ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 660 ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ เลเวลเต็ม!

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ตอนที่ 660 ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ เลเวลเต็ม!

[บทรักษาบาดเจ็บ (ระดับสูง)]

เลเวล: 8 (+1)

ค่าประสบการณ์: 430000/1000000

……

พลังชีวิตสูงสุด +2400 (+300)

กำลังภายใน +2400 (+300)

ความแข็งแกร่ง +240 (+30)

พละกำลัง +240 (+30)

ท่าร่าง +240 (+30)

ความว่องไว +240 (+30)

ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตเพิ่ม 160% (+20%) หลังจากติดตั้งความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตเพิ่ม 400% (+50%)

……

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ดูค่าตบะที่เหลืออยู่ในปัจจุบันของตัวเอง

ไม่น่าเชื่อว่ายังเหลืออยู่เกือบสี่ล้าน!

ถ้าเพิ่มค่าประสบการณ์เหล่านี้ไปบน ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ ในครั้งเดียว ก็เหมือนว่าจะทำให้วิชาตัวเบานี้ถึงระดับสมบูรณ์ได้พอดี!

แต่ถ้านำมาเพิ่ม ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ เนื่องจากยังไม่รู้ว่าการจะเพิ่มเลเวล ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ จากเลเวลเก้าให้เป็นสิบต้องใช้ค่าประสบการณ์เท่าไร ดังนั้นจึงยังอยู่ในสภาพปริศนา

บางทีอาจเพิ่มเลเวลได้ แต่ก็อาจเพิ่มไม่ได้เช่นกัน

หลังจากลังเลครู่หนึ่ง ในที่สุดเยี่ยเว่ยหมิงก็ยังเลิกเพิ่มเลเวล ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ เปลี่ยนเป็นเพิ่มเลเวล ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ ให้ถึงระดับสมบูรณ์แทน!

ที่จริงขอเพียงคิดให้ละเอียดอีกหน่อย เหตุผลที่เขาทำแบบนี้ก็ไม่ได้เข้าใจยาก

หากค่าตบะสี่ล้านในมือเยี่ยเว่ยหมิงทำให้วิชากำลังภายใน ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ เพิ่มถึงระดับสมบูรณ์ได้ เช่นนั้นค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้สำหรับเพิ่มจากเลเวลเก้าให้เป็นเลเวลสิบก็ไม่เกินสามล้านแน่นอน!

วิชากำลังภายในที่ต้องใช้ค่าประสบการณ์สามล้านเพื่อเพิ่มเลเวลให้ถึงระดับสมบูรณ์ หากเทียบกับวิชาตัวเบาที่ต้องใช้ค่าประสบการณ์ห้าล้านเพื่อเพิ่มเลเวลให้ถึงระดับสมบูรณ์ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของสองวิชานี้ ก็เหมือนจะชัดเจนแล้ว

หากค่าประสบการณ์สำหรับเพิ่มเลเวล ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ ให้ถึงระดับสมบูรณ์เหมือนกับ ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ หรือถึงขั้นมากกว่า เช่นนั้นแต้มค่าตบะในมือเขาก็ไม่พอให้ทำอย่างนั้น

จากที่กล่าวมาข้างต้น ตอนนี้การเพิ่มเลเวล ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ คุ้มกว่าการเพิ่มเลเวล ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ แน่นอน

เขาแทบจะทุ่มแต้มค่าตบะทั้งหมดในอึดใจเดียว ในที่สุดเลเวลของ ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ ก็เปลี่ยนจากเลเวลเก้าเป็นเลเวลสิบแล้ว!

ซึ่งแต้มค่าตบะบนตัวเยี่ยเว่ยหมิงก็เปลี่ยนจากสี่ล้านเป็นห้าร้อยยี่สิบแต้มภายในครู่เดียว ถือเป็นจำนวนที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว…

แต่ทุ่มเทไปมากขนาดนั้น ผลประโยชน์ที่ได้รับก็น่ายินดีมากเช่นกัน เพราะหลังจาก ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ เลเวลเต็มแล้ว ค่าสเตตัสเป็นดังนี้…

[ย่ำจอกข้ามน้ำ (ระดับสูง)]

หนึ่งในวิชาตัวเบาระดับสูงที่หายากในยุทธภพ ถ่ายทอดมายาวนานจนสืบหาที่มาไม่เจอแล้ว

เลเวล: 10 (+2)

ค่าประสบการณ์: …

ท่าร่าง +450 (+80)

ความว่องไว +450 (+80)

เอฟเฟ็กต์พิเศษ: ลมทองยังไม่พัด จั๊กจั่นรู้ก่อน

ลมทองยังไม่พัด จั๊กจั่นรู้ก่อน: เพิ่มความสามารถในการสัมผัสรู้ของร่างกายได้เยอะมาก ถึงขั้นไม่จำเป็นต้องใช้ตามองก็ใช้การได้ยินและการสัมผัสรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของอากาศแม้เพียงเล็กน้อยได้

……

หลังจากเพิ่ม ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ จนถึงเลเวลสิบที่เป็นระดับสมบูรณ์แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกได้ทันทีว่าความสามารถในการสัมผัสรับของตนเองเพิ่มขึ้นเยอะมาก แม้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวก็เปลี่ยนไปแล้วเล็กน้อย

แต่ตอนที่เขาสังเกตให้ดี ถึงได้พบว่าทุกสิ่งรอบตัวยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย

สิ่งที่เปลี่ยนไปจริงๆ คือการสัมผัสรับความรู้สึกของเขาเท่านั้น

เขาในตอนนี้ ได้ค้นพบหลายสิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยค้นพบมาก่อน ถึงได้รู้สึกไปเองว่าทุกสิ่งที่อยู่รอบกายเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม

ความรู้สึกนี้เหมือนเหมือนผู้เล่นเกมที่เพิ่งอัปเกรดฮาร์ดแวร์ เกมก็ยังเป็นเกมเดิม ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หลังจากใช้อุปกรณ์ระดับสูงขึ้น ประสบการณ์ด้านต่างๆ กลับไม่เหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

อีกทั้งเมื่อความสามารถในการสัมผัสรับแบบนี้เพิ่มขึ้น ยิ่งตอนที่เผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนกว่าเดิม ประสิทธิภาพของมันก็ยิ่งชัดเจน เหมือนการใช้อุปกรณ์ระดับสูงเล่นเกมระดับ AAA ย่อมแตกต่างกับการใช้อุปกรณ์ทั่วไปมากอยู่แล้ว

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงแทบจะตัดสินได้ว่าสุ่ยไต้ในกลุ่ม ‘บุปผาร่วงโรยโปรยตามน้ำ’ ยังไม่ได้ฝึกวิชาตัวเบานี้จนถึงระดับสมบูรณ์แน่

ไม่อย่างนั้นแล้ว หากอาศัยแค่เอฟเฟ็กต์พิเศษ ‘ลมทองยังไม่พัด จั๊กจั่นรู้ก่อน’ กับดักที่ปรมาจารย์ดาบโลหิตขุดออกมาก็ทำอะไรเขาไม่ได้แน่นอน!

เดี๋ยวก่อนนะ!

เหมือนเรื่องราวไม่ได้ธรรมดาขนาดนั้นนะ

กระทั่งตอนนี้ เยี่ยเว่ยหมิงเพิ่งจะตระหนักได้ถึงเรื่องที่สำคัญมากเรื่องหนึ่ง

นั่นก็คือเอฟเฟ็กต์พิเศษ ‘ลมทองยังไม่พัด จั๊กจั่นรู้ก่อน’ ที่จริงแล้วแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตามค่าสเตตัสท่าร่างและความว่องไวของผู้เล่น

ซึ่งเยี่ยเว่ยหมิงฝึกวิชาตัวเบาระดับสูงควบกันสามวิชา ค่าสเตตัสสองรายการนี้ทะลุสี่พันตั้งนานแล้ว เมื่อเพิ่ม ‘เงาของเทพกระบี่’ ไปอีก ค่าสเตตัส ‘ความว่องไว’ ของเขาแสดงประสิทธิภาพออกมาได้แปดพันเกือบเก้าพันแล้ว!

สุ่ยไต้แม้จะเป็น BOSS เลเวลเกินร้อยยี่สิบแล้ว แต่ค่าสเตตัสท่าร่างและความว่องไวของเขา คาดว่าคงไม่อาจเทียบกับคนประหลาดอย่างเยี่ยเว่ยหมิงได้แน่นอน

พอคำนวณแบบนี้ ต่อให้เขาฝึก ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ จนถึงระดับสมบูรณ์จริงๆ ก็อาจแสดงประสิทธิภาพออกมาได้ไม่เท่าเยี่ยเว่ยหมิงก็ได้

แม้ความเป็นไปได้แบบนี้จะไม่ได้สูงมากก็ตาม

ถึงอย่างไรก็อย่าลืมเจ็ดศิษย์สำนักฉวนเจินที่ค่าประสบการณ์ค้างอยู่ที่ห้าล้านเหมือนกัน ในจำนวนนั้นชิวชู่จี หม่าอวี้และหวังชู่อีที่พลังฝีมือค่อนข้างแข็งแกร่ง เลเวลก็อาจเทียบสุ่ยไต้ไม่ติดก็ได้

อย่างน้อยหากดูจากภายนอก เลเวลของสุ่ยไต้ก็น่าจะแย่กว่าหวังชู่อีเยอะ

แน่นอน หากดูเลเวล BOSS คนหนึ่งจากภายนอกอาจดูเหมือนทึกทักเอาเอง ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางอธิบายได้เลยว่าทำไมไป๋วั่นเจี้ยนที่หน้าตาคล้ายเขาถึงมีเลเวลเพียงหนึ่งร้อย

หยุดความคิดฟุ้งซ่านเอาไว้ เยี่ยเว่ยหมิงเก็บ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ ที่เพิ่งได้มาใหม่จากอวี้เจินจื่อเข้ากระเป๋าอีกครั้ง จากนั้นลุกขึ้นเดินออกจากประตูทันที ใช้วิชาตัวเบาวิ่งออกนอกเมือง ไปหาสถานที่ลับตาคนแล้วจัดการฝังศพของผู้โชคร้ายสามคนกับคังหมิ่น ได้รับค่าวีรบุรุษจากเจ้าไข่เน่าทั้งสี่อีก 666 แต้ม รวมทั้งค่าบุญกุศลอีก 666 แต้มด้วย

กระทั่งตอนนี้ ถึงได้นับว่ารีดเค้นมูลค่าที่เหลือบนตัวสี่คนนี้ออกมาหมดแล้ว!

ลุกขึ้นปัดฝุ่นที่ไม่มีอยู่จริงบนตัว เยี่ยเว่ยหมิงค้นหาในรายชื่อเพื่อนอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็เจอเพื่อนที่มีรูปโปรไฟล์แปลกตามาก

หลังจากเพิ่มเพื่อนแล้ว ก็ไม่ได้ติดต่อกับเจ้าหมอนี่อีกเลย

ศิษย์สำนักซงซาน ผู้สืบทอดวิชาของ ‘หัตถ์หยางแห่งซงซาน’ ในปีนั้นขายของให้ผู้เล่นพรรคสุริยันจันทรา ในงานเลี้ยงวันเกิดของอวี๋ชางไห่ก็สาดโคลนให้เขามากที่สุดเช่นกัน ดาบฟันรองเท้าแตะ!

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มบางๆ แล้วส่งพิราบสื่อสารออกไปทันที

[สหาย ยุ่งอะไรอยู่]…เยี่ยเว่ยหมิง

[!!!(๑ŐдŐ)b…

…โอ้แม่เจ้า คนดังเยี่ยเว่ยหมิง!

ท่านที่ขึ้นประกาศระบบเป็นว่าเล่นเหมือนกินข้าวกินน้ำ จู่ๆ ติดต่อเข้ามามีธุระอะไร]…ดาบฟันรองเท้าแตะ

[อย่าพูดเหลวไหลมากนัก …

…ข้าจะทำงานร่วมกับเจ้า ตั้งทีมไล่ฆ่าเซี่ยงเวิ่นเทียน ตอนนี้มีสองขาดหนึ่ง…

…ข้าติดต่อยอดฝีมือพรรคสุริยันจันทราเก่งๆ ไว้แล้วคนหนึ่ง ฝีมือแย่กว่าข้านิดหน่อย…

…ถึงตอนนั้นเจ้าแค่ช่วยพวกเราคุมสถานการณ์ก็พอ ไม่ต้องปะทะกับเซี่ยงเวิ่นเทียนตรงๆ เรียกได้ว่ามี BOSS เลเวลร้อยยี่สิบห้าให้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์โดยไม่เปลืองแรง…

…เป็นอย่างไร จะมาหรือไม่มา]…เยี่ยเว่ยหมิง

[ไป! ข้าต้องไปอยู่แล้ว!…

…ที่จริงเรื่องแบบนี้ นอกจากข้าจะไม่ถือสาเรื่องเป็นแพะรับบาปแล้ว ข้ายังรับประกันด้วยว่าจะไม่เอาไอเทมดรอปใดๆ หลังจาก BOSS ตาย!

( ̄▽ ̄)~■□~( ̄▽ ̄) ]…ดาบฟันรองเท้าแตะ

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นดังนั้น บนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มพึงพอใจทันที เจ้าหมอนี่ตกหลุมพรางแล้วจริงๆ!

ข้อความถึงนักอ่าน

จบเล่ม 1

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท