หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 328 ความทรงจำในทะเลดอกไม้

บทที่ 328 ความทรงจำในทะเลดอกไม้

บทที่ 328 ความทรงจำในทะเลดอกไม้

สติของหลานเยาเยาค่อยๆ เลือนรางก่อนที่จะสลบไป

นางรับรู้ถึงหนอนพิษกู่จิ้นที่ปีนออกมาจากดอกกระดูกขาว แล้วค่อยๆฝังตัวเข้าไปในร่างกายของนาง……

จนไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว

ในหูก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำอันเจ็บปวด แล้วโศกเศร้าดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นก็มีพลังภายในอันแข็งแกร่งก็พุ่งเข้าสู่ร่างกายของนางอย่างกะทันหัน จนทำให้ความเจ็บปวดของนางลดลงไปไม่น้อย

ทันทีที่ลืมตาขึ้น……

สิ่งที่ได้เห็นก็คือเย่แจ๋หยิ่งที่ดวงตาแดงก่ำฉายแววเจ็บปวด และท่าทางที่ดูทรมานรวดร้าว

เป็นเขาได้อย่างไร?

เมื่อเห็นนางฟื้นขึ้นมา เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างรุนแรง แล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดแน่น ราวกับกอดสมบัติล้ำค่าที่หายไป

“เยาเยา เยาเยาๆ……”

หลานเยาเยาที่อ่อนแรงจนไร้กำลังจะพูดจึงทำได้เพียงปล่อยให้โอบกอด แต่ความโกรธและความเกลียดชังที่อยู่ในใจได้กลายเป็นสายตาที่จ้องมองเขาด้วยความรังเกียจ

จากนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งก็ปล่อยนาง พอมองเห็นความเกลียดชังในแววตาของนาง เขาก็ไม่ได้พูดกล่าวสิ่งใด เพียงแต่ถ่ายพลังภายในให้กับนางต่อไป

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็อุ้มนางขึ้น ค่อยๆก้าวทีละก้าวๆเดินไปยังตรงกลางของทะเลดอกไม้ ซึ่งทุกฝีก้าวนั้นทั้งลำบาก และเชื่องช้าอย่างมาก

นางมองเย่แจ๋หยิ่งที่คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันขึ้นเรื่อย และเลือดตรงมุมปากที่แห้งไปแล้ว กลับไหลออกมาอีกครั้ง

จนหลานเยาเยารู้สึกถึงหนอนพิษกู่จิ้นที่ฝังตัวเข้าไปในร่างของเขาอย่างไม่หยุด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมหยุดก้าวต่อไป

เขาบ้าไปแล้วหรือยังไง?

เขาต้องการทำสิ่งใดกันแน่?

ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยากที่จะฆ่านางอย่างไม่เหลือที่ให้ ตอนนี้กลับดื้อรั้นที่จะช่วยนาง เขาอยากทรมานนางงั้นหรือ?

หลังจากเดินมาได้สักพัก หลานเยาเยาก็มองเห็นหนอนพิษกู่จิ้นในผิวหนังของเย่แจ๋หยิ่งที่กำลังขยับตัวไปมา ทั้งยังมีจำนวนมากอีกด้วย

แล้วใจกลางของทะเลดอกกระดูกขาวก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ……

นางราวกับเข้าใจแล้วว่าเย่แจ๋หยิ่งต้องการจะทำสิ่งใด

“หือ……”

“หือ……”

เสียงแหบต่ำ ที่เหมือนเสียงติดอยู่ในลำคอ ขึ้นก็ไม่ได้จะลงก็ไม่ได้ จึงทำได้เพียงร้องออกมาจากในลำคอเท่านั้น

เสียงนี้……

คนโดนมนต์ดำ ไม่ใช่แค่คนเดียวเสียด้วย

เย่แจ๋หยิ่งถึงกับนิ่งงัน

พอหันหลังกลับไปมองก็เห็นจื่อซีกับจื่อเฟิงที่โดนพิษกู่จิ้นเข้าสู่ร่างกายจนกลายเป็นคนโดนมนต์ดำไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ไม่ห่างจากเย่แจ๋หยิ่งและหลานเยาเยามากนัก อีกทั้งกำลังค่อยๆเดินใกล้พวกเขาเข้ามาทุกที

เย่แจ๋หยิ่งทำหน้านิ่ง ค่อยๆวางนางลงกับพื้น ก่อนจะก้มลงไปกระซิบข้างหูด้วยนาง

“ข้างหน้าก็คือใจกลางของทะเลดอก ยาต้นกำเนิดตัวสุดท้ายอยู่ในนั้น ส่วนข้าจะอยู่ตรงนี้สกัดพวกเขาเอาไว้เอง”

พูดไป เย่แจ๋หยิ่งก็ลุกขึ้น ค่อยๆเดินไปยังพวกจื่อเฟิงที่โดนมนต์ดำ

ในเวลานั้นเอง หลานเยาเยาก็ได้เห็นเสื้อผ้าของเย่แจ๋หยิ่งที่ยุ่งเหยิงไปหมด ร่างกายที่เปื้อนเต็มไปด้วยเลือด บาดแผลลึกหลายจุดบนร่างกาย ทั้งยังมีหนอนพิษกู่จำนวนมากอีก แล้วเมื่อสักครู่นี้ที่ใช้พลังภายในไปไม่น้อยในการรักษานางอีก ถึงเขาจะมีวรยุทธที่แก่กล้า พลังภายในที่ลึกล้ำ แต่จื่อซีกับจื่อเฟิงผู้ที่มีวรยุทธและพลังภายในชั้นสูง ตอนนี้ยังกลายเป็นคนโดนมนต์ดำอีก เช่นนั้นก็นับได้เลยว่าน่าเกรงกลัว

ยิ่งกว่านั้น!ในร่างกายของพวกเขาก็ไม่ได้มีหนอนพิษกู่จิ้นเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่เป็นเหมือนกับนาง ที่ภายในร่างกายมีอยู่จำนวนมาก

ดังนั้นพลังของพวกเขาจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นเท่าอย่างเลี่ยงไม่ได้

พวกเขาที่ไม่แม้แต่จะได้รับยาต้นกำเนิดเลยสักตัว ก็คงจะสูญเสียสติไปนานแล้ว

เย่แจ๋หยิ่งในเวลานี้จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้อย่างไร?

ทันใดนั้น หลานเยาเยาก็เห็นพวกเขาต่อสู้กัน

นางรู้ดีว่าต่อให้จะอ่อนแอเพียงใด นางก็ต้องลุกขึ้นมา ถึงแม้จะลุกไม่ไหวก็ตาม แม้จะต้องคลานก็จะต้องคลานไปให้ถึงใจกลางทะเลดอกไม้ เพื่อหายาต้นกำเนิดตัวสุดท้าย

มิฉะนั้นพวกเขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่

ด้วยความเจ็บปวดบริเวณท้อง และความเจ็บปวดจากหนอนพิษกู่จิ้นจำนวนนับไม่ถ้วน ทำให้หลานเยาเยาก้าวไปอย่างโซซัดโซเซ ทุกๆก้าวนั้นแม้จะล้มลุกคลุกคลานก็ต้องยังคงเดินต่อไปยังใจกลางทะเลดอกไม้

ระหว่างทาง นางสะดุดล้มลงไปก็พยายามลุกขึ้นมาอีกครั้ง พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงไปอีก ……

จนในที่สุด นางก็แทบจะคลานเข้าไปในใจกลางทะเลดอกไม้ ไม่ว่าจะลำบากเพียงใด แต่พอหลังจากได้พบกับดอกกระดูกขาวสีขาว

สิ่งที่ทำลำบากมาก็เลือนหายไป!

แล้วดอกกระดูกขาวสีแดงฉานก็แกว่งไสวอย่างเห็นได้ชัดเจน

นี่ก็คือยาต้นกำเนิดตัวสุดท้าย——ดอกกระดูกขาวสีขาว

นางจึงรีบลุกขึ้นค่อยๆเก็บดอกกระดูกขาวสีขาวขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ในเวลานั้นเองนางถึงได้เห็นว่าทันที่นางหยิบดอกกระดูกขาวสีขาวขึ้นมา หนอนพิษกู่จิ้นที่ปีนออกมาจากดอกกระดูกขาวสีแดง ก็ไม่กล้าจะเข้าใกล้นางอีก

แล้วในเวลานั้น!

ตรงหน้าของนางก็ปรากฏร่างของใครบางคนขึ้นมา

เดิมคิดว่าเป็นเย่แจ๋หยิ่ง

แต่พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นหานแสที่ใกล้สูญเสียสติไป

เขายังไม่ตาย

แต่ว่า หนอนพิษกู่จิ้นจำนวนมากชอนไชไปตามร่างของเขา

นี่เขาก็กลายเป็นคนโดนมนต์ดำไปแล้วหรือ?

เช่นนั้นก็ยุ่งยากแล้ว

หานแสเป็นเจ้าของเรือแห่งความสิ้นหวัง วรยุทธและพลังภายในต้องสูงกว่าจื่อเฟิงอยู่แล้ว แต่เย่แจ๋หยิ่งในตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังภายในถดถอยลงไปมาก แค่จัดการกับจื่อซีและจื่อเฟิงก็กินแรงไปไม่น้อยแล้ว ถ้าเกิดมีหานแสมาด้วยอีกคน วันนี้เตรียมตัวตายได้เลย

โชคดี ที่นางสังเกตเห็นแววตาของหานแสที่ยังพอมีความบริสุทธิ์อยู่เล็กน้อย เช่นนั้นแสดงว่าสติของเขายังพอมีเหลืออยู่ เพราะเขาเคยได้รับยาต้นกำเนิดแล้วตัวหนึ่ง ถึงจะไม่เหมือนกับนางและเย่แจ๋หยิ่งที่ได้รับยาต้นกำเนิดไปสองตัวแล้ว แต่เขาก็ยังดีกว่าจื่อซีและจื่อเฟิง ที่อย่างน้อยก็ยังไม่ได้กลายเป็นคนโดนมนต์ดำอย่างเต็มตัว

แต่ว่า……

หานแสไม่พูดไม่กล่าวสิ่งใด ก็พุ่งมายังตัวนาง

ยังโชคดีที่สายตาและการเคลื่อนไหวของนางว่องไว ถึงจะทำให้แผลของตัวเองฉีกขึ้นมา แต่ก็สามารถหลบการโจมตีจากหานแสได้

อาการของหานแสในเวลานี้ไม่ได้ดีขึ้นมากนักหรอก

จากก่อนหน้านี้ที่ถูกการดจมตีจากราชครูแห่งราชวงศ์เก่าทำร้ายเข้า นางก็คิดว่าเขาจะตายไปแล้ว แต่สามารถอดทนมาจนถึงตอนนี้ได้ เขาคงจะเป็นเหมือนกับเย่แจ๋หยิ่ง ที่มีความมุ่งมั่นอันน่าทึ่งอย่างนั้น

“เอา……มันมา……ให้ข้า”

หานแสจดจ้องไปยังดอกกระดูกขาวสีขาวในมือของหานแส

“เจ้าเอามันไปก็ไร้ประโยชน์ ยาถอนพิษมีข้าเท่านั้นที่สามารถทำออกมาได้”

หลานเยาเยาชี้ไปทางฝั่งเย่แจ๋หยิ่ง ถึงเพิ่งได้เห็นว่าเย่แจ๋หยิ่งได้รับบาดเจ็บจนอ่อนล้า ราวกับว่าไม่สามารถที่จะยืนหยัดได้อีกต่อไปแล้ว

“ไปช่วยเขา มิฉะนั้นทุกคนจะตายกันหมด!”

หานแสที่ใบหน้ามีเส้นเลือดสีดำผุดขึ้นมาเต็มไปหมด จ้องมอไปยังทางที่นางชี้มือไป

หลังจากที่เห็นเย่แจ๋หยิ่ง เขากลับไม่ขยับใดๆ

เมื่อเห็นหานแสไม่ลงมือเสียที หลานเยาเยาจึงเก็บดอกกระดูกขาวสีขาวเข้าไปในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ก่อนจะลุกขึ้น เดินไปยังทางของเย่แจ๋หยิ่งอย่างช้าๆ พร้อมกับหยิบกริชอาวุธคู่กายออกมา

ส่วนมืออีกข้างก็โบกไปมา

แล้วด้ายสีเงินบางๆยาวๆก็ลอยไปยังฝั่งจื่อเฟิง เพราะจื่อเฟิงกำลังจะเข้าไปโจมตีด้านหลังของเย่แจ๋หยิ่งที่ตอนนี้กำลังต่อสู้กับจื่อซีอยู่

ถ้าเกิดเขาถึงตัวเย่แจ๋หยิ่ง

ก็คาดได้เลยว่าเย่แจ๋หยิ่งต้องถูกควักหัวใจออกมาจากด้านหลังเป็นแน่

หลังจากที่ด้ายเงินพันตัวจื่อเฟิงเอาไว้ ถึงมันจะสามารถหยุดจื่อเฟิงผู้โดนมนต์ไม่ให้ทำร้ายเย่แจ๋หยิ่งได้ แต่นางกลับถูกพลังอันแข็งเขาสะบัดจนกระเด็นออกไปไกล

“ปัง……”

หลังจากกระแทกลงพื้นอย่างหนัก หลานเยาเยาก็ทำการจัดอวัยวะทั้งหมดให้เข้าที่เข้าทาง ถึงอย่างนั้นแผลตรงท้องก็ยิ่งแย่ลง ถ้าหากเจ็บปวดหนักกว่านี้ นางก็คงจะหมดสติไปแล้วแน่

หลังจากพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง จื่อเฟิงก็ได้มุ่งหน้าตรงมายังนางแล้ว ความเร็วของเขานั้นว่องไวมาก เพียงครู่เดียวก็มาถึงตรงหน้าของนาง แม้แต่เวลาที่จะให้นางหยิบระเบิดออกมาก็ยังไม่มี ต่อให้สามารถหยิบระเบิดออกมาได้ ก็คงจะไร้ประโยชน์ เพราะว่าจื่อเฟิงนั้นอยู่ใกล้กับนางเกินไป หากปล่อยระเบิดนางเองก็ต้องตายเช่นกันอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อดูกรงเล็กอันแหลมคมของจื่อเฟิงที่กำลังฟาดมายังท้องของนางแล้ว ถ้าเกิดฟาดโดนตัวนางจริงๆ ร่างของนางต้องขาดเป็นสงท่อนแน่

ช่วยไม่ได้แล้ว!

นางทำได้เพียงเดินก้าวถอยหลัง แต่ในที่สุดเย่แจ๋หยิ่งก็พุ่งเข้ามา บังตัวนางเอาไว้

“เย่ เย่แจ๋หยิ่ง…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท