อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต – ตอนที่ 36 เผชิญหน้า แบล็กแอนไวท์

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

ตอนที่ 36  เผชิญหน้า แบล็กแอนไวท์

 

 

หุ่นยักษ์ที่ควบคุมโดยเรดปรากฏตัวขึ้นและใช้พลังอันมหาศาลในการจัดการสัตว์ประหลาดยักษ์

 

การเคลื่อนไหวของหุ่นที่ดูคล่องตัวจนชวนให้เชื่อได้ยาก ว่านั่นคือหุ่นจริงๆ ทำการต่อยร่างของอีกฝ่ายจนชิ้นเนื้อหลุดออกมาง่ายดาย

 

 

 

「ไอ้เจ้าวิญญาณร้ายจากยุคครีเทเชียสนี่!」

 

「อุ้ววววว!!」

 

 

ทว่าคำพูดคำจาของเธอมันค่อนข้างแบบว่า…

 

ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเธอพูดแบบนี้เป็นปกติหรือเฉพาะตอนขี่หุ่น แต่มันก็นะ

 

 

 

「จะได้เวลาปิดฉากสักที……!」

 

「อุ้วววว!!」

 

 

เรดทำการหักเขาที่เหลืออีกข้างของมันออกมา

 

ก่อนจะใช้เขานั้นแทงกลับเข้าไปที่ร่างของสัตว์ประหลาดแล้วต่อยซ้ำ

 

ทางฉันก็ทำได้เพียงตกตะลึงกับการต่อสู้ที่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจศัตรูเลยแม้แต่น้อย

 

 

 

「อย่างกับออพติมัส ไพร์ม……」

 

ฉากที่ฉันเห็นตรงหน้าชวนให้นึกถึงหนังที่ฉันกับพี่ดูกันเมื่อวันก่อน…..

 

แม้ว่าเธอจะอยู่ฝ่ายแห่งความยุติธรรม แต่ลักษณะการต่อสู้ของเธอช่างดุเดือดเหลือเกิน

 

 

แม้จะแอบกลัว ฉันก็รู้สึกว่าควรเรียนรู้หลายๆ อย่างจากเธอ

 

เช่นเดียวกับเยลโล่และบลู การเอาชนะศัตรูได้โดยไม่พึ่งแต่พลังที่สูทมอบให้ นั่นคือเส้นทางที่ฉันคิดว่าตัวเองควรมุ่งไป

 

 

 

「ดีใจที่ได้พบ」

 

「หืม!? 」

 

 

ก่อนจะรู้สึกตัวก็มีคนมายืนอยู่ข้างฉันแล้วพูดขึ้น

 

ฉันตกใจจนถอยออกไปนิดหน่อย แล้วก็พบว่าอีกฝ่ายคือหญิงสาวสวมชุดสีน้ำเงิน บลู เธอลงมาจากรถที่ออกแบบคล้ายกับรถของฉัน

 

 

 

 

「ยินดีที่ได้รู้จักครับ บลูซัง」

 

「รุ่นพี่ ไม่จำเป็นต้องสุภาพ 」

 

「รุ่นพี่……? 」

 

「อื้อ……」

 

 

บลูเอามือปิดปากตกใจราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อว่าฉันลืมเรื่องพวกนี้

 

 

รุ่นพี่? ฉันเนี่ยนะถามจริง?

 

อย่าบอกนะว่าบลูก็เป็นคนรู้จักของฉันเหมือนกัน?

 

แบบว่าเป็นรุ่นพี่เธองั้นเหรอ?

 

ในขณะที่ฉันกำลังเค้นความคิดในหัวบลูก็พูดต่อ

 

 

「เรื่องของเรดวันก่อน ขอโทษ」

 

「มะ ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ผิดที่เอาแต่หนี」

 

「เพื่อจะให้เรดได้รู้สำนึก ฉันจะทำการลงโทษอีกรอบ」

 

 

 

ลงโทษ……。

 

ฉันแอบรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นรูปแบบความสัมพันธ์ของพวกเธอ

 

อันที่จริงฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องคราวก่อนแล้ว แถมมันยังช่วยทำให้ฉันได้ย้อนนึกถึงความสามารถที่ตัวเองมีอยู่ในขณะนี้ด้วย

 

 

ดะ เดี๋ยวก่อนนะ

 

ทำไมฉันถึงคิดจะตามรอยพวกเธอเหมือนเป็นเรื่องปกติไปได้ล่ะ

 

 

『ถึงจะใหญ่ขึ้นแต่ก็กระจอกชะมัด!』

 

 

ฉันได้ยินเสียงตะโกนของเรดและเสียงกรีดร้องของสัตว์ประหลาด จนทำให้สติกลับมาแล้วตั้งใจจะขึ้นรถเพื่อไปช่วยเรด

 

บลูก็เหมือนจะไม่ได้พยายามหยุดอะไรฉัน

 

 

 

――ถ้างั้นขอลองอะไรอีกสักหน่อยละกัน

 

「……ชิโระ? 」

 

 

เหมือนฉันได้ยินชิโระพูดอะไรสักอย่าง แต่ดันฟังไม่ทัน

 

พอหันไปตรงหัวเข็มขัดก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ทว่าอยู่ดีๆ ก็เกิดความแปลกประหลาดขึ้นตรงบริเวณทะเลที่เรดกำลังต่อสู้

 

สิ่งที่ออกมาจากมิติแปลกประหลาดนั้นคือเข็มฉีดยา

 

 

 

「นั่นมันอะไรกัน……」

 

「รูหนอน……? 」

 

 

 

『อุ้ววววว!!』

 

 

 

「หา!? 」

 

 

เมื่อประตูมิติหายไป ก็เกิดความผิดปกติกับสัตว์ประหลาดตัวนั้น

 

เขาของมันงอกขึ้นมาใหม่ ร่างกายของมันดูแกร่งขึ้น พร้อมกับมีแขนอีกสองข้างงอกออกมาจากทางด้านหลัง

 

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือร่างอัพเกรดของมัน จากนั้นมันก็ทำการยิงหนามจากด้านหลังเพื่อโจมตีพวกเราที่อยู่บนพื้น

 

 

「บลู!」

 

「ไม่ต้องห่วง」

 

 

 

ฉันเปลี่ยนมาใช้บลูฟอร์มแล้วใช้ Liquid Shooter ยิงหนามที่ตรงมาหาพวกเรา

 

ระหว่างนั้นฉันก็หันไปมองข้างๆ พบว่าบลูกำลังยิงพวกหนามอย่างแม่นยำด้วยท่าทีสงบนิ่งยิ่งกว่าฉันเสียอีก ทันใดนั้นเยลโล่ที่ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยสายฟ้า ก็กระโดดผ่านหน้าพวกเราไปแล้วใช้ขวานที่มีประจุไฟฟ้าแรงสูงไปข้างหน้า

 

 

「โอ้วววว!!」

 

เยลโล่ทำลายหนามพวกนั้นทิ้งทั้งหมดด้วยสายฟ้า ก่อนจะร่อนลงมาตรงหน้าพวกเรา

 

 

พอมาได้เห็นใกล้ๆ หนามพวกนี้มีขนาดใหญ่ชะมัด

 

 

 

「เจอกันอีกครั้งแล้วน้อ อัศวินขาวคุง」

 

「อะ อื้อ ว่าแต่เรดจะไม่เป็นไรเหรอ ศัตรูท่าทางแข็งแกร่งขึ้นด้วย」

 

「หื้ม……ถ้าเป็นเรดละก็ ไม่เป็นไรหรอก」

 

 

 

『อะไรกันยะ ยังมีชิ้นส่วนให้ทำลายเพิ่มงั้นเหรอ ก็มาเซ่ จัดกันอีกยก!』

 

『อุ้วววว!? 』

 

 

 

「……อย่างที่เห็น」

 

「อะ อื้อ คงจะไม่เป็นไรจริงๆ 」

 

 

ฟู้มมมม!! หุ่นของเรดชักดาบเพลิงออกมาตัดแขนสัตว์ประหลาดทิ้งอย่างง่ายดายราวกับเนย

 

 

อย่างที่คิด ความโหดเหี้ยมขอเธอฉันคงต้องเรียนรู้เอาไว้บ้าง

 

เพราะสิ่งที่ฉันรู้สึกขาดไปสำหรับตัวฉัน คือความดิบเถื่อน

 

「……หือ? 」

 

「……บลู เห็นตรงนั้นไหม? 」

 

「อื้อ」

 

 

เหมือนกับฉันทั้งเยลโล่และบลูมองไปยังจุดหนึ่ง ก่อนจะเตรียมอาวุธในมือให้พร้อม

 

พวกหนามที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ซึ่งควรจะถูกทำลายไปหมดแล้ว กลับมาอะไรบางอย่างอยู่ภายใน

 

ทันทีที่ฉันเตรียมจะเปลี่ยนฟอร์ม หนามเหล่านั้นก็แตกออกมาราวกับไข่ที่ถูกฟัก แล้วสัตว์ประหลาดหลายตัวก็โผล่ออกมาจากข้างในนั้น

 

 

 

「「「「อุ้วววว……」」」」

 

 

 

「อะไรของมันกัน」

 

「อาจจะเป็นเพราะเข็มที่ฉีดมันก่อนหน้านี้」

 

「……ไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดออกไปได้แน่」

 

 

ด้วยจำนวนของพวกมันฉันคงไม่สามารถปล่อยให้มันหลุดไปได้

 

ตรงนี้ก็มีแค่บลูกับเยลโล่ ถ้าเป็นพวกเธอฉันน่าจะสามารถใช้เยลโล่ฟอร์มได้

 

『RE:BUILD!! AXE YELLOW→ OK? 』

 

 

ฉันยืนยันด้วยการแตะหัวเข็มขัด

 

กระแสไฟฟ้าปกคลุมทั่วร่างของฉันก็ที่ชุดเกราะภายนอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซึ่งมาพร้อมกับขวานยักษ์ในมือ

 

 

 

『CHANGE!! AXE YELLOW!!』

 

『LIGHTNING CRUSHER!!』

 

 

ฉันใช้มันพุ่งเข้าไปโจมตีสัตว์ประหลาดตรงหน้าทันที ขวานยักษ์ได้ทำการกวาดพวกมันจนกระเด็นไป

 

 

 

「อย่ามองฉันด้วยสายตาผู้ชนะได้ไหม รำคาญ」

 

「อ่ะ เอ๋ ก็แบบว่าฟอร์มของเธอมันบ่เหมาะกับตอนนี้นี่เน้อ…เอาเถอะ รีบไปช่วยเขาดีกว่า」

 

 

ฉันได้ยินสองสาวพูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนจะเข้ามาช่วยจัดการกับพวกสัตว์ประหลาด

 

ประกายไฟฟ้าพุ่งไปตลอดเส้นทางที่ฉันผ่าน

 

ก่อนจะพวกมันให้กระเด็นออกไปอีกครั้ง

 

 

 

「ย้าาา!!」

 

 

พอเป็นฟอร์มนี้แล้ว ทั้งพลังและความเร็วค่อนข้างได้เปรียบพวกมันมากที่เดียว

 

เยลโล่กับบลูเองก็เหมือนจะรับมือกับมันได้เช่นเดียวกันแถมความเร็วของพวกเธอยังพอๆ กับฉันอีก

 

 

 

 

「……ฉันเองก็ต้องตั้งใจสู้」

 

『DEADLY!! AXE YELLOW!!』

 

 

ฉันเปิดใช้งานท่าพิเศษ แล้วจับขวานไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง

 

สัตว์ประหลาด 4 ตัวรอบๆ ฉันพุ่งเข้ามาหาอีกครั้ง แต่มันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ออร่าสีเหลืองอร่ามก่อตัวขึ้น ก่อนที่ฉันจะใช้มันผ่าพวกมันทั้ง 4 เป็นสองส่วน แล้วร่างของพวกมันก็ระเบิดเป็นจุล

 

 

 

「อุ้ววววว!!」

 

「……อึก」

 

 

หลังจากปล่อยท่าพิเศษไป เหมือนจะมีตัวที่เล็งช่องโหว่ตรงนี้ 3 ตัวพุ่งเข้ามาหาฉันจากด้านหลัง

 

ฉันพยายามหันกลับไปเพื่อป้องกันการโจมตี ทว่าก็มีกระสุนพลังงานพุ่งมาเจาะหัวของพวกมันทั้งหมดเสียก่อน

 

เป็นฝีมือของบลูนั่นเอง โดยอีกฝ่ายยกนิ้วในฉันที่กำลังตกใจกับภาพตรงหน้า

 

 

 

「ฮีโร่ ต้องช่วยเหลือกัน」

 

「อะ อื้อขอบคุณ……」

 

 

ในจังหวะที่พูดขอบคุณเธอ หัวใจของฉันก็รู้สึกตื้นเต้นแปลกๆ

 

เป็นความรู้สึกที่แสนคิดถึง

 

นับตั้งแต่ที่เจอพวกจัสติสครูเซเดอร์ ความทรงจำของฉันที่ขาดหายไปก็เหมือนจะถูกกระตุ้นขึ้นมา

 

 

 

 

「อึก」

 

 

อยู่ดีๆ ก็มีเสียงประหลาดดังขึ้นในหัว จนเกิดภาพแปลกประหลาดขึ้นมาภายในหัวของฉัน

 

ความทรงจำในอดีตเหมือนจะค่อยๆ ประกอบกันขึ้นมาที่ละส่วน

 

แล้วมันก็ถูกเล่นผ่านหัวของฉันไปอย่างรวดเร็ว

 

 

 

「มะ ไม่นะ!! อ๊ากกกก!!」

 

「แกนะแก อัศวินดำ!」

 

「อ้าาาาาา!!」

 

「ไอ้เวรเอ้ย ถ้าไม่มีแก ขอแค่ไม่มแกสักคน!!」

 

「พลังที่แสนไร้เหตุผลนี่มัน อั๊ก!? 」

 

 

เป็นเสียงแห่งความเคียดแค้นจากบางอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์

 

ในขณะที่พวกมันกำลังจะสิ้นใจ ฉันก็ได้ทะลวงหมัดเข้าไปซ้ำที่ร่างของพวกมัน

 

 

「อะ อะไรกัน……!? นี่ฉัน เป็นใครกันแน่……!? 」

 

 

ใบหน้าของพวกสัตว์ประหลาดเหล่านั้นถูกทาสีทับเอาไว้

 

ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเอาชนะใครอยู่

 

ในระหว่างที่ฉันกำลังเผชิญหน้ากับความทรงจำมากมายที่สาดซัดเข้ามา พวกสัตว์ประหลาดก็เหมือนจะคิดว่าได้โอกาสที่จะกำจัดฉัน

 

 

 

「หนวกหูเว้ยยยย!!」

 

 

ฉันฟาดขวานใส่พวกมันที่พุ่งเข้ามาหาทันที

 

ไม่ว่าพลังของเยลโล่ฟอร์มจะมากขนาดไหน แต่ถ้าเป็นการโจมตีธรรมดาก็ไม่น่าจะกำจัดพวกมันได้ทันที―――ทว่าขวานที่ฉันเหวี่ยงออกไปนั้นมีออร่าสีดำถูกเคลือบเอาไว้ และนั่นก็ทำให้พวกสัตว์ประหลาดระเบิดตาย

 

 

 

「นี่มัน บ้าอะไร……」

 

――แบบนี่มัน ไม่สิ

 

――ความเป็นไปได้ในการวิวัฒนาการที่ไร้ขอบเขต

 

「อึก อ้ากกก」

 

 

ความทรงจำได้โหมเข้ามาอีกครั้ง

 

คราวนี้ไม่ใช่ฉากต่อสู้

 

ไม่มีเสียงแห่งความเคียดแค้นของพวกสัตว์ประหลาด แต่เป็นภาพของการใช้ชีวิตประจำวันที่แสนสงบสุข

 

 

รู้สึกเหมือนมีใครบางคนคอยอยู่เคียงข้างฉัน

 

ใครบางคนที่ทำตัวน่ารำคาญ แต่ก็ตัดไม่ขาด

 

ใครบางคนที่มักจะกังวลอยู่เสมอเกี่ยวกับเอกลักษณ์ของตัวเอง

 

ใครบางคนที่ไม่ค่อยพูดและชอบทำอะไรที่ฉันมักไม่เข้าใจเสมอ

 

ใบหน้าของคนพวกนี้มันเบลอมากเกินกว่าที่ฉันจะรู้ได้ว่าเป็นใคร

 

แม้จะไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นยังไง แต่ฉันรับรู้ได้ว่านี่คือความทรงจำที่แสนสำคัญของฉันซึ่งถูกลืมเลือนไป

 

 

 

『CHANGE SAVE FORM!!!』

 

 

เข็มขัดของฉันถูกบังคับให้กลับไปเป็นร่างปกติ

 

ก่อนจะรู้ตัวในมือของฉันก็มีไดรฟ์สีดำซึ่งฉันไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่

 

ข้อมูลได้ไหลเข้ามาในหัวฉัน ฉันทำการกดปุ่มสีเงินที่อยู่ด้านข้างของไดรฟ์นั้นทันที

 

 

 

――อื้ม……

 

――แบบนี้แหละ ดีแล้ว

 

『GRAVITY!!』

 

 

มีเสียงดังขึ้นจากไดรฟ์ ฉันทำการกางแขนออกแล้วเสียบมันเข้าไปตรงรูพิเศษซึ่งอยู่ด้านข้างเข็มขัดของชิโระ

 

 

『BLACK!! & WHITE!!』

 

 

เสียงทั้งสองสอดประสานกัน จนเกิดสนามพลังงานขึ้นรอบตัวฉัน

 

 

 

『EVIL OR JUSTICE!!』

 

 

ชุดเกราะสีขาวส่วนหนึ่งบนร่างฉันได้หายไป ก่อนจะมีชุดเกราะชิ้นใหม่ถูกสร้างขึ้นแล้วเข้ามาติดบนร่างของฉันเอาไว้

 

สัดส่วนในร่างกายของฉันตอนนี้เรียกได้ว่าขาวและดำอย่างละครึ่ง ก่อนจะปิดท้ายด้วยชุดคลุมถูกถักทอขึ้นมาพันรอบเอวเอาไว้

 

 

『ANOTHER FORM!! COMPLETE……』

 

 

ฉันมองไปยังฝ่ามือของตัวเอง

 

ไม่ใช่ว่าความทรงจำทั้งหมดของฉันกลับมาแล้ว

 

ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร

 

ฉันกำลังคุยกับใครอยู่

 

 

「……แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น」

 

 

ฉันก็มั่นใจว่าทั้งหมดนั้นคือเรื่องราวในอดีตที่ฉันเคยเผชิญมา

 

ต้องนึกให้ออกให้ได้

 

อยากจะจดจำใครสักคนภายในความทรงจำนั้นให้ได้

 

 

 

 

「หลังจบเรื่องคงต้องไปถามพี่ให้รู้เรื่อง」

 

 

เพื่อการนั้นฉันต้องรีบจบเรื่องตรงนี้ให้เร็ว

 

ฉันจ้องมองไปทางพวกสัตว์ประหลาดที่เหลือแล้วนับจำนวน

 

อีก 6 สินะ

 

 

 

『DEADLY!! WHITE SIDE!!』

 

 

ฉันกดหัวเข็มขัด 3 ครั้งเพื่อใช้งานหนึ่งในท่าพิเศษของร่างนี้

 

เสียงดังก้องกังวาล ฉันตั้งท่าเตรียมเตะปิดบัญชี

 

 

 

「อุ้วววว!!」

 

『LUPUS! FIRST CRASH!!』

 

 

เท้าของฉันถูกห่อหุ้มไว้ด้วยพลังงานสีขาว แล้วใช้มันทำการเตะไปยังตัวที่ใกล้ที่สุดจนมันระเบิดตายทันที

 

หากจะให้เทียบประสิทธิภาพกับ SAVE FORM ก็เรียกได้ว่าเหนือกว่าหลายเท่า

 

พอรู้แบบนี้ฉันก็กดปุ่มตรงไดรฟ์ที่ถูกเสียบ เพื่อใช้ท่าพิเศษอีกท่า

 

 

 

『DEADLY!! BLACK SIDE!!』

 

 

หมัดของฉันถูกปกคลุมด้วยออร่าสีดำ จากนั้นฉันก็ใช้มือซ้ายชี้ไปทางศัตรู

 

 

 

「อุ้ววว!? 」

 

『GRAVITY! SECOND KNUCKLE!!』

 

 

สัตว์ประหลาดสองตัวที่ถูกออร่าสีดำห่อหุ้มเอาไว้ถูกดึงมาหาฉัน ก่อนที่ฉันจะใช้หมัดนั้นต่อยพวกมันทิ้งจนระเบิดไป

 

 

「อัศวินขาวคุง นั่นมันอะไรกัน!? 」

 

「ฉันจะใช้ท่าใหญ่สักหน่อย ช่วยออกไปห่างๆ ด้วย!!」

 

 

หลังจากโจมตีพวกมันเสร็จ ฉันก็แตะหัวเข็มขัดอีกสามครั้งเพื่อใช้ท่าพิเศษถัดไป

 

 

 

『BLACK!→ WHITE!→ DEADLY LIMITOVER!!』

 

 

ฉันกระโดดขึ้นไปในอากาศ ก่อนจะวาร์ปไปอยู่ตรงจุดที่เหนือหัวของพวกสัตว์ประหลาดที่เหลืออีก 3 ตัว

 

จากนั้นก็เตะกระสุนพลังงานสีดำตรงเท้าขวาไปหาพวกมัน

 

 

กระสุนพลังงานนั้นได้ดูดพวกมันเข้าไปหาราวกับแม่เหล็ก

 

 

 

「อุ้ววววว!!」

 

 

ฉันสะบัดผ้าคลุมตรงเอว ก่อนจะตั้งท่าเตะกลางอากาศแล้วพุ่งตรงลงไปหาพวกสัตว์ประหลาดทั้ง 3 ตัวที่ถูกล็อกเอาไว้

 

 

 

『DOUBLE!! FEVER CRASH!!』

 

 

ลูกเตะนั้นได้สังหารสัตว์ประหลาดทั้ง 3 ตัวพร้อมกัน

 

ฉันลงสู่พื้นด้วยความมั่นใจที่ว่าสามารถเอาชนะพวกมันได้จนหมดแล้วแน่นอนก่อนจะหันไปดูทางด้านเรด

 

 

 

『แกน่ะเลือกดาวผิดดวงแล้ว……!!』

 

『อุ้ววววว……』

 

『จงตายด้วยน้ำมือของฉันซ้าาาา……!』

 

 

แขนของหุ่นที่เรดควบคุมได้แทงทะลุหัวใจของสัตว์ประหลาดไปพร้อมกับดาบที่อยู่ในมือ

 

รู้สึกเหมือนเป็นภาพที่เคยเห็นบ่อยๆ อย่างบอกไม่ถูก

 

 

「……ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไรสินะ」

 

 

หลังยืนยันสถานการณ์เสร็จ ฉันก็ขึ้นไปขับLupus Strikerเพื่อกลับบ้านทันที

 

แม้จะรู้สึกผิดที่ต้องเมินเสียงของเยลโล่กับบลูที่เรียกอยู่ข้างหลังก็ตาม จากนั้นฉันก็หันหน้าไปถามชิโระที่อยู่ตรงหัวเข็มขัด

 

 

 

 

「ชิโระ ไม่มีเครื่องส่งสัญญาณติดมาด้วยใช่ไหม? 」

 

『YES』

 

 

ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองมีความทรงจำไม่ค่อยดีนักกับเครื่องส่งสัญญาณ

 

แม้จะนึกอะไรไม่ออกก็ตาม

 

แต่หากไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกตามมาทีหลัง ฉันก็กลับบ้านได้อย่างสบายใจเสียที

 

**

 

ว่ากันตามตรง เหมือนว่าสภาพความทรงจำของฉันตอนนี้กำลังพัฒนาไปในทางที่ดี

 

ถึงมาสเตอร์จะเคยบอกเอาไว้ไม่จำเป็นต้องนึกถึงเรื่องในอดีตแล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่อไปก็ไม่เห็นเป็นไร

 

แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามีใครบางคนที่ฉันควรจะต้องจดจำและพบเจอให้ได้

 

ฉันจึงตัดสินใจว่าตัวเองต้องหันกลับมาเผชิญหน้าสิ่งที่อยู่ในอดีตอีกครั้ง

 

 

 

 

「ก่อนอื่นคงต้องไปคุยกับพี่」

 

 

เมื่อกลับมาร่างปกติฉันก็ตรงไปยังอพาร์ตเมนต์พลางหลบฝนไปด้วย

 

พอเปิดประตูเข้าไปกลับไม่มีเสียงทักทายของพี่ที่มักจะได้ยินทุกครั้ง

 

 

 

 

「กลับมาแล้วครับ พี่? อยู่หรือเปล่า? 」

 

 

มีรองเท้าที่ไม่คุ้นอยู่ 2 คู่ตรงหน้าห้อง

 

คู่หนึ่งเป็นรองเท้าหนังสีดำดูมีราคา ส่วนอีกอันเป็นรองเท้าผ้าใบสำหรับผู้หญิงใส่

 

มีแขกเหรอ? ฉันคิดระหว่างเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น

 

 

 

 

「ยะ ยินดีต้อนรับกลับนะ คัตซึน….」

 

「ผมกลับมาแล้ว…เอ่อ…พี่ฮาคัว」

 

 

พี่ทักทายฉันด้วยใบหน้าเกร็งแปลกๆ

 

แล้วก็อย่างที่คิดในห้องนั้นไม่ได้มีแค่พี่คนเดียว

 

คนพวกนี้คือ―――

 

 

 

「ว่าไง นายเองสินะ น้องชายของชิราคาวะคุง? 」

 

「……」

 

「ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันเรมะ ส่วนทางนั้นอัลฟ่า」

 

 

เป็นชายผมบลอนด์กับหญิงสาวผมดำ

 

ใบหน้าของพี่ที่แสดงออกมาเมื่อสองคนนั้นอยู่ตรงหน้ามันบอกฉันราวกับว่าโลกใบนี้กำลังจะล่มสลาย

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ฉันไม่อยู่กัน?

 

————-

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

 

 

 

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Status: Ongoing
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท