Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru – ตอนที่ 14

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

<มุมมอง​ของ​ ฮิซามูระ​ สึคาสะ>

 

เห้อ~ หลังเลิกเรียนตอนวันศุกร์นี่สนุกสุดๆเลยน้า~

 

ตอนนี้เป็นตอนกลางดึกของวันเสาร์​ ถึงอย่างนั้นชั้นก็เอาเเต่นึกถึงเรื่องตอนวันศุกร์ซํ้าเเล้วซํ้าเล่า

 

ก็ตอนคุยกันที่คาเฟ่มันสนุกมากเลยนี่นา​ เเถมขากลับยังสุดยอดอีกต่างหาก

ถึงตอนขากลับพวกเราจะพูดเรื่องที่มันน่าอายมากเลยก็เถอะ….​ เเต่มันก็ยังสนุกสุดๆอยู่ดี

 

ตัวชั้นไม่เคยกลับบ้านด้วยกันกับเด็กผู้หญิงสองต่อสองมาก่อนเลย​ มันเลยทําให้ชั้นรู้สึกประหม่าเล็กน้อย​ ไม่สิ​ เรียกว่าประหม่าสุดๆเลยดีกว่า

 

ถ้าพูดถึงเหตุผลหลักที่ทําให้ชั้นรู้สึกประหม่าคงเพราะเด็กผู้หญิงที่ว่าเป็นเซย์จังด้วยนั่นเเหละ

 

เเม้ว่ามันจะเป็นเหตุผลที่ทําให้ชั้นรู้สึกประหม่าก็จริง​ เเต่มันก็เป็นเหตุผลที่ทําให้ชั้นรู้สึกสนุกสุดๆอีกด้วย

 

พอมาลองคิดดู​อีกที คงเเทบจะเรียกได้ว่านั่นมันเป็นเดทหลังเลิกเรียนเลยล่ะ

 

เห้อ~ อยากจะไปเดทกับเซย์จังอีกจังเลยน้า

เซย์จังเองก็ดูเหมือนจะสนุกด้วยนี่นะ

 

ในขณะที่ชั้นคิดเรื่องเเบบนั้น​อยู่ เสียงออดของบ้านชั้นก็ดังขึ้น

 

ดูเหมือนหมอนั่นจะมาเเล้วสินะ

ใช่เเล้ว​ ตอนนี้คือกลางดึกของวันเสาร์หรือก็คือวันที่ยูอิจิจะมาค้างที่บ้านของชั้น

 

พูดให้ถูกคืออพยพมายังบ้านของชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้โทโจวอินเข้ามาขัดขวางการเดทกับฟุจิเสะในวันพรุ่งนี้

 

ถ้าเป็นเเบบนี้ก็หมายความว่าวันพรุ่งนี้ยูอิจิจะสามารถไปยังสถานที่เดทได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ถูกจับตามองโดยโทโจวอิน

 

เเผนที่ชั้นคิดขึ้นมานี่มันเจ๋งจริงๆเลยเเฮะ

ถึงคนที่เห็นข้อดีของเเผนนี้จะเป็นเซย์จังก็เถอะ

 

สมกับเป็นเซย์จังเลย

 

ชั้นเปิดประตูบ้านเพื่อต้อนรับยูอิจิที่มาถึง

 

“โย่​ ยินดีต้อนรับสู่บ้านของชั้นนะ”

“โอ้…”

“ตอนนี้พ่อเเม่ของชั้นยังไม่กลับมา นายทําตัวตามสบายเเล้วขึ้นไปห้องของชั้นเถอะ”

“เข้าใจเเล้ว…”

“…มีอะไรรึเปล่า​ นายดูไม่ร่าเริงเลยนะ​ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

 

ปกติยูอิจิจะร่าเริงอยู่เสมอ เเต่ดูเหมือนวันนี้จะทําตัวหดหู่เเปลกๆ

 

“อะไรล่ะ​ วันนี้นายเกิดเเพ้ตอนซ้อมเเข่งบาสรึไง?”

 

เซนส์​เรื่องบาสของหมอนี่ดีมาก​ๆ เรียกว่าเก่งถึงขนาดที่ถูกเลือกเป็นตัวเเทนประจําจังหวัดเลยทีเดียว

การที่จะทําให้ยูอิจิคนนั้นเเพ้ได้เนี่ย​ ทีมของอีกฝั่งคงจะเก่งน่าดู

 

“ไม่ใช่หรอก… เรื่องนั้นชั้นก็ชนะอยู่หรอก เเต่ช่วยฟังทีสิ พอดีมันดันมีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้นน่ะ”

“….ไม่อยากจะฟังเลยจริงๆเเฮะ​ เเล้วเรื่องนั้นเกี่ยวกับเดทในวันพรุ่งนี้รึเปล่าล่ะ?”

“เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเดทในวันพรุ่งนี้อย่างเเน่นอนเลยล่ะ”

“เเบบนั้นยิ่งเเย่เข้าไปใหญ่เลยนะเฟ้ย​ จริงๆเลยนะ​ นายเนี่ย คงจะเกี่ยวกับโทโจวอินซังด้วยล่ะสิ”

“ใช่เเล้วล่ะ… คาโอริรู้เรื่องที่วันนี้ชั้นจะมาค้างบ้านของนายเข้าเเล้วน่ะสิ”

“เป็นเรื่องที่เเย่ที่สุดในหมู่เรื่องที่ชั้นไม่อยากได้ยินเลยเเฮะ”

 

ครับ​ ตอนนี้เเผนการทั้งหมดของเราพังเรียบร้อยเเล้วครับ

 

เจ้าหมอนี่ทําอะไร​อยู่กันเเน่เนี่ย…

 

“เห้อ~ เเล้วทําไมถึงความเเตกได้ล่ะ?”

“ชั้นก็เเค่พยายามจะออกจากบ้านเพื่อที่จะมาบ้านของนายตามปกตินั่นเเหละ… เเต่มันดันมีรถลีมูซีนจอดอยู่หน้าบ้านน่ะสิ”

“โห้… เเล้วรถลีมูซีนที่มาจอดอยู่หน้าบ้านของชั้นตอนนี้นี่มันอะไรล่ะ?”

“เเน่นอนว่าคาโอริเป็นคนมาส่งน่ะ”

“นายนี่มันจบเห่เเล้วจริงๆเเฮะ”

 

นายควรจะเเอบมาบ้านของชั้นเงียบๆเเท้ๆ​ ไหงดันให้คนที่ไม่ควรจะรู้มากที่สุดมาส่งด้วยรถลีมูซีนฟะ

 

“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ​ ฮิซามูระคุง”

“สะ.. สายัณห์​สวัสดิ์​ โทโจวอินซัง”

 

ตอนนี้ข้างนอกนั้นมืดหมดเเล้ว​ มีเพียงเเสงจากเสาไฟเเละไฟหน้าบ้านของชั้นเท่านั้นที่ส่องสว่างบริเวณโดยรอบ

ภายใต้เเสงริบหลี่เช่นนั้น ผมสีทองสง่าของโทโจวอินซังก็ยังส่องเเสงเเละสว่างไสวเช่นเดิม

 

ไม่สิ​ เอาจริงนะ​ ทําไมมันถึงสว่างไสวขนาดนั้นได้ล่ะ​ เพราะเป็นเอฟเฟค​ของมังงะอะไรงี้เหรอ?

 

เเรกเริ่มเดิมทีที่นี่ก็เป็นโลกของมังงะด้วยนี่นะ​ คงจะเป็นไปได้เเหละ

 

“วันนี้คุณให้ยูอิจิมาค้างที่บ้านสินะคะ ดูน่าสนุกมากเลยนะคะ​เนี่ย ดิฉันล่ะอิจฉาจริงๆ​ ถึงขนาดที่อยากจะเข้าไปร่วมด้วยคนเลยล่ะค่ะ”

“มะ..ไม่สิ​ การที่จะให้ผู้หญิงอย่างโทโจวอินซังมาอยู่ในที่ที่มีเเต่ผู้ชายสองคนอย่างนี้​ มันก็ออกจะเกินไปหน่อยนะ​ ใช่ไหม​ ยูอิจิ”

“อา​ ตามนั้นเเหละ​ ฉะนั้น​ คาโอริ​ ช่วยรีบกลับไปสักทีเถอะ”

 

นายเนี่ย​ วิธีการพูดออกจะรุนเเรงเกินไปหน่อยนะ​

ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของนายก็จริง​ เเต่เธอก็เป็นถึงลูกคุณหนูของบริษัทยักษ์​ใหญ่ระดับโลกเลยทีเดียวนะเฟ้ย

 

“ตายจริง~ โหดร้ายจังเลยนะคะ​ ยูอิจิ​ ทั้งๆที่ดิฉันอุตส่าห์พามาส่งด้วยรถลีมูซีนในช่วงดึกดื่นอย่างนี้​ เเต่นายกลับพูดออกมาเเบบนั้น”

“ระ.. เรื่องนั้นก็รู้สึกขอบคุณอยู่หรอก… เเต่ต่อจากนี้จะเป็นการคุยกันภาษาผู้ชายน่ะ​ เนอะ​ สึคาสะ”

“หืม? อ้อ​ จริงด้วยสินะ​ จะว่าไปหมอนี่ชวนให้ชั้นมาดู AV โปรดที่หมอนี่ชอบดูเป็นประจําด้วยกันนี่นะ”

“เดี๋ยวก่อนสิ!? ชั้นไปพูดเรื่องเเบบนั้นตอนไหนฟะ!”

 

อื้ม​ นายไม่ได้พูดหรอก

 

“หะ.. โหดร้ายจังเลยค่ะ​ ยูอิจิ! ทั้งๆที่ดิฉันอุตส่าห์ทําอัลบั้มภาพของตัวเอง​เเล้วเเอบเอามันไว้ใต้เตียงของนายเเท้ๆ!”

“ไอนั่นเธอเป็นคนทําเองหรอกเหรอ!? พี่สาวชั้นไปเจอเข้าจนพวกเราเกือบจะได้มีประชุมครอบครัวเพราะมันเลยนะ!”

 

ว้าว ถึงเรื่องนี้ชั้นจะรู้อยู่เเล้วเพราะ​เคยอ่านมังงะมาก่อนก็เถอะ​ เเต่โทโจวอินซังนี่ทําเรื่องเหลือเชื่อจริงๆเลยเเฮะ

เพราะเป็นสิ่งที่เอามาให้ยูอิจิใช้เเทน​ AV เเน่นอนว่ามันจะต้องเป็นภาพที่ค่อนข้างล่อเเหลมพอสมควรอยู่เเล้ว

 

“ยูอิจิเองตอนที่เจออัลบั้มภาพนั่น​ก็ลังเลอยู่เหมือนกันว่าควรจะโยนทิ้งหรือเเอบเก็บเอาไว้ใต้เตียงดี​ เเต่ว่าหลังจากนั้นดูเหมือนจะถูกพี่สาวเจอเข้าเลยลําบากพอตัวเลยนี่นะ”

“ไหงนายถึงรู้ได้ล่ะ!? เรื่องนั้นชั้นยังไม่เคยบอกใครมาก่อนเลยนะ!? กะว่าจะเก็บมันลงหลุมศพ​ไปพร้อมกับตัวเองเลยเเท้ๆ!?”

 

อ๊ะ​ เเย่ล่ะ​สิ ดันหลุดพูดข้อมูลที่มาจากมังงะไปซะเเล้ว

 

“เเหม~ เป็นอย่างนั้นเองเหรอคะ​ ยูอิจิ? ดิฉันรู้สึกอายนิดนึงเพราะคิดว่าตัวเองทําเกินไปหน่อย​ เเต่ถ้า​ยูอิจิ​ติดใจล่ะก็​ เดี๋ยวจะทํามาให้อีกเล่มก็ได้นะคะ”

“ชั้นไม่ต้องการหรอก! จริงๆนะ!”

“เอ๊ะ​ ดิฉันว่าจะยัดเอาภาพเปลือยใส่เข้าไปด้วย​ เเต่ดูเหมือนนายคงจะไม่อยากได้จริงๆสินะคะ?”

“ชะ… ชั้นไม่ต้องการหรอก!”

“เมื่อกี้นายดูลังเลสุดๆเลยนะพวก”

 

ถึงในฐานะที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน​ ชั้นจะเข้าใจเหตุผลที่นายลังเลก็เถอะ

ถ้าโทโจวอินซังผู้มีร่างกายเเสนโบอิ้งโบอิ้งที่ไม่เหมือนกับเด็กมัธยมปลายพูดออกมาเเบบนั้น​ ไม่ว่าใครต่างก็ต้องลังเลทั้งนั้นเเหละ

 

การที่นายอยากจะค่อยๆลิ้มรสอาหารตาอย่าง​ภาพถ่ายของโทโจวอินซัง​น่ะ​ ในฐานะผู้ชายด้วยกันชั้นเข้าใจดีเลยล่ะ

 

“น่าเสียดายจริงๆค่ะ…. เเต่ว่านั่นสินะร่างเปลือยของดิฉัน… สักวันมันอาจจะไปอยู่บนเตียงของนายก็ได้นะคะ?”

“คุ.. ต้องทนเอาไว้.. เลือดกําเดาของชั้นจะไหลอ​ยู่เเล้ว..”

“อา​ ผมไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นคร้าบ~”

 

ในขณะที่ใช้มือปิดหูทั้งสองข้างของตัวเอง ชั้นก็ประกาศออกมาเเบบนั้น

 

ถึงชั้นจะทํามัน​ หลังจากที่ได้ยินเเล้วก็เถอะ​

 

เเต่ว่าถ้ามีเพื่อนสมัยเด็กสุดลามกเเละซุกซนเเบบนี้​ ชีวิตชั้นคงจะโรยด้วยกลีบกุหลาบเลยล่ะน้า

 

นอกจากนี้หมอนี่ยังมีเพื่อนสมัยเด็กที่รํ่ารวยอีกต่างหาก​ คง​ไม่ใช่เเค่โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างเดียว​ เเต่น่าจะเต็มไปด้วยทองคําเลยล่ะ

 

ถึงอย่างนั้นจิตใจอันเเข็งเเกร่งของยูอิจินี่ก็น่านับถือจริงๆเเฮะ

ถ้าชั้นเป็นยูอิจิ​คงจะทนไม่ไหวเเละควบคุมตัวเองไม่อยู่เเน่ๆ

 

เเต่ว่าตอนนี้ชั้นมีโอชิสุดที่รักตลอดกาลอย่างเซย์จังอยู่เเล้วนี่นะ

 

ถ้าเกิดเซย์จังพูดอะไรเหมือนกับที่โทโจวอิน​พูดออกมาเมื่อกี้ล่ะก็

 

[อยากจะได้ภาพเปลือยของฉันเหรอ…? ถะ.. ถ้านายอยากได้.. ฉันก็จะพยายาม…]​

 

“อุก!?”

“ไหงนายถึงเลือดกําเดาไหลล่ะ!?”

 

เเค่จินตนาการชั้นก็เลือดกําเดาไหลเลยเหรอนี่​ เเถมยังค่อนข้างเยอะอีกต่างหาก

 

จะว่าไปนี่เป็นครั้งเเรกในชีวิตของชั้นเลยเเฮะ​ ที่จินตนาการเรื่องลามกเเล้วเลือดกําเดาไหลเนี่ย…

สมกับเป็นโลกของมังงะ​ ไม่คิดเลยว่าเรื่องพวกนี้ก็สามารถทําได้

 

“ตายจริง​~ ฮิซามูระคุง​ ถึงจะเป็นคุณ​ ดิฉันก็ไม่คิดจะยกภาพเปลือยของดิฉันให้หรอกนะคะ เเต่ถ้าเตรียมตัวเตรียมใจที่จะถูกควักลูกตาทั้งสองข้างนั่นไว้เเล้วล่ะก็​ จะโชว์ให้ซักหนึ่งวิก็ได้ค่ะ… คิดดูอีกทีคงไม่ไหวหรอกค่ะ”

“ถึงชั้นไม่ได้คิดว่าอยากจะเห็นก็เถอะ​ เเต่ทําถึงขนาดนั้นก็ยังไม่ได้งั้นเหรอ”

“เเน่นอนค่ะ​ เพราะเป็นถึงดิฉันเลยนะคะ”

“จริงด้วยสินะ”

 

ก็เป็นถึงภาพเปลือยของลูกคุณหนูจากโทโจวอินกรุ๊ปนั่นเลยนี่นะ​ ชั้นมั่นใจว่าคงจะมีเศรษฐี​หลายคนยอมจ่ายหลักร้อยล้านเพื่อมันเลยล่ะ

 

การที่ยูอิจิเเค่พูดว่า​ [ต้องการ]​ ก็สามารถได้มันมาทันทีเลยเนี่ย… สุดยอดจริงๆเลยเเฮะ

 

“อะ.. เอาเป็นว่าภาพเปลือยอะไรนั่น​ ชั้นไม่ต้องการหรอก! เเล้วเธอก็รีบกลับไปได้เเล้ว!​ มันก็ดึกเเล้วด้วย ป่านนี้​ครอบครัวคงจะเป็นห่วงเเล้วใช่ไหมล่ะ!”

 

…ยูอิจิ​ เรื่องนั้น…

 

“….อา​ นั่นสินะคะ​ เข้าใจเเล้วค่ะ​ เดี๋ยวดิฉันจะกลับเเล้ว”

 

โทโจวอินซังตอบกลับมาเเบบนั้นก็จริง​ เเต่เทียบกับเมื่อกี้เเล้ว​ เธอดูหดหู่​ลงอย่างเห็นได้ชัด

 

เมื่อกี้เธอยังมีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจอยู่เลย​ เเต่ตอนนี้รอยยิ้มของเธอมันช่างดูเปราะบาง​

คงเพราะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน​ ยูอิจิเองก็สังเกตเรื่องนั้นได้ทันที

 

“คาโอริ​ เป็นอะไรไปเหรอ?”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ​ งั้นดิฉันจะกลับเเล้วนะคะ”

 

 

“อะ.. อา​ ขากลับก็ระวังตัวด้วยนะ”

“ฟุฟุ~ ดิฉันมาด้วยรถลีมูซีน​ เพราะฉะนั้นถ้าคุณคนขับเขาระวังตัว​ ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ”

 

โทโจวอินซังพูดออกมาเช่นนั้น ก่อนจะกลับไปด้วยรถลีมูซีน

 

“อะไรล่ะ? นี่ชั้นได้พูดอะไรเเย่ๆออกไปรึเปล่านะ? “

 

การที่เธอเเสดงท่าทางหดหู่ออกมาขนาดนั้น​ เเม้เเต่พระเอกสุดทึ่มอย่าง​ยูอิจิก็สังเกตเห็นสินะ

 

“….นั่นสินะ​ เเต่ชั้นว่านายก็ไม่ได้พูดอะไรเเปลกๆออกมานี่”

 

ตัวชั้นรู้เหตุผลอยู่

เเน่นอนว่าเป็นเพราะมีความรู้ที่ได้มาจากมังงะ

 

โทโจวอิน​ คาโอริ​ เธอไม่ค่อยสนิทสนมกับครอบครัวของเธอ

 

เเม่ของเธอเสียชีวิตตั้งเเต่ตอนที่ให้กําเนิดเธอออกมา​ เพราะฉะนั้นพ่อเป็นเพียงครอบครัวเดียวของเธอ

เเละเพราะพ่อของเธอเป็นถึงประธานของโทโจวอินกรุ๊ป​ทําให้เขามีเวลาเพียงน้อยนิดที่จะได้อยู่กับลูกสาวของเขา

 

เดือนล่ะครั้ง​ พวกเขาจะจองภัตตาคาร​อาหารสุดหรู​เเละทานอาหารคํ่าด้วยกันที่นั่น

 

เเถมมันยังเป็นทางการสุดๆ​ ทําให้มันดูเป็นเเค่การทานอาหารเพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้เฉยๆ

 

เเทบจะไม่มีการคุยกันเหมือนพ่อลูกเกิดขึ้นเลย​ เเถมทั้งๆที่พวกเขาควรจะกินอาหารหรูกันเเท้ๆ​ เเต่โทโจวอินซังรู้สึกประหม่ามากๆจนเเทบจะไม่รับรู้รสชาติด้วยซํ้า

 

โทโจวอิน​ คาโอริ​ เธอต้องการความรัก

มันเป็นเรื่องที่เเน่นอน​อยู่เเล้ว เพราะตั้งเเต่เด็กเธอก็ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเเม่มาก่อนเลย

 

เธอคิดว่า​ ชิเกโมโตะ​ ยูอิจิ​ จะสามารถให้ความรักนั้นเเก่เธอได้​ ทําให้เธอหมกมุ่นเรื่องของเขา​เเละพยายามขัดขวางไม่ให้เด็กผู้หญิงคนอื่นเข้าใกล้เขา

 

เพราะฉะนั้นต่อให้โทโจวอินซังกลับบ้านไป… ก็ไม่มีพ่อเเม่คอยต้อนรับด้วยความอบอุ่นหรอก

 

เธอคิดว่าต่อให้ตัวเองกลับไปก็ไม่มีพ่อเเม่ที่จะคอยเป็นห่วงเธออยู่ดี

 

คําพูดของยูอิจิเมื่อตะกี้​ทําให้เธอนึกเรื่องนั้นได้​ล่ะมั้ง เธอคงจะหดหู่เพราะเเบบนั้น

 

เเม้เเต่ยูอิจิที่อยู่ด้วยกันมาตั้งเเต่สมัยประถมก็ไม่รู้เรื่องนั้น​ ไม่สิ​ ต้องพูดว่าโทโจวอินพยายามซ่อนไม่ให้ยูอิจิรู้

 

ตราบจนถึงตอนนี้ยูอิจิก็ยังคงไม่รู้

ชั่วขณะนึงชั้นคิดว่าควรจะบอกยูอิจิดีไหม… เเต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่ควรจะบอก

 

ช่างเถอะ​ ถ้าชั้นบอกหมอนี่ตามปกติล่ะก็​ [เเล้วทําไมนายถึงรู้เรื่องนั้นได้ล่ะ?]​ ยังไงหมอนี่ก็ต้องถามออกมาเเบบนั้นเเหง

 

เเถมเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่จะสําคัญอย่างมากในช่วงหลัง​ของ​ “โอโจ้วจามะ” อีกด้วย… ถ้าเป็นไปได้ชั้นก็ไม่อยากจะขัดขวางมัน

 

เพราะสําหรับชั้นมันเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่น่าประทับใจมากเลยล่ะนะ

 

ชั้นไม่อยากจะขัดขวางมัน เเต่อยากจะเห็นมันในฐานะที่เป็นเเฟนคลับคนนึง​ของ​ “โอโจ้วจามะ”

 

“ก่อนอื่นรีบเข้าบ้านของชั้นเถอะ​ ถ้าเปิดประตูบ้านไว้นาน​ เดี๋ยวก็มีเเมลงเข้ามาหรอก”

“อะ.. อา​ ขอรบกวนด้วย​นะครับ”

“ชิส์~ ดันมีเเมลงเข้ามาซะเเล้ว”

“เห้ย! ชั้นไม่ใช่เเมลงซะหน่อย!”

 

เอาเป็นว่าปล่อยเรื่องพ่อเเม่ของโทโจวอินซังไว้ก่อน

 

เรื่องที่พวกเราต้องจัดการให้ได้น่ะ… คือเดทระหว่างยูอิจิกับฟุจิเสะในวันพรุ่งนี้

 

ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่​ Ao2Sides​

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท