ฝึกโดดเดี่ยวในดันเจี้ยนไป 100,000ปีออกมาอีกทีกลายเป็นตัวบัค – ตอนที่ 4 การสมรู้ร่วมคิด

ฝึกโดดเดี่ยวในดันเจี้ยนไป 100,000ปีออกมาอีกทีกลายเป็นตัวบัค

บทที่ 1 ตอนที่ 4: การสมรู้ร่วมคิด

 

ณ ถนนลึกเข้าไปบนภูเขาในป่าใหญ่ซิลเก้

 

ทิวทัศน์นั้นเหมือนกับทะเลเขียวขจีที่ไม่มีที่สิ้นสุด หลังจากเดินอย่างระมัดระวังท่ามกลางต้นไม้สูงซึ่งบดบังแสงจันทร์ แฟรกตัน ซัลมาจ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นคนสองคนรออยู่ตรงนั้น

 

แฟรกตันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอาณาจักรอเมเลีย หรือก็คือข้าราชการพลเรือน เขาเป็นคนขี้ขลาดมาก นี่จึงเป็นครั้งแรกเลยที่เขาเดินป่าในภูเขาตอนกลางคืนแบบนี้

 

“สถานการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง”

 

“สมบูรณ์แบบ! ทุกอย่างเข้าที่แล้ว กองกำลังอสูรและเสือดำที่อัญเชิญโดยผู้อัญเชิญสามสิบคนของจักรวรรดิรวมเราสองคนไปด้วย แม้แต่หนูก็ไม่สามารถหนีจากวงล้อมของเราได้”

 

ชายชราที่ปิดคลุมตัวด้วยชุดสีแดงซึ่งสลักรูปนกศักดิ์สิทธิ์สองหัว ตอบคำถามของแฟรกตัน

 

“สมกับที่เป็นหน่วยที่นำโดยท่านเอ็นซุ [ผู้อัญเชิญสูงสุด] จริงๆ”

 

ชายที่ชื่อเอ็นซุนั้น เขามีร่างกำยำที่มองเห็นได้แม้จะมองผ่านเสื้อคลุมสีแดงพร้อมกับหัวที่โล้น ชายคนนี้เป็นหนึ่งในหกผู้บัญชาการที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิกลิทเนียร์ ผู้ที่สามารถอัญเชิญราชาสปิริตได้ เขาถือเป็นอาวุธระดับยุทธศาสตร์ของจักรวรรดิอย่างแท้จริงเลยล่ะ

 

“ฉันไม่ชอบคำเยินยอที่เกินจริง แล้วฝั่งของเจ้าหญิงตอนนี้เป็นไงบ้าง”

 

“เจ้าหญิงโรสเพิ่งคุยกับเจ้าคนนอกรีตที่ไร้ความสามารถเมื่อไม่นานมานี้ แต่เธอก็กลับไปที่เต็นท์นอนแล้ว เราแค่ต้องสร้างความโกลหลเพื่อแยกผู้นำอัศวิน อาร์โนลด์ ออกจากเธอ ที่เหลือก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะ”

 

ตราบใดที่เจ้าหญิงโรส ผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้ปกครองคนต่อไปของอาณาจักรนี้ที่แข็งแกร่งที่สุดหายไป โอกาสของเจ้าชายกิลเบิร์ต ที่ซึ่งแฟรกตันและผู้ร่วมงานให้การสนับสนุนจะเป็นผู้ปกครองคนต่อไปก็จะเพิ่มขึ้น

 

“เหอะ! ขายคนในตระกูลของกษัตริย์ที่ตนเองรับใช้อยู่เนี่ยนะ ความคิดที่กล้าหาญเช่นนี้เป็นเรื่องที่ทหารของจักรวรรดิเช่นเราคงไม่มีวันคิดจะทำแน่นอน”

 

ชายหนุ่มผมดำที่มีลักษณะดุร้ายเล็กน้อยและมีแผลเป็นบนใบหน้าซึ่งกำลังพิงลำต้นของต้นไม้สูงพร้อมกัยกอดอกของเขาอยู่ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำพูดดูถูกเหยียดหยามออกมาเพื่อตอบสนองต่อคำพูดของแฟรกตัน

 

“ท่านจักรพรรดิดาบ นี่ท่านกำลังพยายามจะบอกว่าพวกเราไร้ยางอายงั้นเหรอ”

 

ชายผมดำคนนี้คือ [จักรพรรดิดาบ] คนปัจจุบัน ซิกเนียล แกสเทรีย เขาเป็นอัจฉริยะที่สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิดาบมาตั้งแต่อายุยังน้อยต่อจากจักรพรรดิดาบคนก่อน แอชเบิร์น แกสเทรีย เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ชายที่ซื่อสัตย์มากแต่ก็ค่อนข้างหยาบคาย

 

“โทษทีๆ ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย สงสัยฉันจะเรียบเรียงประโยคผิดไปหน่อย”

 

“คุณไม่รู้สถานการณ์ในอาณาจักรของเราด้วยซ้ำ คุณคิดว่าคำขอโทษเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วงั้นเหรอ!”

 

แฟรกตันรู้สึกอับอายกับคำพูดที่รุนแรงของซิกเนียล

 

แฟรกตันรู้สึกว่าสิ่งที่เขากำลังทำคือหนที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันการทำลายระเบียบในบ้านเกิดของเขา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยอมให้เด็กหนุ่มที่ไม่รู้สถานการณ์ที่แท้จริงด้วยซ้ำมาดูถูกเขาแบบนั้นได้

 

“หา แกกำลังพล่ามอะไรอยู่ฟะ? มันเป็นความจริงไม่ใช่รึไงที่พวกแกขายนายของตัวเองน่ะ”

 

“เราไม่ได้ขายเธอ! เราแค่จะส่งเธอให้แต่งงานกับราชวงศ์ของจักรวรรดิเท่านั้นเอง”

 

“แทนที่จะได้แต่งงาน ฉันคิดว่าเจ้าหญิงผู้น่าสงสารจะกลายเป็นของเล่นของนักอัญเชิญนิสัยเสียพวกนี้ไปตลอดกาลล่ะสิไม่ว่า”

 

พรที่โรสแมรี่ได้รับคือนักบุญ ซึ่งทำให้เธอสามารถอัญเชิญวีรบุรุษจากต่างโลกได้ จักรวรรดินั้นต้องการเจ้าหญิงเพราะพลังของเธอในฐานะนักบุญ

 

มีความเป็นไปได้ที่เจ้าหญิงจะอัญเชิญผู้กล้าคนใหม่มา จึงมีแผนจะส่งเจ้าหญิงไปแต่งงานกับราชวงศ์ของจักรวรรดิ เพื่อสนธิสัญญาสันติภาพกับจักรวรรดิ แทนที่จะมากลัวกองกำลังของประเทศที่จะกลายมาเป็นพันธมิตรเพิ่มขึ้น การกำจัดคนที่เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดในการครองบัลลังก์มีความสำคัญกว่ามาก

 

“พอได้แล้ว ซิกเนียล! ฉันขอโทษทีนะ ท่านแฟรกตัน เขาแค่ตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะเขายังไม่คุ้นเคยกับบรรยากาศของต่างประเทศน่ะ”

 

เอ็นซุยืดท่าทางของเขาให้ตรง โค้งขอโทษแฟรกตัน เมื่อเห็นเช่นนั้น ซิกเนียลก็ได้แต่เม้มริมฝีปากและหลับตาลง

 

แฟรกตันโกรธมาก แต่เขาตระหนักว่าการมาทะเลาะกันเองในตอนนี้ไม่มีประโยชน์ เขาต้องสงบสติอารมณ์ไว้ก่อน

 

“ไม่เป็นไรๆ ฉันจะกลับไปเตรียมดำเนินการ ฉันหวังว่าท่านซิกเนียลจะช่วยเราจัดการอาร์โนลด์ได้นะ”

 

“…”

 

หลังจากส่งคำตอบโดยใช้คางของเขา ซิกเนียลก็หายไปในส่วนลึกของป่าทันที เอ็นซุโค้งขอโทษอีกครั้งก่อนจะถอยกลับเข้าไปในป่าและหายตัวไปเหมือนซิกเนียล

 

แฟรกตันถูกทิ้งไว้ตามลำพังในที่แห่งนั้น รู้สึกร่าเริงขึ้นมา ที่ในที่สุดฝ่ายของเขาก็สามารถกำจัดเจ้าหญิงจากอาณาจักรนี้ได้ซักที

 

สำหรับพวกเขา เจ้าหญิงโรสเป็นคนบ้า เธอกล่าวว่าอาณาจักรควรถูกปกครองโดยผู้ที่มีความสามารถโดยไม่คำนึงถึงสถานะทางสังคมของพวกเขา นี่หมายความว่าแม้แต่คนธรรมดาก็สามารถเป็นได้ตราบเท่าที่พวกเขามีความสามารถ คำพูดเหล่านี้ของเธออาจนำมาซึ่งความโกลาหลอย่างคาดไม่ถึง

 

ตามกฎดั้งเดิมของอาณาจักรอเมเลีย ราชบัลลังก์ควรได้รับการสืบทอดโดยลูกชายคนโต อย่างไรก็ตาม สุดท้ายคนที่ตัดสินใจก็ยังคงเป็นราชาอยู่ดี

 

เนื่องจากศัตรูทางการเมืองของกลุ่มของแฟรกตันคือนักบุญ โรสเป็นสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าเลือกให้อัญเชิญผู้กล้า ดังนั้น เช่นเดียวกับนักบวช เธอจึงเป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไปอย่างไม่น่าเชื่อและสามารถรักษาฐานเสียงสนับสนุนไว้ได้ สิ่งที่ฝ่ายของกิลเบิร์ตกลัวที่สุดคือกษัตริย์อาจแต่งตั้งให้โรสเป็นผู้ปกครองคนต่อไปเพื่อปลุกขวัญกำลังใจของกองทัพให้พร้อมสำหรับการต่อสู้กับกองทัพราชาปีศาจที่กำลังจะมาถึง

 

อย่างไรก็ตาม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโรสกลายเป็นผู้ปกครองอาณาจักรอเมเลีย เธอจะต้องถอนรากถอนโคนที่เหล่าขุนนางที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษอย่างแน่นอน

 

สิ่งนี้เท่านั้นที่ไม่ยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด เราต้องกอบกู้สังคมอันสูงส่ง ดังนั้น แม้ว่าครอบครัวของ แฟรกจะรับใช้ราชวงศ์มาหลายชั่วอายุคน แต่เขาก็เลือกที่จะทรยศต่อบุคคลที่เขารับใช้

 

(เตรียมการขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางที่เราจะล้มเหลวแน่นอน)

 

อีกทั้งยังมีผู้บัญชาการที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิกริทเนียร์ถึง 2 ใน 6 คน แน่นอนว่าผู้บัญชาการอัศวินแห่งราชอาณาจักร อาร์โนลด์นั้นแข็งแกร่ง แต่จักรพรรดิแห่งดาบซิเนียลเองก็มีความสามารถทัดเทียมกัน อย่างน้อยก็ไม่น่ามีปัญหา ในระหว่างนั้นก็พาเจ้าหญิงไปยังจักรวรรดิ มันจะเป็นชัยชนะสำหรับกลุ่มของแฟรกตัน

 

(ความภักดีของฉันมีไว้เพื่อท่านเท่านั้น เจ้าชายกิลเบิร์ต!)

 

แฟรกตันกลับไปที่ค่ายหลังจากแสดงความเคารพเจ้านายของเขาซึ่งกำลังรอข่าวดีอยู่ในเมืองหลวง

ฝึกโดดเดี่ยวในดันเจี้ยนไป 100,000ปีออกมาอีกทีกลายเป็นตัวบัค

ฝึกโดดเดี่ยวในดันเจี้ยนไป 100,000ปีออกมาอีกทีกลายเป็นตัวบัค

Status: Ongoing
หลังจากที่ไค ไฮเนแมนได้รับพร [ผู้ไร้ความสามารถที่สุดในโลก] ชีวิตของเขาก็พลิกผันไป จนต้องออกจากบ้านเกิดเมืองนอนมา แล้ววันหนึ่งหลังจากหนีจากการไล่ล่าเขาได้หนีเข้าไปหลบในถ้ำที่จะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท