หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 349 นางต้องการสิ่งใดก็ให้สิ่งนั้น

บทที่ 349 นางต้องการสิ่งใดก็ให้สิ่งนั้น

บทที่ 349 นางต้องการสิ่งใดก็ให้สิ่งนั้น

เซียวจิ่นหยูขยับแขนเล็กน้อย ทำให้แขนเสื้อสั่นสองสามครั้ง “อะแฮ่ม ต้องการเท่าไร”

หลานเยาเยาจ้องมองอย่างุนงงไปชั่วขณะ

ได้หันไปมองร่างกายของยู่หลิวซูอย่างไม่น่าเชื่อ และพบว่ายู่หลิวซูก็ประหลาดใจเช่นกัน

ก็ได้เทียบกับนิ้วทั้งห้าของเซียวจิ่นหยูอย่างครึ่งเชื่อครึ่งสงสัย

“จำนวนเท่านี้หรือ”

เซียวจิ่นหยูพยักหน้า แล้วขอให้คนไปนำเงินมา

เมื่อหลานเยาเยารับตั๋วเงินจำนวนห้าปึกมาไว้ในฝ่ามือ มุมปากของนางก็กระตุก

นางต้องการเพียงห้าสิบตำลึงเงินเท่านั้น

ไม่นึกเลยว่าเซียวจิ่นหยู จะมอบตั๋วเงินจำนวนห้าปึกใหญ่มา และทั้งหมดล้วนเป็นชนิดใบละห้าร้อยตำลึง

สวรรค์!

ควนมีเงินนี้ที่แท้ใจกว้างยิ่งนัก!

หลังจากได้รับเงินสดแล้ว

ทั้งสามคนก็ได้นั่งหันหน้าเข้าหากัน มุมปากของยู่หลิวซูก็กระตุกเล็กน้อยตั้งแต่เมื่อกี้นี้จนถึงตอนนี้ แม้ว่าสีหน้าของเซียวจิ่นหยูจะสงบปกติ แต่ก็ไม่ยากที่จะดูออก ว่าเขาดูเหมือนจะภูมิใจที่ได้มอบตั๋วเงินให้

และการยิ้มเยาะของหลานเยาเยาก่อนหน้านี้ จนถึงตอนนี้ก็ยิ้มอย่างใสซื่อ ท่าทีได้มีการเปลี่ยนไปอย่างมาก

ตอนนี้เป็นเวลาของการเจรจาเรื่องทางการ

“เรื่องระหว่างหลินเฟยหรัน ฉินหลิงเจียวและยู่หลิวซู พวกเจ้าสองคนใครจะเป็นผู้มาจัดการร่วมกับข้า”

ทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของ ยู่หลิวซูก็เปลี่ยนไป ดูเหมือนจะตกใจ ไม่ได้พูดอะไรสักคำ และในที่สุดก็มองไปยังเซียวจิ่นหยู

เซียวจิ่นหยูไม่ได้มองไปที่เขา และพูดกับหลานเยาเยา

“คำสารภาพของหลินเฟยหรัน นางคิดว่าทั้งหมดนั่นเป็นเรื่องจริง แต่แท้จริงแล้ว กลับมีครึ่งหนึ่งไม่เป็นความจริง”

“เอ๊ะ”

นักฆ่าในชุดดำเป็นผู้ไปลอบสังหารองค์ชายสี่ในคืนนั้น ถูกจับได้และถูกข่มขู่จนตกตะลึง จึงได้สารภาพว่าเป็นหลินเฟยหรัน และหลินเฟยหรัน ก็ถูกจับได้เพียงชั่วข้ามคืน และยอมรับในเรื่องการฆ่าคนและการวางยาพิษ

ยังไม่ทันข้ามวัน!

เซียวจิ่นหยูก็ได้รับรู้เนื้อหาของคำสารภาพแล้ว

รู้ดีว่านางจะมา และยังได้ทำการหยั่งท่าที

นี่……

พูดได้เพียงว่า “เจ้านี่ยุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่งจริง ๆ”

เซียวจิ่นหยู ยิ้ม แสดงท่าทียอมรับโดยปริยาย และพูดต่อไป

“หลินเฟยหรันมาตึกฟังงิ้วบ่อยครั้ง และก็มีความรักให้กับยู่หลิวซูจริง ทั้งสองคนได้แอบติดต่อกัน ไม่ได้มีการทำอะไรเกินเลย

แต่!

เรื่องจะแปลกก็แปลกตรงที่ หลินเฟยหรันคิดมาตลอดว่ายู่หลิวซูมีความรู้สึกลึกซึ้งกับนาง ความรู้สึกรักของนางที่มีต่อยู่หลิวซูก็เข้าสู่สภาวะที่บ้าคลั่ง

ไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาทั้งสองคนได้ไปพายเรือที่ทะเลสาบ แต่ได้ถูกฉินหลิงเจียวพบเข้า ฉินหลิงเจียวทำให้พวกเขาตกใจอับอายจนแทบบ้าคลั่ง

แต่ในวันรุ่งขึ้น เมื่อฉินหลิงเจียวมาตึกฟังงิ้ว ท่าทีของนางกลับเปลี่ยนไปอย่างมาก นางก็เริ่มจะคลั่งไคล้ยู่หลิวซูอย่างบ้าคลั่ง

แต่หลังจากนั้น หลินเฟยหรันก็บังเอิญได้พบกับคำพูดที่ไม่มีมูลความจริงว่ายู่หลิวซูและฉินหลิงเจียวได้แอบมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง แต่สิ่งที่ทำให้แปลกใจกว่านั้นคือ พวกนางทั้งสองเชื่อว่ามันเป็นความจริง

แม้ในงานวัดวันนั้น ฉินหลิงเจียวและหลินเฟยหรันก็ต่างเชิญยู่หลิวซูไปงานวัดอย่างต่อเนื่อง แต่ยู่หลิวซูไม่ได้ไป ยังคงร้องเพลงอยู่ที่ตึกฟังงิ้วตลอดทั้งวัน พวกเจ้าหน้าที่ศาลสามารถเป็นพยานได้”

หลังจากเซียวจิ่นหยูพูดจบ

ยู่หลิวซูถอนหายใจอย่างเบาๆด้วยความโล่งอก

แม้ว่าเขาจะมีรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา มีผู้หญิงหลายคนล้วนแต่แสดงความรักต่อเขา แต่เขาก็ไม่เคยคลั่งไคล้หลินเฟยหรันและฉินหลิงเจียวเลย

ถ้าไม่ใช่เพื่อตึกฟังงิ้ว เขาไม่น่าจะมีหนทางติดต่อกับพวกนางได้!

หลานเยาเยาได้ฟังดังนั้นจนจบ ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“ร้องเพลงทั้งวันเลยหรือ”

“ใช่แน่นอน แม้ว่าคืนนั้นจะเป็นงานวัดที่ใหญ่โต คนส่วนมากก็ไปเที่ยวงานวัดกันหมด แต่ก็ยังมีคนส่วนน้อยที่ไม่ได้ไป

แน่นอน!

ในงานวัดทุกปีเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดสำหรับกิจการของตึกฟังงิ้ว แต่ไม่มีคนเลยมีแต่คนเดียว วันนั้นคนที่มาฟังการแสดง ล้วนแต่เป็นลูกค้าประจำ

มีทั้งเจ้าหน้าที่ศาลและขุนนาง และคนทั่วไปก็มี

ด้วยมีพยานเหล่านี้ ยู่หลิวซูจึงยังไม่ถูกจับกุมในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด”

หลานเยาเยาไม่ได้พูดอะไร

มือข้างหนึ่งถือน้ำชาเอาไว้ มืออีกข้างหนึ่งวางไว้บนโต๊ะเตี้ย เคาะไปบ้างเป็นครั้งๆ ราวกับว่ากำลังคิดถึงปัญหาอยู่

หลังจากนั้นไม่นาน!

หลานเยาเยาก็ลุกขึ้นยืนและพูดเบาๆ “แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ แต่ยู่หลิวซูก็ยังต้องเดินทางไปกับข้า”

“เซียวซื่อจื่อ ข้าบอกไปแล้ว นางไม่มีทางเชื่อ เจ้าดูสิ จริงไหม”

เห็นได้ชัดว่ายู่หลิวซูไม่ได้มีความหวังมากนัก

หลังจากได้ยินคำพูดของนาง ทันใดนั้นก็หมดความหวังโดยสิ้นเชิง

เซียวจิ่นหยูไม่ได้พูดอะไร แต่ก็มองไปทางหลานเยาเยา

จุ๊ จุ๊!

ไปด้วยคงไม่ใช่จับตัวเขาใช่ไหม

คนคนนี้มีปัญหาเรื่องการทำความเข้าใจหรือเปล่า

หลานเยาเยาส่งเสียงเบาๆ “หรือว่าเจ้าไม่อยากรู้ความจริงของเรื่องนี้หรอกหรือ”

ในเวลานี้

ยู่หลิวซู ถึงกับผงะ อดไม่ได้ที่จะมองไปที่นาง พร้อมกับสายตาที่เริ่มมีการพิจารณาเหตุปัจจัยต่างๆมากขึ้น

หลานเยาเยาพูดต่อ

“รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ผู้ชายร่างใหญ่แต่งตัวแบบนี้ มันตุ้งติ้งเกินไป ข้าไปรอเจ้าข้างนอกนะ”

พูดจบหลานเยาเยาก็ออกไป

ยู่หลิวซูที่เหลืออยู่ มองไปยังเซียวจิ่นหยู และถามอย่างสงสัย

“เซียวซื่อจื่อ เจ้าทำอะไรลงไปถึงได้ให้ตั๋วเงินกับนางมากขนาดนั้น ติดสินบนหรือ”

เซียวซื่อจื่อ เป็นคนนิ่งเงียบมาโดยตลอด เป็นไปไม่ได้ที่สมองของเขาจะร้อนรุ่มเอาตอนนี้ แล้วจะให้ตั๋วเงินปึกใหญ่ขนาดนั้นออกไป!

ใครจะรู้ศีรษะกลับถูกเคาะไปหนึ่งครั้ง

“วันนี้เจ้าพยายามจะโวยวายอะไรออกไป ไม่เพียงแต่ต้องการสืบหาความจริงจากเทพธิดาหรือ ยังไม่รีบเปลี่ยนชุดอีก”

ยู่หลิวซูรู้สึกเจ็บปวดส่งเสียงร้อง “โอ้” จับหัวแล้วจากไป

เซียวจิ่นหยูดื่มชาอย่างเงียบๆ และมุมปากของเขาก็ยกเล็กน้อย ดูเหมือนจะตอบคำถามของยู่หลิวซู

พระคุณของการช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นางต้องการสิ่งใดจึงต้องทำสิ่งนั้น

——

ที่พำนักอันโอ่อ่างดงาม ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา

มีสิงโตหินขนาดใหญ่สองตัวอยู่ทางด้านซ้ายและขวา เหนือบันไดห้าหกขั้น เป็นประตูเคลือบเงาสองบาน เหนือประตูมีหงส์เต้นรำมังกรบินพร้อมอักษรขนาดใหญ่——ศาลต้าหลี่

หลานเยาเยาเดินอยู่ด้านหน้า ด้านหลังมียู่หลิวซูที่แต่งตัวเป็นผู้คุ้มกันเดินตาม

ตรงประตูทางเข้าของศาลต้าหลี่มีองครักษ์เฝ้าประตูยืนอยู่สี่คน และยังมีขุนนางในชุดขุนนางอยู่คนหนึ่ง

รู้สึกคุ้นตาเล็กน้อย

ถ้านางเดาไม่ผิดละก็ ขุนนางผู้นี้ก็คือส้าวชิงจากศาลต้าหลี่

เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังมา ส้าวชิงจากศาลต้าหลี่จึงรีบประสานมือทักทาย “คารวะเทพธิดา”

“อืม องค์ชายรัชทายาทล่ะ”

จะว่าไปก็มาศาลต้าหลี่ตอนบ่ายแล้ว

เหตุใดจึงไม่เห็นเขา”

“ฮ่องเต้มีรับสั่ง ให้องค์ชายรัชทายาทไปห้องจัดเตรียมภัตตาหาร เพิ่งจะถูกเรียกไปเมื่อกี้นี้”

ในเวลานี้ ส้าวชิงจากศาลต้าหลี่มองไปยังองครักษ์ที่อยู่ด้านหลังของหลานเยาเยา เมื่อเห็นว่านางไม่มีท่าทีใดๆ จึงมองซ้ายมองขวา และกระซิบว่า

“ได้ยินมาว่า วันนี้องค์ชายรัชทายาทได้บุกเข้าไปในคุกของกรมอาญา และจับตัวนักโทษประหารหลินเฟยหรันออกไป

สิงปู้ช่างชูจึงรีบไปพบจักรพรรดิทันทีหลังจากเกิดเรื่อง ตอนนี้องค์ชายรัชทายาทจึงถูกนำตัวไปแล้ว น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”

หลังจากฟังดังนั้น

หลานเยาเยาเหลือบมองไปยังส้าวชิงจากศาลต้าหลี่ และเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของเขา และกล่าวว่า “ใต้เท้าส้าวชิง ตอนนี้พาข้าไปพบฮ่องเต้ได้หรือไม่”

ส้าวชิงจากศาลต้าหลี่ถึงกับผงะไปชั่วครู่ จากนั้นจึงตอบสนองทันที เดิมทีเขาคิดจะไปจัดการกับคดีอื่น และเปลี่ยนคำพูดทันที “ได้!”

“ถ้าอย่างนั้นโปรดนำความนี้ของข้าไปแจ้งกับฮ่องเต้ เพียงแค่บอกว่า ข้ามีเรื่องสำคัญต้องการจะปรึกษากับองค์รัชทายาท และจะไปเข้าเฝ้าในวัง เพื่อหารือเกี่ยวกับยาวิเศษของการมีอายุยืนนาน”

เมื่อเทียบกับการลงโทษเย่หลีเฉิน

คิดว่าฮ๋องเต้คงจะชอบฟังสิ่งนี้แน่!

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท