ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง – ตอนที่ 55

ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

“…และนั่นก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันเมื่อวานนี้ค่ะ”

 

ฉันจบเรื่องเล่าของตัวเองในห้องมืดสลัวของคุณโคซากุระ

โทริโกะที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันกำลังหัวเราะลั่นเลยตอนนี้

 

“ม- แมว! นินจา!”

 

เธอล้มตัวลงกับที่พักแขนของโซฟาเลย หัวเราะหนักมากจนหายใจไม่ทันแล้วตอนนี้

 

“ต้องหัวเราะขนาดนั้นเลยหรือไง?”

“แหม! มันฟังดูน่ารักออกนี่!”

 

ไม่รู้นะว่ามันไปจี้เส้นอะไรเธอเข้า แต่ดูเหมือนนี่จะเป็นเรื่องน่าตลกสุดๆ สำหรับเธอเลยแฮะ แปลกคนชะมัด

 

“แมวนินจาเหรอ อืม… ต้องใช้ของแรงไปเหมือนกันนะเนี่ย โซราโอะจัง ต่อให้มีคนเขายื่นมาให้เธอเองก็อย่าไปเล่นยาเชียวนะ แค่ที่เป็นอยู่นี่ก็หนักพอแล้ว”

“ไม่ทำหรอกค่ะ! แล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อยนะคะ!”

 

ยังหยาบคายเหมือนเดิมเลยนะ คุณโคซากุระเนี่ย วันนี้ เธอใช้หลอดดูดโคล่าจากแก้วไซส์ใหญ่พิเศษจนแปลกเลย

ดูเหมือนว่าอย่างน้อย ตอนหน้าร้อนแบบนี้เธอก็จะดื่มแบบเย็นนะ

 

“ใจร้ายจังเลยนะคะ ทั้งที่พวกเราซื้อของมาฝากจากโอกินาว่าเยอะแยะเลยแท้ๆ”

“เรื่องมันผ่านมาเกินครึ่งเดือนแล้ว นี่ใจคอกะจะขุดเรื่องนี้ขึ้นมาพูดไปถึงไหนกันน่ะฮะ?”

 

คุณโคซากุระพูด พลางเคี้ยวก้อนน้ำแข็งที่มาจากในแก้วของเธอด้วย

 

“ได้ของขวัญจากพวกเธอฉันก็ดีใจนะ แต่ฉันยังไม่ยกโทษให้พวกเธอเรื่องที่ทรมานฉันด้วยภาพอาหารน่ากินที่ฉันกินไม่ได้แค่นี้หรอก”

“เรื่องมันผ่านมาเกินครึ่งเดือนแล้ว นี่ตั้งใจจะขุดเรื่องนี้ขึ้นมาพูดไปถึงไหนกันเนี่ยคะ?”

“ฉันเป็นพวกโกรธแล้วลืมยาก เข้าใจมั้ย?”

 

นานแล้วเหมือนกันนะที่พวกเราไม่ได้มารวมตัวกันแบบนี้ ไม่ใช่แค่คุณโคซากุระหรอก―ตั้งแต่กลับมาจากโอกินาว่า ฉันก็ไม่ได้เจอกับโทริโกะซักพักนึงเลยเหมือนกัน ฉันยุ่งกับเรื่องการสอบในเทอมก่อนมากจนไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย

ฉันลาไปหลายวันก่อนที่จะถึงช่วงสอบพอดี ซึ่งว่ากันตามตรง มันทำให้ลำบากมากๆ เลย ก็ ฉันมั่นใจเลยว่าสำหรับคนที่มีเพื่อนก็คงยืมเลคเชอร์จากคาบที่ขาดไปได้อยู่… อย่างมากที่สุด ฉันก็คงต้องทิ้งหน่วยกิจไปหน่อยนึงล่ะนะ

หลังจากที่สนุกกับรีสอร์ทริมหาดที่โลกเบื้องหลังกับโทริโกะมา พวกเราก็หนีมาจากที่นั่นได้พอดีก่อนที่จะเสียสติไปแบบเฉียดฉิว แต่ก็มาโผล่ที่เกาะอิชิงากิ ห่างออกมา 400 กิโลเมตรจากเกาะหลักของโอกินาว่า พวกเราจะบินกลับโตเกียวกันวันรุ่งขึ้นเลยก็ได้นั่นแหละ แต่หลังจากผ่านสิ่งน่ากลัวที่พวกเราเจอมาจากหาดนั่น ทั้งฉันทั้งโทริโกะนี่ สภาพจิตใจอ่อนล้าเต็มทนเลย

 

พวกเราต้องการพัก พักแบบพักจริงๆ น่ะ…

 

เพราะงั้น โทริโกะกับฉันก็เลยจองรีสอร์ทที่พักใกล้ๆ กัน แล้วก็ค้างอยู่ 3 วันเต็ม รีสอร์ทที่พักจริงๆ เลย ไม่ใช่แบบบ้านพักสไตล์นิวยอร์คนั่นหรืออะไรก็ตามที่มันน่าจะเป็น

แหงล่ะว่ามันแพงอยู่ แต่เป็นการใช้จ่ายที่จำเป็น

เดี๋ยวพวกเราค่อยถอนทุนคืนจากโลกเบื้องหลังก็ได้ ใช่ ก็แค่เป็นการลงทุนโดยอาศัยความสามารถของพวกเราไงล่ะ―นั่นคือสิ่งที่พวกเราบอกกันเองล่ะนะ เราพักในห้องสุดแพงในวันที่เราไปถึง ว่ายน้ำเล่นกันในสระ สั่งค็อกเทลริมสระมาดื่ม คุ้ยหาดทรายหาปะการังกันนิดหน่อย ตกกลางคืนก็นั่งแท็กซี่เข้าตัวเมืองหาเนื้ออิชิงากิกับพวกปลาที่จับได้ในท้องถิ่นกิน แล้วก็ส่งภาพอาหารหน้าตาน่ากินกับพวกแอลกอฮอล์ส่งไปให้คุณโคซากุระด้วย เพราะแบบนี้แล้ว พวกเราเลยกลับมาที่โตเกียวกันได้แบบสดชื่นเลย เรียกว่าเป็นการใช้เวลาที่จำเป็นก็ได้… บัตรเครดิตนี่มันสะดวกจริงๆ เลยนะ ว่ามั้ย?

แต่ตอนที่พวกเรามาเจอคุณโคซากุระ เธอก็อารมณ์เสียใหญ่เลย พวกเธอเป็นบ้าอะไรกันน่ะฮะ!? ไอ้เราก็เป็นห่วงอยู่ แต่นี่กลับมากันพร้อมผิวแทนดูดีกันเลยนี่? ฉันเอาพวกเธอตายแน่! โมโหสุดๆ เลยล่ะ แต่เราก็ทำให้เธอหายโกรธได้ด้วยของฝากกองโต นี่บางส่วนยังกองอยู่บนโต๊ะเตี้ยๆ ในห้องของคุณโคซากุระอยู่เลยนะ

 

“เราน่าจะไปช่วยเด็กคนนั้นนะ ฉันก็อยากเห็นจัง แมวนินจาน่ะ”

 

หลังจากที่โทริโกะหยุดหัวเราะได้ เธอก็ลุกขึ้นมาพูดจาไร้ความรับผิดชอบเฉยเลย

 

“ไม่มีทาง ฉันไม่ใช่ร่างทรงที่ไหนซักหน่อยนะ”

 

ฉันตอบกลับไปพร้อมกับสีหน้าบึ้งตึง

 

“ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับโลกเบื้องหลังเหรอ?”

“หา? ไม่ใช่งั้นหรอก พวกนั้นเป็นนินจาใช่มั้ยล่ะ? ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหนเลย ทุกอย่างที่เราเจอมาก่อนหน้านี้นั่นล่ะที่น่ากลัว”

 

…เอ๊ะ?

รู้สึกเหมือนเรื่องที่ฉันพูดไปนั่น มันมีอะไรแปลกๆ

มันเป็นอะไรกันนะ? ฉันว่าตัวเองก็ไม่ได้พูดอะไรที่ผิดขนาดนั้นนี่

 

“ก็จริง คราวก่อนนี่มันบ้ามากเลยเนอะ? นึกว่าจะเสียสติไปจริงๆ แล้วนะตอนนั้นน่ะ”

 

โทริโกะพูดขึ้น ส่วนทางฉันก็ตัวสั่นไปหมด

พอฉันนึกขึ้นมาว่ามันรู้สึกยังไง ก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองจะเสียความสงบนิ่งไปเลย นี่คือสิ่งที่คุณโคซากุระต้องเจอใน [ทุ่งดอกไม้] ตอนที่ฉันไปจัดการผู้หญิงกังหันลมหรือเปล่านะ? ต้องเจอความกลัวโถมใส่จนเต็มกลืน เรื่องน่ากลัวเกิดขึ้นต่อกันแบบไม่เว้นช่วง―ถ้าโทริโกะหรือฉันทนเอาไว้ไม่ไหว ไม่รู้เลยนะว่าตอนนี้พวกเราจะเป็นยังไงกันแล้ว พวกก้อนเนื้อพวกนั้นที่ถูกซัดขึ้นมาเกยบนหาด พวกเงาสีดำที่เรียกชื่อของพวกเรา พวกเด็กตัวเขียวที่กรีดร้องวิ่งตรงเข้าใส่พวกเรา ภาพทุกอย่างมันวิ่งวุ่นอยู่ในหัว แล้วมันก็…

 

“…โซราโอะ? เป็นอะไรมั้ย?”

“โทษที ฉันหลุดไปน่ะ ถึงไหนแล้วนะ? เรื่องที่เราคุยกันอยู่”

“เรื่องที่ว่าแมวนินจาเกี่ยวข้องกับโลกเบื้องหลังน่ะ”

“อ้อ…”

 

ฉันหยิบมะเขือเทศอบแห้งปรุงรสเกลือที่ซื้อมาจากเกาะอิชิงากิในกองพวกของฝากที่วางอยู่บนโต๊ะเข้าปาก ความเค็มกับความหวานนี่ค่อยๆ ดึงสติฉันกลับมาได้แล้ว

สภาพที่เป็นอยู่นี่คือเรื่องที่เราเจออยู่บ่อยเลยตอนพักอยู่ที่เกาะอิชิงากิ ตอนที่นึกย้อนถึงความกลัวที่เจอมาแล้วทำให้สติหลุดไป แล้วพวกเราก็รู้แล้วด้วยว่าจะจัดการกับมันยังไงดี เราแค่ตั้งสมาธิอยู่ที่สิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ก็พอ เหตุผลที่เราจบการพักผ่อนแค่นี้แล้วกลับบ้านก็เพราะพวกเราพอจะหยุดอาการที่เกิดขึ้นนี่ได้ประมาณนึงแล้ว ดูเหมือนว่าฉันจะยังไม่ได้หายสนิทดีหรอก แต่ก็ประคับประคองมาได้ขนาดนี้แล้วล่ะนะ

โทริโกะเองก็นั่งรอ ไม่ได้เร่งอะไรด้วย ฉันเคี้ยวมะเขือเทศในปากไปเพื่อดึงสติกลับมา ก่อนจะกลับเข้ามาในบทสนทนาของพวกเราต่อ

 

“คือ ฟังนะ ถ้าเรื่องนี้มันมีเอี่ยวกับโลกเบื้องหลังจริง มันก็ยิ่งทำให้ฉันอยากยุ่งกับเรื่องนี้น้อยลงไปอีกด้วยซ้ำ จำได้ใช่มั้ย? เราไม่มีปืนนะ”

 

ถูกแล้วล่ะ―ช่วงนี้ฉันเดินไปเดินมาตัวเปล่าเลย

ขากลับจากเกาะอิชิงากิมาที่โตเกียว เรามีปัญหาอยู่ว่าจะเอายังไงกับปืนของพวกเราดี ต่อให้เราจะแยกมันเป็นชิ้นเล็กขนาดไหน ก็ยังมีโอกาสที่จะโดนเอ็กซ์เรย์กระเป๋าที่สนามบิน แล้วก็โดนจับได้เพราะรูปร่างของมันอยู่ดี เพราะงั้นแหละ สุดท้าย เราก็ตกลงกันว่าจะส่งมันมาทางเรือ

ไรเฟิลจู่โจม 2 กระบอก, มาคารอฟ 2 กระบอก กับพวกกระสุน โทริโกะแยกชิ้นส่วนพวกมัน แบ่งออกไปเป็นพัสดุ 4 กล่อง แล้วก็ส่งมันมาที่นี่ พวกเรามีความคิดที่จะค่อยๆ กลับมาทางเรืออยู่เหมือนกันนะ แต่ฉันหาเหตุผลดีๆ กับการที่จะหยุดเรียนมากกว่านี้ไม่ได้เลย พวกเราก็เลยนั่งเครื่องบินกลับกันมาแทน

พวกปืนน่าจะมาถึงโตเกียวในซักไม่ 4 ก็ 5 วัน แล้วก็เผื่อมีอะไรผิดพลาด เราก็ใช้ที่อยู่แบบใช้แล้วทิ้งได้เลย ให้เขาเอาของไปส่งที่ตู้ล็อกเกอร์เก็บพัสดุตรงสถานีฮามามัตสึโจ

 

“โทริโกะ เธอไปเอาของมาหรือยังนะ?”

“นานแล้วล่ะ อันนี้ฉันเอามาคารอฟมาให้ก่อน”

“ขอบใจนะ”

 

โทริโกะยื่นถุงกระดาษจากร้านดีน แอนด์ เดลูก้าที่ข้างในใส่มาคารอฟอยู่มาให้ แค่กำด้ามปืนเอาไว้ในมือมันก็ทำให้รู้สึกสบายใจได้แล้ว ชักจะชินกับเรื่องน้ำหนักกับรูปร่างของมันแล้วสิ

ระหว่างที่ฉันเติมกระสุน 9mm ลงในแมกกาซีนอยู่ คุณโคซากุระก็ตัดสินใจพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย

 

“ตอนฉันได้ยินว่าพวกเธอส่งปืนแยกส่วนกันมาเนี่ย ฉันก็นี่เสียวแว้บเลยนะว่า ‘นี่ถ้ายัยพวกนั้นเขียนบ้านฉันเป็นที่อยู่จัดส่งจะทำยังไงล่ะเนี่ย?’ เลย”

“พวกเราไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ”

“ไม่รู้สิ ก็เธอยังส่งของฝากมาที่นี่เลยไม่ใช่หรือไง?”

“ฉันก็รู้อยู่นะคะว่าอะไรที่ส่งมาได้ อะไรที่ไม่ควรจะส่งมาน่ะ”

 

พอฉันขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นไปมอง ฉันก็สังเกตเห็นของตกแต่งรูปสัตว์ชิ้นนึง ขนาดประมาณวางบนฝ่ามือข้างเดียวได้ วางอยู่บนโต๊ะของคุณโคซากุระด้วย คราวก่อนยังไม่มีเจ้านี่อยู่เลย เหมือนจะเป็นงานปั้นเซรามิคเคลือบนะ

 

“โห นั่นมาจากไหนน่ะคะ? น่ารักจังเลย!”

 

ฉันอุทานขึ้นมา คุณโคซากุระก็มองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ภูมิใจ

 

“ทานุกิน่ะ จำที่เธอพูดคราวก่อนได้มั้ย โซราโอะจัง? ว่าป้า 3 คนนั้นอาจจะเป็นทานุกิจริงๆ ก็ได้”

 

จำได้อยู่แล้วสิว่าพูดอะไรแบบนั้นออกไปน่ะ ฉันพูดแบบนั้นเผื่อว่ามันอาจจะช่วยให้คุณโคซากุระผ่อนคลายลงได้บ้าง หลังจากที่เธอเครียดมากกับเรื่องที่ตัวตนจากโลกเบื้องหลังโผล่มาที่หน้าประตูบ้านของเธอเลย เป็นแค่คำพูดปลอบเฉยๆ ล่ะนะ

 

“ตอนแรก ฉันก็ว่ามันเป็นแค่เรื่องบ้าๆ บอๆ แต่ฉันก็รู้สึกเลยว่า พอมองมันเป็นเรื่องที่ทานุกิทำแล้ว มันก็ทำให้ฉันกลัวน้อยลง แล้วพอฉันเห็นของน่ารักๆ นี่ที่ตลาดงานคราฟต์ใกล้ๆ ก็เลยซื้อมาน่ะ”

“พอตั้งชื่อให้กับสิ่งที่กลัว ก็จะควบคุมได้งั้นสินะคะ?”

“อือ ใช่แล้วล่ะ ต้องขอบใจทานุกิตัวนี้ด้วย ฉันก็เลยกลับมานอนหลับตาสนิทได้อีก”

 

เธอเอาของตกแต่งนั่นมาวางบนมือ ก่อนจะมองมันอย่างเอ็นดู

พอมาคิดๆ ดูแล้วเนี่ย คราวก่อนที่เรามา คุณโคซากุระก็เปิดไฟทั้งบ้านสว่างเลยนี่นา แต่วันนี้ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็นแล้ว ทางเข้ากับโถงทางเดินก็ปิดไฟมืดๆ ถ้าการปลอบใจของฉันมันช่วยให้เธอสงบใจลงได้บ้าง ฉันก็ดีใจนะ

เจ้าสัตว์หน้าขนกับวงกลมดำรอบตาส่งสวยตามองมาที่ฉันจากในมือของคุณโคซากุระ สีหน้าดูบึ้งๆ น่ารักดีจัง หางสั้นๆ ป้อมๆ เป็นลางทางนั่นก็ด-…

หือ?

 

“คุณโคซากุระคะ นั่นไม่ใช่ทานุกินะคะ”

“ฮะ?”

“นั่นแรคคูนต่างหาก ดูที่หางสิคะ มีแถบด้วย”

 

คุณโคซากุระกระพริบตาปริบๆ แล้วก็ก้มหน้าลงมาดูที่ตุ๊กตาตกแต่งในมือ

 

“พูดเรื่องอะไรของเธอเนี่ย? ทานุกิก็มีแถบที่หางไม่ใช่หรือไง?”

“ไม่มีค่ะ ตัวที่มีก็คือแรคคูน”

“แรคคูนนี่ ตัวที่ชอบคุ้ยตามถังขยะใช่มั้ย? พวกมันเป็นสัตว์สกปรกนี่นา”

 

การแสดงความเห็นอย่างไร้ความปราณีของโทริโกะ ทำเอาคุณโคซากุระตาเบิกกว้างเพราะความโมโหเลย

 

“หนวกหูน่า! เจ้านี่คือทานุกิ! ไม่ว่าใครจะพูดยังไง มันก็คือทานุกิ!”

“เอ๊ะ? แต่…”

“เอาแต่พูดอะไรไร้สาระอยู่นั่นแหละ!? นี่เธออยากจะแยกฉันจากปอนโปโกะขนาดนั้นเลยรึไง!?”

“ป- เปล่านะคะ คือ…”

 

อ๊า แย่แล้ว ไม่น่าพูดอะไรเลยเรา ฉันเสียใจที่ทำไปแบบนั้น แล้ว―

เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดัง

คุณโคซากุระที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ลงมายืนอย่างไม่พอใจ ก็ชะงัก หยุดกึกไปเลย

*กิ๊ง ก่อง* เสียงกริ่งดังสะท้อนอยู่ในบ้านอีกครั้ง

คุณโคซากุระวาง ‘ทานุกิ’ ของเธอกลับไปไว้บนโต๊ะอย่างเบามือ แล้วก็คลิกเมาส์ จอภาพอันนึงของเธอฉายภาพนอกประตูหน้าบ้านขึ้นมา เป็นผู้ชายในเสื้อโปโลกับหมวกแก๊ปยืนอยู่

 

“…ใครน่ะ?”

“ของมาส่งครับ! เป็นของชิ้นใหญ่เลย ให้วางไว้ตรงไหนดีครับ?”

 

ชายคนนั้นตะโกนถามเข้ามาเสียงดัง พลางเอาผ้ามาเช็ดเหงื่อจากหน้าของตัวเอง เหมือนจะเป็นคนส่งของนะ… ไม่ได้ดูน่าสงสัยอะไร

 

“ของชิ้นใหญ่?”

 

คุณโคซากุระถามขึ้นอย่างงงๆ ก่อนจะเหลือบสายตาเคลือบแคลงมาหาฉันกับโทริโกะ พวกเราทั้งคู่ก็ส่ายหน้า ไม่รู้เรื่องเลยว่ามันคืออะไร

พอเป็นแบบนั้น คุณโคซากุระก็ลุกออกจากเก้าอี้ แล้วก็เดินไปที่ประตูหน้า

คงใช้เวลาซักพักนึงเลยกว่าเธอจะกลับมา ฉันกับโทริโกะก็คุยกันว่ามันจะเป็นอะไรกันแน่ ก่อนที่จะมีเสียงตะโกนดังมาจากประตูหน้าบ้าน

 

“ออกมาที่นี่หน่อย―พวกเธอทั้งคู่นั่นแหละ!”

 

เราทั้งคู่มองหน้ากัน เห็นพ้องต้องกันเลยว่าเสียงนั่นข่มความโกรธเอาไว้อยู่

รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่ต้องทำแบบนี้ แต่พวกเราทั้งคู่ก็เดินไปตามโถงทางเดินตรงไปที่ประตูหน้าบ้านอยู่ดี พอพวกเราออกมาข้างนอก ก็เห็นคุณโคซากุระจ้องกลับมาหาพวกเราจากใต้ชายคาของบ้าน

 

“พอจะอธิบายหน่อยได้มั้ยว่านั่นมันอะไร?”

 

ฉันมองไปตามทิศที่เธอชี้ไป ก็เห็นเครื่องจักรสีแดงขาวเครื่องนึงตั้งอยู่กลางสวนที่หญ้าขึ้นรถของเธอ มันสูงประมาณ 1.8 เมตร รูปร่างคล้ายๆ ซุ้มประตู ตรงฐานของแต่ละขามีตีนตะขาบอยู่ด้วย แสดงว่าคงจะเป็นยานพาหนะนั่นแหละ ตรงท้ายของเจ้ายานพาหนะอันนี้ก็มีที่นั่งติดอยู่ 2 อัน แยกกันเป็นทางซ้ายกับทางขวา

 

“เออ? เจ้านี่มันคืออะไรเหรอคะ?”

 

ใบเสร็จที่คุณโคซากุระยื่นมาหาฉันเขียนที่อยู่ผู้รับของเธอเอาไว้อยู่ นั่นลายมือของฉันแน่นอน ชื่อสินค้าคือ [บุนเม เครื่องจักรทางการเกษตร – เครื่องทุ่นแรงดูแลทุ่งยาสูบ AP-1]

TN: たばこ管理作業車 AP-1 (Tabako Kanri Sagyou-sha AP-1) ก็เป็นยานพาหนะที่ไว้ใช้ในการเกษตรนี่แหละครับ หลักการก็ตามที่บอกในตอนเลย หน้าตาในอนาคตจะมีภาพวาดนะครับ แต่ตอนนี้ก็เอาของจริงไปดูก่อน

 

“…อ้อ!”

 

จู่ๆ มันก็แวบกลับเข้ามาเลย คือวันที่ 2 บนเกาะอิชิงากิของพวกเรา แล้วตั้งแต่เวลาเพิ่งจะเย็น โทริโกะก็เมาไปแล้วด้วย พวกเราเข้าไปในตัวเมือง แล้วก็ซื้อเจ้าเครื่องจักรสำหรับทำงานที่พวกเราเจอนี่มาจากร้านขายเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับงานเกษตรกรรม แถมยังซื้อมาแบบไม่ทันคิดหน้าคิดหลังเลยเนี่ยสิ

AP-1 แต่เดิมถูกออกแบบมาเพื่อขับไปโดยที่ส่วนเปิดโล่งตรงกลางที่เป็นเหมือนซุ้มประตูจะวิ่งผ่านคันดินในไร่ คนที่ขับก็สามารถนั่งไปหว่านเมล็ดไปหรือเก็บเกี่ยวไปด้วยก็ได้ ฉันแค่นึกถึงตอนที่เรามียานพาหนะใช้ในโลกเบื้องหลังเนี่ยมันสะดวกขนาดไหน พอเราเห็นเครื่องนี้วิ่งๆ อยู่ในไร่ยาสูบที่เกาะอิชิงากิ มันก็ใช่เลย มันใช้ตีนตะขาบวิ่ง แสดงว่าต่อให้เป็นบนพื้นที่ขรุขระ มันก็วิ่งได้ไม่มีปัญหา แถมมันยังมี 2 ที่นั่งพอดีซะด้วยนะ

ว้าว นี่มันเพอร์เฟคสำหรับฉันกับโทริโกะเลยไม่ใช่เหรอ? ซื้อโลด

…บัตรเครดิตนี่มันสะดวกจริงๆ เลยนะ ว่ามั้ย?

 

“โซราโอะ ซื้อมาจริงๆ งั้นเหรอ…?”

 

ขนาดโทริโกะเองก็ยังตกใจ พอเห็นแบบนั้นฉันก็ลนลานขึ้นมาด้วยเหมือนกัน

 

“เอ๊ะ? เธอก็เอาด้วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ…? ใช่ใช่มั้ย?”

“อืม? เหรอ?”

 

ตอบมาไม่ได้มั่นใจเลย

ก็ คือฉันก็เมาอยู่เหมือนกันด้วยสิ ฉันเองก็ไม่ได้มั่นใจในความทรงจำของตัวเองขนาดนั้นด้วย

 

“ที่ฉันอยากจะถามก็คือว่า: ทำไมมันถึงส่งมาที่บ้านฉันต่างหาก!?”

 

มีเส้นเลือดปูดขึ้นจากหน้าผากของคุณโคซากุระแล้วตอนนี้

 

“ก็ แบบว่า คงจะเพราะมันไม่มีทางไว้ที่ห้องฉันได้ล่ะมั้งคะ? ฮะฮะ… ฮะ”

“ไม่ต้องมาหัวเราะ ฮ่าฮ่าฮ่า เลย คิดจะเอายังไงกับเจ้านี่เนี่ย? ฉันไม่มีทางช่วยซื้อให้พวกเธอหรอกนะ”

“อ้อ ไม่คะ ฉันใช้คะ ฉันใช้ เดี๋ยวจะเอาไปใช้ที่โลกเบื้องหลังด้วย”

“ยังไง?”

“ก็ เดี๋ยวหาเกทที่ให้มันวิ่งลอดไปได้ แล้วจากนั้นก็-…”

“เมื่อไหร่?”

“หมายความว่ายังไงเหรอคะ? ‘เมื่อไหร่’?”

 

พอฉันตอบคำถามด้วยคำถามกลับไป คุณโคซากุระก็ระเบิดเลย

 

“ฉันบอกให้รีบๆ ย้ายมันออกไปให้พ้นได้แล้วไงเล่า! ถ้าเกิด 3 วันแล้วเจ้านั่นมันยังไม่ย้ายไปจากบันไดขึ้นบ้านของฉันล่ะก็ ฉันจะไปเกี่ยวหญ้าจากสวนสาธารณะชาคุจิอิมาอัดใส่บุหรี่แล้วยัดใส่ปากให้พวกเธอสูบแน่! ทีนี้ก็รีบๆ ออกไปหาเกทกันได้แล้วไป๊!!”

 

TN: มีตำนานกล่าวไว้ว่า “…คนเมานั้น สามารถสั่งซื้อสิ่งที่พิสดารมา ในระดับที่เกินกว่าความคิดของมนุษย์คนไหนจะอาจจินตนาการได้เลยทีเดียว…”

ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

Status: Ongoing
การพบกันครั้งแรกกับ นิชินะ โทริโกะ ของเธอคือที่โลกเบื้องหลัง หลังจากได้เห็น “สิ่งนั้น” และเกือบตายไปแล้ว ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของนักศึกษามหาลัยผู้เหนื่อยล้า คามิโคชิ โซราโอะ ก็เปลี่ยนไป ในโลกเบื้องหลังนี้ที่มีอยู่เคียงคู่กับโลกของเราอันเต็มไปด้วยปริศนา มีตัวตนที่อันตรายอย่างคุเนะคุเนะและท่านฮัชชาคุที่ถูกพูดถึงกันในเรื่องผีจริงๆ นั้นปรากฏอยู่ เพื่อการวิจัย เพื่อผลประโยชน์ และเพื่อตามหาคนสำคัญ โทริโกะกับโซราโอะจึงก้าวเท้าเข้าสู่ดินแดนแสนพิลึกพิลั่นนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท