ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 651 ท่ากดกระบี่

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ตอนที่ 651 ท่ากดกระบี่

ขนาดเยี่ยเว่ยหมิงยังเป็นแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นซานเย่ว์กับเฟยอวี๋ เกรงว่าต่อให้เกิดดาเมจตอนอาวุธกระทบกัน แต่พวกเขาก็อาจต้านสามกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ด้วยซ้ำ!

อวี้เจินจื่อช่างร้ายกาจ เป็นตัวแทนคนโฉดที่เก่งกาจ!

“พวกเจ้าระวัง เจ้าหมอนี่ติดสถานะคลั่ง พยายามอย่าชนกับอาวุธของเขา” เยี่ยเว่ยหมิงถอยหลังต่อเนื่องสามก้าวกว่าจะคลายพลังที่มาจากกระบี่ของอวี้เจินจื่อได้ ขณะเดียวกันก็บอกว่า “ตอนนี้สิ่งเดียวที่น่ายินดีก็คือ เจ้าหมอนี่ไม่ใช่ BOSS ร่างแท้โหมดปกติ ข้ายังรับมือไหว…

…พวกเจ้าระวังหน่อย ค่อยๆ ลดพลังชีวิตของเขาก็พอ อย่าโลภทำผลงานเด็ดขาด…

…ไม่ต้องเน้นผลงาน แต่อย่าทำพลาดก็พอ!”

ระหว่างที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็เปลี่ยนเคล็ดกระบี่ แสงกระบี่ที่เฉียบคมหายไปแล้ว มีเพียงปราณกระบี่เส้นเล็กๆ วนเวียนอยู่รอบคมกระบี่เท่านั้น แต่กลับไม่ปล่อยออกมา

ไม่ผิดหรอก ครั้งนี้ปราณกระบี่ของเขาไม่ได้ถูกปล่อยออกมาจริงๆ เพียงสะสมพลังเพื่อรอโจมตีเท่านั้น

ตอนที่อวี้เจินจื่อเหยียดกระบี่ออกมาโจมตีอีกครั้ง หมายจะขยายผลงานให้ใหญ่ขึ้น เยี่ยเว่ยหมิงก็ใช้ปราณกระบี่ที่สะสมไว้รับมือกับแสงกระบี่ของอีกฝ่ายเช่นกัน

ปราณกระบี่ของเขา ทุกครั้งก่อนที่จะสัมผัสกับกระบี่ล้ำค่าของฝ่ายตรงข้าม จะระเบิดส่วนเล็กๆ ออกมา ใช้วิธีการสั่นสะเทือนแบบนี้ลดพลังอันน่าสะพรึงบนคมกระบี่ของอีกฝ่าย จากนั้นกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงค่อยใช้ความอ่อนนุ่มที่ทรงพลังรับกับกระบี่นี้ของอีกฝ่าย แม้จะยังเป็นฝ่ายถูกคุกคาม แต่เมื่อทำให้ท่ากระบี่ของอีกฝ่ายซ้ำไปซ้ำมาก็ไม่สร้างภัยคุกคามใดๆ ต่อเยี่ยเว่ยหมิงอีกแล้ว

นี่ก็คือท่าป้องกันหลักใน ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ …ท่ากดกระบี่!

ท่านี้ดูเหมือนเป็นท่าป้องกันที่ธรรมดา แต่ความจริงแล้วกลับรวมค่าสเตตัสความว่องไวจาก ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ และค่าสเตตัสป้องกันของ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เวลาใช้แล้วนอกจากจะทนรับแรงกดดันที่แข็งแกร่งและน่ากลัวได้มากขึ้น ขณะเดียวกันหากพ่นปราณกระบี่ที่แฝงอยู่ในตัวกระบี่ออกมาได้ ก็จะกลายเป็นท่าโจมตีอีกท่าใน ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’

ทำได้ทั้งรุกโจมตีและถอยป้องกันได้อย่างแท้จริง!

ต่อให้เป็นอวี้เจินจื่อที่ติดสถานะคลั่งแล้ว ตอนที่เผชิญกับท่านี้ก็ยังรู้สึกว่ามีพลังแต่กลับใช้ไม่เป็น

ยามเผชิญหน้ากับการป้องกันอันสมบูรณ์แบบของเยี่ยเว่ยหมิง เขาทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย

ซึ่งในตอนนี้ เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็ต่างคนต่างใช้วิธีที่ตัวเองถนัดที่สุดเพื่อลดพลังชีวิตของอวี้เจินจื่ออย่างระมัดระวัง

ที่บอกว่ามังกรผยองได้สำนึกหากสะสมพลังเต็มแล้วไม่อาจอยู่เฉยๆ ได้นาน หลักการนี้ไม่ได้เหมาะกับ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ เท่านั้น แต่ไม่ว่าจะใช้กับทักษะยุทธ์ไหน หรือแม้กระทั่งกับสิ่งที่เหนือกว่าทักษะยุทธ์ ก็ใช้งานได้จริงทั้งนั้น!

กับเคล็ดวิชาอันธพาลที่อวี้เจินจื่อใช้ตอนนี้ ผลข้างเคียงก็เด่นชัดมากเช่นกัน

หลังจากนั้นเพียงห้าวินาที พลานุภาพตอนปะทุพลังของอวี้เจินจื่อก็อ่อนแอลงในชั่วพริบตาเดียว ยังไม่ต้องพูดถึงวิชากับพละกำลัง แม้แต่ความเร็วในการใช้กระบี่ก็ลดลงจนเท่าก่อนตอนปะทุพลังแล้ว

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นแล้วดีใจทันที เขาเรียกเฟยอวี๋กับซานเย่ว์ แต่ตัวเองกลับเปลี่ยนจากป้องกันเป็นโจมตีก่อนแล้ว พุ่งตัวตามกระบี่ที่ชิงโจมตีด้วยท่า ‘ท่าปลุกปั่นกระบี่’ ฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายอ่อนแอโจมตีอีกฝ่ายอย่างดุดัน

หลังจากโจมตีสำเร็จ เยี่ยเว่ยหมิงก็หมุนคมกระบี่ เปลี่ยนจากโจมตีเป็นป้องกันอีกครั้ง ใช้ ‘ท่ากดกระบี่’ ต้านกระบี่ที่อีกฝ่ายโจมตีกลับ จากนั้นอาศัยแรงส่งเพื่อถอยหลังพร้อมรีบบอกว่า “ทักษะปะทุกำลังของเขายังเหลืออีกห้าวินาที ทุกครั้งที่ใช้จะลดพลังชีวิตสิบเปอร์เซ็นต์ แต่พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นเยอะมาก ความว่องไวเหมือนยังเป็นแบบเดิม จนตอนนี้ยังไม่รู้ว่ามีขีดจำกัดคูลดาวน์หรือเปล่า”

ระหว่างที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงควบคุมกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงให้ลอยขึ้นกลางอากาศอีกครั้ง แล้วใช้ท่ากระบี่แยกจาก ขนาบโจมตีสามด้านพร้อมซานเย่ว์และเฟยอวี๋!

เนื่องจากอยู่ในฉากพิเศษ ยอดฝีมือกลุ่มอี้ผิ่นถังของซีเซี่ยและบุคคลระดับสูงของพรรคกระยาจกนอกนั้นล้วนเป็นฉากหลัง นอกจากดูเพื่อความสนุกเฉยๆ แล้วก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้ามาแทรกแซง

ในสนามต่อสู้นี้เหลือเพียงหนึ่งกระบี่ หนึ่งดาบและสองฝ่ามือกำลังล้อมโจมตีอวี้เจินจื่ออย่างบ้าคลั่ง เพียงแต่เมื่อพลานุภาพของอวี้เจินจื่อถดถอยลง เขาเองก็หยุดดันทุรังโจมตีต่อเช่นกัน เปลี่ยนมาอาศัยท่าร่างอันยอดเยี่ยมของตัวเองต่อสู้ไปพร้อมๆ กับหลบทั้งสามคน

ทั้งสามแม้จะโจมตีอย่างดุร้าย แต่ตอนที่โจมตีถูกบนตัวอวี้เจินจื่อจริงๆ กลับมีน้อยมาก

“สมควรตาย!” อีกหนึ่งกระบวนท่าที่คิดว่าจะโจมตีถูกเป้าหมายแต่อีกฝ่ายก็รอดอย่างหวุดหวิด เฟยอวี๋อดแขวะไม่ได้ “อวี้เจินจื่อคนนี้เป็นปลาไหลเหรอ ขนาดเป็นแบบนี้แล้วยังหลบได้อีก”

“ไม่ต้องรีบหรอก วิชาตัวเบาที่เจ้าหมอนี่ใช้คือ ‘เทพท่องร้อยแปรเปลี่ยน’ เป็นวิชาตัวเบาที่โดดเด่นในใต้หล้า แม้จะไม่ถูกกำหนดให้เป็นวิชาตัวเบาระดับสูง แต่ที่จริงกลับเป็นวิชาที่ร้ายกาจที่อยู่ระหว่างวิชาระดับสูงและสุดยอดวิชา ต่อให้เทียบกับ ‘มังกรเมฆาเก้ากายา’ ที่เป็นสุดยอดวิชาตัวเบาของซานเย่ว์ก็ยังไม่ด้อยกว่าเลย ทั้งยังถนัดหลบหลีกการโจมตีที่สุด”

เยี่ยเว่ยหมิงโบกมือชี้ควบคุมให้กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงโจมตีอยู่ไกลๆ พร้อมพูดให้ความรู้ทั้งสองไม่หยุด “ดังนั้น การที่เจ้าหมอนี่หลบได้ดีก็เป็นเรื่องปกติมาก อย่าท้อเลย โจมตีต่อไปก็พอ โจมตีหลายๆ ครั้งก็ต้องมีสักครั้งที่หลบไม่พ้น”

ในที่สุดตอนนี้ซานเย่ว์ก็โจมตีถูกแผ่นหลังของอวี้เจินจื่อสำเร็จแล้ว พร้อมกล่าวอย่างกลุ้มใจว่า “ตอนนี้ข้าไม่กังวลว่าเขาจะหลบได้หรือเปล่า ข้ากังวลว่าเขากำลังถ่วงเวลา รอให้คูลดาวน์เสร็จ ก็ค่อยใช้วิธีปะทุพลังเหมือนก่อนหน้านี้อีกครั้ง โจมตีจนพวกเราทำอะไรไม่ถูก”

“นั่นมีอะไรน่ากังวลกัน” เยี่ยเว่ยหมิงหัวเราะแห้ง “ตอนนี้ยังมีข้าอยู่ไม่ใช่เหรอ ถ้าเขากล้าปะทุพลัง ข้าจะรับหน้าที่ต้านให้เอง เจ้าสนใจแค่ค่อยๆ โจมตีใส่ก็พอแล้ว…

…เจ้าไม่สังเกตเห็นเหรอ สู้กันนานขนาดนี้แล้ว พลังชีวิตที่ลดลงสิบเปอร์เซ็นต์ตอนที่เขาปะทุพลังนั่นต่างหากที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับเขา เสียพลังชีวิตไปสองแสนกว่าภายในเวลาห้าวินาที พวกเราคงโจมตีไม่ได้ดาเมจแบบนั้นหรอกมั้ง”

เยี่ยเว่ยหมิงปากก็พูดแบบนี้ แต่มือกลับโจมตีอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย

นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าเสียเปรียบครั้งหนึ่งก็ฉลาดขึ้นครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้อวี้เจินจื่อเข้าใจผิดว่าท่ากระบี่แยกจากของเขาจะต้องควบคุมผ่านมือเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนแปลงได้จึงเสียเปรียบเยอะมาก

ดังนั้น ตอนที่เขาเห็น ‘ท่ากระบี่แยกจาก’ ของเยี่ยเว่ยหมิงอีกครั้งก็ได้บทเรียนแล้ว

เขาไม่ควรตั้งใจสังเกตนิ้วของเยี่ยเว่ยหมิงเลย ควรมีสมาธิรับมือกับเฟยอวี๋และซานเย่ว์มากกว่า

สำหรับกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงที่ลอยอยู่กลางอากาศ เขากลับใช้วิธีฟังเสียงเพื่อหลบหลีกเท่านั้น สู้กันนานขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่เห็นว่าเขาบาดเจ็บเพราะกระบี่เล่มนั้นอีก

หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงสังเกตเห็นสถานการณ์แล้ว ก็รู้สึกจนใจมากเช่นกัน

ความได้เปรียบของ ‘ท่ากระบี่แยกจาก’ ก็คือโจมตีจากระยะไกลได้ แต่ข้อเสียกลับชัดเจนมากเช่นกัน นั่นก็คือสุดท้ายมันก็ยังสู้ความโหดและความเร็วของการใช้มือถือกระบี่โจมตีไม่ได้

ตอนนี้อวี้เจินจื่อสังเกตเห็นจุดนี้แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงยังจะทำอย่างไรได้อีก

เขาเองก็จนใจกับเรื่องนี้เหมือนกัน ทำได้เพียงควบคุมกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงอยู่ที่ไกลๆ มองดูนิ้วชี้ที่เก็บแล้ว เหลือเพียงนิ้วกลางที่ตั้งอยู่นิ้วเดียว

จากนั้นปราณกระบี่ที่แข็งแกร่ง ดุดัน ไร้เสียงก็ยิงออกมาจากนิ้วของเขาอย่างไร้ร่องรอย ในสถานการณ์ที่อวี้เจินจื่อไม่ได้ป้องกัน ปราณกระบี่จึงโจมตีถูกหัวไหล่ขวาของเขาแล้ว

เป็นท่าที่มีประสิทธิภาพที่สุดในบรรดาวิธีการโจมตีมากมายของเยี่ยเว่ยหมิงในปัจจุบัน…กระบี่จงชง!

ฉึก!

-123115!

เส้นเอ็นขาด!

กระดูกแตก!

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท