เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย – บทที่ 562 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

บทที่ 562 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

หม่าเหวินปินหลังจากได้รับข่าวใหญ่ที่น่าตกใจนี้ ก็ไม่สามารถนั่งนิ่งอยู่เฉย ๆ ได้อีกแล้ว เขาต้องรีบหาวิธีส่งข่าวนี้ให้กับเนี่ยเทียนโฉว

เพราะเมืองอู่โจวกับเมืองเซียงโจวอยู่ขนาบข้างเนี่ยเทียนโฉว หากทั้งด้านนอกด้านในถูกตีพร้อมกัน ซู่โจวก็จะกลายเป็นเมืองที่ต้องจบเห่รายต่อไป

เขาจึงรีบหาข้ออ้าง “ท่านเจ้าเมือง เช่นนั้นท่านกินข้าวก่อนเถอะขอรับ ครั้งหน้าข้าจะเอาของอร่อยมาให้ท่าน”

ในใจของซือถูรุ่ยเกิดความอาฆาตขึ้นมา เขาคิดว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่น ไหนเลยจะปล่อยให้เจ้าสุนัขอย่างหม่าเหวินปินมาดูถูกได้!

หม่าเหวินปินไม่สนใจเรื่องอื่นอีกแล้ว เขารีบหามุมที่ลับตาคน เพื่อส่งข่าวให้กับเนี่ยเทียนโฉว

ผ่านไปสักพัก จู่ ๆ ซือถูรุ่ยก็เอ่ยขึ้นมา “ผู้ใด?”

ดวงตาของเขาแม้จะมองไม่เห็นแล้ว แต่จมูกยังสามารถได้กลิ่นอยู่

ผู้หญิงหรือ?

“เจ้าเป็นใคร อาเซิง ใช่เจ้าหรือไม่อาเซิง!”

ซือถูรุ่ยใช้มือคลำลูกกรง

จี้จือฮวนจึงหยิบเครื่องดักฟังที่วางอยู่ตรงมุมหนึ่งของกรงเขามาตลอดออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

หลังจากมิติมีการอัปเกรดขึ้น นางก็เพิ่งจะเห็นว่ามีของสิ่งนี้อยู่เมื่อไม่นานมานี้

ในเวลานี้ไม่มีใครสามารถมาแอบฟังเขาได้ ดังนั้นนางจึงวางสิ่งนี้ไว้ที่กรงของซือถูรุ่ย

คิดไม่ถึงว่าจะได้ใช้งานจริง ๆ

จี้จือฮวนเพิ่งจะขยับ ซือถูรุ่ยก็ถามขึ้นอีกครั้ง “อาเซิง เป็นเจ้าใช่หรือไม่ เจ้าก็คิดถึงข้าใช่หรือไม่ อาเซิง พี่ชายจะไม่โทษเจ้า เจ้ามานี่มา เจ้ามานี่สิ”

จี้จือฮวนมองมือที่กำลังปัดป่ายไปมาของเขา เหมือนพยายามไขว่คว้าอะไรบางอย่าง ก็รู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมา

จึงใช้เท้าเหยียบลงไปอย่างแรง ซือถูรุ่ยส่งเสียงร้องครวญครางออกมาทันที “โอ๊ย ๆ ๆ ๆ!”

จี้จือฮวนเหยียบจนพอใจแล้วจึงได้ยกเท้าออก ก่อนจะพูดด้วยความรังเกียจขึ้นมา “ดูเหมือนว่าเจ้าถูกขังอยู่ที่นี่ก็ยังไม่สำนึกสินะ ยังมีเวลาว่างคิดถึงผู้หญิงอีก”

ซือถูรุ่ยชะงักไป “เป็นเจ้าหรือ จี้จือฮวน”

ชีวิตนี้ซือถูรุ่ยกลับต้องพ่ายแพ้ให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ยามใดก็ตามที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ ก็จะโกรธแค้นตัวเองที่ประมาทศัตรูเกินไป

จี้จือฮวนหมุนเครื่องดักฟังในมือเล่น จากนั้นก็หมุนกายจากไป ซือถูรุ่ยยังคงถามต่ออีก “เจ้ามาทำอะไร!?”

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครตอบเขาอีกแล้ว

จี้จือฮวนเดินไปที่มุมห้องแล้วฟังเสียงที่อัดได้จากเครื่องดักฟังหนึ่งรอบ

คิดไม่ถึงว่าความบ้าของซือถูรุ่ย จะถึงขั้นที่แม้แต่นางเองก็คาดเดาไม่ได้

จี้จือฮวนไม่ได้ไปไหนไกล หลังจากฟังจบนางก็เอาเครื่องดักฟังไปวางไว้ที่เดิมอีกครั้ง แล้วทิ้งให้ซือถูรุ่ยคุยกับตัวเองอยู่ข้างหลัง

ภายในกระโจม เผยยวนพาเซียวอวิ่นไปดูแผนผังทรายจำลองที่เจิ้งต้าเฉียงทำ

แผนผังทรายจำลองนั้นเหมือนของจริงอย่างมาก แม้แต่จีฝูเย่ก็เอ่ยชมไม่ขาดปาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเซียวอวิ่นเลย

“ในค่ายทหารของเจ้ามีคนที่มีความสามารถไม่น้อยเลย!”

แม้ว่าเจิ้งต้าเฉียงจะเคยเจอคนใหญ่คนโตมาแล้ว แต่เมื่อได้ยินสิ่งนี้เขาก็อดเกาหัวด้วยความขัดเขินไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าความสามารถเพียงเล็กน้อยของตัวเอง จะสามารถช่วยกองทัพทหารเกราะเหล็กได้ ดังนั้นจึงพูดไม่ออกว่าภูมิใจเพียงใด

“เมืองซู่โจวเป็นดินแดนของเนี่ยเทียนโฉว เจ้าวางแผนจะตีอย่างไร?” เซียวอวิ่นเอ่ยถาม

เหล่ารองแม่ทัพก็มองไปทางเผยยวนเช่นกัน

เผยยวนจึงเอ่ยขึ้น “ข้าไม่ต้องการเป็นฝ่ายเข้าโจมตี”

“จะทำลายศัตรูทีละเมืองอย่างนั้นหรือ?”

“จัดการทีละเมือง แต่…คราวนี้ข้าวางแผนที่จะตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

เผยยวนดึงธงทหารจากแผนผังทรายจำลองขึ้นมา ก่อนปักลงไปบนป้อมปราการหลายแห่ง

“สถานที่เหล่านี้เป็นเส้นทางที่คาราวานพ่อค้าจากต้าจิ้นต้องผ่าน หลายปีที่ผ่านมาเจ้าเมืองของหลงซีทั้งแปดเมืองได้ให้คนมาคอยดักปล้นอยู่ที่นี่

ตอนนี้พวกเรายึดเมืองเพี่ยวโจวและเมืองโยวอวิ๋นคืนมาได้แล้ว คนของหกเมืองที่เหลือจึงได้ตระหนักว่า หากพวกเขายังไม่ร่วมมือกันอีก เช่นนั้นไม่นานก็จะถูกบุกจนไม่มีทางถอย”

เผยยวนเปิดประตูเมืองโยวอวิ๋นและชี้ถนนเจ็ดแปดสายทั้งเล็กและใหญ่ที่ทอดตรงไปทางด้านหลัง

“ป้อมปราการทหารนั้นป้องกันง่ายแต่โจมตียาก หากพวกเราไม่โจมตี แต่เลือกดักปล้นแทนเล่า?”

เซียวอวิ่นเข้าใจความหมายของเผยยวนได้ในทันที “ความหมายของเจ้าก็คือพวกเราจะแบ่งทัพใหญ่ออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แยกกันเคลื่อนไหว ใช้ฐานที่มั่นแห่งเดียวเป็นจุดศูนย์กลางแล้วก่อกวนพวกมัน!”

นี่เป็นสิ่งที่เขาเรียนรู้มาจากชนเผ่าเร่ร่อน แม้จะดูไม่เป็นอันตรายมากนัก และไม่สามารถทำลายรากฐานได้ แต่ในระยะยาวการโจมตีจากวงเล็ก ๆ ก็สามารถขยายให้ใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะก่อกวนกองทัพของพวกเขา

ค่อย ๆ บั่นทอนกำลังของพวกเขาลงทีละน้อย ขังพวกเขาให้อดตายอยู่ในเมือง ไม่มีอาหาร ที่นานอกเมืองพวกเขาก็เก็บเกี่ยวไม่ได้ ราษฎรก็จะก่อความวุ่นวาย ข่าวลือจะแพร่สะพัด เพื่อหาข้าวกินผู้คนในเมืองก็ต้องออกมา

ดังนั้นเผยยวนจึงตั้งใจจะรอจนกว่าพวกเขาจะทนไม่ไหวแล้วมุดหัวออกมาเอง นั่นจึงจะเป็นช่วงเวลาที่สามารถจับพวกเขาในคราเดียวได้

“แต่พวกเราจะหาเส้นทางลำเลียงเสบียงของพวกเขาเจอได้อย่างไรขอรับ?” มีรองแม่ทัพเอ่ยถามด้วยความสงสัย

เพราะเรื่องนี้แม้แต่ผู้นำในกองทัพ ก็อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ

อีกทั้งเส้นทางเหล่านี้ยังอยู่ในการดูแลของคนหลายคนอีกด้วย

เผยยวนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหยิบแผนที่ออกมา เจิ้งต้าเฉียงยังกล่าวอีกว่า “ข้าได้จำลองเส้นทางเหล่านั้นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และได้ทำเครื่องหมายโดยใช้ธงเล็ก ๆ ปักเอาไว้ พวกเขาใช้ทางบกเป็นส่วนมาก บางครั้งก็ใช้ทางน้ำเพื่อมารับเสบียงที่เขตแดนที่อยู่ติดกัน”

เซียวอวิ่นตื่นตระหนกอย่างมาก “เจ้าเอามาจากที่ใดกัน?”

เผยยวนรู้สึกเขินอายที่จะบอกเขาไปว่า ได้มาจากการเล่นโป๊กเกอร์ชนะ

แต่ก็ยังอธิบายให้เขาฟังสั้น ๆ เซียวอวิ่นรู้สึกตกตะลึง “ดูเหมือนว่าการพนันก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้าง”

หากไม่ใช่เพราะฮั่วชิงหยางผู้นั้นเป็นนักพนันตัวยง ไหนเลยจะได้มาอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้!

“ส่วนจะมีเส้นทางลำเลียงเสบียงทั้งหมดกี่เส้น คงต้องรบกวนกองทัพเจิ้นเป่ยของพี่เซียวแล้ว”

กองทัพเจิ้นเป่ยอยู่ทางเหนือสุด ที่นั่นมีอากาศหนาวจัด เมื่อถึงฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็นจนทำให้ใจของผู้คนสั่นไหว ดังนั้นการฝึกหรือการต่อสู้ของเหล่าทหารจึงมีการเรียนรู้ทักษะการเดินบนน้ำแข็งมาจากชาวเป่ยหรง ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น เอาแค่ทักษะการเดินบนน้ำแข็ง ทั้งต้าจิ้นก็ไม่มีใครจะเก่งกว่ากองทัพเจิ้นเป่ยอีกแล้ว!

พวกเขาไม่เพียงสามารถขนส่งอาหารบนธารน้ำแข็งได้เท่านั้น แต่ยังสามารถต่อสู้ได้อย่างปราดเปรียวดั่งใจอีกด้วย เมื่อมีกองทัพเจิ้นเป่ยเข้าร่วมด้วย ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเส้นทางน้ำแข็งเหล่านั้นแล้ว

ทางด้านจี้จือฮวน นางไม่ได้กลับไปหาเผยยวนในทันที แต่กลับไปที่สนามฝึกเพื่อหาชายหนุ่มสองสามคนที่เก่งเรื่องขี่ม้าและยิงธนู

และมอบหมายภารกิจบางอย่างให้พวกเขาไปทำ

นั่นก็คือ นางเอาตะกร้าที่เต็มไปด้วยผลสลอดให้พวกเขาไป ทั้งหมดล้วนเก็บมาสด ๆ จากในมิติ รับรองว่ากินเข้าไปต้องสับสนอลหม่านอย่างแน่นอน!

“พวกเจ้าเป็นมือดีที่กองทัพเลือกมา บัดนี้มีคนคิดร้ายกับพวกเรา แค้นนี้พวกเราจะปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด” จี้จือฮวนชี้ไปที่ตะกร้าใส่สลอดนั่นแล้วเอ่ยขึ้นมา “อีกเดี๋ยวข้าจะให้คนเอาสลอดเหล่านี้ไปต้มและเคี่ยวเป็นน้ำออกมา จากนั้นก็จะเตรียมถังเก็บน้ำให้พวกเจ้า หลังจากไปถึงแล้วก็ให้เอารดรอบ ๆ ทุ่งหญ้าของพวกเขา”

เหล่าทหารเข้าใจแล้ว ผงสลอดนั่นต้องให้คนเข้าไปถึงจะวางยาได้ แต่น้ำสลอดเพียงแค่อาศัยตอนกลางคืนยามที่คนหลับกันหมดแล้ว รดหญ้าตรงที่ม้าศึกกิน เมื่อพวกมันถูกปล่อยออกมาเดินเล่นเช่นทุกวัน ก็จะสามารถทำให้พวกมันท้องเสียได้โดยไม่มีใครรู้แล้ว และศัตรูก็จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก

คิดจะลอบทำร้ายกองทัพทหารเกราะเหล็กของพวกเขาอย่างนั้นหรือ ฝันไปเถอะ!

ส่วนหม่าเหวินปินที่เป็นคนส่งข่าวปลอม ย่อมมีคนมาจัดการเขาเอง

และเมื่อกองทัพซู่โจวรู้ว่าหม่าเหวินปินไม่เพียงวางผงสลอดให้ม้าศึกของพวกเขาไม่สำเร็จ แต่กลับทำให้ม้าศึกของตัวเองท้องเสียจนไร้เรี่ยวแรง เกรงว่าหม่าเหวินปินคงได้แต่กอดความฝันที่จะหนีออกไป แล้วตายอยู่ในคอกม้าแล้ว

ละครที่สุนัขกัดกันเช่นนี้ จี้จือฮวนชอบดูที่สุด

เมื่อเหล่าทหารยกสลอดไปต้มแล้ว จี้จือฮวนจึงได้ลูบท้องของตัวเอง นางหวังว่าเมื่อถึงเวลาคลอดจะสามารถกลับไปคลอดที่หมู่บ้านตระกูลเฉินได้ และนางก็คิดถึงคนที่บ้านแล้ว

ดังนั้นนางจึงไม่อยากให้เวลายืดเยื้อออกไปอีกแล้ว

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

Status: Ongoing
หน่วยสืบราชการลับ—จี้จือฮวนเกิดใหม่เป็นตัวประกอบในนิยายที่ได้แต่งกับเทพสงครามเป็นแม่เลี้ยงของ 3 วายร้ายแต่กลับต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ในเมื่อปฏิเสธชะตาไม่ได้ขอแค่ไม่ตายก็จะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!จี้จือฮวน–หน่วยสืบสวนราชการลับระดับ S ในโลกล้ำยุค จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกอบหญิงในนิยายที่เคยอ่าน(แต่ไม่จบ) ซึ่งตายตั้งแต่ยังไม่พ้นสามบทแรก! เธอคนนี้แต่งงานกับเผยยวนได้รับสมญานาม ‘เทพสงครามแห่งความตาย’ และเป็นแม่เลี้ยงของเด็กแสบสามคนจี้จือฮวนปฏิเสธชะตากรรมนองเลือด ขอแค่มีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่ต่อไปก็พอแต่เรื่องกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะตัวประกอบที่เธอกำลังเป็นอยู่ดันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกเลี้ยงทั้งสามกลายเป็นตัวมากเล่ห์ จอมมารร้าย ซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดจบอันเศร้าสลดเมื่อทั้งสามโตขึ้น…นั่นก็คือความตายอย่างน่าอนาถในเมื่อเลือกไม่ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เธอจะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!.โชคดีสวรรค์ยังมีตา เธอมีทักษะทุกอย่าง ทั้งงานฝีมือ ทักษะการเพาะปลูกและทำนาที่สามารถหาเงินเพื่อใช้เลี้ยงครอบครัวได้ ยิ่งกว่านั้น เธอมีของดีที่สุด คือมิติพิเศษที่ช่วยให่เธอหยิบยืมอะไรก็ได้จากโลกอนาคตติดตัวมาด้วย!.เอาล่ะ! ในฐานะอดีตสายลับระดับสุดยอด ใครหน้าไหนก็หยามกันไม่ได้! ต่อให้เป็นสวรรค์ก็เถอะ หากคิดจะฆ่าเธอทิ้ง เธอจะชิงสังหารสวรรค์ก่อน!..ต่อมาลูกชายคนโตที่ตั้งแต่เด็กสุดแสนจะเงียบขรึมกลับได้ขึ้นเป็นกษัตริย์! นักรบจอมพลังซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองก็กลายเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในใต้หล้า แม้แต่ลูกชายคนเล็กก็กลายเป็นแพทย์หนุ่มผู้เชี่ยวชาญสารพัดพิษ ร่างกายของเขาทนทานต่อพิษทั้งปวงอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้..จี้จือฮวนรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ในฐานะสาวงามที่ถูกราชสำนักและประชาชนผลักไสอย่างไร้ความปรานี เธอจึงจำต้องทำให้ตัวเองเป็นสตรีที่น่าเกรงขาม เป็นที่หวาดกลัวต่อราชสำนักและประชาชนเมื่อทุกคนนึกถึง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท