ฝึกโดดเดี่ยวในดันเจี้ยนไป 100,000ปีออกมาอีกทีกลายเป็นตัวบัค – ตอนที่ 10 บททดสอบและโซนแมกมา

ฝึกโดดเดี่ยวในดันเจี้ยนไป 100,000ปีออกมาอีกทีกลายเป็นตัวบัค

บทที่ 1 ตอนที่ 10: บททดสอบและโซนแมกมา

 

[บททดสอบของพระเจ้า] ดันเจี้ยนชั้นที่เก้า

 

หลังจากเอาชนะบัตตะแมน ฉันได้เดินเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ ทางเดินเพื่อหาคู่ต่อสู้ที่สามารถผลักดันฉันไปสู่สถานการณ์ที่เป็นอันตรายหรือเป็นความตาย ได้ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่ฉันพบคือพวกลูกกระจ๊อก

 

ไม่ว่าการโจมตีของสัตว์ประหลาดที่ฉันพบระหว่างทางจะเร็วหรือทรงพลังแค่ไหน การโจมตีที่หยาบกระด้างเหล่านั้นก็ไม่สามารถโจมตีฉันได้ ค่าสถานะของมอนสเตอร์พวกนั้นเหมือนกับไก่ได้พลอย ไร้ประโยชน์มันมีการประยุกต์ใช้และเทคนิคเลย เพียงแค่แท่งไม้ของฉันแตะเบาๆ ที่ข้อต่อของแมลงมอนสเตอร์เหล่านั้น ก็เพียงพอแล้วที่จะตัดแขนขาของพวกมันออก

 

“ถ้าฉันรู้ว่ามันจะน่าเบื่อขนาดนี้ ฉันคงเอาเวลาไปแกว่งดาบของฉันต่อดีกว่า”

 

สามปีหลังจากที่ฉันเริ่มสำรวจดันเจี้ยนนี้ แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่ค่าสถานะพื้นฐานของฉันก็เพิ่มขึ้นเป็นค่าเฉลี่ย 5  เหตุผลที่ฉันใช้เวลาสามปีเต็มในการไปถึงชั้นที่ 10 ก็คือดันเจี้ยนนี้ใหญ่เกินไป เท่านั้นยังไม่พอ ขนาดก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยเมื่อตามชั้นที่ลงไป

 

ดันเจี้ยนนี้มีจุดปลอดภัยที่สามารถใช้เป็นสถานที่พักผ่อนได้เนื่องจากไม่มีมอนสเตอร์ใดสามารถเข้าไปในสถานที่นั้นได้ ที่จุดปลอดภัยนั้นมีวงเวทย์เทเลพอร์ตที่ส่งฉันกลับไปที่ทางเข้าวิหารได้ด้วย ดังนั้นการสำรวจในดันเจี้ยนนี้จึงคล้ายกับการย้ายจากจุดปลอดภัยหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งและกลับไปที่ทางเข้าของวิหารเพื่อรับเสบียง ฉันต้องใช้เวลาหลายสิบวันในดันเจี้ยนเพื่อไปถึงจุดปลอดภัยอื่น

 

มีข้อจำกัดว่าฉันสามารถนำแมลงมีพิษมากับฉันได้กี่ตัวภายในดันเจี้ยน ดังนั้นฉันจึงฆ่ามอนสเตอร์แมลงพวกนั้นและกินมันเป็นเสบียงอาหารด้วย

 

เมื่อฉันลงบันไดยักษ์ในพื้นที่ด้านในสุดของชั้นที่เก้า ฉันเห็นผึ้งยักษ์รออยู่ที่ห้องถัดไป

 

[บททดสอบแรก: กำจัดคิลเลอร์ฮอร์เน็ต(แตนนักฆ่า)! เริ่มขึ้นแล้ว!]

 

เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงดังก้องอยู่ในหัวของฉัน ฉันจึงเตรียม [แท่งไม้ที่ไม่มีวันแตกหัก] ออกมา

 

ในที่สุด! บางทีเจ้านี้อาจเป็นคู่ต่อสู้ที่ฉันมองหาอยู่

 

“มาสนุกกันเถอะ การต่อสู้แห่งความตายของเรา!”

 

ฉันตะโกนร้องสุดเสียงขณะที่เดินเข้าไปหาแตนยักษ์ตัวนั้น

 

ทันใดนั้น ร่างของแตนปีศาจก็สั่นและพร่ามัว ฉันรู้สึกเย็นวาบลงกระดูกสันหลังและเลื่อนจุดศูนย์ถ่วงไปทางขวา ขณะที่ฉันทำเช่นนั้น ฉันรู้สึกว่าแขนซ้ายของฉันถูกแทง

 

“อืม! คู่ต่อสู้ที่มองไม่เห็นงั้นเหรอ ไม่เลวเลย“

 

ฉันเตรียม [แท่งไม้ที่ไม่มีสันแตกหัก] อีกครั้งปลายริมฝีปากของฉันเชิดขึ้น ฉันกำลังเพลิดเพลินกับความเจ็บปวดและความสุขที่ได้ต่อสู้เป็นตายหลังจากผ่านไปนาน

 

ฉันมองไม่เห็นศัตรู นี่น่าหมายความว่าคู่ต่อสู้ของฉันแข็งแกร่ง ฉันไม่เคยรู้สึกดีใจเท่านี้มาก่อน ฉันจับด้ามดาบไม้แน่นขึ้น

 

“สุดท้ายก็ได้แค่นี้อ่ะนะ…”

 

ฉันเคยคาดหวังกับสถานการณ์นี้ ฉันเลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง แน่นอนว่าฉันไม่เห็นการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์แตนตัวนั้น แต่มันเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง มันเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ง่าย ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากมันจะเขย่าตัวของมันในจุดเดิมก่อนที่จะทำการโจมตีด้วยความเร็วสูง จึงเหมือนกับว่ามันบอกฉันว่ามันจะโจมตีที่ไหนต่อไปเพื่อที่ฉันจะได้หลบทัน

 

ถ้าแค่นั้นยังไม่พอ ไพ่ตายของเจ้านี้ก็คือ―

 

ฉันยกแท่งไม้ขึ้นเหนือหัวเมื่อเห็นก้อนน้ำพิษสีม่วงพุ่งเข้ามาหาฉัน

 

“[บัญญัติแห่งดาบสไตล์ดาบมือเดียว] รูปแบบที่สาม― กระจกสะท้อนจันทรา”

 

ฉันส่งก้อนพิษที่พุ่งมาใส่ฉันกลับไปที่มอนสเตอร์แตนตัวนั้นด้วยดาบไม้ของฉัน

 

ราวกับว่าย้อนฉาก ก้อนพิษสีม่วงย้อนรอยวงโคจรก่อนหน้าและละลายปลายหางของแตนยักษ์

 

“โทษทีนะ แต่การใช้การโจมตีโพรเจกไทล์อย่างหยาบคายแบบนั้นใช้ไม่ได้กับฉัน”

 

รูปแบบที่สาม― กระจกสะท้อนจันทราเป็นรูปแบบตอบโต้ที่ฉันสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีระยะไกลของซิลเวอร์นักดาบเวทมนตร์

 

นอกเหนือไปจากเวทมนตร์ความเร็วสูงพิเศษของซิลเวอร์แล้ว การโจมตีแบบดิบๆ แบบนี้ไม่ได้ผลสำหรับฉัน

 

เมื่อเห็นหางที่ละลายแล้ว ฉันบอกได้เลยว่าพิษนั้นทรงพลังมาก แต่มันคงไม่ได้ผลกับฉันหรอก

 

มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แตนยักษ์ซึ่งน่าจะพยายามสร้างระยะห่างจากฉัน ก็ยังคงเกาะอยู่บนเพดาน

 

อืม มันแตกต่างจากแมลงตัวอื่นๆ แม้จะเสียเปรียบขนาดนั้น แต่ก็ไม่หนีหรือสูญเสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไป

 

สิ่งนี้คือแมลง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันมีความภาคภูมิใจของนักรบ

 

“พอแล้วล่ะ”

 

ฉันกำแท่งไม้ในมือซ้าย ลดจุดศูนย์ถ่วงลงให้มากที่สุด จากนั้นฉันยกปลายดาบขึ้นเล็กน้อยด้วยมือขวา

 

นี่คือศิลปะดาบที่เร็วที่สุดในปัจจุบันของฉันเพื่อโต้กลับการตอบสนองต่อคู่ต่อสู้ของฉัน

 

เมื่อร่างของผึ้งเริ่มสั่น…

 

“[บัญญัติแห่งดาบสไตล์ดาบมือเดียว] รูปแบบที่สอง―ประกายสายฟ้า”

 

ทันทีที่ฉันเอ๋ยคำเหล่านั้น ลำแสงจำนวนมากก็กระจายภายในห้อง แล้วฉันก็ไปยืนอยู่ข้างหลังแตนยักษ์นั่นแล้ว

 

“กิกิ?”(เสียงร้องมอน)

 

ทันทีที่มันหันกลับมา หัวของมันก็ร่วงหล่นลงมาบนพื้นพร้อมกับลำตัวของมัน

 

“หลับให้สบายนะ”

 

ฉันเหวี่ยงแท่งไม้ไปด้านข้างเพื่อกำจัดของเหลวสีเขียวที่ติดอยู่บนมัน จากนั้นฉันก็รัดมันกลับไปที่เอว

 

[ยืนยันการปราบปรามของคิลเลอร์ฮอร์เน็ต คุณได้ผ่านบททดสอบที่ 1 แล้ว คุณได้รับสิทธิพิเศษจากการเคลียร์]

 

ทันทีที่เสียงผู้หญิงดังก้องในหัวของฉัน กล่องไม้แคบๆยาวๆก็ปรากฏขึ้นที่ใจกลางของห้อง

 

เมื่อฉันเปิดกล่องไม้ออก ฉันพบดาบยาวที่มีใบมีดสีแดงแวววาว ฉันลองประเมินทันที

 

★ดาบเปลวเพลิง: เมื่อดาบนี้ตัดเป้าหมาย มันสามารถเผาผลาญพวกมันได้โดยใช้มานาในบรรยากาศ

 

・ระดับ: สูง

 

ดาบที่สามารถเผาเป้าหมายที่มันตัดได้ ฉันอาจจะใช้มันปรับปรุงรสชาติของพวกแมลงนั่น

 

หลังจากรักษาบาดแผลที่ได้รับจากคิลเลอร์ฮอร์เน็ตแล้ว ฉันก็ลงไปที่ชั้นที่สิบเอ็ด พื้นของสถานที่แห่งนี้กำลังเดือดปะทุ

 

ใช่ นี่แหละ! มันต้องแบบนี้สิ! ถ้าฉันหาคู่ต่อสู้ไม่เจอ อย่างน้อยมันก็ควรจะมีอะไรที่มันท้าทายหน่อย

 

ตอนนี้ปัญหาคือจะทำยังไง ลืมเรื่องสำรวจไปเลย ฉันไม่สามารถแม้แต่จะก้าวไปข้างหน้าได้ในสถานการณ์นี้ นี่คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าฉันมีรองเท้ากันความร้อน แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเช่นนั้น

 

“การต้านทานงั้นเหรอ อืม… อืม นี่อาจเป็นโอกาสดีสำหรับการทดลองเล็กๆ น้อยๆ ของฉัน”

 

หลังจากที่ฉันผ่านบททดสอบของชั้นที่ 10 ได้ สถานที่นั้นก็กลายเป็นจุดปลอดภัยที่ฉันสามารถใช้เทเลพอร์ตออกไปข้างนอกได้

 

ฉันถอด [รองเท้าหลบหนี] ออก แล้วใส่กลับเข้าไปในกล่องไอเท็มของฉัน จากนั้นฉันพยายามจุ่มปลายนิ้วของฉันลงในหินหนืดแล้วดึงกลับทันที

 

“ชิ! มันเป็นไปไม่ได้เลย”

 

สุดท้าย ฉันก็หยิบอีลิกเซอร์ออกมาจากกล่องไอเท็มของฉัน ฉันแลบลิ้นขณะที่แสยะยิ้มให้ความเจ็บปวดที่ปลายนิ้วเท้า อีลิกเซอร์ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ให้หาย แต่จากนั้นฉันก็จุ่มนิ้วเท้าลงไปในหินหนืดอีกครั้ง

 

หลังจากทำซ้ำสิ่งเดิมห้าสิบครั้ง

 

[คุณบรรลุเงื่อนไขการได้รับ [ต้านทานความร้อนต่ำ] คุณได้รับทักษะ ― [ต้านทานความร้อนต่ำ]

 

กระดานโปร่งใสปรากฏขึ้นต่อหน้าฉันพร้อมกับเสียงผู้หญิง

 

・ทักษะ―【ต้านทานความร้อนต่ำ】: ต้านทานความร้อนได้เล็กน้อย

 

・เงื่อนไขในการได้รับทักษะ: ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายสัมผัสความร้อนสูง 50 ครั้ง

 

・ระดับ: เริ่มต้น

 

・เงื่อนไขการเลื่อนอันดับ: ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายสัมผัสกับ ความร้อนสูง 500 ครั้ง

 

นี่แหละ! นี่ไง! ยังไงซะเวลาและอีลิกเซอร์ของฉันไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว ตอนนี้ฉันมีเป้าหมายแล้วล่ะ! มาเพิ่มระดับทักษะใหม่นี้จนกว่าฉันจะได้รับ [การดูดกลืนความร้อน] กันเลยดีกว่า

 

ติดต่อผู้แปลได้ที่ เพจผู้แปล Lemon FT 

ฝึกโดดเดี่ยวในดันเจี้ยนไป 100,000ปีออกมาอีกทีกลายเป็นตัวบัค

ฝึกโดดเดี่ยวในดันเจี้ยนไป 100,000ปีออกมาอีกทีกลายเป็นตัวบัค

Status: Ongoing
หลังจากที่ไค ไฮเนแมนได้รับพร [ผู้ไร้ความสามารถที่สุดในโลก] ชีวิตของเขาก็พลิกผันไป จนต้องออกจากบ้านเกิดเมืองนอนมา แล้ววันหนึ่งหลังจากหนีจากการไล่ล่าเขาได้หนีเข้าไปหลบในถ้ำที่จะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท