หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 54 ใช้ปิ่นทำร้ายคน

บทที่ 54 ใช้ปิ่นทำร้ายคน

บทที่ 54 ใช้ปิ่นทำร้ายคน

“ท่านวางใจเถิด เรื่องใดที่ข้าตอบตกลงแล้วย่อมทำตามนั้น ท่านเพียงแต่จัดเตรียมงานให้พร้อมเท่านั้น ในวันพิธี ข้าจะมายังจวนแม่ทัพให้ทันเวลา”

วันพิธีเสกสมรส

วันนี้เป็นวันมงคลสมรสของหลานเยาเยาและท่านอ๋องสมญานามเทพแห่งสงครามผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือเย่แจ๋หยิ่ง ถนนทั่วทุกมุมในเมืองหลวงต่างประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสี เป็นภาพแห่งความมงคลชื่นมื่นยินดี

นอกเหนือจากนั้น ยังมีการปูพรมสีแดงสดเริ่มจากประตูจวนแม่ทัพถึงประตูจวนทั้งอ๋องเย่

เหล่าประชาชนทั้งหลายต่างพากันมายังสองฝั่งฟากถนนชะเง้อคอเมียงมอง พวกเขาต่างได้ยินมาว่า ท่านอ๋องเย่จะมารับพระชายาของท่านด้วยตัวเองในวันนี้ ช่างเป็นเรื่องที่หาดูได้ยากนัก ร้อยวันพันปีจะมีครั้งหนึ่ง!

“ไอหยา!”

ภายในกำแพงจวนแม่ทัพด้านหลังจวน เสียงโอดครวญด้วยความเจ็บปวดลอยมาให้ได้ยิน หลานเยาเยาปีนจากพื้นขึ้นมา แล้วรีบผลุบลงไปในจวนอย่างรวดเร็ว

ต้องโทษตาเฒ่าเย่นนั่น จัดการหาที่พักให้นาง และยังหานางรับใช้มาปรนนิบัตินางอีกด้วย วันนี้เป็นวันเสกสมรสของนาง เป้าหมายอันยิ่งใหญ่จะสัมฤทธิ์ไปอีกหนึ่งอย่าง ตาเฒ่าเย่นนั่นยังจะพยายามรั้งนางเอาไว้ไม่ให้ออกมา

เหอะ!

สักวันนางจะดึงเคราขาวของเขาทิ้งให้เกลี้ยง

เมื่อนางมาถึงลานใหม่ของนางในอดีต ของข้างในห้องสะเปะสะปะรกไปหมด ราวกับเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

ภายในห้องมีสาวใช้เดินไปเดินมาอย่างรีบร้อน ราวกับกำลังจะมีมหันตภัยใหญ่กำลังกล้ำกรายเข้ามาอย่างไรอย่างนั้น

“ทำอย่างไรดี?ทำอย่างไรดี?หลานเยาเยาทำไมยังไม่มาอีก?ท่านอ๋องเย่กำลังจะมาสู่ขอแล้ว”

สาวใช้นางหนึ่งไม่หยุดที่จะพูดพร่ำ

“เหอะ นางหลานเยาเยา นางคนชั้นต่ำ ทำไมถึงเข้าตาท่านอ๋องเย่ที่ผู้คนเป็นหมื่นเป็นแสนต่างปรารถนาครอบครอง

ทำไมไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาอัปลักษณ์ของตัวเอง คืนเข้าหอคืนแรกอย่าคิดเลยว่าท่านอ๋องเย่จะมีอะไรกับนางหรือเปล่า เกรงว่าแม้แต่ประตูห้องหอคงไม่เข้าไปด้วยซ้ำ!” สาวใช้อีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นแน่อยู่แล้ว หากข้าเป็นท่านอ๋อง ข้าจะหนีนางไปไกลๆ เลย เหอะๆๆๆ!”

สาวใช้ที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันนินทาหลานเยาเยาอย่างออกรส ทั้งปากทั้งสายตาส่งประกายประชดประชันอย่างชัดเจน

ในห้องนั้นมีสาวใช้ติดตัวเจ้าสาวสี่คน มีแม่นมที่จะติดตามไปรับใช้อีกสองคน ทั้งหมดต่างได้รับการฝึกฝนจากนิ่งซื่อ

สาวใช้ติดตามตัวทั้งสี่ ต่างถูกเฟ้นหาเลือกสรรมาอย่างดี มีลักษณะท่าทางที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็มีมาตรฐานที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือต่างมีรูปลักษณ์ที่นับว่างดงาม

เหอะ!

นิ่งซื่อนับว่าวางแผนมาอย่างดีทีเดียว!

คาดการณ์จะให้สาวใช้ทั้งสี่นี้ถูกตาต้องใจกับเย่แจ๋หยิ่ง อนาคตข้างหน้าได้รับตำแหน่งขึ้นเป็นนางสนมหรือเป็นชายา ขึ้นมาเป็นปฏิปักษ์กับนาง!

เพียงแต่น่าเสียดายนัก หมากเกมนี้นางวางผิดไปเสียแล้ว

ดังนั้น!

มุมปากหลานเยาเยามีรอยยิ้มขึ้น ยกขาถีบประตูห้องที่ปิดไว้ครึ่งหนึ่งอย่างแรง ทำให้คนทั้งห้องสะตุ้งตกใจเด้งตัวขึ้นกันหมด พวกคนขี้ขลาดเมื่อเห็นนางเข้า ถึงกับหน้าซีด

“หลาน…คุณหนูหก ในที่สุดท่านก็มา จะถึงฤกษ์แล้ว มาเร็วมาเร็ว ต้องรีบทำผมสวมชุดแต่งงานแล้ว”

มีสาวในหนึ่งในนั้นมีสติกลับมาเร็วที่สุด รีบแสร้งเปลี่ยนสีหน้าท่าทาง พลางแย้มยิ้มหยาดเย้ม

พวกนางต่างไม่มีใครรู้

หลานเยาเยาได้ยินที่พวกนางกระซิบนินทามากน้อยเท่าไหร่

แต่แม้ว่านางจะได้ยินหรือไม่ พวกนางก็ไม่ได้สนใจ ยิ่งไปกว่านั้น หลานเยาเยาจะทำอะไรพวกนางได้?

นายท่านตัดสัมพันธ์พ่อลูกกับนางแล้ว นางไม่ได้เป็นคุณหญิงหกแห่งจวนแม่ทัพนานแล้ว ตอนนี้ยังกล้ากลับมาอย่างไร้ยางอาย ตัดสินใจแต่งออกจากจวนแม่ทัพ พวกนางยอมเรียกนางคุณหนูหก ก็นับว่าไว้หน้านางมากพอแล้ว

ต่อไปเมื่อไปถึงจวนอ๋องเย่แล้ว หลานเยาเยายังต้องพึ่งพวกนางอีก ยิ่งไปกว่านั้น นางก็ต้องพึ่งพาสาวใช้อย่างพวกนางนี้แหละ นางถึงจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในจวนอ๋องเย่ได้

เพราะอย่างนั้นพวกนางต่างไม่เกรงกลัว!

“เอาสิ อย่างนั้นก็ทำเลย”

หลานเยาเยายังคงรอยยิ้มบนใบหน้า เดินทอดน่องไปนั่งบนเก้าอี้แต่งตัวตัวสูงหน้าโต๊ะแต่งตัว มือข้างหนึ่งวางบนโต๊ะแต่งตัวในท่าทีสบายๆ บังเอิญมือแตะเข้ากับปิ่นปักผมสีตั๋วเงินอันวิจิตร

“เพคะ คุณหนูหก”

สาวใช้ที่พูดขึ้นเมื่อครู่ขานรับ แววตาแวบแววรังเกียจขึ้นสายหนึ่ง แล้วจึงรุดเดินมายังข้างกายนาง พลางก็หวีผมให้นางอย่างไม่ได้ตั้งใจนัก ท่าทางไม่อยากทำอย่างเต็มประดา

เมื่อแต่งผมเสร็จ และกำลังแต่งผมด้วยเครื่องผมอยู่นั้น สาวใช้นางนั้นตั้งใจใช้ปลายแหลมของปิ่นปักลงบนศีรษะ โดยไม่คิดเลยว่าจะปักโดนหนังศีรษะนางหรือไม่

คิ้วของหลานเยาเยาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย!

เมื่อมองไปยังสาวใช้ที่แต่งผมให้นางอยู่นั้น ท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว ราวกับคิดว่านางไม่กล้าลงมือทำอะไร

ใครจะรู้…

หลานเยาเยารีบคว้าปิ่นตั๋วเงินที่อยู่ข้างกาย ปักลงทางด้านหลังสุดแรง บังเอิญปักลงตรงต้นขาของสาวใช้ที่ทำผมให้นางพอดี

“อ้ากก…”

เสียงร้อยอันเจ็บปวดดังขึ้น สาวใช้ที่ถูกปิ่นปักก็ทรุดลงบนพื้นทันที กอดขาที่เลือดไหลอยู่อย่างเจ็บปวด

คนอื่นๆ ในห้องต่างหยุดสิ่งที่ทำอยู่ แต่ละคนต่างมองมายังพวกนาง เมื่อเห็นว่าคนเจ็บคือสาวใช้ สีหน้าท่าทางพวกนางต่างเปลี่ยนไปตามๆ กัน

มองเห็นแววคล้ายจะหัวเราะแต่นิ่งงันของหลานเยาเยา และมองไปยังปิ่นตั๋วเงินที่มีรอยเลือดสดในมือนาง แต่ละคนต่างขนลุกขนพองด้วยความหวาดกลัว

“หลานเยาเยา เจ้ากล้าทำร้ายข้า?”

สาวใช้ที่บาดเจ็บขบเขี้ยวเคี้ยวฟันถามขึ้น ราวกับหลานเยาเยาใช้ปิ่นปักนางเนื่องเพราะนางทำโทษผิดมหันต์

“ช่วยไม้ได้ หนังศีรษะข้าไม่พอใจเสียแล้ว”

ปกติแล้วนางไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องคนอื่นก่อน แต่ก็ช่วยไม่ได้!ในเมื่อมักจะมีคนทำอะไรให้นางไม่ประทับใจ นางก็เพียงแค่ดีมาดีกลับ ร้ายมาก็ร้ายกลับเพียงเท่านั้น

“เจ้า…”

สาวใช้นางนั้นยังอยากจะพูดอะไรไม่น่าฟังออกมาอีก กลับถูกแม่นมผู้โชกโชนที่ยืนอยู่ข้างๆ ดึงนางไว้ ราวกับจะให้นางหยุดพูด

แล้วก็พูดขึ้นกับหลานเยาเยาด้วยรอยยิ้ม

“คุณหนูหก ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ข้าน้อยต้องขออภัยแทนชิวซวนด้วยเพคะ ชิวซวนนิสัยรีบร้อนไปบ้าง แต่ไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณหนูหกเจ็บปวดจริงๆ นะเพคะ หวังว่าคุณหนูหกจะไม่เอาเรื่องกับนาง เพื่อให้ทันเวลาฤกษ์นะเพคะ”

โอ้

ใช้ได้เลย ที่นี่นับว่ามีคนรู้จักพูดอยู่คนหนึ่ง

มีคำกล่าวว่ารอยยิ้มเอาชนะความผิดได้ ทว่าแววตาดูถูกเย้ยหยันชั่ววูบหนึ่งที่ปราดออกมาจากสายตาแม่นม นางก็เห็นอย่างชัดเจนผ่านกระจกทองเหลือง

อยากเล่นละครหรือ?งั้นก็เล่นดีๆ เสียหล่ะ

“ที่ทำเสียเวลาก็คือพวกเจ้า หรือมิใช่?”

นางมานั่งอยู่ก่อนแล้ว เพียงแค่สาวใช้ที่ชื่อชิวซวนนั่น แต่งผมให้นางเลิ่กลั่ก ไม่เต็มใจ จึงทำให้เสียเวลาอยู่นาน

“ใช่แล้วเพคะ ตอนนี้ก็ให้ข้ารับใช้คุณหนูแทนเพคะ”

“ดีสิ”

หลานเยาเยาตอบในทันที

แม่นมนางนี้ก็ไม่เลอะเลือน รีบตั้งใจแต่งผมให้นางใหม่ แม้ตอนติดเครื่องทรงผมก็ประดับให้นางอย่างระมัดระวังนัก

เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แม่นมจึงส่งสายตาไปยังสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างๆ

“รีบนำน้ำสะอาดเข้ามา ให้คุณหนูหกบ้วนปาก”

ก่อนจะแต่งออกไปต้องบ้วนปาก อาบน้ำและยังมีพิธียุ่งยากอื่นๆ อีก แต่หลานเยาเยาต่างก็ละเสียทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้น!

จวนแม่ทัพมิได้ให้ความสำคัญกับงานมงคลสมรสนี้เท่าใดนัก

“เจ้าค่ะ!”

สาวใช้ตอบรับคำหนึ่ง และน้ำน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ด้านข้างยกมา

“คุณหนูหกเชิญบ้วนปาก”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท