บทที่ 278 เศษกระดาษไร้ค่า
อาคามอสอดทนรอไป๋เยี่ยอย่างเงียบๆ เป็นเวลาสองเกือบสามชั่วโมงตั้งแต่ตอนที่ไป๋เยี่ยเดินเข้าห้องผ่าตัดไปจนกระทั่งเขากลับออกมา
ทว่าเขาก็ไม่ได้รอคอยอย่างเบื่อหน่ายแต่อย่างใด อาคามอสประหลาดใจมากที่คนมีฝีมือดีอย่างไป๋เยี่ยกลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก
ดังนั้นอาคามอสจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาค้นหาข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับไป๋เยี่ย แต่โทรศัพท์ของเขากลับมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาว่าที่นี่ไม่มีสัญญาณ เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้
ทว่าสิ่งนี้กลับไม่ได้ขัดขวางความอยากรู้อยากเห็นและความชื่นชมของเขาที่มีต่อไป๋เยี่ยเลย ลึกๆ แล้วเขาคิดว่าไป๋เยี่ยคงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินระดับแนวหน้าในประเทศจีนอยู่แล้ว
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าตนเองเหมือนกบในกะลาเล็กน้อย เขาไม่ค่อยได้ไปเยือนประเทศจีนซึ่งเป็นชาติที่มีประวัติศาสตร์ทางการแพทย์อันยาวนาน ต่อไปดูเหมือนว่าเขาจะต้องเข้าร่วมการประชุมในเอเชียและประเทศจีนในมากกว่านี้แล้ว
ระหว่างที่อาคามอสกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น โยฮันก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งบนโต๊ะซึ่งมีภาพร่างเขียนอยู่
ตอนแรกโยฮันก็แค่เหลือบมองอย่างไม่ใส่ใจนัก ทว่าเมื่อเขามองดูดีๆ เขาก็ละสายตาจากกระดาษแผ่นนั้นไม่ได้อีก
โยฮันจึงหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาศึกษาอย่างละเอียด ปรากฏว่าข้อมูลที่เขียนอยู่บนหน้ากระดาษนั้นทำให้เขารู้สึกสนใจมากเลยทีเดียว
สิ่งที่เขียนอยู่บนกระดาษคล้ายกับสิ่งที่เขากำลังวิจัยอยู่ เป็รวิธีการที่ไป๋เยี่ยใช้แก้ไขปัญหาที่เขากำลังประสบอยู่ตอนนี้ได้อย่างง่ายดาย
ระหว่างที่โยฮันกำลังพินิจพิจารณาข้อมูลตรงหน้าอยู่นั้น อาคามอสก็มาเห็นเข้าพอดี
อาคามอสกระแอมก่อนจะลดเสียงลง “คุณโยฮัน คุณไม่ควรหยิบของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตนะ คุณไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้เลยเหรอครับ”
โยฮันชะงักไปก่อนจะค่อยๆ ฝืนยิ้มออกมา แต่ถึงกระนั้นเขาก็วางสิ่งที่อยู่ในมือไม่ลง จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปมันไว้
เมื่ออาคามอสเห็นการกระทำของโยฮัน เขาก็ไม่ค่อยพอใจนัก จึงจ้องอีกฝ่ายตาเขม็ง “มันเสียมารยาทมากเลยนะ คุณโยฮัน ผมคงต้องพิจารณาคุณใหม่แล้ว ในฐานะที่เราเป็นคู่หูกัน พอเห็นคุณเป็นแบบนี้แล้วผมล่ะเสียดายจริงๆ…”
โยฮันเห็นว่าอาคามอสดูจะไม่สบอารมณ์นัก แต่เขาก็อดใจวางกระดาษแผ่นนั้นลงไม่ได้ เพราะสิ่งที่เขียนอยู่บนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา…
โยฮันรู้สึกลนลานและทำตัวไม่ถูกสุดขีด จึงดึงอาคามอสเข้ามาก่อนจะเอ่ยปาก “ไม่ ไม่ ไม่! คุณอาคามอสอย่าเพิ่งใจร้อนไป คุณลองดูสิว่าบนกระดาษแผ่นนี้มีอะไร เรื่องอื่นค่อยว่ากัน”
สีหน้าของอาคามอสนั้นเหลือทนเต็มที เขากำลังจะสั่งสอนคู่หูและผู้ช่วยของเขาต่อ ทว่าสายตาของเขากลับเหลือบไปเห็นสิ่งที่ถูกเขียนไว้บนกระดาษ ทำเอาเขาต้องเบิกตากว้าง
นี่มัน…อะไรเนี่ย
อาคามอสเห็นว่าบนกระดาษขาวแผ่นนั้นมีข้อความขีดๆ เขียนๆ อยู่เต็มหน้ากระดาษ ซึ่งล้วนเกี่ยวกับเทคนิคการทำกายภาพบำบัดสำหรับเคสกระดูกหักชนิดพิเศษ
มันเป็นแผนภาพสาธิตวิธีรักษาเคสกระดูกซี่โครงซี่ที่สามซึ่งอยู่ใต้กระดูกไหปลาร้าแทงทะลุหน้าอก วิธีรักษาโรคปอดทะลุ วิธีรักษากระดูกหัก ขั้นตอนการผ่าตัดฉุกเฉินต่างๆ ตลอดจนวิธีการทำกายภาพบำบัดและแผนภาพการใส่เฝือก
แผนภาพดังกล่าวเป็นภาพแสดงกระดูกซี่โครงที่หักโดยสังเขป ตามด้ายแผนภาพแสดงเทคนิคและขั้นตอนการทำกายภาพบำบัดอย่างง่ายเพื่อนำไปสาธิต
อาคามอสเห็นดังนั้นก็เกิดลังเล เขาครุ่นคิดอยู่สักพัก เคสนี้เป็นเคสยาก ถ้าอยู่ในโรงพยาบาลก็อาจจะรักษาได้ง่ายหน่อย แต่ในเมื่อสภาพแวดล้อมเป็นเช่นนี้จะการรักษาจะบรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ต้องลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด จากนั้นก็พยายามควบคุมอาการให้คงที่
นี่คือความยากของเคสและเป็นจุดที่สำคัญมาก หน้าอกของมนุษย์ประกอบด้วยกระดูกซี่โครงและกระดูกสันอกเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ป้องกันคล้ายเกราะ ส่วนชั้นในคือเยื่อหุ้มปอดซึ่งด้านล่างก็คือปอดนั่นเอง
ปอดของมนุษย์มีขนาดใหญ่มาก เยื้องจากด้านใต้ของปอดไปทางซ้ายก็จะเป็นหัวใจ บริเวณกระดูกซี่โครงซี่ที่สามถือเป็นจุดที่อันตรายมาก ถ้ากระดูกชิ้นนี้หักและปลายที่หักนั้นเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม ก็มีโอกาสูงมากที่จะแทงทะลุหน้าอกหรือหัวใจได้ เพราะฉะนั้นการรักษาบริเวณนี้จึงเป็นไปได้อย่างยากลำบาก
วิธีการรักษาและผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพนั้นเป็นปัญหาที่แก้ยากมาโดยตลอด!
ทั้งอาคามอสและโยฮันต่างถูกข้อมูลดังกล่าวดึงดูดความสนใจไว้
เพราะว่าเทคนิคและวิธีการที่ไป๋เยี่ยอธิบายน่าสนใจมาก เป็นวิธีการที่หลีกเลี่ยงการผ่าตัดที่ไม่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งด้วยวิธีนี้เอง พวกเขาก็จะหลีกเลี่ยงการผ่าโดนเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญและรักษาต่อไปได้
ทุกรายละเอียดถูกบันทึกไว้อย่างประณีต ทำเอาทั้งสองคนมองว่าไป๋เยี่ยเปรียบเสมือนศิลปินคนหนึ่ง และการผ่าตัดก็คืองานศิลปะของเขาที่ต้องเลือกมุมและวิธีการแกะสลักอย่างระมัดระวัง
แผนภาพของไป๋เยี่ยก็เช่นกัน ทุกขั้นตอนและตัวเลือกต่างๆ วิเศษจนทำให้อาคามอสต้องปรบมือ
นี่คือเสียงปรบมือและคำชมที่มาจากก้นบึ้งหัวใจ ไป๋เยี่ยสุดยอดมากจริงๆ!
อาคามอสถึงกับขนลุก ครั้งสุดท้ายที่เขามีรู้สึกเช่นนี้คือตอนที่เขาต้องเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาระดับปริญญาเอก ตอนที่เขาลงมืออ่านธีสิสของอาจารย์แล้วรู้สึกประหลาดใจก็มีความรู้สึกคล้ายๆ กับตอนนี้
ความรู้สึกเห็นด้วยเช่นนี้คนจีนมักมีคำกล่าวว่า ‘คนเก่งๆ จะมีความคิดคล้ายๆ กัน‘ นี่สินะที่เขาเรียกว่าพบคนรู้ใจดื่มกันพันจอกยังว่าน้อย!
ดี!
เยี่ยมจริงๆ!
แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว
ทว่า…ยังมีหลายเรื่องที่อาคามอสไม่ค่อยเข้าใจ เช่นทำไมไป๋เยี่ยถึงมาอยู่ที่นี่
เขารู้จักเลือกสถานที่ แต่ทำไมถึงต้องเป็นที่นี่ คำถามเหล่านี้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่เข้าใจยากสำหรับอาคามอส
อีกอย่าง ทำไมไป๋เยี่ยถึงเลือกใช้วิธีนี้ในการรักษาเคสซี่โครงหัก ทั้งที่วิธีนี้มัน…เอ๋ ไม่ใช่สิ ไม่ใช่แค่วิธีการ แต่ดูเหมือนภาพมุมนี้จะแปลกไปหน่อยแฮะ…
อาคามอสเริ่มไม่ค่อยเข้าใจบางอย่างที่อยู่บนกระดาษแผ่นนั้น เขาไม่เข้าใจว่าไป๋เยี่ยต้องการทำอะไรกันแน่
แต่ถ้าไป๋เยี่ยยังทำมันต่อไป ผลลัพธ์จะต้องออกมาดีจนน่าประหลาดใจแน่นอน…
อาคามอสคิดว่าเขายังมีหลายอย่างที่ต้องศึกษาอย่างรอบคอบเพื่อที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งเหล่านั้น ถึงขั้นที่ต้องลองไปนั่งหารือกับทีม
อาคามอสคิดแล้วก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เราควรจะหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปไหมนะ
ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจในสิ่งที่โยฮันทำ เพราะแม้แต่เขาเองก็ยังอยากทำบ้าง
ไม่ได้!
ทำแบบนั้นไม่ได้!
อาคามอสข่มความอยากรู้อยากเห็นไว้ ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าตนเพิ่งจะกินยาปลุกกำหนัดไปสามเม็ด แล้วมีสาวสวยมานั่งรออยู่ตรงหน้าเขา
ทว่าเขาก็ยังคงเตือนตนเองอยู่เสมอ ทำแบบนี้มันเสียมารยาท
เขาพยายามหุบมือทั้งสองข้างลง ทว่าจู่ๆ ไป๋เยี่ยก็เปิดม่านแล้วเดินออกมา
อาคามอสถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่ต้องทนแล้วโว้ย!
ทว่าไป๋เยี่ยกลับชำเลืองมองทั้งสองคนอย่างสงสัย ในขณะที่ทั้งสองคนก็กำลังมองไปยังเศษกระดาษที่เขาใช้อธิบายหลิวเสี่ยวกังเมื่อคืนก่อน
ไป๋เยี่ยอดยิ้มไม่ได้ “ขอโทษทีครับ ห้องรกไปหน่อยน่ะ ผมเผลอทำตัวน่าขายหน้าซะแล้วสิ นั่งลงเถอะครับศาสตราจารย์อาคามอส ศาสตราจารย์โยฮัน ผมขอเวลาเก็บห้องสักครู่”
ไป๋เยี่ยพูดพลางหยิบเศษกระดาษบนโต๊ะขึ้นมาขยำเป็นก้อน เตรียมจะทิ้งมันไป
อาคามอสเบิกตากว้างเตรียมจะหยุดการกระทำของไป๋เยี่ย ก่อนจะโพล่งออกมาในทันใด “เดี๋ยวก่อน!”