมันเอาไว้สินะ

 

“………”

“อ๊า!?”

 

ผู้กล้าฟันมาโดนฉันอีกแล้ว คราวนี้ถากโดนสีข้างของฉันไป

 

“{มิดเดิล ฮีล (ฟื้นฟูระดับกลาง)}!”

 

ฉันรักษามันทันที แต่เพราะฉันต้องการรักษาแผลนี่ก่อน ฉันก็เลยยิงเวทโจมตีใส่แบบจัดเต็มไม่ได้!

 

“โธ่เอ๊ย! ยัยนั่นหัวรั้นเป็นบ้าเลย! ท่านผู้กล้าคะ! รีบๆ ฆ่ามันซักที!”

“…มันเคลื่อนที่เร็วเกินไป เราจะทำยังไงดีให้การเคลื่อนที่นั่นช้าลงได้…”

 

โอ๊ย! ชิ! ไอ้พวกนี้นี่น่ารำคาญจริงๆ เลย!

ทำยังไงฉันจะฆ่าไอ้ 2 คนนั่นได้ซักที…?

 

…อะ จริงสิ

ทำไมฉันถึงนึกเรื่องง่ายๆ แบบนี้ไม่ออกตั้งแต่แรกกันนะ?

 

“{ครีเอท ออยล์ (ผลิตน้ำมัน)}”

 

ด้วยปริมาณพลังเวทของฉัน ฉันเลยโปรยน้ำมันไปได้ทั่วบริเวณเลย

 

“ว้า นี่มันอะไรน่ะ?”

“นี่มัน… น้ำมัน… ชิบ!”

 

โอเค งั้น ก็จุดไฟได้เลย

 

“{อิกนีชั่น (จุดประกายไฟ)}”

 

คิดว่าถ้าเราจุดไฟในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยน้ำมันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ… แน่นอนว่าภาพของไฟลุกต้องเข้ามาในความคิดแน่นอนเลยใช่มั้ย… ไม่สิ ตอนนี้ฉันก็กำลังดูภาพไฟลุกอยู่ตรงหน้าฉันเลยนี่แหละ

 

“กรี๊ดดดดดดดดด!!!”

“ร้อน! ร้อน! โอ๊ย ร้อน!!”

 

ว้าว เสียงดังสุดๆ ไปเลยแฮะ

ฉันเผาพวกมันซะ เพราะพวกนั้นทั้งเสียงดังทั้งน่ารำคาญมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว แต่ตอนนี้พวกนั้นดันแหกปากเสียงดังกว่าเดิมอีก เอาเถอะ เดี๋ยวพวกมันก็ตายแล้ว เพราะงั้นฉันว่าคงไม่เป็นไรหรอก

…อย่างที่คิดเลย ผู้กล้าโดดเข้าไปในทะเลเพลิงนั่นแล้ว

จากนั้น ทันทีที่เธอเข้าไปหาทั้ง 2 คนนั่น เธอก็แกว่งดาบของเธอซ้ำไปซ้ำมา… ไฟรอบๆ พวกนั้นก็หายไป

…โห นี่สร้างภาวะสูญญากาศได้ในจังหวะที่ฟันดาบงั้นเหรอ แล้วก็ทำมันให้เร็วพอที่จะดับไฟได้สินะ

โกงสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย

 

“ร- รอดแล้ว…”

“ขอบคุณมากนะคะ ท่านผู้กล้า…!”

 

แล้วผู้กล้าก็หันมาหาฉันอีกครั้ง

ก็นะ ดูท่าฉันจะเผาพวกมันไม่สำเร็จสินะ

…ก็ ไม่ผิดจากที่ฉันคาดไว้ซักนิด

 

“…หะ กะ อั๊กกกก……!”

“อะไร…น่ะ……?!”

 

อาเระเร้~ เกิดอะไรขึ้นกันน้า~

เจ้า 2 คนนั้นจู่ๆ ก็เริ่มทรมานขึ้นมา อะ ทรุดลงไปกันแล้ว

ผู้กล้าหันไปสนใจผู้วิเศษกับนักบุญนั่นแทน แต่ก็ไม่ได้เข้าไปช่วยอะไร

เพราะผู้กล้าถูกทำลายจิตใจไปแล้ว การทำแบบนั้นก็อาจจะเป็นวิธีที่สมเหตุสมผลก็ได้ที่จะใช้เป็นอาวุธมีชีวิตอะนะ แต่ในทางกลับกัน ความคิดแนวๆ ‘ฉันไม่มีทางยอมแพ้แค่เพราะฉันไม่รู้ว่าจะช่วยได้ยังไงหรอก! ฉันจะช่วยพวกเธอให้ได้เดี๋ยวนี้เลย!’ อะไรแบบนั้นก็ถูกทำลายไปด้วยเหมือนกัน

ฉันเดาว่าผู้กล้าคงจะไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้ง 2 คนนั้นกำลังทรมานอยู่จากอะไร เพราะงั้นเธอก็เลยไม่ได้ทำอะไรเลย ช่วยเหลือไม่ได้ ถ้าเธอเข้าไปใกล้กว่านั้น เธอก็อาจจะตกที่นั่งเดียวกับเจ้าพวกนั้นได้ เพราะแบบนั้นเธอเลยไม่เข้าไปช่วย ก็แค่นั้นแหละ

 

“อะ… อิ……”

“ท่าน… ผู้…… กล้า…… ค่ะ… ชะ-……”

 

สิ่งที่ฉันทำก็แค่ควบคุมแก๊สด้วยเวทลมอย่าง {คอนโทรล์ วินด์ (บงการสายลม)}  

คาร์บอนมอนอกไซด์ถูกเคลื่อนย้ายมาด้วยลม และก็กักเอาไว้รอบ 2 คนนั้นด้วยลม

แน่นอน เจ้าพวกนั้นก็โดนเข้ากับภาวะพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide poisoning) แล้วเดี๋ยวก็ตายในอีกไม่ช้าแล้ว

หืม? ปกติเด็ก 8 ขวบไม่น่ารู้เรื่องนี้งั้นเหรอ?

ก็การเสียชีวิตจากเหตุอัคคีภัยส่วนใหญ่ก็มาจากภาวะพิษคาร์บอนมอนอกไซด์นี่นา

 

“…เอาล่ะ ตอนนี้ก็เป็นการสู้ตัวต่อตัวซะทีสินะ ผู้กล้า เอายังไงต่อดีล่ะ? ไม่มีเพื่อนมาเพิ่มแล้วเนอะ?”

“………”

 

สมาชิกที่เหลือในคณะผู้กล้าของเธอถูกฆ่าหมดเรียบร้อย แต่สีหน้าไม่เปลี่ยนไปซักนิดเลยสินะ

ข้างในตายด้านหมดแล้วสินะ เธอเนี่ย?

 

“เอาเถอะ ฉันจะช่วยให้เธอหลับไปเร็วๆ ละกัน… {สลีป (นิทรา)}”

 

ฉันลองใช้เวทจิตใจหนึ่งที่สามารถทำให้เป้าหมายหลับได้ แต่เธอก็ดูเฉยเมยมากๆ ดูท่าจะต้านทานได้จริงๆ สินะ

 

“ก็นะ ดูท่าจะไม่ได้จริงๆ… โอ๊ะ!”

 

จู่ๆ ผู้กล้าก็พุ่งเข้าฟันฉันเลย

ฉันหลบพ้นได้ก็จริง… แต่เธอก็ไล่กวดฉันมาแล้ว!

 

“เพราะพอสมาชิกในคณะตายหมด เธอเลยไม่ต้องคอยปกป้องอะไรแล้ว… เธอก็เลยเปลี่ยนรูปแบบการสู้งั้นเหรอ!”

 

โอ้ตายแล้ว รู้งี้ฉันน่าจะหยุดแค่พอให้ไม่ 1 ก็ 2 คนในนั้นหลับไปก็พอแล้ว!

ขนาดด้วยสายตาระดับของฉัน ฉันยังหลบการโจมตีที่พุ่งมาทั้งหมดนั้นแทบไม่พ้นเลย

… ไม่ผิดแน่ ถึงมันจะดูเป็นการฟันที่ยุ่งเหยิง แต่กลับแม่นยำอย่างน่ากลัว ทั้งหมดนั้นเล็งไปที่จุดตายของฉันหมดเลย!

 

“กึก… อย่าได้ใจให้มากนักน่า!”

 

ฉันคว้ามือของผู้กล้าที่จับดาบนั่นเอาไว้โดยไม่สนใจการได้แผลเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะเตะเจาะยางเธอซะ แต่… ไม่ได้ผล เธอโดดถอยไปก่อน แรงที่เตะได้เลยเบาลง

 

“ให้ตายสิ… ฉันล่ะเกลียดพวกใช้สูตรโกงจริงๆ เลย…”

 

ทักษะร่างกายของเธอนี่… ใกล้เคียงกับระดับของคุณเกรย์เลยในตอนนี้

ถ้าฉันปล่อยให้เธอหนีไปจากที่นี่ได้ล่ะก็ เธอคงจะแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้อีก แล้วก็คงจะเก่งจนแม้แต่คุณเกรย์กับคนอื่นๆ ก็รับมือไม่ไหวแน่ๆ คราวนี้

คนเดียวที่คงหยุดเธอได้ตอนนั้นคงมีแต่ท่านจอมมารแล้วล่ะ

 

“ในฐานะผู้ใต้บัญชาแล้ว ฉันไม่อยากจะดูน่าสมเพชแบบนั้น…”

 

ฉันจะต้องจับตัวเธอที่นี่ให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม

อย่างแน่นอน

ฉันยังมีไพ่ตายเหลืออยู่ เผื่อใครสงสัยนะ

…และอีกอย่าง มีเสียงนึงที่ดังก้องในหัวของฉันขึ้นมาด้วย

 

*เงื่อนไขในการเลื่อนระดับเป็นอาชีพในระดับที่สูงขึ้นครบถ้วนสมบูรณ์ คุณสามารถเปลี่ยนอาชีพของตัวเองจากคลาส (อาชีพ) พิเศษ [ผู้ชำระแค้น] เป็น [อสูรอาฆาตแค้น] ได้ คุณต้องการดำเนินการหรือไม่?*

 

เงื่อนไขที่ว่านั้น…สงสัยจะเป็นการฆ่าเป้าหมายในการล้างแค้น (พวกมนุษย์) ได้จนถึงจำนวนหนึ่งล่ะมั้ง

แน่นอนอยู่แล้ว ฉันก็ต้องเลือกเปลี่ยนอาชีพสิ

 

*ยืนยันการรับรอง คลาส (อาชีพ) ของลีน บลัดลอร์ดได้เลื่อนขั้นเป็น [อสูรอาฆาตแค้น]*

 

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

Status: Ongoing
เซนโจ โยนะ เด็กหญิงที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแก๊สระเบิด หลังจากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเทพชั่วร้าย อิซึสึ เธอก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกสาวของผู้นำเผ่าแวมไพร์ [ลีน บลัดลอร์ด] ชีวิตอันสงบสุขกำลังรอเธออยู่ รายล้อมไปด้วยครอบครัวและเพื่อนพ้องที่รักเธอ สิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอดจากชาติก่อน … แต่เวลาเหล่านั้นก็ต้องสิ้นสุดลง จากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์อย่างไร้เหตุผล “อา เข้าใจแล้ว ชีวิตของฉันต้องพังทลายเพราะว่ามีพวกมนุษย์อยู่งั้นสินะ” อีกด้าน มีเด็กสาวที่ถูกมองเป็นตัวน่ารำคาญในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอได้รับ [คุณสมบัติของผู้กล้า] พร้อมทั้งพรสวรรค์และศักยภาพอันล้นเหลือ แต่จิตใจของเธอกลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์ เพื่อล้างสมอง และเปลี่ยนเธอเป็นอาวุธมีชีวิต “จริงๆ แล้ว…ไม่อยากปกป้องพวกมนุษย์ซักหน่อย เราไม่ได้อยากเป็นผู้กล้า…” และพวกเธอผู้เกลียดชังต่อมนุษย์ ก็กลายมาเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ นี่คือเรื่องราวของเด็กสาว 2 คนที่ชีวิตต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไป เหลือเพียงแค่ชีวิตของตัวเอง และพวกเธอจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อล้างแค้นและกวาดล้างมนุษยชาติให้สิ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท