ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) – ตอนที่ 18 ผู้ดูแลหอพักทั้งสาม

ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ)

 

หอพักของโรงเรียนเวทมนตร์หญิงโอโตรินั้นมีอยู่ 3 แห่งด้วยกัน

สีแดง (รูฟัส) สีน้ำเงิน (ซีรูเลียม) สีเหลือง (ฟลาวุม)…หอพักที่แยกออกเป็นสามสี เหล่าแฟน ๆ เอสโก้จึงพากันเรียกว่า “ไฟจราจร”

 

ในแต่ละหอพักก็จะมีผู้ดูแลหอพักที่เรียกว่า [มาสเตอร์] อยู่

 

ผู้ดูแลหอพักแต่ละคนนั้น มีคะแนนที่สูง ถ้าเข้าหอพักไปแล้วละก็ ห้ามต่อต้านพวกเขาโดยเด็ดขาด ในเรื่องกฎระเบียบของหอพักแต่ละแห่ง ก็จะถูกกำหนดโดยผู้ดูแลของแต่ละหอพักและพวกเขาก็ยังมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับกิจกรรมการแข่งขันในหอพักด้วย

 

ถ้าเป็นในเกม ตอนที่เข้าไปในหอพัก พวกตัวเอกก็จะได้รับโบนัสค่าพลังเพิ่มเติมด้วย  

 

ถ้าเข้ารูฟัสก็จะได้พลังกายกับความแข็งแกร่ง ถ้าเข้าซีรูเลียมก็จะได้พลังเวทย์กับค่าความฉลาด ถ้าเข้าฟลาวุม ก็จะได้ความคล่องแคล่ว

 

และในตอนที่พวกตัวเอกเข้าพักที่หอพัก คะแนนก็จะถูกเพิ่มเข้าไปในหอพักด้วย

 

ยิ่งคะแนนมากเท่าไหร่ เปอร์เซ็นโบนัสพลังที่จะได้ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น  

 

แล้วถ้าหากว่ามีคะแนนถึงที่กำหนดไว้ละก็ ก็จะได้อุปกรณ์เวทย์กับไอเทมต่าง ๆ ด้วย

แถมยังสามารถเพิ่มค่าความชอบที่มีต่อผู้ดูแลหอพักเพื่อเข้าสู่รูทของแต่ละหอพักได้ด้วย

 

นอกจากนี้แล้ว ก็จะมีการประกาศอันดับหอพักแต่ละแห่งในทุก ๆ ช่วง 6 เดือน พร้อมกับแยกประเภทตามคะแนนด้วย

 

ซึ่งหอพักที่ชนะก็จะได้รับรางวัลจากผู้อำนวยการโรงเรียนนั่นเอง

 

ในช่วงเริ่มเกม ตัวเอกนั้นไม่มีที่อยู่อาศัยที่กำหนดไว้ตายตัว

 

ฉะนั้นถึงแม้ว่าตัวเอกจะต้องเข้าหอพัก แต่ตัวเอกก็มีสิทธิ์ในการเลือกตัดสินใจว่าจะเข้าไปที่หอพักไหน 

 

เพียงแต่ว่า ก่อนจะเข้าหอพักได้ ก็จะมีการสอบเข้าหอพักก่อน เพราะงั้น ถ้าคะแนนแย่ก็อาจจะไม่ได้เข้าพักนั่นเอง

 

ในการเข้ารูฟัสนั้น ถ้าพยายามอย่างหนัก ก็สามารถผ่านได้ในการเล่นแค่ครั้งแรก ส่วนซีรูเลียมนั้น แทบจะเข้าไม่ได้เลยถ้าอย่างน้อยไม่ได้เล่นจนเคลียร์มาซักสองถึงสามรอบ (ยกเว้นแต่ว่าจะเป็นสมาชิกในกลุ่ม เอสโก้โซไซตี้น่ะนะ) แต่ถ้าเลือกฟลาวุมละก็ สามารถเข้าได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียวล่ะ

 

ในโลกเอสโก้ที่พลังเวทย์เป็นสิ่งสำคัญนั้น การเลือกเข้าซีรูเลียมก็คงจะเป็นทางเลือกเดียว แต่ถ้าดูจากประโยชน์ที่จะได้รับจากแต่ละหอพักแล้ว ก็คงไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามกันไปได้ ยิ่งกับอีเวนต์ที่เกิดขึ้นในแต่ละหอพักแล้ว ก็เลือกยากเลยทีเดียวว่าหอไหนดีกว่ากัน

 

ตอนเป็นเกมนั้น ฮิอิโระไม่ได้เข้าอยู่ที่หอพักไหนเลย

 

แต่ว่า ถึงจะไม่ได้ย้ายเข้า ก็ยังต้องเลือกหอพักที่จะเข้าอยู่ดี

เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นละก็ มันก็จะไปขัดขวางอีเวนต์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตน่ะนะ

 

ภายในหมู่พวกคุณหนู ผู้ร่ำรวย คนที่เข้าหอพักก็จะมีแต่พวกหัวกะทิที่ตั้งเป้าจะพัฒนาขึ้นไปให้สูงกว่านี้ ซึ่งจะทำให้คนที่จะเข้าหอพักมีจำนวนไม่เพียงพอ ทำให้ระบบหอพักต้องพังลงนั่นเอง

 

ตามเซ็ตติ้งแล้ว ถ้าเข้าไปในหอพักและเรียนได้เกรดดี ๆ ก็จะยิ่งมีโอกาสได้งานดีมากขึ้น หรือก็คือ บริษัทต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับหอพักโรงเรียนเวทมนตร์หญิงโอโตริมากนั่นเอง

 

นอกจากนี้ ถ้าเข้าไปอยู่ในหอพักแล้ว ก็ยังมีโอกาสในการสร้างเส้นสายกับผู้ดูแลหอพักด้วย

 

เส้นสายเหล่านั้น ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ในการหางานเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์กับเรื่องชีวิตการเป็นนักเรียนด้วย การมีคนคะแนนสูงเป็นพันธมิตรก็ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นไม่น้อยเลยทีเดียว

 

ตราบใดที่ยังอยู่กับพวกนั้นล่ะก็ มันก็มีโอกาสพี่จะช่วยเพิ่มคะแนนด้วยเหมือนกัน

 

ก็อย่างที่ว่าไปนั่นแหละ แต่ว่าในเกมนั้นฮิอิโระไม่เข้าหอพักไหนเลย  

ผมจึงตั้งใจที่จะเข้าหอพักให้ได้

 

แน่นอนว่าถ้าอยากจะแข็งแกร่งขึ้นก็ต้องเลือกเข้า ซีรูเลียม…แต่ผมที่มีคะแนนแค่ 0 อย่างผมเนี่ย ก็ยังสงสัยอยู่เลยว่าจะเข้าฟลาวุมได้รึเปล่านะ

 

ตามหลักแล้ว คะแนนหอพักก็คือคะแนนของทุกคนที่อาศัยอยู่ในหอพักรวมกัน ดังนั้น ถ้าเป็นซีรูเลียม ที่มุ่งเน้นที่ชนชั้นสูงรวมกับการพิจารณาว่า [การรับบุคคลนี้เข้ามาจะสร้างประโยชน์] ก็จะสามารถเข้าหอได้อย่างไม่มีปัญหา

 

เพียงแต่ว่า มันก็มีกรณีหายากที่จะไม่มีคนถูกรับเข้าหอเลยอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือคนที่ถูกพิจารณาวา [รับเข้ามาก็ไม่มีประโยชน์อะไร] ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็ อย่างเช่น ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็ง 0 คะแนน ที่อยู่ท่ามกลางยูรินี่แหละ…น่าจะถูกเกลียดขี้หน้าจนโดนปฏิเสธไม่ให้เข้าซักหอพักเลยแหละมั้งนะ…?

 

เอาเป็นว่าตอนนี้ก็ตั้งใจฟังเกี่ยวกับการแนะนำผู้ดูแลหอพักก่อนดีกว่า

 

ที่โพเดียมตรงกลาง มีเด็กผู้หญิงผมสีแดงเดินอยู่ท่ามกลางสปอตไลท์ด้วยท่าทีที่ดูสง่าผ่าเผย ที่หัวของเธอมีเขาที่โค้งงอ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าเธอคือเผ่าดราโกนิวนั่นเอง

 

แฟลร์ วี ลูลูเฟลม

 

เธอคือผู้ดูแลหอพักรูฟัส มีความเชี่ยวชาญในธาตุไฟ และมีฉายาว่า [เพลิงเผาซาก] 

 

เธอคนนั้นยิ้มออกมา จากนั้นก็โน้มตัวเข้าหาไมค์โครโฟน

 

“พวกเรากำลังตามหาผู้ที่แข็งแกร่ง”

 

การเริ่มกล่าวด้วยคำพูดนั้น รวมกับท่าทางนั้น ทำให้รู้สึกได้เลยว่าเป็นตัวละครที่ดูงดงามมาก 

 

ขนาดสึกิโอริ ซากุระที่อยู่ข้างขวาของผมก็ยังจ้องไปบนเวทีด้วยความหลงใหลเลย

 

และแล้วช่วงเวลาพริบตานั้นก็ได้ผ่านไป

 

หลังจากดึงดูดสายตาผู้คนได้ ในที่สุดเธอก็เริ่มเปิดกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาและพูดเบา ๆ

 

“ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นพิเศษสำหรับหอพักสีแดง…[ซันโจ เรย์]”

 

ทั้งหอประชุมเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และทุกสายตาก็จับจ้องมาที่ที่นั่งที่อยู่ตรงหน้าผม ซึ่งเรย์ที่เป็นที่สนใจก็ทำหน้าบึ้งเหมือนเคย

 

เธอยืดหลังตรงอย่างสวยงามและจ้องไปที่โพเดียม

 

ในการเข้าเรียนที่มีปีละครั้ง ผู้ดูแลหอพักก็จะเลือกคนได้ 1 คน ที่จะให้คนคนนั้นเข้าร่วมหอพักของตัวเองแน่นอน

 

สิ่งนั้นก็คือการเสนอชื่อพิเศษนั่นเอง

 

ในเซ็ตติ้งนั้น คนที่จะได้รับการเสนอชื่อพิเศษจะดูจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สถานะครอบครัว คะแนน พลังเวทย์ แล้วก็ค่าพลังต่าง ๆ ซึ่งถูกตัดสินว่าอยู่ในระดับ [ชั้นเลิศ] ซึ่งในการตัดสินใจในปัจจัยต่าง ๆ นี้ ก็ขึ้นอยู่กับการดุลยพินิจของผู้ดูแลหอพักคนเดียว รวมกับความเห็นของเจ้าตัวด้วย

 

และแน่นอนว่า ผมเองก็รู้อยู่แล้วว่าใครจะได้รับการเสนอพิเศษชื่อจากผู้ดูแลหอพักแต่ละคนบ้าง

 

เพราะงั้นผมถึงไม่แปลกใจเลย…ที่ตัวเอกอย่างเรย์ได้รับเลือกพิเศษจากหอรูฟัส ที่ขนาดตัวเอกยังต้องพยายามเข้า 

นั่นก็เพราะความแน่วแน่ของเรย์นั้นก็ค่อนข้างจะมีผลมากเลยทีเดียว

 

จากนั้นเสียงก็เบาลงไปเพราะเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง

 

ทันใดนั้นเอง ทั่วหอประชุมก็ได้เงียบสนิท

 

สาวสวยผมสีฟ้า…สวมมงกุฎต้นไม้โลกไว้บนหัว เธอได้เอานิ้วชี้ไว้ตรงปาก แล้วก็หายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ

 

ชู่ว…

 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหลงใหลไปกับเสียงหายใจนั่นรึเปล่า ทุก ๆ เสียงพูดคุยจึงได้หยุดลง

 

ตัวเธอนั้นโปร่งใสมาก

 

และเธอที่เป็นเผ่าจิตวิญญาณก็ได้เผยร่างของเธอออกมา โชว์ให้เห็นถึงใบหน้าที่สวยงามภายใต้ผ้าคลุมบาง ๆ สีขาว

 

ฟิวรี่ โฟรมา ฟรีเกนซ์

 

เธอคือผู้ดูแลหอพัก ซีรูเลียม และเป็นนักเวทย์แถวหน้าที่อยู่ระดับ “สูงสุด” หรือที่รู้จักกันในชื่อ [ศูนย์สัมบูรณ์] (Absolute Zero)

 

“ความคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ”

 

เสียงที่เหมือนจะละลายหายไปกับอากาศได้

 

ต่อให้ไม่มีไมค์ เสียงของเธอก็ดังไปทั่วทั้งหอประชุม แต่ถ้าจะให้พูดก็คือ

เหมือนเสียงนั้นมันได้ตรงเข้าไปในหัวใจของผู้ฟังเลยต่างหากล่ะ

 

เธอควบคุมหอประชุมได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที  

แต่แล้วเธอก็ยืนอยู่ที่เดิมโดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลย

 

พอผ่านไปซักพัก พวกนักเรียนใหม่ก็เริ่มส่งเสียงออกมาเหมือนมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น

 

“หอพักของฉัน”

 

จู่ ๆ เธอก็เริ่มพูด

 

และในตอนนั้น ก็รู้สึกราวกับถูกกุมหัวใจไว้แน่น ๆ

 

นักเรียนใหม่ทุกคนตะลึงในสิ่งที่เกิดขึ้น จากนั้นก็หันไปที่โพเดียมเพื่อที่จะฟังคำพูดของเธอคนนั้น

 

เธอพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ

 

“……”

 

รู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปเลย

 

ลาพิสที่อยู่ข้างซ้ายของผมเองก็จ้องมองไปที่เวทีโดยที่ไม่กระพริบตา

 

และในที่สุดฟิวรี่ ก็เปิดกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา

 

“หอพักสีฟ้าผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อพิเศษ…[ลาพิส คลูเอ ลา ลูเมต]”

 

เพียงแค่คำเดียว เสียงฮือฮาทั้งหมดในห้องก็ได้จับจ้องสายตาไปที่ที่นั่งทางด้านซ้ายของผม

 

“……”

 

ลาพิสหรี่ตาลงอย่างเงียบ ๆ และจ้องมองไปที่เวที

ฟิวรี่เองก็จ้องมองกลับมาราวกับสัมผัสได้ถึงสายตาของเธอ

 

หรือว่า…นี่จะเป็น…ยูริงั้นเหรอ…?

 

สีแดง และสีฟ้า ไปแล้ว และที่เหลืออยู่สุดท้าย

หลังจากผู้ดูแลแนะนำหอพักแล้ว ในที่สุดสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ได้มาถึง

 

ผู้ดูแลหอพักฟลาวุม นางเอกคนที่สาม หรือที่รู้จักกันในชื่อ [ผู้ปลอมแปลง] –มิวล์ เอสเซ่ ไอซ์เบิร์ต

 

หลังจากที่ได้เห็นการพูดของผู้ดูแลคนก่อนอย่างหอพักสีแดงและสีฟ้าไป เหล่านักเรียนใหม่ก็ได้จ้องมองไปที่เวทีด้วยความคาดหวังตั้งแต่เริ่ม

 

ตรงหน้านั้น เต็มไปด้วยความคาดหวังมากมาย

 

เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ได้เดินขึ้นมาข้างหน้าโพเดียม และกอดอกด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง ข้างหลังของเธอมีผู้หญิงที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ติดตาม และก็ดูเหมือนจะทำอะไรซักอย่างกับโพเดียมด้วย

 

ตัวเธอเองมีผมสีทอง แพลตินัม ถักเปียยาว และใส่หมวกของโรงเรียน  

 

จากนั้นเธอก็หันสายตาสีฟ้าที่ดูงดงามนั้นไปทางผู้ชม  

ตัวเล็กซะจนคิดเลยว่าจะถูกสาวคนไหนลักพาตัวไปรึเปล่าเลย…ตัวเล็กมาก

 

เธอกอดอกด้วยท่าทางที่ดูอวดดี

และท่าทางของเธอก็ดูเหมือนจะภูมิใจเหมือนเป็นผู้ครองโลกอะไรอย่างงั้นเลย

 

“เอ่อ อะแฮ่ม”

 

เธอกระแอมออกมาแล้วก็หยิบไมค์โครโฟน

 

วิ้งๆ!!

 

ในจังหวะนั้น ไมค์ก็หอนจนนักเรียนต้องปิดหูกันเลยทีเดียว

 

จากนั้นผู้หญิงคนข้าง ๆ ก็รีบยื่่นมือออกไปปิดเสียงหอนของไมค์

 

สาวน้อยคนนั้นถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ แล้วจากนั้นก็พยายามพูดไม่ให้โดนไมค์แบค่อยสุภาพนัก

 

“เอ่อ ก่อนอื่นเลยก็ขอแสดงความยินดีกับพวกคุณทุกคนในฐานะนักเรียนใหม่ด้วยนะ ขอแสดงความยินดีจากใจ และยินต้อนรับเข้าสู่โรงเรียนของพวกเรานะ”

 

เริ่มจะมีคำพูดที่เคลือบแคลงแล้วว่า หรือผู้หญิงที่ดูหยิ่งผยองคนนี้จะเป็นผู้อำนวยการรึเปล่านะ…? ออกมาแล้ว

 

เนื้อหาที่พูดไม่น่าสนใจเลยซักนิด แต่การกล่าวก็ดำเนินต่อไป…ห่างไกลจากการกล่าวของผู้ดูแลหอพักสีแดงและสีฟ้าอย่างสิ้นเชิง เห็นได้เลยว่าความสนใจของพวกนักเรียนใหม่กำลังค่อย ๆ น้อยลงแล้ว

 

ผู้ดูแลหอพักสีเหลืองยังคงพยาพูดเสียงให้ดังต่อไป แต่ถึงอย่างงั้น มันก็ยังไม่ทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย

 

“พะ…เพราะงั้น โรงเรียนของเราจึงเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์…”

 

อยู่ ๆ เธอก็เลิกแนะนำหอพักมาแนะนำโรงเรียนแทน

 

ผมเริ่มได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากแถวที่นั่งด้านหน้าของผม

 

“อุ๊บ อะไรล่ะนั่นน่ะ เห่ยชะมัด นั่นน่ะหรอผู้ดูแลหอพักน่ะ…จ่ายเท่าไหร่ถึงได้เป็นละนั่น? “

 

“เหมือนที่ได้ยินมาเลยนะ ดูเหมือนว่าผู้ดูแลหอพักฟลาวุมคือคนไม่เอาไหนน่ะ เห็นว่าเป็นทายาทตระกูลไอซ์เบิร์ต ก็เลยแอบคาดหวังนิดหน่อยนะ”

 

“รีบ ๆ พูดให้มันจบ ๆ ไปเลยจะได้มั้ยเนี่ย ต้องมานั่งฟังเด็กแบบนั้นเนี่ย เสียเวลาสุด ๆ เลย”

 

“แต่จะว่าไปแล้วนะ ขึ้นไปบนเวที หลังจากผู้ดูแลหอพักสีแดงกับสีฟ้าแล้ว ไม่รู้สึกอายบ้างเลยรึไงนะ น่าขายหน้าตระกูลไอซ์เบิร์ตจริง ๆ”

 

ไม่รู้ว่ามิวล์ที่อยู่บนเวทีจะได้ยินเสียงเยาะเย้ยรึเปล่านะ

 

เธอก็เลยเริ่มมีน้ำที่ตาหน่อย ๆ แล้ว

 

“……”

 

ผมลุกขึ้นจากที่นั่งและยืนต่อหน้าเด็กผู้หญิงสองคนที่กำลังล้อเลียนเธอ

 

“ดะ…เดี๋ยวสิ…อะ…อะไรเนี่ย…?”

 

“……”

 

“อะ…อะไรล่ะ คิดจะทำบ้าอะไรกันน่ะ?”

 

“……”

 

“มะ…มันน่าขนลุกนะ! ไอ้ผู้ชาย! ลุกออกไปกันเถอะ!”

 

“พะ…พวกตัวล้มเหลวมันก็คงเหมาะกับพวกตัวล้มเหลวด้วยกันเองนั่นแหละ!!”

 

พวกเธอลุกขึ้นและเดินหนีไป ส่วนผมก็นั่งลงที่เดิมและนั่งไขว่ห้าง

 

ถ้าพูดต่อหน้าไม่ใช่มานินทาแบบนี้ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก

 

เพียงแต่ว่า ยูรินั้นไม่ต้องไม่ใช่ความชั่วร้าย เพราะมันจะทำให้ยูริต้องเหี่ยวเฉา แต่จริง ๆ การพยายามทำลายยูริที่จะบานสะพรั่งในอนาคตให้เหี่ยวเฉาแบบนี้มันก็ถือว่า OUT แล้วล่ะนะ

 

ไม่รู้ว่ามันจะดูเหมือนผมทำไม่ดีอยู่ฝ่ายเดียวรึเปล่านะ แต่ดูเหมือนว่าชื่อเสียงแย่ ๆ ของซันโจ ฮิอิโระ จะเริ่มกระจายไปทั่วแล้วสิเนี่ย แต่ตราบใดที่ผมสามารถปกป้องยูริเอาไว้ได้ ผมก็ไม่สนหรอก ผมพูดได้เต็มปากเลยว่านี่คือความรู้สึกจริง ๆ ของผมล่ะ

 

“……”

 

และว่าพวกนั้นก็ไม่ได้เดินเพื่อที่จะมาทางนี้อย่างที่คาดไว้

 

แต่ดูเหมือนสึกิโอริจะหันมามองผมพร้อมด้วยร้อยยิ้มยังไงก็ไม่รู้

 

“เอ่อ…ขะ…ขอจบการแนะนำหอพักฟลาวุมแต่เพียงเท่านี้!”

 

มิวล์เปิดกระดาษออกด้วยความโล่งใจ

 

และชื่อของผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อพิเศษบนกระดาษนั่นก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว

 

นั่นก็คือตัวเอก สึกิโอริ ซากุระ–

ในช่วงเช้าวันพิธีเปิดสึกิโอริจะเข้าไปช่วยมิวล์ไว้ และมิวก็จะตัดสินว่าเธอมีความสามารถของเธอ [มีค่า] มิวล์จึงเสนอชื่อเธอนั่นเอง

 

นั่นเลยเป็นเหตุผลให้สึกิโอริเข้าเรียนสายในช่วงเช้านั่นเอง

 

ไหนดูซิ มาดูปฏิกิริยาของสึกิโอริตอนที่ถูกเลือกกันดีกว่า

 

“หอพักสีเหลือง ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อพิเศษก็คือ–“

 

ผมมองสึกิโอริด้วยความตื่นเต้นอยู่ข้าง ๆ  

 

“ซันโจ ฮิอิโระ!!”

 

ในจังหวะนั้น เหมือนเวลาหยุดไปพริบตาหนึ่ง

 

เสียงตะโกนที่สั่นคลอนทั้งหอประชุมได้ พร้อมกับเหล่าสีหน้าประหลาดใจที่ทิ่มทะลุตัวผม

 

จากนั้นผมก็เปิดปากขึ้น

 

“…หา?”

 

ทำเอาซะตกใจจนเหวอไปเลย

 

 

ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ)

ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ)

Status: Ongoing
–ผู้ชายที่อยู่ระหว่างยูริน่ะสมควรตาย ฮิอิโระก็ได้มาเกิดใหม่ในโลกของเกมยูริ [Everything for the Score] ที่คำพูดนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ โลกนี้เป็นเหมือนโลกในอุดมคติสำหรับฮิอิโระผู้ชื่นชอบแนวยูริ แต่แล้ว…เขาก็ค่อยๆได้รับรู้ความจริง ที่นั่นคือโลกญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันที่มีเวทมนตร์ และเป็นโลกแฟนตาซีทีคะแนนจะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ในโลกนี้ ทุกย่างจะมีการประเมินทั้งหมด ตั้งแต่พฤติกรรม การกระทำ การช่วยเหลือสังคมไปจนถึงการพับฟูกเลยทีเดียว และการจัดอันดับนั้นก็จะถูกกำหนดโดย [คะแนน] ที่รัฐบาลเป็นผู้มอบให้ ฮิอิโระนั้นมีคะแนนเป็น 0 และยังถูกกดขี่ข่มเหงอย่างไม่มีเหตุผลเพียงเพราะแค่เป็นผู้ชาย แถมเจ้าตัวยังถูกกำหนดไว้ให้ตายอย่างน่าอนาถเพราะเป็นผู้ชายที่สร้างความน่ารำคาญด้วย เขาจึงพยายามที่จะทำอะไรหลายอย่างเพื่อเดธแฟล็กที่กำลังใกล้เข้ามา ทั้งหาพลัง ฝึกเวทมตร์ และนำเอาความรู้จากตอนเป็นเกมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ และวางแผนอยู่หลายต่อหลายครั้ง…ถึงแม้นี่จะเป็นเกมยูริ แต่เขาก็ดันเป็นผู้ชายที่ถูกรายล้อมไปด้วยสาว ๆ ล่ะ “…อ้าว? แล้วยูริล่ะ?” นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ควรจะต้องเป็นตัวละครน่ารำคาญ แต่กลับได้กลายเป็นคนที่ทำลายเกมยูริในอีกแง่ไปซะอย่างงั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท