ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ – ตอนที่ 23 บอกเลยครับว่าความทรงจำของผมมันดีเยี่ยม

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ตอนที่ 23 บอกเลยครับว่าความทรงจำของผมมันดีเยี่ยม

 

หลังจากเหตุการณ์เมื่อตอนเช้า

 

ผมก็ไม่คิดเปิดปากพูดคุยกับพี่สาวปริศนาต่อ

 

ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรออกมา

 

ไม่ว่าเธอจะบ่นว่าหิวมากมายขนาดไหน

 

ผมก็ไม่ตอบ

 

ไม่มีแม้กระทั่งสุ้มเสียงหลุดลอดออกมาให้ได้ยิน

 

มีเพียงความเงียบเย็นชาเท่านั้นที่เป็นคำตอบ

 

หึ กล้ามาก

 

บังอาจมาหยอกล้อหัวใจเด็กน้อยอย่างผม

 

ให้อภัยไม่ได้

 

ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด

 

แน่นอนว่าระหว่างเส้นทาง

 

เตรียมมุ่งหน้าไปโรงเรียน

 

พี่สาวเลือกเดินตามติดไม่มีปล่อยผ่าน

 

ทั้งยังเอาแต่กล่าวไร้สาระตลอดทาง

 

หึ หวังจะให้ผมส่งเสียงออกมา

 

ไม่มีทางซะหรอก

 

“…”

 

“โกรธเหรอ?”

 

“…”

 

“โกรธใช่ไหม?”

 

“…”

 

“นิ เธอโกรธอยู่รึเปล่า?”

 

ตอนแรกมันก็พออดทนอดกลั้นได้อยู่

 

แต่พอนานเข้าจากวินาทีแปรเปลี่ยนเป็นนาที

 

เป็นหลายต่อหลายนาที

 

ในที่สุดห้วงอารมณ์ที่กดทับเอาไว้ก็ระเบิดออก

 

ระเบิดออกมาจนผมอดทนอดกลั้นต่อไปไม่ไหว

 

เลยหันไปบอกกล่าวกับอีกฝ่าย

 

ว่าให้เลิกตามมาได้แล้ว

 

ต่างคนต่างอยู่

 

“ไม่ได้โกรธครับ”

 

“…”

 

“โกหก”

 

“ไม่ได้โกหกสักหน่อย!”

 

“ถ้าไม่ได้โกรธจริง”

 

“ทำไมเธอถึงไม่ยอมคุยกับฉัน”

 

“…”

“นิ—”

 

“เลิกตามสักทีเถอะครับ”

 

“คุณอยากจะไปไหน”

 

“อยากจะทำอะไรก็เชิญเลย”

 

“แต่อย่ามายุ่งวุ่นวายกับผม”

 

“ผมไม่ชอบ”

 

“…”

 

“โกรธจริง ๆ ด้วย”

 

ไม่ได้โกรธสักหน่อย

 

แก้มพองขนาดนี้ไม่ได้โกรธ?

 

ทะ ที่แก้มผมพองขึ้นมา

 

เพราะผมฝึกกักเก็บอาหารต่างหาก

 

เคยเห็นไหมครับ

 

ว่าพวกกระรอกมักจะเก็บอาหารเอาไว้ในแก้ม

 

เพื่อเก็บเอาไว้กินในรัง

 

นั่นแหละที่ผมกำลังทำ

 

ถามว่าผมทำเพื่ออะไร?

 

นี่อย่ามาถามจะได้ไหม

 

ผะ ผมอยากจะทำอะไรมันก็เรื่องของผมปะ

 

 

ผมไม่ได้แก้ตัวขุ่น ๆ นะ

 

แค่อธิบายให้ฟังเท่านั้น

 

อย่าได้เข้าใจผิดล่ะ

 

ถะ ถ้าพูดอีก

 

ผมกัดจริง ๆ นะ

 

ไม่เชื่อลองดูได้

 

===

 

หลังจากเดินตามติดไปสักพัก

 

คล้ายพี่สาวปริศนาจะล่วงรู้ว่าจุดหมายปลายทางของผมเป็นที่ไหน

 

แต่บอกกล่าวตามตรง

 

สภาพของผมในตอนนี้

 

อยู่ในชุดนักเรียน

 

แถมยังเป็นชุดนักเรียนชุดใหม่

 

ไม่ใช่เสื้อผ้าของเดิมของเมื่อวาน

 

ขอเพียงมองดูผมแต่งกาย

 

ย่อมต้องรับรู้ได้เลยทันที

 

โดยไม่ต้องบอกกล่าว

 

ว่าจุดหมายปลายทางของผมคือที่ไหน

 

ใส่ชุดนักเรียน

 

ก็ต้องไปโรงเรียนสิ

 

 

หรือว่ามี

 

มีสถานที่อื่น

 

ถึงมีผมก็ไม่ไปหรอก

 

กลับเข้าประเด็นเดิม

 

พี่สาวปริศนาหรี่ตามอง

 

พร้อมกล่าวถามเบาบาง

 

เอาเข้าจริงไม่น่าจะเรียกว่าถาม

 

น่าจะเรียกว่าเป็นการยืนยันแนวคิดของตนมากกว่า

 

มากกว่าคำถามตอบ

 

“ทางนี้มัน?”

 

“ทางไปโรงเรียน?”

 

“…”

 

“เธอกำลังจะไปโรงเรียนใช่ไหม?”

 

“ใส่เครื่องแบบนักเรียน”

 

“ก็ต้องไปโรงเรียนสิครับ”

 

“…”

 

ผมถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

 

ทำไมต้องถามอะไรที่มันแน่นอนอยู่แล้วเนี่ย

 

เห็นมากับตาแบบนี้ยังจะมาถามอีก

 

พี่สาวปริศนานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

 

ก่อนจะเอ่ยเบาบาง

 

“ไปด้วยกัน”

 

“…”

 

“ครับ?”

 

“ไปด้วยกัน”

 

“ไม่—”

 

หมับ!

 

นอกจากไม่ฟัง

 

ยังไม่เปิดช่องว่างให้ปฏิเสธ

 

ฝ่ามือขาวเนียนพุ่งเข้ามาจับข้อมือ

 

จับเอาไว้แนบแน่นจนหนีไปไหนไม่รอด

 

พร้อมลากพาผมเดินไปเรื่อยเปื่อย

 

ลากไปโดยไม่คิดขอความเห็นจากผมด้วยซ้ำ

 

ช่างเป็นอะไรที่เอาแต่ใจเหลือเกิน

 

ผมเลยออกอาการดิ้นรน

 

ส่งเสียงไม่มีเว้นว่างให้หายใจ

 

“คะ คิดจะทำอะไรน่ะ”

 

“จับมือ”

 

“…”

 

“รู้ครับว่าจับมือ!”

 

“ตะ แต่ใครอนุญาตให้คุณจับ”

 

“รีบปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ”

 

“ก่อนที่ใครคนอื่นจะมาเห็นเข้า”

 

บอกกล่าวอย่างเดียวไม่เพียงพอ

 

ผมพยายามสะบัดให้หลุด

 

พยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด

 

เพื่อหวังให้หลุดจากพันธนาการเบื้องหน้า

 

น่าเสียดายที่ความหวังก็ยังเป็นเพียงความหวัง

 

ยังไม่อาจหลุดพ้นไปได้เลยแม้แต่น้อย

 

“…”

 

“บะ บอกให้ปล่อย!”

 

“…”

 

“ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

 

หมับ!

 

“ทำไมถึงจับแน่นขึ้นอีก”

 

“หิวอีกแล้ว”

 

“นิ ช่วยฟังหน่อยได้ไหม”

 

“ขอร้องล่ะ”

 

“อือ รู้แล้ว”

 

“แต่ฉันหิวนิ”

 

“…”

 

“อ๊ากกกก!”

 

ไม่ไหว

 

คุยไม่รู้เลย

 

ขณะที่ผมกำลังสติแตก

 

กรีดร้องออกมาไม่มีหยุดหย่อน

 

ทำได้แค่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว

 

ปล่อยให้ตัวเองโดนลากพาไป

 

คนรอบข้างสองข้างทางถนน

 

ก็เริ่มสังเกตเห็นเข้า

 

เห็นผมกับพี่สาวปริศนาอยู่ด้วยกัน

 

แถมยังจับมือถือแขนไม่มีปล่อยวาง

 

หลายต่อหลายคนเริ่มหยิบนำมาซุบซิบนินทา

 

โดยไม่สนใจเลยว่าใครคนอื่นจะได้ยิน

 

แถมยังชี้นิ้วใส่อีก

 

คล้ายกลัวว่าผมจะไม่รู้

 

ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโดนเอาไปพูดคุย

 

“จับมือกันด้วยล่ะ”

 

“น่าอิจฉาจริงนะ”

 

“เร่าร้อนแต่เช้า”

 

“นั่นมันหนูฟางข้าวไม่ใช่เหรอ?”

 

“ยินดีด้วยนะฟางข้าว”

 

“…”

 

ยะ ยินดีกับผีสิครับ

 

ผมไม่ได้อยากจะจับสักหน่อย

 

อย่ามายินดีกับผมนะ

 

มะ ไม่สิ

 

มันไม่ใช่ประเด็นสักหน่อย

 

เห็นผมดิ้นรนขนาดนี้

 

ทำไมถึงไม่ยอมช่วยล่ะ

 

ช่วยผมก่อนนนนนน

 

===

 

ผมในตอนนี้เหนื่อยมาก

 

ต้องอาศัยความพยายามขั้นสุด

 

ในการเกลี่ยกล่อมอีกฝ่าย

 

หลังจากความพยายามอย่างหนักหน่วง

 

ผมก็ลากพาพี่สาวปริศนาเข้ามาในทิศทางที่แตกต่าง

 

เป็นทิศทางที่ผมใช้เดินตามติดคุณฟางข้าว

 

เมื่อครั้งก่อน

 

ผมรู้ว่าถ้าหากเดินหน้าต่อไป

 

คงไม่พ้นต้องไปโผล่ที่ซอยบ้านของคุณเซลิส

 

ไปโผล่อาณาเขตของสัตว์กินเนื้อ

 

แน่นอนว่ามันมีความเสี่ยง

 

แต่ถ้าผมใช้เส้นทางเดิม

 

รับรองได้เลยว่าต้องมีคนมากมายเห็น

 

ซึ่งผมไม่อยากจะให้ผลลัพธ์เฉกเช่นนั้นเกิดขึ้น

 

แม้จะสุ่มเสี่ยงไปสักหน่อย

 

ผมก็พร้อมครับ

 

พี่สาวปริศนากวาดสายตามอง

 

มองไปทั่วบริเวณ

 

พร้อมกล่าวถามเบาบาง

 

“…”

 

“คำถาม?”

 

“เส้นทางนี้จะไปโรงเรียนได้จริงเหรอ?”

 

“ได้ครับ”

 

“ผมเคยใช้มาก่อน”

 

ไม่เคยครับ

 

ผมหลอกต่างหาก

 

ฮ่าฮ่าฮ่า

 

“…”

 

“คำถามอีกครั้งค่ะ”

 

“ทำไมต้องไปโรงเรียนด้วย”

 

“ในเมื่อวันนี้—”

 

“เงียบก่อนครับ”

 

“…”

 

“ผมยังไม่ชินทาง”

 

“…”

 

“วันนี้มันวัน—”

 

“เงียบครับ”

 

“…”

 

“เธอคิดจะไปทำอะไร—”

 

“ครับ ครับรู้แล้ว”

 

“ช่วยเงียบก่อนเถอะ”

 

“ว่าแต่ซอยตรงหน้าต้องซ้ายหรือว่าขวา”

 

“อะ ผมมีความทรงจำที่ดีเยี่ยมนะครับ”

 

“บอกเอาไว้ก่อน”

 

“ตามผม”

 

“ไม่มีหลงแน่นอน”

 

พี่สาวปริศนาด้านหลังเพียงนิ่งเงียบ

 

ไม่มีบอกกล่าวอย่างอื่นเพิ่มเติม

 

ที่ไม่กล่าวอะไรออกมา

 

อาจเพราะกำลังทึ่งในหัวสมองของผม

 

บอกแล้วว่าผมความทรงจำยอดเยี่ยม

 

แค่เดินนำทางแค่นี้

 

ไม่มีเกินมือหรอก

 

“…”

 

“ที่นี่ที่ไหน?”

 

“…”

 

“ที่เดิม?”

 

“…”

 

“เป็นไปไม่ได้”

 

มะ เหมือนจะมีอะไรผิดพลาดเล็กน้อย

 

ยะ อย่าแตกตื่นสิครับ

 

ผมเอาอยู่

 

ผมรับจบเองครับ

 

ไม่ต้องห่วง

 

หลังจากเดินไปอีก 10 นาที

 

ในที่สุดผมก็ร้องออกมา

 

ร้องออกมาโดยไม่มีบอกกล่าว

 

“นี่ไง”

 

“ทางออก”

 

“…”

 

“ทางออกที่ไหน”

 

“ที่นี่ที่เดิม”

 

“…”

 

“ที่เดิม?”

 

“ใช่”

 

“เหมือนจะหลงนะ”

 

“ไหนบอกความทรงจำดีเยี่ยม?”

 

“…”

 

“คะ แค่ผิดพลาดนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

 

“…”

 

ยะ อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นนะ

 

มันไม่ใช่ความผิดของผมสักหน่อย

 

ถึงจะเป็นความผิดของผมจริง

 

 

แต่คนเรามันก็ต้องมีผิดพลาดกันได้จริงไหม

 

คนนะ ไม่ใช่หุ่นยนต์

 

กระทั่งหุ่นยนต์เองก็ยังมีผิดพลาดเลยบางครั้ง

 

เพราะฉะนั้น

 

 

ครับ

 

ยะ อย่าถือโทษโกรธผมเลยนะ

 

ขะ ขอร้องล่ะ

 

ผมยอมทำทุกอย่าง

 

ไม่พองแก้มโกรธแล้วก็ได้

 

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

Status: Ongoing
เพื่อนร่วมห้องของผม คุณเซลิส เธอคือคนแปลกประหลาด ทั้งยังเป็นสาวงามที่สวยที่สุดในโรงเรียนอีกต่างหาก หากจะให้อธิบายความสัมพันธ์ของพวกเราสองคน อธิบายให้เข้าใจ ผมคงไม่พ้นต้องเป็นเหยื่อ ส่วนเธอก็คือนักล่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท