ตอนที่ 75 เทพพนัน
หลินเซวียนมองนักสู้ร่างเพรียวบางที่อยู่ขั้นเปิดชีพจรระดับเจ็ด และคาดการณ์ไว้ว่าชายคนนี้จะจะพลิกกลับมาเอาชนะได้
ชื่อของนักสู้คนนี้คืออู่หมิงอยู่ฝั่งสีแดง และคู่ต่อสู้มีชื่อว่าเฟิงเจิ้ง
“ห้าร้อยหินวิญญาณ เดิมพันนักสู้อู่หมิง!” หลินเซวียนวางเดิมพัน
ถึงแม้หลินเซวียนจะวางเดิมพันเป็นครั้งแรก แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็ดึงดูดความสนใจของคนมากมายอยู่แล้ว
“เฮอะ! เด็กน้อยผู้ไร้วิสัยทัศน์นั่น คิดว่าตนเองมองเห็นแก่นแท้ของนักสู้เหล่านี้ได้งั้นหรือ?” เสียงคนดูหมิ่นดังขึ้น “เฟิงเจิ้งคนนี้ชนะติดต่อกันมาหลายครั้งแล้ว ยิ่งกว่านั้นเขายังมีฝ่ามือวายุที่ไร้เทียมทาน!”
“ข้าเดิมพันเฟิงเจิ้งหนึ่งพันหินวิญญาณ!” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น หลังจากนั้นเขาหันไปมองหลิงเจ๋อ
หลิงเจ๋อพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “หลินเซวียนสินะ? ข้าจะให้เจ้าแพ้จนหมดตัว!”
หลินเซวียนไม่กล่าวสิ่งใด หลังจากวางเดิมพันแล้ว เขาก็เอนหลังลงบนเก้าอื่นพร้อมจิบสุรา สุรานี้ทำมาจากผลไม้วิญญาณ ถึงแม้จะหอมบาง มันก็มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูกำลังภายในได้ดี
“เราควรเอาเหล้าของเซียนสุรามาดื่มด้วยดีไหมนะ?” หลินเซวียนยังจำสุราของเซียนสุราได้ ทั้งรสชาติและสรรพคุณต่างดีกว่าสุรานี้
“นี่ ศิษย์น้องหลิน เจ้ามั่นใจว่าจะชนะงั้นหรือ?” เย่ฉิงเป็นกังวล “ข้าเดิมพันหินวิญญาณพร้อมกับเจ้าไปมากเลยนะ!”
“ไม่ต้องห่วง ท่านจะได้ผลตอบแทนมหาศาล!” หลินเซวียนมั่นใจในสายตาของตน สำหรับผู้ใช้ดาบดาบ มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสังเกตคู่ต่อสู้ให้แม่นยำ หลินเซวียนเห็นการประลองของทั้งสองมาอย่างดี ทั้งจุดอ่อนและข้อได้เปรียบเขาจำได้หมด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมั่นใจ
เพียงไม่นาน การประลองก็ได้เริ่มขึ้น
ทันทีที่ขึ้นไปบนสังเวียน ฝั่งสีฟ้า เฟิงเจิ้งก็ได้เริ่มโจมตี ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีเขียวแทงผ่านอากาศออกไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นมันเข้าปะทะกับฝั่งสีแดง อู่หมิงที่กำลังยืนป้องกันอยู่
“ดี! ฝ่ามือของเขายอดเยี่ยมสมคำร่ำลือ” เสียงผู้คนโห่ร้องดังขึ้น
หลัวซิงชานดื่มสุราวิญญาณอย่างหรูหราก่อนจะเอ่ยถาม “ศิษย์น้องหลิน เจ้าไม่คิดจะลงไปประลองบ้างหรือ?”
“ไม่ต้องรีบร้อน ข้าขอทำความคุ้นเคยกับสถานที่สักหน่อย” หลินเซวียนกล่าวพลางยิ้ม “ไม่ว่ายังไงตอนนี้ต้องชนะเจ้าหลิงเจ๋อก่อน”
หลัวซิงชานชะงักก่อนจะหัวเราะแห้ง ดูเหมือนหลินเซวียนยังคิดจะเอาชนะหลิงเจ๋ออยู่ แต่ก็ถือว่าดี เขาเองก็ไม่พอใจหลิงเจ๋อมานานแล้วเช่นกัน บางทีเขาอาจจะใช้โอกาสนี้เอาคืนหลิงเจ๋อได้
“เจ้าคิดเห็นยังไงกับการต่อสู้ครั้งนี้?” ขณะที่หลัวซิงชานนั่ง มันมีรัศมีสีทองห้าดวงปกคลุมตัวเขาราวกับเทพปีศาจมาจุติบนโลก
“ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าว่า…” หลินเซวียนเริ่มสนทนากับหลัวซิงชาน
เมื่อเย่ฉิงเห็นทั้งสองคนคุยกันอย่างมีเลสนัย นางจึงอุทานเสียงไม่พอใจออกมา นางมองพวกเขาสนทนากันครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองภาพแสงที่ฉายการประลองอย่างวิตก เพราะนางเองก็เดิมพันหินวิญญาณไปมากเช่นกัน
และไม่นาน… อู่หมิงฝั่งสีแดงก็ได้รับชัยชนะ
“เย้ เย้!” เย่ฉิงดีใจจนกระโดดขึ้น “อัตราต่อรองตั้งหนึ่งต่อสาม ข้าได้หินวิญญาณกลับมามากมายเลย!”
นางปรบมือพร้อมส่งเสียงดังจนผู้คนหันมามอง พวกนักสู้ที่เสียหินวิญญาณมีใบหน้ามืดดำอยู่แล้วแทบจะขึ้นไปบันดาลโทสะกับฝั่งสีแดง
“บัดซบ ฝ่ามือวายุอะไรกัน ไอ้ขี้แพ้เอ้ย!”
ใบหน้าหลิงเจ๋อเองก็มืดดำเช่นกัน มันเป็นครั้งที่สองแล้วที่แพ้ให้กับหลินเซวียน
“คู่ไหนอีก?” หลิงเจ๋อถามอย่างอดไม่ได้
“เนี่ยเทียนจากสำนักเมฆาม่วง และไป่จีจากสำนักปีกหยก มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกัน” ชายชุดดำด้านหลังกล่าว
ดวงตาหลิงเจ๋อเปล่งประกาย เขาไม่เชื่อว่าหลินเซวียนจะชนะครั้งนี้ได้
“มาดูกันว่าเจ้าหนูคนนั้นจะเลือกฝั่งไหน” หลิงเจ๋อสะบัดมือ “ไปหาเด็ก ๆ มาให้ข้าสองคน!”
ไม่ไกลออกไป หลินเซวียนกำลังมองคนทั้งสองบนภาพแสงพร้อมครุ่นคิดเล็กน้อย และก็เลือกเนี่ยเทียน
“หินวิญญาณหนึ่งพันก้อน เดิมพันเนี่ยเทียน!” หลินเซวียนกล่าว
ว้าว! หลังจากได้ยินหลินเซวียน ผู้คนมากมายก็ได้เดิมพันเนี่ยเทียนตามเขา
“ข้าเดิมพันไป่จี!” หลิงเจ๋อเอ่ยขึ้น “สามพันหินวิญญาณ!”
“หลิงเจ๋อเองก็มีผู้วิเคราะห์อยู่ สายตาของคนผู้นั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน” บางคนยังคงเดิมพันตามหลิงเจ๋อ
เวลานี้เขากำลังโอบกอดสาวใช้สองคนพร้อมเผยรอยยิ้มชั่วร้าย “ถึงแม้ทั้งสองจะมีความแข็งแกร่งเท่ากัน แต่ไป่จีเพิ่งสำเร็จวิชาร้ายกาจเร็ว ๆ นี้ การเอาชนะเนี่ยเทียนคงไม่ใช่เรื่องยาก“
“เจ้าเห็นอะไรบ้างล่ะครั้งนี้?” เย่ฉิงเอ่ยถาม
“ข้าไม่เห็นอะไรเลย” หลินเซวียนยักไหล่ “ข้าไม่เคยดูการประลองของทั้งสองมาก่อน แค่ดูตามสถิติเท่านั้น ท่านวางเดิมพันไปหรือ? มันน่าสนุกดีนะว่าพวกเขาจะชนะหรือแพ้”
“เจ้า!” เย่ฉิงกัดฟันแน่น เพราะนางได้วางเดิมพันที่ชนะมาครั้งก่อนจนหมด
“สวรรค์เข้าข้างเนี่ยเทียนด้วยเถอะ…” เย่ฉิงกล่าวเบา ๆ
ภายในภาพแสง ขาซ้ายของเนี่ยเทียนกำลังเปล่งประกายเหมือนสายลม ขาขวาของเขาก็ร้อนแรงประดุจอัคคี พลังทั้งสองอยู่ในตัวของคนคนเดียว
อีกด้านหนึ่ง ใบหน้าของไป่จีนั้นมีหน้ากากเงินปิดอยู่ ดาบในมือของเขาสั่นก่อนที่อากาศรอบด้านจะกลายเป็นน้ำแข็ง
ลูกเตะอัคคีสลาตัน!
วิชาดาบเหมันต์!
ทันทีที่ทั้งสองเริ่มสู้ พวกเขาก็ไม่มีใครออมมือให้กันอีก พลังทั้งสองปะทะกันจนพื้นที่รอบด้านถูกทำลาย ผู้คนจดจ้องอย่างไม่ละสายตา
ท้ายที่สุด ดาบของไป่จีได้แยกออกเป็นสิบสามเล่ม ปราณดาบจำนวนมากเข้าฝังร่างของเนี่ยเทียนในทันที
“ฮ่า ฮ่า! นั่นแหละไป่จี ดาบน้ำแข็งของเขายอดเยี่ยมจริง ๆ !” หลิงเจ๋อเย้าหยอกสาวใช้ทั้งสองในอ้อมแขนขณะหัวเราะ
กลุ่มที่เดิมพันฝั่งไป่จีเองก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ลิ้มรสชัยชนะ สถานการณ์บนจอแสงก็เปลี่ยนไป
เนี่ยเทียนที่ถูกปกคลุมด้วยปราณดาบได้ระเบิดพลังวิญญาณออกมา พลังงานสีเขียวและสีแดงเพลิงได้ผสานกันเป็นครึ่งวงกลมก่อนจะทะลวงปราณดาบน้ำแข็งแตกกระจาย
ตู้ม! ไป่จีถูกเตะออกไปจนกลายเป็นประกายแสงสีขาว
ผลของการประลองคือการพลิกกลับครั้งใหญ่หลวง!
รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้ที่เดิมพันฝั่งไป่จียังมีอยู่ แต่ผิวหน้าของพวกเขานั้นชากันทุกคน สติของหลิงเจ๋อถึงกับหายไปชั่วขณะ เขาไม่เข้าใจว่าการปิดฉากของไป่ฉีนั้นจะถูกโต้กลับได้ ‘นี่เป็นวันโชคร้ายของเราหรือ?’
“โชคบัดซบเอ้ย!” หลิงเจ๋อโกรธจัดจนบีบแขนสตรีทั้งสองคนอย่างไม่รู้ตัว
ดวงตาของพวกนางเต็มไปด้วยน้ำตา แต่ก็ไม่มีใครกล้าต่อต้าน
“ชนะแล้ว ชนะแล้ว!” เย่ฉิงแทบไม่เชื่อสายตา ในตอนท้าย นางได้ถอดใจไปแล้ว แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะพลิกกลับมาชนะได้
‘ชายคนนี้เก่งจริงหรือแค่โชคดี?’ เย่ฉิงอดไม่ได้ไปยังจะมองหลินเซวียนที่กำลังมองบัตรสีม่วงในมืออย่างมีความสุข
“ศิษย์น้องหลินนี้มหัศจรรย์จริง ๆ !” เย่ฉิงกล่าว
การประลองต่อ ๆ มา หลินเซวียนก็ยังสามารถเดาได้อย่างแม่นยำ หินวิญญาณห้าพันก้อนที่เขายืมมาก็ได้คืนไปหมดแล้ว และตัวเขาได้กำไรกลับมาสามพันก้อน
“อีกนิดเดียว” หลินเซวียนบ่นพึมพำ
หลัวซิงชานพยักหน้าก่อนจะเรียกลูกน้องของตนมาบอกว่าจะทำอะไรต่อ
“จับตาดูการประลองครั้งต่อไปให้ดี มันน่าสนใจมาก คนหนึ่งคือนักสู้มือใหม่ลึกลับ และไม่เคยเข้าร่วมประลองมาก่อน และอีกคนคือฉีเจว่ ผู้ที่ชนะติดต่อกันมาแล้วสิบครั้ง”
“ราคาเดิมพัน หนึ่งต่อสิบ!” ผู้ดูแลการประลองเอ่ยขึ้น
“อะไรนะ หนึ่งต่อสิบเลยเรอะ!” ฝูงคนตกอยู่ในความเงียบชั่วครู่ก่อนจะส่งเสียงกันขึ้นดัง
“ให้ตายเถอะ! ข้าต้องเดิมพันในรอบนี้! มันสามารถเอาทุนทั้งหมดคืนมาได้เลย!”
“ข้าจะเดิมพันด้วยทั้งหมดที่มี”
“ข้าต้องชนะครั้งนี้ให้ได้!!” เสียงของผู้คนดังกระหึ่มไปทั่วที่นั่งชม ผู้คนส่วนใหญ่เลือกฉีเจว่ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชนะติดต่อกันถึงสิบครั้ง
หลินเซวียนค่อย ๆ ยืนขึ้นหยิบบัตรสีม่วงและกล่าว “ข้าเดิมพันนักสู้มือใหม่ลึกลับ!”