ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 327 พลิกผัน

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 327 พลิกผัน

ตอนที่ 327 พลิกผัน

เมื่อได้ยินคำพูดของเริ่นม่านลี่ คุณนายเหยาก็อดลูบจับใบหน้าเสียไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้น “ผิวดีขึ้นจริงเหรอ?”

เริ่นม่านลี่พยักหน้า แล้วพูดขึ้น “ค่ะ ผิวดีขึ้นมากจริง ๆ”

“ดูเหมือนยาที่มู่หลานจ่ายให้จะยังได้ผลดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ย่าดื่มยาจีน ถึงรสชาติจะไม่ค่อยอร่อย แต่ก็ทำให้สดชื่นขึ้นมากเลย”

คุณนายเหยาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ นางก็ไม่คิดว่าทักษะการแพทย์ของฉินมู่หลานจะดีขนาดนี้ หมอที่โรงพยาบาลตรวจแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เธอกลับมองออก ฝังเข็มให้แค่ไม่กี่เข็มนางก็ฟื้นขึ้นมา ช่างมีกึ๋นจริง ๆ

เริ่นม่านลี่ได้ยินสิ่งนี้ สายตาก็ดูไม่ค่อยพอใจนัก

สาวบ้านนอกที่หล่อนดูถูกในตอนแรกไม่เพียงแต่กลายเป็นหลานสะใภ้ที่แท้จริงของตระกูลเหยาเท่านั้น แต่ทักษะทางการแพทย์ก็ได้รับการยอมรับจากทุกคนด้วย แถมตอนนี้ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เป็นตัวอย่างที่ดีที่ทุกคนยกย่องชื่นชม ส่วนตัวหล่อนเองกลับต้องมาตกที่นั่งลำบากอยู่แบบนี้

เมื่อคิดได้เช่นนั้น แววตาของเริ่นม่านลี่ก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า แต่ไม่นานนักก็ยกยิ้มขึ้นอีกครั้ง แล้วพูดคุยกับคุณนายเหยาอย่างมีความสุข หลังจากนั้นเมื่อเห็นว่าคุณนายเหยาเผลอ หล่อนก็นำยาที่เซี่ยอวี่หรงให้มาใส่ลงไปในชามซุปที่อยู่ตรงหน้าคุณนายเหยา

ในตอนนั้นเอง คุณนายเหยาก็พูดถึงเหยาอี้หนิงขึ้นมา

“ม่านลี่เอ๊ย เดี๋ยวรออี้หนิงกลับมา พวกเรามากินข้าวด้วยกันนะ หลังจากนั้นค่อยมาพูดถึงเรื่องที่พวกเธอสองคนจะคืนดีกันให้เรียบร้อย พวกเธอรีบร้อนหย่ากันเกินไป เดี๋ยวรอเขากลับมาครั้งนี้ พวกเธอก็รีบแต่งงานใหม่ให้เร็วที่สุดเลยนะ”

เริ่นม่านลี่ได้ยินแบบนี้ สายตาก็เต็มไปด้วยความดูถูก

หล่อนไม่แต่งงานใหม่กับเหยาอี้หนิงอีกรอบแน่นอน เพียงแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณนายเหยา หล่อนจึงยอมยกยิ้มแล้วพยักหน้า “ค่ะ ได้ค่ะคุณย่า ฉันเข้าใจแล้ว”

หลังจากนั้นหล่อนขอให้คุณนายเหยารีบกินอีกครั้ง “คุณย่าคะ พวกเรารีบกินกันเถอะค่ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด ฉันเพิ่งสั่งน้ำซุปมาให้คุณย่า กินสักจิบสองจิบก่อนก็ได้ค่ะ”

“ได้”

คุณนายเหยาตอบรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากนั้นก็หยิบชามขึ้นมาแล้วเตรียมซด

ในตอนนั้นเอง ก็มีใครบางคนเดินเข้ามา พลางคว้าถ้วยชามในมือของคุณนายเหยาไป

คุณนายเหยากับเริ่นม่านลี่ต่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่พลิกผันในครังนี้ สุดท้ายเริ่นม่านลี่จึงเอ่ยพูดเป็นคนแรก “คุณทำอะไรเนี่ย รีบวางชามลงเลยนะคะ”

แต่คนผู้นั้นกลับไม่วางชามลงเลย แต่กลับหันไปมองแทน

เมื่อเห็นนายท่านเหยาเดินเข้ามา ก็หันมองเริ่นม่านลี่แล้วพูดจาอย่างหนักแน่น “เป็นเธอจริง ๆ ด้วย นังผู้หญิงเลวทรามนี่ หย่ากับเหยาอี้หนิงไปแล้ว ยังจะมาทำตัวตีสนิท เพราะมีความคิดแบบนี้นี่เอง”

“พ่อเฒ่า คุณมาได้ยังไง”

คุณนายเหยาหันมองท่านเหยาด้วยความสับสน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ที่คุณพูดก่อนหน้านี้หมายความว่ายังไงกัน ความคิดของม่านลี่คืออะไรเหรอ?”

นายท่านเหยาหันมองคุณนายเหยาด้วยสีหน้ายับยู่นิดหน่อยก่อนจะพูดขึ้น “ผมบอกคุณแล้วไงว่าอย่าติดต่อกับพวกเหยาอี้หนิงอีก แต่คุณก็ไม่ยอมฟัง แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ ครั้งก่อนที่คุณเป็นลมหมดสติไปก็เพราะโดนม่านลี่วางยา ครั้งนี้คุณก็ยังจะปล่อยให้หล่อนได้โอกาสทำร้ายคุณอีก”

“ไม่มีทาง…”

คุณนายเหยารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

“จะเป็นไปไม่ได้ได้ยังไง ผมเห็นกับตา หล่อนเพิ่งจะวางยาคุณอีกรอบนี่เอง” ขณะพูดก็ชี้ไปยังชามนั้นแล้วพูดขึ้นว่า “เพื่งใส่ลงไปในนี้เอง หลังจากคุณกินไป ก็จะหมดสติอีกรอบ”

คุณนายเหยามองดูชามตรงหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ จากนั้นจึงมองไปที่เริ่นม่านลี่อีกครั้ง “ม่านลี่ เธอ…เธอวางยาฉันจริงเหรอ?”

เริ่นม่านลี่ปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว

“ไม่ ฉันเปล่านะ ไม่ใช่ฉัน”

แต่ถึงอย่างนั้นนายท่านเหยาก็สบถด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ใช่หรือไม่ เดี๋ยวส่งถ้วยซุปนี้ไปตรวจสอบก็รู้แล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนี้ หัวใจของเริ่นม่านลี่ก็เต้นรัว

หล่อนทราบดีว่าไม่มีทางหนีรอด เพียงแต่เมื่อคิดไปถึงว่าเป็นเพียงแค่ยานอนหลับ เธอรู้สึกว่ามันไม่มีอะไร ไม่ได้เป็นอันตรายต่อคุณนายเหยาเลย จึงรีบใช้กลยุทธ์นี้อีกครั้ง แล้วหันมองคุณนายเหยาด้วยสีหน้าเป็นกังวล “คุณย่าคะ ฉันได้ยินว่าวันก่อนย่าบอกว่านอนไม่ค่อยหลับ ฉันก็เลยแอบใส่ยาให้ย่ากินไปนิดเดียวเอง เพื่อให้ย่าได้นอนหลับตลอดทั้งคืน”

คุณนายเหยาได้ยินแบบนี้ ก็นึกอย่างรอบคอบอีกครั้ง

แต่นางจำไม่ได้แล้วว่าเคยบอกเริ่นม่านลี่เรื่องนี้หรือเปล่า เพราะนางนอนหลับได้ดี จะมีแค่คืนหรือสองคืนเท่านั้นที่นอนไม่ค่อยหลับ

ฉินมู่หลานกับหลี่เสวี่ยเยี่ยนเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ข้าง ๆ

เมื่อได้ฟังคำพูดของเริ่นม่านลี่ หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็อดพูดไม่ได้ “เริ่นม่านลี่คนนี้นี่ไหวพริบดีจังเลยนะ กำลังโดนจับได้คาหนังคาเขาแล้ว แต่ก็ยังบอกว่าทำเพื่อคุณนาย มีอะไรหล่อนก็พูดไหลไปเรื่อยเลย”

ฉินมู่หลานพยักหน้าอย่างคล้อยตาม ก่อนจะกล่าวขึ้น “ใช่ค่ะ เริ่นม่านลี่มั่นใจว่ายานี้จะไม่ทำอันตรายคุณนายเหยา จึงไม่มีอะไรต้องกลัว”

หลังจากพูด เธอก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินตรงไป

“มู่หลาน…”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนเห็นฉินมู่หลานเดินเข้าไป ก็รีบลุกขึ้นตามไปด้วยทันที

ตอนแรกเริ่นม่านลี่ต้องการอธิบายอย่างอื่นเพิ่มเติม แต่ถึงอย่างนั้นก็เห็นฉินมู่หลานกำลังเดินมาทางนี้

“เริ่นม่านลี่ ถ้าเธอทำเพื่อคุณหญิงท่านจริง ทำไมถึงไม่บอกท่านต่อหน้าล่ะ แต่กลับแอบใส่ยาให้แทน”

“ฉัน…”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เริ่นม่านลี่ก็ชะงักทันที ไม่รู้ว่าจะบอกอย่างไร

และเมื่อคุณนายเหยาเห็นฉินมู่หลานกับหลี่เสวี่ยเยี่ยนมา ใบหน้าก็ดูประหลาดใจ “พวกเธอก็มาด้วยเหรอ?”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนรีบยกยิ้มแล้วอธิบายทันที “คุณยายคะ พวกเราเป็นห่วงคุณยาย ถึงได้ตามมาคอยดู ไม่คิดว่าจะได้เห็นเริ่นม่านลี่แอบวางยาคุณยายจริง ๆ”

หลังจากพูด หล่อนก็เห็นด้วยกับความคิดของฉินมู่หลาน

“คุณยายคะ ถ้าเริ่นม่านลี่กังวลเรื่องที่คุณยายนอนหลับไม่สนิทจริง ก็ควรจะบอกคุณยายตามตรงค่ะ แทนที่จะแอบวางยากันแบบนี้ หล่อนมีเจตนาไม่ดีค่ะ” หลังจากพูดจบ ก็หันมองเริ่นม่านลี่ด้วยท่าทางขึงขังอีกครั้ง

เมื่อเห็นหลี่เสวี่ยเยี่ยนพูดแบบนั้น คุณนายเหยาก็อดหันมองเริ่นม่านลี่แล้วเอ่ยพูดอย่างเสียไม่ได้ “ม่านลี่ ทำไมเธอถึงไม่บอกฉันล่ะ นอกจากนี้ฉันนอนไม่หลับแค่ครั้งสองครั้งเอง ช่วงนี้ก็หลับสบายดี เธอไม่จำเป็นต้องเอายานอนหลับให้ฉันกินเลย”

“ฉัน…”

เริ่นม่านลี่กำลังจะอธิบาย แต่ก็โดนฉินมู่หลานพูดขัดขึ้น “ก่อนหน้านี้เป็นยานอนหลับ แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยาอะไรนะ”

หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบชามใบนั้นขึ้นมา แล้วลองตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน เธอรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย ที่เริ่นม่านลี่จะไม่ให้ยาที่เป็นอันตรายกับคุณนายเหยาต่อไป

แต่เริ่นม่านลี่ที่ได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกโกรธเป็นที่สุด

“ฉันไม่เคยคิดจะทำร้ายคุณย่า เป็นใจของพวกเธอที่คิดเล็กคิดน้อยเองนั่นแหละ” หลังจากพูด หล่อนก็คว้าชามใบนั้น แล้วกระดกดื่มในอึกเดียว

“ฉันก็บอกไปแล้ว ว่าเป็นแค่ยาที่ช่วยให้นอนหลับดีขึ้นเท่านั้น พวกเธอ…”

เริ่นม่านลี่ยังไม่ทันพูดจบ ทั้งร่างก็ล้มพับลงไปทันที

“อ๊ะ…”

คุณนายเหยากับหลี่เสวี่ยเยี่ยนไม่ทันคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทั้งสองคนจึงต่างกรีดร้อง

แม้แต่สีหน้าของฉินมู่หลานก็เปลี่ยนไปด้วย แล้วรีบเข้าไปตรวจอาการของเริ่นม่านลี่ทันที หลังจากนั้นก็หยิบเข็มทองออกมาฝังเข็มให้หล่อนอยู่สองสามครั้ง หลังจากนั้นก็หันไปบอกผู้ชายที่มากับนายท่านเหยาทันที “เร็วเข้า รีบไปเตรียมรถ ต้องพาไปล้างกระเพาะที่โรงพยาบาล”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

แน่ใจเหรอว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ยาพิษน่ะ เรียกว่าของเข้าตัวได้หรือเปล่านะยัยม่านลี่

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท