ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 792 เจ้านี่มันไม่ได้เรื่อง

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 792 เจ้านี่มันไม่ได้เรื่อง

คนที่คุณเพิ่งดูถูกเหยียดหยามเมื่อครู่ คนที่คุณยังต่อว่าเย้ยหยันก่อนหน้านี้ คนที่คุณเอาแต่ด้อยค่าขับไล่ไสส่งไม่หยุด พลันเอาทักษะอันยอดเยี่ยมของคุณออกมาใช้อย่างกะทันหัน ความรู้สึกนี้เป็นอย่างไรบ้างล่ะ

ตอนนี้ใบหน้าครึ่งหนึ่งรู้สึกโมโหแทบตาย ความบ้าคลั่งที่คุ้นเคย การไหลเวียนพลังปราณพิฆาตของผีดิบที่คุ้นเคย ลักษณะพิเศษเฉพาะตัวที่คุ้นเคย ทั้งหมดนี้ถอดแบบมาจากตัวเขาเองในตอนแรกชัดๆ!

แต่น่าเสียดายที่เขาในตอนนี้เหลือเพียงครึ่งหน้า หากร่างของเขายังอยู่ละก็ เช่นนั้นชั่วขณะนี้เขาก็คล้ายกับคนที่โดนเหยียบ ‘ไข่’ รสชาตินั้น ความซาบซ่านนั้น แรงโจมตีนั้น โคตรจะถึงใจเลย!

“ไอ้หน้าด้าน! ไอ้ชั่ว! ไอ้สารเลว! ไอ้หมาหัวเน่า! ไอ้ต่ำต้อย! ไอ้โสมม!”

ใบหน้าครึ่งหนึ่งแหกปากด่ากราดด้วยความเดือดดาลจนหอบไม่หยุด เขาโดนฝังกลบอยู่ที่นี่ ณ ตอนนี้เวลานี้ นอกเหนือจะการสบถก่นด่าเหมือนคนปากร้ายแล้ว เขาก็ทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้เลย ทั้งจนตรอกและอ้างว้าง

เถ้าแก่โจวเมินเสียงพล่ามของ ‘เจ้าของเดิม’ คนนั้นที่อยู่ข้างๆ

ขโมยวิชาครูเหรอ

เถ้าแก่โจวไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไรด้วยซ้ำ

นี่มันก็คล้ายกับพวกคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านสุนัขที่ชอบนั่งอยู่ใต้ต้นไทรตรงทางเข้าหมู่บ้านยามดึก ขณะที่พวกเขาคร่ำครวญว่าในสมัยนั้นสุนัขที่เก่งกาจที่สุดตัวนั้นย่างกรายออกไปจากหมู่บ้านด้วยท่วงท่าที่สง่างามเหลือคณาอย่างไรกันแน่ สุนัขเลี้ยงวัวตัวหนึ่งในหมู่บ้านกลับเก็บหนังสือล้ำค่าที่สุนัขเก่งกาจตัวนั้นทิ้งเอาไว้ได้

คมมีดสีแดงฉานที่พันธนาการตัวเขาไว้แต่เดิม เวลานี้หายวับไปโดยสมบูรณ์ ปราณพิฆาตในร่างของโจวเจ๋อก็เดือดพล่านราวกับน้ำเดือด แผ่กระจายคลื่นความร้อนออกมามากพอที่จะละลายตัวเองและคนรอบข้างในเวลาเดียวกัน!

ความตกตะลึงบนใบหน้าของทนายอันค่อยๆ จางหายไป

บางที ในมุมมองของเขานั้น ตราบใดที่คนผู้นั้นไม่เคลื่อนไหว เช่นนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดำเนินต่อไปในทิศทางที่กำหนดไว้แต่เดิม

เพียงแต่เจ้าเด็กน้อยตรงหน้าคนนี้ออกจะน่ารำคาญไปหน่อย ทั้งๆ ที่เป็นเกมระหว่างผู้ใหญ่แท้ๆ และเห็นได้ชัดว่าเป็นการตอบสนองร่วมกันในอีกระดับหนึ่ง เขาก็ยังไม่ยอมแพ้และดึงดันสร้างปัญหาอยู่ร่ำไป

เกียรติยศสูงสุดกำลังจะตกไปอยู่กับเขาแล้วแท้ๆ แต่ดันไม่รู้จักรักษามันไว้

“อ๊ากกกกกกก!!!!!!” อิงอิงที่คุกเข่าบนพื้นกรีดร้องคำรามเสียงต่ำ สองมือกำแน่น

ทนายอันเหลือบหางตามองไปด้านหลัง คาดไม่ถึงว่าผีดิบสาวตัวนี้ยังคงต้านไว้อยู่ ขณะที่ต้องเผชิญกับการบดขยี้จากพลังปราณของเขา นึกไม่ถึงว่ายังเกิดเจตจำนงในการต่อต้านขึ้นมาได้อีก

จงรู้ไว้ว่า หากมอบโอกาสประเภทนี้ให้กับผีดิบตัวอื่นแล้ว แม้ว่าในตอนท้ายจะหมายถึงการถูกทำลายล้างให้ดับสูญไป ก็ถือเป็นเกียรติสูงสุด!

เพียงแต่อิงอิงพิเศษกว่า ความคิดจิตใจของเธอทั้งหมดอยู่กับเถ้าแก่ แฝงไปด้วยความดื้อดึงที่มุมมองของคนธรรมดาไม่สามารถหยั่งถึงได้

ความดื้อดึงประเภทนี้ แม้ขณะที่เธอเผชิญหน้ากับอิ๋งโกวก็ไม่ไว้หน้าเช่นเดิม และด้วยเหตุนี้ เธอยังคงต่อต้าน เธอยังคงยืนหยัดอดทน แม้ว่าการต่อต้านและยืนหยัดในเวลานี้ ภายใต้สถานการณ์โดยรวมเช่นนี้ จะไม่เกิดผลและน่าสลดใจ แต่จะให้ยอมรับชะตากรรมไปทั้งแบบนี้จริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้!

ช่างน่าโมโหนัก!

อสังหาริมทรัพย์ของข้ายังไม่ได้ถ่ายโอนให้เถ้าแก่ทั้งหมดเลยนะ!

ทักษะการทำอาหารของข้ายังไม่เชี่ยวชาญ แถมยังไม่ได้ทำอาหารให้เถ้าแก่สักมื้อด้วยซ้ำ!

อยากจะให้ข้าไสหัวไปปล่อยที่ว่างไว้ให้เจ้าเช่นนี้

ไสหัวไป!

เจ้าปรนนิบันรับใช้เถ้าแก่ของข้าไม่ได้หรอก!

ครั้นปลดพันธนาการแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการกระโจนเข้าไป

โจวเจ๋ออ้อมทนายอันไปอยู่ข้างหน้าอิงอิงทันที แต่ทว่าทนายอันเพียงแค่ประสานมือทั้งคู่ทำท่ามุทรา พริบตาเดียว โซ่ตรวนสีดำสองเส้นก็ล็อกข้อเท้าของโจวเจ๋อไว้โดยตรง

“โฮก!” โจวเจ๋อส่งเสียงคำราม โน้มตัวคว้าโซ่แล้วหักมันทันที!

“ฝัง!” ทนายอันจ้องเขม็งและเปลี่ยนท่ามุทรา

ในวิสัยทัศน์ของโจวเจ๋อ ทั้งๆ ที่อิงอิงอยู่ห่างจากเขาแค่ไม่ถึงสามเมตร แต่ทันใดนั้นกลับดูเหมือนอยู่อีกฟากของแม่น้ำที่กั้นระหว่างโลกมนุษย์กับโลกหลังความตาย มีผีแค้นวิญญาณพยาบาทนับไม่ถ้วนกำลังคำรามและแผดเสียงร้องกึกก้องท่ามกลางแม่น้ำ

โจวเจ๋องอนิ้วกระซิบเสียงแผ่ว “กาแฟ!”

หมอกดำหนาแน่นห้าสายกวาดเข้าไปทันที บนแม่น้ำปรากฏสะพานที่ทำมาจากโซ่ตรวนสีดำเส้นหนึ่ง โจวเจ๋อปีนไต่มันขึ้นไป

ทนายอันส่ายหน้าเบาๆ ร่างหายวับไปจากจุดเดิม แล้วไปโผล่ด้านหน้าโจวเจ๋อ แสงแวววาวสีเขียวแกมน้ำเงินจางๆ เคลือบติดกับร่างกายของเขาชั้นหนึ่ง จากนั้นก็ปล่อยหมัดซัดลงมา!

