ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 623 รังหนูรังงู

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 623 รังหนูรังงู

สหายที่สถานีตำรวจพยายามอย่างเต็มที่เพื่อติดตามที่อยู่ของเจิ้งต้าหมิง ในขณะที่นักสืบที่ได้รับการว่าจ้างจากตระกูลเฉินกำลังเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของเสิ่นอวี้อิ๋งและคนอื่น ๆ ในมุมมืด

ตราบใดที่อีกฝ่ายเปิดเผยจุดอ่อน พวกเขาจะฉวยโอกาสแสดงตัวทันที

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสิ่นอวี้อิ๋ง หลังจากที่ถูกหลินเซี่ยคุกคาม หล่อนก็เริ่มร้อนใจ กลัวว่าหลินเซี่ยจะพาเด็กออกมาจากที่แห่งนั้นแล้วบ่อนทำลายชื่อเสียงของหล่อนจนป่นปี้

หล่อนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพาตัวเองออกไปจากเซี่ยหลาน

ไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกติดตามอยู่

ลัดเลาะเข้าไปในตรอกที่ทรุดโทรม

จากนั้นก็เคาะประตูเหล็กสีเขียว

ถังหลิงไม่คาดคิดว่าเสิ่นอวี้อิ๋งจะมาอย่างกะทันหัน หล่อนพูดด้วยความโกรธว่า “ใครใช้ให้เธอมา พวกเขาไม่ได้บอกเธอว่าช่วงนี้เราห้ามเจอกันหรอกเหรอ?”

เสิ่นเสี่ยวเหมยอาศัยอยู่กับถังหลิงในเวลากลางคืน ดังนั้นตอนนี้หล่อนจึงอยู่ที่นี่ หล่อนตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นอวี้อิ๋ง “ตำรวจเลิกสืบสวนพวกเราแล้วไม่ใช่เหรอ? ก็เราทุกคนมีหลักฐานและพยานพิสูจน์ว่าเราไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุนี่”

“ตระกูลเฉินกับตำรวจไม่ได้ทำงานร่วมกัน”

เสิ่นอวี้อิ๋งเล่าว่าหลินเซี่ยเริ่มรู้สึกสงสัยในตัวพวกหล่อนแล้ว “พี่หลิง ตระกูลเฉินไม่ได้ตำหนิหลินเซี่ยสำหรับเรื่องนี้เลย สิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีวี่แววว่าจะคุกคามการแต่งงานของพวกมัน ดูเหมือนเราจะลงมือทำสิ่งที่ไม่เกิดผลซะแล้ว”

“ทำไมจะไม่เกิดผล? ถ้าพวกนั้นหาหู่จือไม่เจอจริง ๆ เธอคิดว่าจากนี้เฉินเจียเหอจะปฏิบัติต่อหลินเซี่ยยังไง ฉันจะบอกอะไรให้ เธอไม่รู้หรอกว่าเด็กหู่จือนั่นมีความสำคัญกับเฉินเจียเหอ เซี่ยไห่ และคนอื่น ๆ มากแค่ไหน เธอคงยังไม่รู้ว่าเด็กนั่นไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเฉินเจียเหอ แต่เป็นลูกชายเป็นเด็กกำพร้าของสหายร่วมรบ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เฉินเจียเหอจะไม่มีวันให้อภัยหลินเซี่ย เซี่ยไห่และคนอื่น ๆ ยิ่งไม่มีทางปล่อยหล่อนไป”

เสิ่นอวี้อิ๋งเต็มไปด้วยความกังวล “แต่หลินเซี่ยรู้ข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังของฉัน ตอนนี้หล่อนเริ่มกำหนดเวลากับฉันแล้ว บอกว่าถ้าฉันไม่ยอมส่งตัวหู่จือให้ หล่อนจะทำลายชื่อเสียงของฉันให้พินาศ”

ถังหลิงและเสิ่นเสี่ยวเหมยอาจซ่อนตัวอยู่ที่นี่อย่างสบายใจได้ แต่หลินเซี่ยต้องทำทุกอย่างเพื่อจัดการกับหล่อนแน่

หลินเซี่ยปฏิบัติต่อลูกชายของเฉินเจียเหอราวกับว่าเขาเป็นลูกแท้ ๆ ของเธอเอง เธอพร้อมจะทุกอย่างถ้าศัตรูเริ่มล้ำเส้นเกินเหตุ

เกรงว่าหล่อนอาจเป็นคนเดียวในกลุ่มที่บาดเจ็บหนักในที่สุด

เสิ่นอวี้อิ๋งไม่รู้จะอธิบายให้พวกหล่อนฟังอย่างไร

เพราะหล่อนบอกถังหลิงกับเสิ่นเสี่ยวเหมยไปอย่างชัดเจนว่าลูกสาวของตนตายไปตั้งแต่ตอนคลอด

ถ้าตอนนี้พวกหล่อนรับรู้ว่าลูกสาวของหล่อนถูกส่งตัวไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้วหลินเซี่ยก็ตามสืบจนรู้และใช้เด็กคนนั้นเพื่อแบล็กเมล์หล่อน ถังหลิงและเสิ่นเสี่ยวเหมยคงมองหล่อนไม่มีเหมือนเดิมอีกต่อไป นี่ถือเป็นความลับและจุดอ่อนของหล่อนเลยก็ว่าได้ หล่อนไม่กล้าให้ผู้หญิงสองคนนี้รู้ ไม่เช่นนั้นพวกหล่อนจะใช้เรื่องนี้คุกคามหล่อนในอนาคตเช่นเดียวกัน

“พี่หลิง ตอนนี้เจิ้งต้าหมิงอยู่ที่ไหน?”

ถังหลิงเป็นคนวางแผนการเรื่องนี้ ในตอนแรกเสิ่นอวี้อิ๋งต้องการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบหากมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นหลังจากที่จงใจแนะนำเจิ้งต้าหมิงให้กับถังหลิงแล้ว อีกฝ่ายก็ตัดสินใจอย่างปัจจุบันทันด่วน

ด้วยเหตุนี้ หล่อนจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เจิ้งต้าหมิงอยู่ที่ไหน

ถังหลิงทำหน้าตาลึกลับ “อยู่ที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีใครตามหาเขาเจอ”

“บอกมาเร็ว ๆ สิ เขาอยู่ไหน? ฉันอยากให้เขาปล่อยหู่จือไปซะ”

เมื่อเสิ่นอวี้อิ๋งได้ยินว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ ของเฉินเจียเหอแต่อย่างใด แต่เป็นลูกชายกำพร้าของอดีตผู้บัญชาการกองร้อย หล่อนก็ยิ่งหวาดกลัวมากกว่าเก่า

การลักพาตัวทายาทของทหารผู้พลีชีพในสมรภูมิรบถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง

เซี่ยหลานเคยบอกว่า ถ้าหล่อนกล้าก่ออาชญากรรม จะไม่ยื่นมือช่วยเหลือหล่อนเลย

แม้แต่ผู้หญิงเลวทรามอย่างถังหลิงและเสิ่นเสี่ยวเหมยทั้งสองก็จะโทษว่าเป็นความผิดของหล่อนทั้งหมดอย่างแน่นอน ต่อให้ตายเป็นสิบครั้งก็ยังไม่เพียงพอ

“บอกมาสิ เขาอยู่ที่ไหน?” เสิ่นอวี้อิ๋งเป็นกังวล ถึงกับคว้าคอเสื้อของถังหลิง “ฉันจะบอกให้รู้ไว้ ว่าถ้าเราไม่ปล่อยเขาไป พวกเราจะตายกันหมด เด็กนั่นไม่ใช่เด็กธรรมดา ๆ แต่เป็นทายาทกำพร้าของทหารผู้พลีชีพ”

หลังจากได้ยินคำพูดของเสิ่นอวี้อิ๋งแล้ว เสิ่นเสี่ยวเหมยก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างเช่นกัน

ความจริงแล้ว ในตอนแรกหล่อนเองก็เห็นด้วยกับการที่ถังหลิงจะใช้วิธีนี้เพื่อโจมตีหลินเซี่ย

ตัวตนของเด็กคนนั้นพิเศษเกินไป ในความคิดของเสิ่นเสี่ยวเหมยคือเขาเป็นเป้าหมายของการลักพาตัวที่ดีที่สุด ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อหลินเซี่ยโดยตรง ทำให้เธอกลายเป็นดอกไม้ที่ไร้ค่า ท้ายที่สุดเฉินเจียเหอก็จะเขี่ยเธอทิ้ง

“เธอเป็นอะไรของเธอ? ก่อนหน้านี้ยังบอกอยู่เลยว่าจะยอมตีงูตรงจุดตายเพื่อให้หลินเซี่ยสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่หล่อนมีในตอนนี้ แล้วนี่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด ถ้าเด็กหายไป ตระกูลเฉินและตระกูลเซี่ยต้องทอดทิ้งหล่อนแน่”

ถังหลิงมองไปที่เสิ่นเสี่ยวเหมย “นอกจากนี้ เสี่ยวเหมย คนที่ชื่อหยางหงเสียดูจะมีความสุขและรักใคร่กลมเกลียวกับเฉินเจียซิ่งมากนี่นา เธอยอมรับไม่ได้เมื่อต้องเห็นภาพนั้นไม่ใช่เหรอ? หู่จืออยู่กับหลินเซี่ยและหยางหงเสียในวันนั้น ตราบใดที่เกิดอะไรขึ้นกับหู่จือ เฉินเจียซิ่งจะโกรธเกลียดหยางหงเสีย ถึงขั้นหย่ากับหล่อนด้วยซ้ำ นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เหรอ?”

เสิ่นเสี่ยวเหมยคล้อยตามคำพูดของถังหลิงอย่างง่ายดาย “ใช่แล้ว ฉันจะทำให้พวกมันวอดวายกันไปข้าง”

“นี่พวกเธอคิดจะฆ่าฉันหรือไง?” เสิ่นอวี้อิ๋งแค่นเสียงคำราม

ถังหลิงมองไปที่เสิ่นอวี้อิ๋งอย่างงงงวย “เสิ่นอวี้อิ๋ง เกิดอะไรขึ้นกับเธอเนี่ย? เธอเป็นต้นคิดแผนนี้แท้ ๆ แถมยังเป็นคนแนะนำไอ้หมอนั่นให้ฉันด้วย ตอนนี้จู่ ๆ กลับมาเปลี่ยนใจซะอย่างนั้น เธอหมายความว่ายังไง? ฉันจะบอกให้ ถ้าได้จังหวะเราจะออกจากไห่เฉิงโดยเร็วที่สุด ต้องฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ไม่มีทางที่คนพวกนั้นจะทำอะไรกับเราได้ หลินเซี่ยกับเฉินเจียเหอจะมีชีวิตอยู่ด้วยความเสียใจและโทษตัวเองไปตลอดชีวิต ต่อให้พวกเขาไม่หย่ากัน ปมนี้ก็จะติดเป็นความคับข้องใจตลอดไป ไม่มีวันมีความสุขได้หรอก”

ใบหน้าของถังหลิงเหี้ยมเกรียม ทัศนคติบิดเบี้ยวทั้งหมด

ใช่แล้ว นี่คือการฆ่าคนให้ตายทั้งเป็น

เด็กคนนั้นเป็นทายาทกำพร้าของทหารผู้พลีชีพ ทั้งยังเป็นชีวิตจิตใจของเฉินเจียเหอ เซี่ยไห่ และคนอื่น ๆ ตอนนี้เด็กที่ตามติดหลินเซี่ยตลอดเวลาโดนลักพาตัวจนตามหาแทบพลิกแผ่นดินก็ไม่พบ คิดว่าพวกเขาจะปฏิบัติต่อหลินเซี่ยอย่างไร?

เป็นไปไม่ได้ที่ชาตินี้จะให้อภัยเธอ

ยิ่งถังหลิงพูดมากเท่าใด หล่อนก็ยิ่งภาคภูมิใจในแผนการของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น แต่เสิ่นอวี้อิ๋งกลับไม่มีความสุขเลย

ตอนที่รับสายจากหลินเซี่ย หล่อนตระหนักอยู่ลึก ๆ ว่าหลินเซี่ยไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย ๆ

ในขณะเดียวกัน ภายในใจหล่อนก็เกลียดชังเซี่ยหลานมากยิ่งขึ้น

ถ้าหลินเซี่ยไม่รู้ความลับเกี่ยวกับลูกสาวนอกสมรส หรือรายละเอียดพื้นฐานที่เกี่ยวกับเด็ก อีกฝ่ายก็คงไม่นิ่งเฉยขนาดนี้

เรื่องลูกคือจุดอ่อนของหล่อน เซี่ยหลานยอมบอกหลินเซี่ยถึงความลับดังกล่าวได้ นี่แสดงให้เห็นว่าสถานะของหลินเซี่ยในใจของอีกฝ่ายมั่นคงเสมอมา พวกเขาเป็นแม่และลูกสาวที่พูดคุยเกี่ยวกับทุกสิ่งได้โดยที่ไม่มีความลับ

แล้วเสิ่นอวี้อิ๋งเป็นใคร?

เห็นเสิ่นอวี้อิ๋งไม่หายกังวล ถังหลิงจึงถามหล่อนว่า

“อวี้อิ๋ง เธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากพวกเราอยู่หรือเปล่า?”

เสิ่นอวี้อิ๋งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบอกพวกหล่อนเรื่องลูก เพื่อแก้ปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในปัจจุบันก่อนเป็นอันดับแรก

ถังหลิงและเสิ่นเสี่ยวเหมยต่างก็ตกใจมากไม่แพ้กันเมื่อได้ยินสิ่งที่หล่อนพูด

ลูกของหล่อนไม่ได้ตายตั้งแต่คลอด แต่ถูกส่งไปอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

ถังหลิงมองหน้าหล่อนและเยาะเย้ย “อวี้อิ๋ง ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความไว้วางใจระหว่างเราเอาซะเลย ในเมื่อลูกของเธอไม่ตาย แล้วทำไมต้องโกหกเราด้วยล่ะ?”

เสิ่นเสี่ยวเหมยตะคอกอย่างเย็นชา “ฉันเคยบอกแล้ว แม่นี่เอาแต่โกหกตลอดเวลา ไม่มีความน่าเชื่อถืออะไรเลย”

เสิ่นอวี้อิ๋งได้แต่ตะโกนอย่างเย็นชาอยู่ในใจ ระหว่างพวกหล่อนถือเป็นความสัมพันธ์ที่เอื้อผลประโยชน์ร่วมกันต่างหาก และเป็นนังงี่เง่าเสิ่นเสี่ยวเหมยที่เชื่อถังหลิงจนตัวเองสูญเสียทุกอย่างเสียเอง

แต่ในขณะนี้พวกหล่อนเป็นตั๊กแตนที่ไต่อยู่บนเชือกเส้นเดียวกัน เสิ่นอวี้อิ๋งจึงลดคิ้วที่ขมวดเป็นปมลง และยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง “ลูกพี่ลูกน้อง พี่หลิง ฉันขอโทษ ฉันอับอายเกินกว่าจะบอกพวกคุณ ฉันเลยจงใจโกหก ตอนนี้ หลินเซี่ยต้องการใช้เด็กคนนั้นมาข่มขู่ฉัน ฉันคิดว่ามันคงดีกว่าถ้าปล่อยหู่จือคืนไป แล้วเราค่อยวางแผนระยะยาวในการจัดการกับหลินเซี่ยเสียใหม่”

ถังหลิงมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม หล่อนบอกว่า “อวี้อิ๋ง ฉันคิดว่าหลินเซี่ยจงใจทดสอบเธอมากกว่า ถ้าเธอยังมัวกลัวหล่อน ตอนนี้เราจะไม่มีทางหลบหนีได้แล้ว ในเวลานี้เราทุกคนควรสงบสติอารมณ์ไว้ให้มั่น อย่าให้อะไรมาทำให้แตกตื่น”

“หล่อนไม่ได้ทำให้ฉันกลัว แต่หล่อนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน หล่อนน่ากลัวจริง ๆ นะ” หัวใจของเสิ่นอวี้อิ๋งแทบจะร่วงลงไปถึงตาตุ่ม กลัวว่าภายในเวลาสองชั่วโมง หลินเซี่ยจะพาเด็กไปโรงพยาบาลจริง ๆ แล้วตามหาหลิวจื้อหมิง

ก่อนหน้านี้หล่อนรีดไถเงินของหลิวจื้อหมิง สัญญากับเขาว่าจะออกจากไห่เฉิงทันที ถ้าเด็กคนนี้ปรากฏตัวขึ้นในอาคารพักอาศัยของโรงงานเครื่องจักรตอนนี้ หล่อนคงชะตาขาดเพราะหลิวจื้อหมิงอย่างไม่ต้องสงสัย

ด้วยวิธีการอันชั่วร้ายของหลินเซี่ย เธออาจไม่เพียงแต่ไปหาหลิวจื้อหมิง เท่านั้น แต่ยังตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ด้วย ทำให้ชื่อเสียของหล่อนฉาวโฉ่ไปทั่วไห่เฉิง

หลินเซี่ยรู้ด้วยซ้ำว่าหล่อนต้องการเข้าสู่วงการบันเทิง และเธอก็ควบคุมหล่อนได้อย่างสมบูรณ์

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท