บทที่ 288 พ่อ
บทที่ 288 พ่อ
โม่เจ๋อหยวนเปิดถุงแล้วหยิบอาหารออกมาทีละอย่าง “ฉันซื้ออาหารมาเยอะเลย ถ้าเธอไม่อยากออกไปไหนก็กินมันได้เลยนะ”
“ฉันจะออกไปข้างนอกค่ะ พอดีพวกเราจะไปอวยพรวันตรุษจีนที่บ้านตระกูลจิงน่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนพูดขึ้นว่า “อย่างนั้นฉันจะไปส่งเธอแล้วกัน วันนี้ฉันขับรถมาคนเดียว”
“อื้ม” ถังซวงยิ้มรับ
เกอชิงเหม่ยเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนมาที่นี่ก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ “เจ๋อหยวน จัดการธุระเสร็จแล้วหรือจ้ะ อ้อ แล้วทำไมถึงว่างมาที่นี่ได้เนี่ย เธอไม่ต้องไหว้ตรุษจีนที่บ้านหรือจ๊ะ”
“ผมมาอวยพรปีใหม่ครับ”
เกอชิงเหม่ยหัวเราะเมื่อได้ยินก่อนจะตอบกลับว่า “ฮ่าฮ่า จ้ะ ฉันก็มาอวยพรปีใหม่ด้วยเหมือนกัน งั้นกินมื้อเที่ยงด้วยกันนะ”
“ป้าเกอ ซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยไม่ได้จะไปบ้านตระกูลจิงหรือครับ ผมว่าจะไปส่งเลยไม่อยู่กินข้าวเที่ยงด้วยน่ะ”
“อ้อ งั้นไม่เป็นไร ๆ”
เกอชิงเหม่ยหันมองถังซวงแล้วถามว่า “ซวงเอ๋อร์ เธอไม่ต้องการให้ฉันช่วยจัดเตรียมของขวัญปีใหม่จริง ๆ นะ? นี่มันถึงเวลาต้องเตรียมของแล้วนะ”
ถังซวงส่ายหัวก่อนจะตอบว่า “ไม่เป็นไรค่ะป้าเกอ ฉันเตรียมไว้หมดแล้วค่ะ”
“อื้ม ดีจ้ะ”
หลังจากถังเซวี่ยลุกมารับประทานมื้อเช้า โม่เจ๋อหยวนไปส่งถังซวงและถังเซวี่ยที่บ้านตระกูลจิง
“ขอบคุณค่ะที่มาส่งค่ะพี่โม่”
“วันนี้ว่างพอดีน่ะ รีบเข้าไปข้างในเถอะ”
ถังซวงโบกมือให้โม่เจ๋อหยวนแล้วพูดขึ้นว่า “กลับบ้านดี ๆ นะคะ”
“อื้ม”
หลังจากโม่เจ๋อหยวนขับรถออกไปแล้ว ถังซวงพาถังเซวี่ยเข้าไปด้านใน แต่บังเอิญเจอจิงเจ้อหรงและเฮ่อหลานเดินออกมาพร้อมกัน
“ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย ทำไมมาเร็วจัง แม่กับอาเจ้อกำลังจะไปรับพอดีเลย”
ได้ยินอย่างนั้นเสี่ยวเซวี่ยก้าวไปด้านหน้าพร้อมจับมือแม่ของตนแล้วตอบว่า “แม่คะ พี่โม่ขับรถมาส่งพวกเรา พอดีเขามาหาที่บ้านเมื่อเช้าน่ะค่ะ”
เฮ่อหลานหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“เจ๋อหยวนจัดการธุระตัวเองเสร็จแล้วสินะ ถึงมีเวลามาหา”
“ค่ะ”
ถังซวงตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะพูดว่า “แม่คะ เข้าไปหาคุณปู่กับคุณย่ากันเถอะ”
“จ้ะ”
เฮ่อหลานยิ้มกว้างก่อนจะจูงมือถังซวงและถังเซวี่ยเดินเข้าไปด้านใน
จิงเจ้อหรงมองสามแม่ลูกที่เดินจับมือกันพร้อมยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะรีบก้าวเท้าตามไป
เมื่อคุณชายจิงและคุณนายจิงเห็นถังซวงกับถังเซวี่ย พวกเขารีบกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย มาแล้วหรือจ้ะ นั่งก่อนสิ”
“คุณปู่จิง คุณย่าจิง สวัสดีปีใหม่ค่ะ”
สองพี่น้องถังซวงและถังเซวี่ยอวยพรปีใหม่อย่างพร้อมเพรียง และมอบของขวัญปีใหม่ให้กับทั้งสองด้วย
คุณนายจิงรีบรับมันไว้ก่อนจะยกยิ้มแล้วมอบซองสีแดงให้กับทั้งสอง ทั้งยังกล่าวด้วยน้ำเสียงขบขัน “จะเรียกว่าคุณปู่จิงคุณย่าจิงได้ยังไง ต้องเรียกเราว่าคุณปู่กับคุณย่าสิจ๊ะ”
ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงและถังเซวี่ยตอบกลับอย่างจริงใจ “คุณปู่ คุณย่า สวัสดีปีใหม่ค่ะ”
“ดีมาก”
คุณชายจิงและคุณนายจิงยิ้มกว้าง ในที่สุดพวกเขาก็มีหลานสาวสักที
ขณะนั้นครอบครัวของจิงไค่หรงและจิงซิ่วหรงเดินเข้ามา เมื่อเห็นถังซวงและถังเซวี่ย ก็รีบทักทายทันที “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย สวัสดีปีใหม่”
“สวัสดีปีใหม่ค่ะ”
ถังซวงเตรียมตัวมาอย่างดี เธอกล่าวอวยพรปีใหม่กับครอบครัวของจิงไค่หรงและจิงซิ่วหรง ก่อนจะมอบกล่องของขวัญให้กับ อวี๋มินและเมิ่งผิง
อวี๋มินไม่ทราบเลยว่าสาวน้อยทั้งสองเตรียมของขวัญอวยพรปีใหม่ให้กับตน “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย พวกเธอเตรียมของขวัญมาด้วยหรือจ้ะ มันไม่จำเป็นสักหน่อย”
หญิงสาวที่ยังไม่แต่งงานไม่จำเป็นต้องมอบของขวัญเมื่อมาอวยพรวันปีใหม่
“ป้าใหญ่ ป้ารอง มันไม่ใช่ของมากมายอะไรหรอกค่ะ เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกฉันทำเอง”
ถังเซวี่ยยกยิ้มจากด้านข้าง “ใช่ค่ะ ป้าใหญ่ ป้ารอง ของพวกนี้ฉันทำกับพี่สาว หวังว่าจะชอบนะคะ”
“จ้ะ พวกเราชอบอยู่แล้ว”
อวี๋มินและเมิ่งผิงรู้สึกประหลาดใจ
ส่วนจิงไค่หรงและจิงซิ่วหรงเห็นว่าถังซวงและถังเซวี่ยเรียกหาภรรยาของตนว่าป้าใหญ่กับป้ารอง พวกเขารีบก้าวไปด้านหน้าพร้อมกับพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย พวกเธอยังไม่ได้ทักทายฉันเลยนะ”
ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงและถังเซวี่ยมองจิงไค่หรงและจิงซิ่วหรงอย่างขบขัน ก่อนจะเรียกทั้งสองว่า “ลุงใหญ่ ลุงรอง”
“สวัสดีจ้ะสาวน้อย”
จิงเหวินหยวนและจิงเหวินรุ่ยรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาพองโตเมื่อเห็นหลานสาวตัวน้อยทั้งสองเรียกตนว่าพี่ชาย นี่คงเป็นความสุขของการมีน้องสาวล่ะมั้ง
เมื่อจิงเจ้อหรงเห็นว่าสองสาวเรียกคนในครอบครัวอย่างเป็นกันเอง แววตาของเขาเปล่งประกายความสุขขึ้นมา
และมันชัดเจนมาก จนถังซวงและถังเซวี่ยรู้สึกได้ แต่ถังซวงยังไม่สามารถกล่าวออกไปได้ เพราะเธอรู้สึกว่ามันยากที่จะพูด แต่ถังเซวี่ยมองจิงเจ้อหรงด้วยแววตาเป็นประกาย ก่อนจะเปิดปากกล่าวคำเบา “พะ… พ่อ…”
“อืม…”
จิงเจ้อหรงรู้สึกว่าดวงตาของเขาร้อนผ่าวเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็ได้ยินคำว่า ‘พ่อ’ จากเด็กสาวสักที นี่เป็นสิ่งที่เขาโหยหาที่สุดนับตั้งแต่ได้คบหากับเฮ่อหลาน แม้ก่อนหน้านี้เขาจะมองว่าถัง ซวงและถังเซวี่ยคือลูกสาวของตนอยู่แล้ว และหลังจากนี้ทั้งสองจะเป็นลูกสาวที่แท้จริงของเขาก็เถอะ
น้ำตาของถังเซวี่ยรื้นขึ้นมาเล็กน้อย
ในที่สุดเธอมีพ่อที่รักและห่วงใยเธอ
ถังซวงที่เห็นว่าถังเซวี่ยพูดออกไปแล้ว จึงพูดขึ้นบ้าง “พ่อ…”
“อือ…”
พอได้ยินถังซวง จิงเจ้อหรงยิ่งรู้สึกวูบไหวในใจ เขาสัญญากับตัวเองว่าจากนี้เขาจะเป็นพ่อของทั้งสองคนตลอดไป
ส่วนเฮ่อหลานที่ด้านข้างรู้สึกมีความสุขมาก เธอเดินไปหาจิงเจ้อหรงพร้อมสัมผัสมือของเขาอย่างนุ่มนวล ขณะเดียวกันก็เดินไปจับมือของถังซวงและถังเซวี่ย ทั้งสี่เป็นครอบครัวที่มีความสุขมาก
คุณนายจิงยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าลูกชายคนสุดท้องมีครอบครัวกับเขาเสียที “เอาล่ะ มัวทำอะไรกันอยู่ รีบเข้ามานั่งก่อนเร็วเข้า”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ทุกคนก็นั่งลง
ส่วนอวี๋มินและเมิ่งผิงไม่มีเวลาให้ซองแดงก่อนหน้านี้ ทั้งสองรีบใช้โอกาสนี้เพื่อมอบซองแดงให้กับถังซวงและถังเซวี่ยทันที
ถังซวงกับถังเซวี่ยไม่คิดปฏิเสธ และรับมันไว้อย่างสุภาพ
เมื่อเห็นรูปลักษณ์อ่อนหวานของทั้งสอง คุณนายจิงอดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย วันนี้พักที่นี่ไหมจ้ะ?” ความจริงแล้วก่อนหน้านี้เธอไปขอคำปรึกษาจากใครบางคนเพราะต้องการจัดห้องให้กับหลานสาวทั้งสอง แต่น่าเสียดายที่พวกเธอยังไม่เข้ามาอยู่ที่นี่
“คุณย่าคะ คืนนี้เราต้องกลับไปที่บ้านค่ะ หลังจากคุณย่าซูและคนอื่น ๆ กลับมณฑลเจียง เราถึงจะมาที่นี่”
แม้คุณนายจิงจะเสียใจเล็กน้อย แต่เธอก็เข้าใจว่าต้องมีคนอยู่ ดูแลหลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋น “จ้ะ ฉันรอนะ”
คุณชายจิงหันมองจิงเจ้อหรงแล้วถามว่า “ลูกหาโรงเรียนให้ซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยหรือยัง?”