เมื่อวิธีอื่นและการพันธนาการล้วนไม่อาจควบคุมโจวเจ๋อไว้ได้ มีเพียงการใช้ความรุนแรงอันเป็นสุนทรียศาสตร์ที่ดั้งเดิมที่สุดเท่านั้น

ใช่ สุนทรียศาสตร์

โจวเจ๋อสกัดหมัดของทนายอันไว้ได้ จากนั้นโจวเจ๋อแยกเขี้ยวกัดคอทนายอันทันที เพียงแต่เพราะมีชั้นสีเขียวแกมน้ำเงินแวววาวขวางกั้น เขี้ยวของโจวเจ๋อจึงไม่สามารถทะลุเข้าไปได้

ทนายอันตะแคงข้างแล้วหวดกำปั้นเข้าไปอย่างรุนแรง กระแทกเข้ากับหน้าอกของโจวเจ๋ออย่างจัง

‘พลั่ก!’

โจวเจ๋อไม่ถอย ฝืนรับหมัดนี้ ขณะเดียวกันสองมือก็กอดทนายอัน ยกขึ้นเหวี่ยงสะบัดแล้วทุ่มลงไปอย่างโหดเหี้ยม!

‘ตู้ม!’

ทั้งที่เสียงดังสนั่นขนาดนี้ แต่พื้นดินกลับไร้ความเสียหายเหมือนเดิม แม้แต่ทรงผมของทนายอันก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย ชั้นแวววาวสีเขียวแกมน้ำเงินนั้นเปรียบเสมือนเกราะป้องกันที่น่ากลัวและแข็งแกร่งที่สุดในโลก ขวางกั้นอันตรายทั้งหมดที่เกิดจากโลกภายนอกได้โดยตรง

นี่เป็นการต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรมเลย เถ้าแก่โจวดึงดันไม่ยอมถอย แต่ทนายอันกลับไม่บาดเจ็บและรักษาเลือดหยดแรกเอาไว้ได้มาตลอด

ขณะที่การต่อสู้อันดุเดือดดำเนินอยู่นั้น ทันใดนั้นฝ่ามือของทนายอันกระชากแสงและเงาสีเขียวออกมา ในแสงและเงาดูเหมือนจะมีงูเขียวตัวหนึ่งดิ้นรนและคำราม จากนั้นฉวยโอกาสฟาดลงบนไหล่ของโจวเจ๋อ ครู่หนึ่ง แขนขวาของโจวเจ๋อระเบิดออกเป็นรูเล็ก เงางูสีเขียวพุ่งเข้ามาและเริ่มกลืนกินพลังปราณพิฆาตในร่างของโจวเจ๋ออย่างดุเดือด

เถ้าแก่โจวไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ร่างของเขาล่าถอยเป็นครั้งแรก แต่ในวินาทีต่อมา กล้ามเนื้อแขนล็อกแน่น ห้านิ้วของมืออีกข้างคว้าไหล่ของตัวเองและตะโกนเสียงต่ำ “หนังสือพิมพ์!”

‘ตู้ม!’

โซ่ตรวนหนาห้าเส้นพุ่งเข้าใส่แขนของโจวเจ๋อด้วยท่วงท่าที่รุนแรง เขาใช้ร่างของตัวเองเป็นประตูคุมระบบ ล็อกแสงสีเขียวไว้แน่น แล้วใช้ร่างของตัวเองเป็นสื่อกลางเริ่มรัดคอ!

ร่างของทนายอันสั่นเทิ้ม ตั้งแต่โผล่มาจนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยพลาดท่ามาก่อน กระทั่งเกิดเสียงดัง ‘ตุ้บ’ คุกเข่าบนพื้นข้างเดียว เลือดเริ่มไหลออกจากบริเวณหน้าอก ชั้นแสงสีเขียวนั้นเป็นตัวช่วยพิเศษปกป้องทนายอัน เมื่อเขาเลือกใช้เป็นอาวุธโจมตีเข้าร่างของโจวเจ๋อ จริงๆ แล้วก็เป็นช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุดของเขาเช่นกัน

แขนขวาของโจวเจ๋อชุ่มโชกไปด้วยเลือด แต่ว่าเถ้าแก่โจวชินแล้ว ถึงอย่างไรไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตัวเขาเองถ้าไม่ได้แขนหักก็เดินอยู่บนทางที่นำไปสู่การทำให้แขนหัก สภาพในตอนนี้ยังดีกว่าครั้งก่อนๆ ด้วยซ้ำ

ใบหน้าครึ่งหนึ่งใช้ฟันกัดแท่งเหล็กแน่นมาตลอด เขาจ้องไปข้างหน้าด้วยสีหน้าขุ่นเคือง ลีลาการต่อสู้ของโจวเจ๋อ รูปแบบการต่อสู้ของโจวเจ๋อ การไหลเวียนลมปราณของโจวเจ๋อ เมื่อเขามองจากตรงนี้ มันอัดแน่นไปด้วยตัวเขาเองเมื่อหลายปีก่อน! เหมือนเขากำลังถือจอยบังคับตัวเองเล่นเกมในเวลานี้ ความเคียดแค้นฝังลึก ความเคียดแค้นมันฝังลึกจริง!

เวลานี้ เมื่อเห็นโจวเจ๋อแหกเกราะป้องกันของทนายอันได้ในที่สุด ใบหน้าครึ่งหนึ่งรู้สึกโล่งใจอยู่พักหนึ่ง จุ๊ๆ นับว่ายังไม่ทำให้ตัวเขาขายหน้า… จากนั้นใบหน้าครึ่งหนึ่งก็ได้สติทันควัน ทำไมเขาถึงมีความคิดเช่นนี้ได้

ทนายอันหอบหายใจหนัก แต่โจวเจ๋อไม่เหลือเวลาให้เขาหายใจมากนัก รีบพุ่งกระโจนเข้ามา

“เถ้าแก่…ผมเอง…” ทนายอันตะโกนด้วยสีหน้าตื่นตะลึง

แต่ทว่าในดวงตาของโจวเจ๋อยังเป็นสีดำมืดมน ประโยคนี้ ท่าทีแบบนี้ ไม่สะกิดต่อมอะไรใดๆ สักนิด!

เล็บหวดฟาดเข้ามา

ขาดสะบั้น

ขาดสะบั้น

ขาดสะบั้น!

แววตาของทนายอันปรากฏสีเขียวอีกครั้ง ความไร้ปรานีของคนตรงหน้า ทำให้คนผู้นั้นที่ควบคุมร่างกายของเขาในเวลานี้อดแปลกใจไม่ได้เช่นกัน จงรู้ไว้ว่า ความมุ่งมั่นเช่นนั้น การใช้ทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เช่นนั้น ไม่ใช่สไตล์ของคนผู้นั้นในสมัยโบราณ

“ขอโทษนะ” คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของทนายอัน มันไม่ใช่น้ำเสียงของตัวทนายอันเอง แฝงไปด้วยความจนใจและการหมดความอดทนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความจนใจ

ในเวลาเดียวกัน อักขระสีทองอร่ามปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของทนายอัน นี่คือสัญลักษณ์ของตระกูลโบราณที่ปราศจากกลิ่นอายคำสาปและความโกรธแค้นของผีดิบ เป็นความกดดันแบบที่สง่าผ่าเผยประเภทหนึ่ง!

มีกลิ่นอายความเป็นสตรีกระจุกตัวอยู่ที่ระหว่างคิ้วของทนายอัน คล้ายกับหลี่อวี้กังตอนแต่งหน้า เขายังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น แต่จากมุมมองของโจวเจ๋อและคนอื่นๆ ที่อยู่ในสถานการณ์ ขณะนี้ร่างกายของเขาถูกยกสูงขึ้น สูงขึ้น และยังรายงานอีกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงระดับความสูงที่ทำให้ทุกคนแหงนมองได้ยาก!

“สยบ!”

‘ตู้ม!’

โจวเจ๋อรู้สึกแค่ว่าพลังปราณพิฆาตที่อยู่รอบตัวเขาแข็งกระด้าง หลังจากเดินโซเซไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว

‘ตู้ม!’

เสียงดังสนั่น โจวเจ๋อคุกเข่าสองข้างลงกับพื้น กระแทกจนเกิดหลุมลึก

“สยบ!”

เมื่อคำว่า ‘สยบ’ หลุดออกมาเป็นครั้งสอง ผิวหนังของโจวเจ๋อก็เริ่มแตกระแหง ความกดดันอันน่าสะพรึงกลัวรายล้อมเข้ามาจากทุกทิศทาง ราวกับว่ามันจะฉีกเขาออกจากกัน

“โฮก!” โจวเจ๋อแผดเสียงคำรามและฝืนลุกขึ้น

ทนายอันที่อยู่ตรงหน้าเขาเสมือนเทพเจ้าที่ยืนอยู่บนแท่นสูงด้วยความสง่าน่าเกรงขามเสียจนไม่อาจต่อต้าน!

ด้านหลังเขาดูเหมือนจะมีเงาร่างสูงศักดิ์คอยช่วยเหลืออวยพรให้เขา

‘ความสูงศักดิ์’ ประเภทนี้เหนือขอบเขตของ ‘ความมั่งคั่ง’ และสลัดพันธนาการของ ‘ตำแหน่งทางการ’ ให้หลุดโดยสิ้นเชิง รู้เพียงแต่ว่าตราบใดที่ร่างนี้ยังคงสถิตอยู่ที่นี่ ทุกสิ่งรอบตัวจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีความสำคัญโดยอัตโนมัติ!

ใครก็ตามที่กล้าต่อต้าน พวกเขาทั้งหมดจะถูกกวาดล้างและถูกบดขยี้เป็นฝุ่นแห่งประวัติศาสตร์โดยอัตโนมัติ

“เจ้าขี้โกง! เจ้าหลอกลวง! เจ้ามันหน้าด้าน! เจ้าชักจะเกินไปแล้ว! ลำดับอาวุโสของเจ้าคืออะไร ลำดับอาวุโสของเขาคืออะไร! อย่างนี้เจ้า…”

ใบหน้าครึ่งหนึ่งแผดเสียงคำรามด้วยความโมโห แต่ไม่นาน เขาก็ผงะอีกครั้งกับจุดยืนของตัวเอง…

“ฮ่าๆๆ เด็กน้อย ยอมเสียเถอะ ยอมแพ้ซะ เจ้าต้านไม่ไหวหรอก ตอนนี้เจ้ายังไม่รู้ว่าเจ้ากำลังสู้อยู่กับใครใช่ไหม นางไม่ได้ฆ่าเจ้า เจ้ายังดูไม่ออกอีกเหรอ เจ้าจะมาหน้าบางอะไรในเวลานี้! ยอมแพ้เถอะ ตกต่ำทุกข์ทรมานไปพร้อมกับข้า ทำตามจังหวะขั้นตอนของข้า ฮ่าๆๆๆ อย่างน้อยข้าก็เคยต่อต้าน อย่างน้อยข้าก็เคยทำสำเร็จ ส่วนเจ้าล่ะ ฮ่าๆๆ ฮะฮ่าๆ…”

“โฮก!”

โจวเจ๋อยังไม่ก้มหน้าลง และฝืนต้านทานแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวนี้ต่อไป เลือดสดๆ เริ่มหยดออกมาจากในรอยผิวหนังที่แตกระแหงบนร่างกายเขาไม่หยุด จนทั้งตัวห่อหุ้มไปด้วยเลือด

เขาก็ยังไม่ตะโกนเรียกเจ้าโง่ เจ้าโง่ก็ไม่ได้แสดงออกใดๆ แต่โจวเจ๋อก็ยังยืนหยัดอยู่อย่างนี้ต่อไป เขี้ยวเสียดสีจนเกิดประกายไฟ แต่ก็ยังเชิดหน้าอยู่เหมือนเดิม

ใบหน้าครึ่งหนึ่งเงียบขรึมอีกครั้งและก่นด่า “ไอ้ปัญญาอ่อน! ไอ้คนไม่ได้เรื่อง! ไอ้โง่เง่า! ไอ้… ไอ้… ไม่ได้สู้อย่างนี้โว้ย เจ้าจะเอาอย่างนี้…”

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท