หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 147 มองทะลุ

บทที่ 147 มองทะลุ

บทที่ 147 มองทะลุ

ฮ่องเต้คิดไม่ถึงว่าอ๋องเย่จะมาถึงอย่างกะทันหัน เขาคิดว่าอย่างน้อยก็ไม่น่าจะมาเร็วขนาดนี้ เช่นนั้นหากเขาสามารถลงมือก่อนได้ก็จะได้เปรียบ

คิดไม่ถึง……

คิดยังไงก็คิดไม่ถึงจริงๆ!

เมื่ออ๋องเย่มาถึงอย่างกะทันหันในช่วงวิกฤตสำคัญเช่นนี้ ดวงตาของเขาจึงฉายแววความตื่นตระหนก จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสงบและดูแกร่งกร้าวขึ้นอีกครั้ง

เย่แจ๋หยิ่งในชุดคลุมยาวไล่ระดับสีดำขาว รวบผมสูง คาดด้วยมงกุฎสีทองที่ดูน่าเกรงขาม แล้วปล่อยผมยาวลู่ลงมา มีใบหน้าเฉกเช่นกับเทพเซียนแต่กลับทำให้รู้สึกได้ถึงความน่ายำเกรงที่ซ่อนอยู่

แต่ทว่า!

การก้าวเท้าของเขาดูเหมือนจะเป็นการค่อยๆเยื้องย่างไป แต่ความจริงนั้นกลับเป็นฝีก้าวที่รวดเร็วมาก

หลังจากที่เข้ามาแล้ว แวบแรกก็หันไปมองดูทั่วทั้งร่างเล็กๆของหลานเยาเยาอย่างละเอียดทันที

แม้จะรู้ว่านางไม่เป็นไร แต่หากเขาไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเองในใจก็ยังรู้สึกอดห่วงไม่ได้ เมื่อได้เห็นหลานเยาเยาปลอดภัยแล้วนั้น เขาก็เคลื่อนสายตาไปมองที่ร่างของฮ่องเต้

“ฮ่องเต้ พระชายาของข้าทำผิดเรื่องอะไร ถึงได้ทำให้ท่านต้องรีบร้อนจับไปขังไว้ในคุกเช่นนี้ ทั้งยังไม่อนุญาตให้นางโต้แย้งอีก”

เย่แจ๋หยิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ แต่กลับทำให้ฮ่องเต้หน้าซีดเผือด สีหน้าดูไม่ได้เอามากๆ ถ้อยคำเสียดสีที่ออกมาจากปากของเขา ทำให้ฮ่องเต้ดูตัวเล็กลงไปในทันที ทั้งยังทำให้ฮ่องเต้ไม่กล้าที่จะโต้แย้ง

บรรดาผู้ที่มาดูละครในตอนแรก หลังจากที่อ๋องเย่เข้ามา แต่ละคนก็ล้วนก้มหน้าลง ทำให้เหมือนกับตัวเองไม่ได้อยู่ตรงนั้น

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!

การเอาคืนของอ๋องเย่นั้น พวกเขาไม่สามารถรับมือได้แน่

“อ๋องเย่ ฮองเฮาโดนพระชายาเย่ทำร้าย จะให้โอกาสข้าได้ตัดสินแทนฮองเฮาไม่ได้เลยเชียวหรือ?”

แม้ว่าขณะอยู่ในที่ประชุมพระราชสำนักฮ่องเต้จะโดนอ๋องเย่ข่มจนรู้สึกอึดอัด แต่ตอนนี้ที่นี่มีพระสนมมากมาย เพื่อหน้าตาของเขา เขาจึงพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาศักดิ์ศรีหน้าตาของฮ่องเต้ไว้

แต่ทว่า!

รัศมีของเย่แจ๋หยิ่งนั้นดูแกร่งกร้าวมาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้พูดด้วยน้ำเสียงที่เปล่งออกมาไม่สุด

“โอ๋ว!”

เย่แจ๋หยิ่งยิ้มเยาะ จ้องมองไปที่ฮ่องเต้ เหมือนมองมดที่อ่อนแอตัวเล็กๆตัวหนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกที่เสียดแทงว่า:

“ตัดสิน! การตัดสินของฮ่องเต้คือการเปลี่ยนผิดให้เป็นถูกเปลี่ยนถูกให้เป็นผิดงั้นหรือ?”

“ไม่ ไม่ใช่ ข้าจะเปลี่ยนผิดให้เป็นถูกได้เช่นไรกัน? ข้าดูตามหลัก หลักฐาน” เมื่อฮ่องเต้พูดว่าหลักครั้งที่สอง เห็นได้ชัดว่าพูดด้วยความไม่หนักแน่น

“เหอะ! หลักฐาน?”

เย่แจ๋หยิ่งเหน็บแนมแล้วเคลื่อนสายตาไปมองยังหลักฐานเหล่านั้น ในสายตาที่สุดจะเย็นชาของเขา สาวใช้ในวังและแม่นมที่เข้ามาเป็นพยานเมื่อกี้นั้น ในขณะนี้ก็กำลังหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว

จากนั้นก็เดินมาด้านหน้าของมีดสั้นบอกว่าเป็นหลักฐาน สายตาที่เย็นชาสุดแสนน่ากลัว!

“วันนี้ข้าจะทำให้ฮ่องเต้รับรู้อะไรที่เรียกว่า ‘อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ’”

เมื่อเสียงนี้โพล่งออกไป!

เขาเดินอย่างเชื่องช้ามาข้างๆของหลานเยาเยา พูดอย่างอ่อนโยนว่า : “ความบริสุทธิ์ของตัวเองก็ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง”

อย่ามองว่าภายนอกของหลานเยาเยานั้นดูอ่อนแอจนรังแกได้ แต่จริงๆแล้วเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งดุดันมากเลยทีเดียว นางต้องการยืนอยู่ด้านหน้าผู้อื่น มิใช่ยืนอยู่ด้านหลังผู้อื่น

เขาเพียงแค่ป้องกันนางจากลมฝน คุ้มกันนางไว้ก็พอ!

คนของเขา เขาทะนุถนอมเอง!

หลานเยาเยามองเขาอย่างเลื่อนลอย ดั่งมีความอบอุ่นไหลแทรกซึมเข้าไปในก้นบึ้งของหัวใจ ไม่เพียงเท่านั้นแต่ยังทำให้นางมีรอยยิ้มผุดออกมาจากเบื้องลึกของจิตใจแบบไม่ได้ตั้งตัวด้วย

นางมาถึงด้านหน้าของสาวใช้ในวัง แล้วกล่าวอย่างเบาๆว่า :

“เจ้าเป็นสาวใช้ในวังในตำหนักของไทเฮา ไม่จัดการงานในตำหนักของไทเฮาให้ดี ดูแลไทเฮา แต่กลับวิ่งออกมาด้านหลังตำหนัก แถมยังบังเอิญมาเห็นข้าพอดี

แล้วยังจะตามไปถึงตำหนักของฮองเฮาอีก ทั้งที่รู้เรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล แต่กลับเพิ่งจะมากล่าวหาพระชายาของข้าหลังจากเกิดเรื่องขึ้น เจตนาคืออะไร?”

คำพูดธรรมดาๆไม่กี่ประโยค ทำให้ทุกคนรู้สึกได้ว่ามีกับดักซ่อนอยู่

แต่เพื่อความอยู่รอด แม้ว่านางจะกลัวแค่ไหน เขาก็ยังต้องแย้งต่อด้วยความสงบนิ่งแต่หนักแน่น

“ข้าน้อยได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจึงได้ไปดูที่หลังตำหนัก ในตอนนั้นพระชายาเย่ท่านถือมีดสั้นอยู่ แล้วมุ่งตรงไปยังตำหนักของฮองเฮา นอกจากท่าน ยังจะมีผู้อื่นที่คิดจะลอบทำร้ายฮองเฮาอีกหรือเจ้าคะ?”

เมื่อได้ฟังคำแก้ตัวของนาง

หลานเยาเยาก็หัวเราะออกมาเบาๆ ยิ่งหัวเราะก็ยิ่งทำให้สาวใช้ในวังรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่ไม่เป็นสุข

“ท่านหัวเราะอะไรเจ้าคะ?”

“เห็นท่าทีของเจ้า ก็น่าจะเข้าวังมาเป็นสาวใช้ในวังหลายปีแล้ว เจ้าจะไม่รู้เลยเชียวหรือว่าการเข้ามาในพระราชวังไม่อนุญาตให้พกอาวุธเข้ามา?

ถ้าหากเจ้าจะบอกว่าข้าซ่อนไว้ เจ้าก็ดูสิว่า วันนี้ชุดนี้ที่ข้าใส่เข้ามาในพระราชวังสามารถซ่อนอะไรไว้ตรงไหนได้บ้าง?”

ชุดที่นางใส่ในวันนี้เป็นชุดรัดรูป และก็ไม่ได้ซับซ้อน หากจะบอกว่าซ่อนสิ่งของที่เล็กมากๆ ก็ยังสามารถแถไปได้ แต่ถ้าจะให้ซ่อนมีดสั้นนั้นยังไงก็เป็นไปไม่ได้แน่นอน

ในตอนนี้ ทุกคนล้วนส่งเสียงอื้ออึงไปหมด!

แม้แต่ฮ่องเต้ก็ตะลึงงันไปด้วย

ฮองเฮาบ้าที่ไม่สามารถออกหน้าได้นั่น จะทำอะไรก็ไม่คิดให้รอบคอบซะหน่อย ตอนนี้จะให้เขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงนั้นยังอยู่ข้างหลัง

หลานเยาเยาดึงปิ่นทองที่อยู่บนหัวของสาวใช้ในวังออกมา ยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน

“ปิ่นทองอันนี้ทำอย่างประณีต คุณภาพดีมาก ทั้งยังประดับด้วยมุขราคาแพง ในวังหลังแห่งนี้ ก็มีเพียงแค่ฮองเฮาและไทเฮาเท่านั้นที่จะสามารถใช้ปิ่นอันนี้ได้

ขอถามสาวใช้ในวังเล็กๆอย่างเจ้า จะมีปัญญามีได้เช่นไร?”

เหล่าพระสนมทั้งหลายยังไม่มีปิ่นทองใช้ แต่สาวใช้ในวังกลับมีประดับไว้บนหัว แบบนี้จะไม่ให้คนอื่นคิดไปไกลได้เช่นไร?

หากสถานการณ์ปกติ

แม้ว่าไทเฮาและฮองเฮาจะมอบของรางวัลให้แก่สาวใช้ในวัง ปกติก็ไม่ได้ให้ของที่มีค่าสูงมากมายเพียงนี้ให้

ดังนั้นในขณะนี้ สีหน้าของสาวใช้ในวังเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเขียว ตัวอ่อนทรุดกองอยู่ที่พื้นทันที

เมื่อเห็นดังนั้น!

หลานเยาเยาส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมาเบาๆกับตัวเอง และไม่ได้พูดอะไรมาก แต่กลับเดินไปอีกทางไปอยู่ด้านหน้าแม่นมที่กล่าวหานาง

“เจ้าบอกว่าเห็นกับตาว่าข้าใช้มีดสั้นทำร้ายฮองเฮา นี่ยังไม่ต้องพูดถึง มีดสั้นไม่ใช่ของข้า อีกทั้งแรงจูงใจที่ทำให้ข้าฆ่าคน ข้าเพียงจะถามเจ้า ข้าทำร้ายฮองเฮาเช่นไร?”

หากเห็นกับตาจริงๆ งั้นก็จะต้องรู้ว่าทำร้ายเช่นไร

แม่นมผู้นั้นไม่คิดว่าหลานเยาเยาจะถามคำถามเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะดึงสติกลับมา

รีบรวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า : “พระชายา

แน่นอนว่าต้องใช้มือขวาแทงฮองเฮาเจ้าค่ะ”

คนปกติล้วนใช้มือขวากันทั้งนั้น นางไม่เคยได้ยินว่าหลานเยาเยาเป็นคนถนัดซ้าย ดังนั้นจึงตอบว่าใช้มือขวาอย่างแน่นอน

แต่ว่า!

หลังจากพูดจบ

แม่นมก็เห็นหลานเยาเยามองนางเฉกเช่นมองคนโง่ก็ไม่ปาน ทำให้นางขาดความเชื่อมั่นขึ้นมากะทันหัน

นางจะพูดผิดไปแล้วนี่?

หรือว่าหลานเยาเยาเป็นคนถนัดซ้าย?

ต่อจากนั้น หลานเยาเยากลับรูดแขนเสื้อของตัวเองขึ้น แขนที่ถูกห่อผ้าไว้ยังปรากฏรอยเลือดที่แห้งไปแล้ว

ดูก็รู้ว่าไม่ได้เป็นแผลที่เพิ่งจะเกิดขึ้น……

ดังนั้น!

แม่นมกล่าวความเท็จ

เวลานี้ หลานเยาเยายกมือขึ้นตบที่ไหล่ของแม่นมเบาๆ ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า :

“คิดไม่ถึงล่ะสิ! ข้าไม่ใช้คนถนัดซ้าย แต่ได้รับบาดเจ็บ บาดแผลนี้ได้มาจากการโดนลอบฆ่าบนถนนเมื่อวานตอนกลางคืน

นอกจากอ๋องเย่แล้ว ยังมีเซียวซื่อจื่อของจวนเจ้าพระยาซื่อสัตญื และก็คุณหนูของจวนแม่ทัพหลานจิ่นเอ๋อ รวมถึงทุกคนในที่ว่าการก็ล้วนรู้เรื่องนี้

ต่อจากนี้ก่อนจะใส่ร้ายข้า ขอให้ตรวจสอบกระทำของข้าทุกย่างก้าว ไม่เช่นนั้นก็เหมือนยกก้อนหินมาทุบเท้าตัวเอง”

มีคนมาเป็นพยานมากมายขนาดนี้

เป็นไปไม่ได้ที่การได้รับบาดเจ็บจะเป็นเรื่องเท็จ ดังนั้น แม่นมจึงรู้ว่าชีวิตของตัวเองไม่ปลอดภัยแล้ว

นางอยู่ในวังมาหลายสิบปี จงรักภักดีต่อฮองเฮามาตลอด เรื่องที่ชั่วร้ายนางก็ทำมาไม่น้อย แต่ก็ไม่เคยทำพลาดมาก่อน กลับคิดไม่ถึงว่า……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท