บทที่ 57 อัจฉริยะที่โค๊ชหวังไม่สามารถเข้าใจได้
หลังจากหวังหยังหมิงได้ยินดังนั้น หน้าตาของเขาแสดงว่ากำลังคิดตามอย่างเต็มความสามารถ และในที่สุดก็เต็มไปด้วยความผิดหวังทั่วใบหน้า
“เฮ้ออออ งั้นก็ได้ครับ”
“ไม่คิดเลยจริงๆว่าเด็กนี่จะฉลาดล้ำซะขนาดนั้น”
“ตกลงครับ ผมจะลามือ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้วุ่นวาย”
ด้วยเหตุนี้ หวังหยางหมิงเองก็ได้เดินอาจากห้องของผอ.กัวไปโดยมีผอ.กัวมองตามไปอย่างไม่ละสายตา
ที่ด้านนอกสำนักงานนั้น หวังหยางหมิงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงอัจฉริยะภาพด้านการกีฬาของเจียงฮ่าวอีกครั้ง ก่อนที่จะพยายามลบเลือนความรู้สึกนี้ไป
“…”
ที่ห้องแปด เจียงฮ่าวยังคงนอนฝุบอยู่กับโต๊ะเช่นเคย แต่ในครั้งนี้ ไม่มีใครกล้าออกความเห็นเกี่ยวกับการกระทำของเขาอีกต่อไป กลับกัน ยังรู้สึกทึ่งมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เพราะในมุมมองของพวกเขานั้น เจียงฮ่าว คือผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของทั้งสี่โรงเรียนได้ทั้งๆที่นอนหลับได้ทุกวี่ทุกวัน ในขณะที่พวกเขานั้นพยายามอย่างหนักทุกวี่ทุกวันขนาดนี้ยังห่างกันแทบจะคนละซีกเมือง
ดังกล่าวที่ว่า อัจฉริยะบุคคลนั้นล้วนแล้วแต่ไร้เหตุผล
ในตอนนี้เอง เป็นหวังหยางหมินที่ได้เดินเข้ามาในห้องแปดอีกครั้ง นี่ทำให้คนในห้องแปดต่างพูดคุยกันจนเกิดเสียงกระซิบกันไปทั่วห้อง นั่นก็เพราะ ทุกคน ต่างรุ้เรื่องราวระหว่างหวังหยางหมินและเจียงฮ่าว
“ฉันว่าโค๊ชหวังไปถามผอ.มาแล้ว แล้วเขาเห็นด้วยแหงๆ”
“แต่ฉันว่าผอ.ไม่น่าจะเห็นด้วยนะ ยังไงซะเจียงฮ่าวเองก็เป็นถึงอันดับหนึ่งในสี่โรงเรียนเลยนะ แล้วเขาจะยอมให้อัจฉริยะไปเป็นนักกีฬาได้ยังไง”
“…..”
ในตอนนี้เอง เมื่อหวังหยางหมินได้เห็นเจียงฮ่าวผู้ซึ่งกำลังนอนหลับอยุ่บนโต๊ะนั้น
หากว่า ผอ.กัวไม่ได้บอกเขามาแล้วว่าเจียงฮ่าวนั้นคืออัจฉริยะเหนือผู้คนที่ทำคะแนนได้การสอบร่วมได้ 747 คะแนนล่ะก็ เขาจะไม่มีทางเชื่อเลยจริงๆว่าเด็กอย่างนี้จะทำคะแนนได้มากมายขนาดนั้น
และเป็นอีกครั้งที่เจียงฮ่าวได้ถูกเคาะโต๊ะอีกครั้ง เจียงฮ่าวเองไม่รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับโลกภายนอก เขาจึงได้ออกจากห้วงจิตสำนึกของตนออกมา
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นว่าเป็นหวังหยางหมิน เขาได้ยิ้มออกมาในทันทีและถามออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
“โอ้ โค๊ชหวังเองเหรอครับ ฮ้าวววว ผอ.ว่ายังไงบ้างครับเนี่ย”
หวังหยางหมิงที่ดูเจียงฮ่าวผู้ซึ่งผลักภาระที่เขาไม่อาจแก้ได้ไปให้ผอ.ตัดสินใจนั้น ทำให้ในที่สุดเขาก็เข้าใจได้ในทันที
“เธอนี่น้า…ฉลาดสมกับอันดับหนึ่งจริงๆ”
และนี่ยิ่งทำให้เขานั้นประทับใจในตัวเจียงฮ่าวมากเข้าไปอีก
“ผอ.ไม่เห็นด้วยน่ะ”
หลังจากหวังหยางหมินพูดจบ นักเรียนที่ได้ยินต่างก็เริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง
“ฉันบอกแล้วว่าผอ.ไม่ยอมหรอก”
เจียงฮ่าวเองก็ไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใดเมื่อได้ยิน เพราะว่านี่เองก็อยู่ในคาดการณ์ของเขาไว้แล้วเช่นเดียวกัน
และตอนนี้เป็นเจียงฮ่าวได้พูดกับหวังหยางหมิงด้วยรอยยิ้มสำนึกผิดออกมา
“ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอโทษด้วยครับ โค๊ชหวัง”
หวังหยางหมิงเองเมื่อได้เห็นการโค้งขอโทษอย่างจริงใจของเจียงฮ่าว เขาก็ได้พยักหน้ารับไว้
“ไม่เป็นไร แต่ถ้าเธอคิดเปลี่ยนใจขึ้นมาก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อเลยก็แล้วกัน”
หลังจากพูดจบ ภายใต้สายตาที่ราวกับคิดอะไรบางอย่างของเจียงฮ่าวนั้น หวังหยางหมินได้หันหลังกลับด้วยสีหน้าผิดหวังและเตรียมที่จะจากไป
แต่หลังจากก้าวออกไปได้สองก้าว ราวกับเขาจะนึกอะไรได้จึงได้หันกลับไปหาเจียงฮ่าวอีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่ราวกับครุ่นคิดบางสิ่งที่หาคำตอบไม่ได้อยู่ในหัว
“เอ้อ เจียงฮ่าว ขออาจารย์ถามอะไรหน่อย”
เจียงฮ่าวเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่จะตอบกลับไป
“ได้ครับ ถามได้เลย”
หวังหยางหมิงเองก็มีท่าทีอึกอักเล็กน้อยจึงได้ถามออกมา
“อาจารย์เองก็เห็นเธอเอาแต่หลับมาตลอด แล้วทำไมเธอถึงได้หัวดีนักล่ะ”
หวังหยางหมิงได้ถามในสิ่งที่แม้แต่นักเรียนคนอื่นเองก็อยากรู้
และในตอนนี้เอง นักเรียนทุกคนได้หันไปหาเจียงฮ่าวราวกับต้องการคาดคั้นคำตอบให้จงได้
เมื่อเจีงฮ่าวได้ยินดังนั้น ร่างกายของเขาก็ได้แข็งค้างไป แต่นี่ก็ใช่ว่าเขานั้นจะไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์ผู้นี้ถึงได้ถามออกมา
นี่คงเป็นเพราะว่าโค๊ชหวังน่าจะรู้แล้วว่าเขาคือสุดยอดแห่งสี่โรงเรียน
แต่เขาควรจะตอบยังไงดี
หรือจะบอกว่าเรียนเองเข้าใจกว่า
แต่บอกไปใครจะเชื่อคำตอบแบบนั้น
“โค๊ชหวังคับ คนที่เป็นอัจฉริยะนั้นคือคนที่คนทั่วไปไม่อาจเข้าใจได้ไม่ใช่หรือครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ร่องรอยความสงสัยต่างๆที่อยู่บนใบหน้าของหวังหยางหมิงได้หายไปในทันที พร้อมกับดวงตาที่ฉายออกมาด้วยความประหลาดใจอย่างเต็มเปี่ยม
เมื่อได้เห็นท่าทางอันองอาจของเจียงฮ่าวแล้ว เขาได้พยักหน้าอย่างยอมรับ เขาจึงได้หันหลังและเดินจากไปด้วยสายตาที่เปล่งประกาย