ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 542 อัญเชิญเจ้าหญิงลงจากราชรถ

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 542 อัญเชิญเจ้าหญิงลงจากราชรถ

ตอนที่ 542 อัญเชิญเจ้าหญิงลงจากราชรถ

สองวันต่อมา เซี่ยอวี่และเจียงอวี่เฟยกลับมาจากเชินเฉิง เซี่ยไห่และหลินเซี่ยจึงขับรถไปที่สถานีรถไฟเพื่อรอรับพวกหล่อนกลับบ้าน

เซี่ยไห่จอดรถริมถนนด้านนอกสถานีรถไฟ หลินเซี่ยลงจากรถ หลังจากที่เซี่ยไห่ล็อกประตูแล้ว ทั้งสองก็กำลังจะเดินเข้าไปในสถานีรถไฟ ทันใดนั้นรถคันโก้สีขาวก็ขับมาจอดเทียบต่อท้ายรถของเซี่ยไห่

บางทีทักษะของคนขับอาจจะยังไม่เสถียรมากพอ ขณะที่รถกำลังจะจอด เขาก็กะน้ำหนักเบรกไม่ได้ เกือบจะชนท้ายรถของเซี่ยไห่อยู่รอมร่อ

เซี่ยไห่เห็นฉากดังกล่าว จึงทำท่าจะเข้าไปคุยกับคนขับรถคันสีขาวหน่อย

จอดชิดขนาดนี้ได้อย่างไร โชคดีที่เขายังไม่ทันเดินไปไหนไกล ถ้ารถโดนชนท้ายขึ้นมาจะไปหาตัวคนผิดจากไหน?

“เซี่ยเซี่ย อย่าเพิ่งไป ขอเวลาฉันไปคุยกับไอ้มือใหม่หัดขับคนนี้หน่อย”

เซี่ยไห่ทำท่าเหมือนกำลังจะไปหาเรื่องใครสักคน จนหลินเซี่ยต้องพยายามรั้งแขนเขาไว้ แต่เซี่ยไห่ก็เดินจ้ำอ้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังจะเคาะกระจกรถ ประตูก็เปิดออกเสียก่อน พร้อมกับคนที่อยู่ข้างในก้าวขาออกมา

หลินเซี่ยซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าคนที่เพิ่งลงจากรถเป็นใคร

เซี่ยไห่ก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน

“ทำไมถึงเป็นนายไปได้?” เขามองดูชายคนหนึ่งที่ก้าวลงจากรถแล้วถามด้วยความประหลาดใจ

“ขอโทษจริง ๆ ครับ ผมเป็นมือใหม่บนท้องถนน ควบคุมรถและกะระยะได้ไม่ดีเท่าที่ควร เก็บจะเสยท้ายรถคุณเข้าซะแล้ว”

ชายคนนั้นยืนอยู่ข้างรถสีขาว ถือกุญแจรถไว้ในมือ อธิบายให้พวกเขาทั้งสองที่กำลังทำหน้าตาตะลึงเพริดด้วยสีหน้าอ่อนโยนและมีรอยยิ้ม

หลินเซี่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ถามเขาว่า “หมอเย่ นี่รถของคุณหรอกเหรอคะ?”

เย่ไป๋พยักหน้า “ใช่ ผมเพิ่งไปรับรถเมื่อวานนี้เอง”

“พระเจ้าช่วย หมอเย่ทำอะไรเกินคาดอีกแล้ว คุณปิดบังความร่ำรวยไว้จากพวกเราซะมิดเลย”

สถานะทางการเงินของเขาแข็งแกร่งน่าดู สามารถซื้อรถได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

กุญแจรถในมือเขาสะท้อนแสงวาววับ

เย่ไป๋ยิ้มด้วยอาการถ่อมตัว

เขาดูนาฬิกาแล้วพูดว่า “รถไฟน่าจะมาจอดเทียบชานชาลาในเร็ว ๆ นี้แล้ว พวกเราไปรอรับพวกหล่อนกันเถอะ”

เขาสวมเสื้อแจ็กเกตกันลม เดินอย่างกระตือรือร้นไปยังทางออกของสถานีเพื่อรอใครบางคน

เซี่ยไห่มองรถคันใหม่ของเย่ไป๋ จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปมองรถคันสีดำของตัวเองที่ไม่ได้ขัดสีฉวีวรรณมาเป็นเวลานาน แล้วพูดว่า “ฉันว่า เรากลับกันดีกว่า เดี๋ยวหน้าที่จะซ้อนกัน”

รถคันน้อยของเขาน่าจะเกินความจำเป็นไปแล้ว

หลินเซี่ยบอกว่า

“ซ้อนกันยังไงคะ ยังมีอวี่เฟยกับพี่ลินดาตั้งสองคน พี่ลินดาไม่ใช่คนที่คุณชอบหรอกเหรอ? จะได้ใช้โอกาสนี้ทำคะแนนเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับหล่อนไงล่ะ”

เซี่ยไห่กลอกตามองเธอ “พอเลย”

“เอาน่า พวกหล่อนน่าจะใกล้ออกมาจากสถานีแล้ว”

เซี่ยไห่และหลินเซี่ยพูดพึมพำกันสองคน ไม่ทันไรก็มีเสียงประกาศดังมาจากลำโพงของสถานี

เซี่ยอวี่สวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่และหน้ากาก ซึ่งสองอย่างนี้ช่วยอำพรางใบหน้าของหล่อนจนมิดชิด ถึงอย่างนั้นรูปร่างเพรียวระหงสง่างามของหล่อนก็ยังดึงดูดสายตาของผู้โดยสารจำนวนมากในสถานีให้มองตามจนเหลียวหลัง

เย่ไป๋เดินเข้าไปหาหล่อน รับกระเป๋าจากมือหล่อนไปถือไว้เองอย่างเป็นธรรมชาติ “ลำบากคุณแล้วสินะครับ”

เซี่ยอวี่เห็นแฟนหนุ่มมารอรับถึงที่ด้วยตัวเอง จึงถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “มาได้ยังไง? ไม่ต้องไปเข้างานเหรอ?”

“วันนี้ผมเข้าเวรกะดึก”

เย่ไป๋จับมือของหล่อนโดยตรง จากนั้นก็เบียดตัวออกมาจากฝูงชนที่คลาคล่ำ

ความสนใจของหลินเซี่ยจึงอยู่ที่เจียงอวี่เฟยทั้งหมด เมื่อเห็นเพื่อนสาวเดินออกมา เธอก็โบกมือให้อีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น “อวี่เฟย”

เมื่อเจียงอวี่เฟยเห็นหลินเซี่ยมารับ หล่อนก็โบกมือตอบกลับอย่างมีความสุข

“เซี่ยเซี่ย พวกเรากลับมาแล้ว”

หล่อนเบียดขึ้นหน้ามาหาหลินเซี่ย พูดด้วยเสียงร่าเริงว่า “ฉันมีของขวัญมาฝากเธอด้วยนะ”

“ฉันถ่ายรูปมาเยอะเลยล่ะ เมืองเชินเฉิงพัฒนาก้าวหน้าไปไกลกว่าที่นี่มาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกแทบทุกอย่าง ชาวต่างชาติก็เยอะด้วย”

สองสาวไม่ได้เจอหน้ากันนาน จึงเริ่มพูดคุยและจับมือกันกระหนุงกระหนิงอยู่หน้าสถานี

เนื่องจากฝูงชนหนาแน่น เซี่ยไห่จึงดึงแขนหลินเซี่ยและพูดว่า “อย่าเพิ่งคุยกันตรงนี้ เดี๋ยวก็โดนคนเบียดล้มหรอก ไปเถอะ ไว้ค่อยคุยกันระหว่างขากลับ”

เย่ไป๋รับกระเป๋าเซี่ยอวี่ไปถือเองแล้ว หลินเซี่ยก็กำลังคุยกับเจียงอวี่เฟย เซี่ยไห่เหลือบไปเห็นลินดาถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เขาจึงเดินไปหาแล้วยื่นมือออกมา “ผมช่วยถือ”

“ไม่เป็นไร”

เซี่ยไห่ไม่พูดอะไร หยิบกระเป๋าเดินทางจากมือของหล่อนอย่างเมินเฉยและเดินนำไปข้างหน้าก่อนใครเพื่อน

ขณะที่ยื้อกระเป๋าเดินทาง มือของทั้งสองบังเอิญสัมผัสกันผ่าน ๆ ทำให้หล่อนเงยหน้ามองร่างสูงและทรงพลังของเขา จากนั้นลดสายตาลงมองที่มือของตัวเอง ความรู้สึกแปลก ๆ บางอย่างแวบขึ้นมาในดวงตาของหล่อน

เมื่อพวกเขาไปถึงที่จอดรถ เซี่ยอวี่ก็กำลังจะเดินไปที่รถของเซี่ยไห่ แต่เย่ไป๋ดึงหล่อนให้เดินไปที่รถคันสีขาวซึ่งจอดต่อท้ายได้ทันเวลา

เซี่ยอวี่มองไปที่รถคันใหม่ตรงหน้า ถามอย่างประหลาดใจ “นี่รถที่คุณนั่งมาเหรอ?”

เย่ไป๋เปิดประตูฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับให้หล่อน ตอนแรกเซี่ยอวี่คิดว่ารถคันนี้อาจจะเป็นรถส่วนตัวที่เย่ไป๋เรียกมาเพื่อมารอรับหล่อนโดยเฉพาะ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีใครประจำตำแหน่งคนขับ หล่อนก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่จะนั่งข้างหน้า

เมื่อหล่อนกำลังจะขอนั่งด้านหลัง เย่ไป๋ก็พูดขึ้นมา “ผมขับเอง”

“เถ้าแก่เซี่ย เซี่ยเซี่ย พวกคุณค่อยขับตามมาแล้วกันนะ”

หลังจากที่เย่ไป๋พูดจบ เขาก็ปิดประตูผู้โดยสารทันที เดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับแล้วสตาร์ทรถ

เซี่ยอวี่ถอดหน้ากากออกด้วยความประหลาดใจ “อย่าบอกนะว่าคุณซื้อรถแล้ว?”

“ใช่ ผมซื้อรถคันใหม่” เย่ไป๋เหลือบมองแล้วพูดว่า “ผมยอมให้คุณนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก ช่วงนี้อากาศเริ่มหนาว กลัวคุณจะเป็นหวัดเอา”

เมื่อเซี่ยอวี่ได้ยินว่าเขาซื้อรถเพื่อให้หล่อนนั่งอย่างสบายจริง ๆ หล่อนก็ประทับใจมาก โน้มตัวไปหอมแก้มเขา “คุณนี่มันแสนดีที่สุดในโลกเลย”

“รัดเข็มขัดด้วยนะ ปลอดภัยไว้ก่อน”

จูบครั้งนี้ทำเอามือไม้ของเขาสั่นไปหมด

เซี่ยอวี่นั่งลงตามเดิม เอนหลังลงบนเบาะเพื่อผ่อนคลาย เย่ไป๋ถามด้วยความเป็นห่วงว่า “งานเป็นไปด้วยดีหรือเปล่า? เหนื่อยมากไหม?

“ราบรื่นดีค่ะ”

ในรถคันหลัง หลินเซี่ยและเจียงอวี่เฟยนั่งอยู่ด้วยกันที่เบาะหลัง ปล่อยให้ลินดาไปนั่งข้างหน้าแทน จากนั้นเด็กสาวทั้งสองก็เปิดโหมดพูดคุยกันอีกครั้ง

“เซี่ยเซี่ย เธอรู้อะไรไหม ฉันกังวลมากตอนที่ไปถึงที่นั่นเป็นครั้งแรก ตอนพิธีกรสัมภาษณ์ ฉันนี่ตอบคำถามเสียงสั่นไปหมด”

หลินเซี่ยยิ้มและพูดว่า “เก็บไว้เป็นประสบการณ์ไง”

ลินดานั่งข้างเซี่ยไห่ เหลือบมองเขาจากด้านข้าง เห็นว่าเขาสวมแว่นกันแดดทรงนักบิน เสยผมไปด้านหลัง กรอบหน้าและสันกรามเฉียบคมได้มุมตกกระทบอันหล่อเหลา สมกับความเป็นผู้ใหญ่

เมื่อนึกถึงมือที่ถูกเขาสัมผัสเมื่อกี้นี้ หล่อนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกฟุ้งซ่านเล็กน้อย

เซี่ยไห่สังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างกำลังแอบมองเขาเงียบ ๆ หัวใจของชายวัยกลางคนอย่างเขาก็พลันสั่นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้

เขาระงับอารมณ์หวั่นไหว ยืดหลังนั่งตัวตรง มองไปข้างหน้า แสร้งทำเป็นมุ่งความสนใจไปที่การขับรถ

ให้ตายเถอะ หรือเป็นเพราะเราไม่ได้พบเจอผู้หญิงมานานเกินไป?

สายตาของผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาเกิดอาการใจสั่นลามไปทั้งตัว

รถขับไปจอดที่หน้าประตูบ้านตระกูลเซี่ย รถยนต์ทั้งสองคันจอดเคียงข้างกัน

เย่ไป๋ก้าวลงจากรถ เดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ วางมือข้างหนึ่งเท้าหลังคารถไว้ ราวกับจะอัญเชิญเจ้าหญิงลงจากราชรถ

ในขณะที่เซี่ยไห่ก้าวลงจากรถอย่างเร่งรีบ เดินไปที่ท้ายรถแล้วก้ม ๆ เงย ๆ ขนกระเป๋าเดินทางออกมา

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

หมอเย่ไม่เบาเลยค่ะ ผช.ธงเขียวแบบเขียวตะโกน พ่อเตาผิง พ่อเตาไมโครเวฟ พ่อดวงอาทิตย์

เซี่ยไห่น่าจะมีลุ้นเรื่องสาวแล้วไหมนะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท