หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 418 ลูกผู้ดีมีเงินไม่ทำการทำงาน

บทที่ 418 ลูกผู้ดีมีเงินไม่ทำการทำงาน

บทที่ 418 ลูกผู้ดีมีเงินไม่ทำการทำงาน

ในห้องโถงใหญ่

เจ้าพระยาเซียวที่วันๆเอาแต่อยู่ในห้อง หาได้ยากที่วันนี้จะตื่นเช้าได้ เมื่อถึงเวลาอาหารเช้า ก็ไปรออยู่ในห้องโถงก่อนตั้งนานแล้ว

หลานเยาเยามาถึงห้องโถงพร้อมกับเซียวจิ่นหยู เมื่อเห็นเจ้าพระยาเซียวที่นั่งตัวตรงเป็นทางการ สีหน้าเคร่งขรึม หลานเยาเยายกมุมปากขึ้น แล้ว

จากนั้นก็กอดกำปั้นทักทายไปทางเขา แสดงการทำความเคารพอย่างสุภาพ

โดยทั่วไปแล้ว

หลานเยาเยาเป็นถึงเทพธิดา ฮ่องเต้แต่ละประเทศยังยอมนางสามส่วน เป็นการดำรงอยู่อย่างหนึ่งที่นอกเหนือความคิดของผู้คน และตอนที่อยู่ประเทศก่วงส้า เห็นฮ่องเต้ยังไม่ทำคาราวะเลยด้วยซ้ำ ยังได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากฮ่องเต้ ตำแหน่งเท่าเทียมกับองค์หญิง

เจ้าพระยาเซียวควรจะทำคาราวะนางถึงจะถูก

แต่ในสายตาหลานเยาเยา เจ้าพระยาเซียวเป็นแม่ทัพที่ควรค่าแก่การเคารพนับถือ และยังเป็นผู้อาวุโส

ที่สำคัญคือ เห็นแล้วเจริญตา

สำหรับคนที่เห็นแล้วเจริญตา ไม่ว่าจะมีตำแหน่งฐานะแบบไหน นางก็จะปฏิบัติด้วยอย่างมีมารยาท อย่างไรเสียการทำความเคารพก็ไม่ทำให้เนื้อน้อยลงไปชิ้นหนึ่ง

เมื่อเซียวจิ่นหยูเห็นว่าท่านพ่อของตนเองก็อยู่ ในสายตาก็มีความประหลาดใจแวบขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

เขามองไปที่เทพธิดาที่อยู่ข้างกายครู่หนึ่ง ก็พอจะเดาได้แล้ว สาเหตุที่ท่านพ่ออยู่ที่นี่ ดังนั้น ยกมือคำนับ กล่าวว่า

“ท่านพ่อ ท่านมาแล้ว พอดีเลย เรามากินข้าวร่วมกัน”

ฟังจากน้ำเสียงของเซียวจิ่นหยู และความประหลาดใจในแววตาของเขา

ดูเหมือนเจ้าพระยาเซียวจะไม่ได้กินข้าวร่วมกับเซียวจิ่นหยูบ่อยๆ วันนี้จู่ๆก็ตื่นแต่เช้า แถมยังเจตนารออยู่ที่นี่อีก

ดูท่าทาง……คงเป็นห่วงลูกชายคนนี้ของเขา!

เหมือนกลัวว่านางจะนำพาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาไปในที่ไม่ดี ดังนั้นเลยคิดจะหยั่งเชิงเจตนาในใจของเทพธิดาอย่างนางแทนลูกชายของเขา

คิดแล้วก็ถูก

อย่างไรเสียนางคือเทพธิดา ใช้คำขวัญว่าเป็นการขอพรให้ประชาชน เล่นกับแผนชิงอำนาจในประเทศต่างๆ และทุกที่ที่นางไปถึง ราชสำนักของประเทศนั้นก็จะต้องมีบรรยากาศการนองเลือดเกิดขึ้นทั้งนั้น

และนางกับจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ของพวกเขาก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกัน กับเซียวจิ่นหยูไม่ได้ไปมาหาสู่กัน จู่ๆเมื่อคืนก็มาเยี่ยมถึงบ้านกะทันหัน ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร

เจ้าพระยาเซียวก็สมควรจะมีความกังวลใจเล็กน้อยอยู่แล้ว!

เขากลัวว่าความผันผวนไม่แน่นอนของราชสำนักจะส่งผลกระทบผัวพันมาถึงจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ของพวกเขา

หลังจากที่เจ้าพระยาเซียวตอบรับคำทักทายอย่างสุภาพแล้ว พวกเขาสามคนก็นั่งลงไปยังที่นั่ง ถึงแม้จะนั่งกินข้าวด้วยกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่กินข้าวกับเจ้าพระยาเซียวที่หัวโบราณเช่นนี้ หลานเยาเยารู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย

ถึงอย่างไร!

เจ้าพระยาเซียวก็ไม่เหมือนกับตาเฒ่าเย่นและบรรดาตาเฒ่าหนังเหนียวพวกนั้น ที่นางจะทำอย่างไรก็ได้ และยิ่งไม่เหมือนกับคนที่เสแสร้งไม่จริงใจพวกนั้น ที่นางแค่ต้องมาอย่างลึกล้ำอย่างไรก็คืนกลับไปอย่างนั้น

ตอนนี้……

เวลากินไม่พูดคุยเวลานอนไม่พูดคุยดีกว่า!

ดังนั้นช่วงเวลาที่กินข้าว หลานเยาเยาไม่พูดแม้แต่คำเดียว

ถึงแม้เวลากินข้าวจะไม่ได้มีมารยาทงามเหมือนกุลสตรีที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะ แต่ก็ไม่ได้จงใจแสดงอารมณ์ใดๆ ควรกินกิน ควรดื่มดื่ม ตรงจุดนี้ เจ้าพระยาเซียวพอใจอย่างมาก

เพียงแต่ตอนที่เห็นตาโตๆของเทพธิดามองไปที่น่องไก่ตัวโตๆที่อยู่กลางโต๊ะอาหารอันนั้นเป็นระยะๆ ในสายตาของเขากลับมีรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

จู่ๆก็รู้สึกว่าเทพธิดาคนนี้น่ารักเล็กน้อย!

หลานเยาเยาจนใจมาก!

นางคือนักกินโดยสมบูรณ์คนหนึ่ง เห็นอาหารเลิศรสอยู่ตรงหน้า กลับทำได้แค่มองไม่สามารถกินได้ ในใจรู้สึกเหมือนถูกแมวข่วน รู้สึกคันๆในใจเป็นพิเศษ

หลานเยาเยาจ้องไปที่น่องไก่นานมาก บอกตัวเองซ้ำๆอยู่ตลอดเวลา ที่นี่ไม่ใช่ตำหนักเทพธิดาของตน ต้องระวังคำพูดและการกระทำ

ดังนั้น!

นางแอบตัดสินใจเงียบๆ บีบบังคับให้สายตาของตัวเองมองไปทางอื่น

เพียงแต่เมื่อสายตามองออกไป เสียงของเจ้าพระยาเซียวก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง “เทพธิดาไม่ต้องเกรงใจ อยากกินอะไรก็กินเลย”

เอ่อ?

นางก็อยากนะ!

แต่น่องไก่อันนี้ใหญ่ไปหน่อย ตอนที่กินต้องใช้มือจับ เช่นนั้นมันจะไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่

“ได้!”

ถึงแม้จะตอบกลับอย่างดี แต่นางตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปคีบน่องไก่แล้ว

และในตอนนี้ ตะเกียบคู่หนึ่งคีบเอาไว้อย่างแม่นยำ น่องไก่ที่หลานเยาเยาเล็งเอาไว้ก่อนหน้านี้ ภายใต้สายตาของนาง น่องไก่ก็ถูกวางไว้ในถ้วยของนาง

และเจ้าของตะเกียบคู่นั้น ก็คือเซียวจิ่นหยูที่นั่งอยู่ข้างๆ เขายิ้มให้นางอย่างอ่อนโยน กล่าวด้วยเสียงถ่อมตน:

“กินเยอะๆหน่อย!”

“ขอบคุณมาก!”

หลานเยาเยารู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย นางจะกินดีไหม? หรือจะกินดี? หรือจะกินดี?

การกระทำเช่นนี้ของเซียวจิ่นหยู เจ้าพระยาเซียวกลับรู้สึกประหลาดใจมาก จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างสังเกตเห็นได้ยาก

หลังจากที่กินข้าวเสร็จกันแล้ว เจ้าพระยาเซียวก็หาข้ออ้าง คุยกับหลานเยาเยาตามลำพัง

ในห้องหนังสือ

หลานเยาเยาเม้มปากกลืนน้ำลายเบาๆ กล่าวถามอย่างตรงไปตรงมาว่า:

“เจ้าพระยาหาข้ามีธุระอันใดหรือ?”

รู้ว่านางเป็นคนฉลาด เจ้าพระยาเซียวก็ไม่พูดอ้อมค้อม

“ขอเทพธิดาโปรดอภัยด้วย จวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์เราไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องในราชสำนักมานานแล้ว เซียวจิ่นหยูก็ไม่มีใจที่จะก้าวหน้าในวิถีทางในการเป็นขุนนาง

ตระกูลเซียวของเรามีแค่สายเลือดเดียวที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน สืบทอดมาถึงรุ่นนี้ ก็มีแค่เซียวจิ่นหยูที่เป็นลูกชายคนเดียวเท่านั้น

ร่างกายข้าก็แย่ลงไปทุกวัน รู้ตัวว่าอยู่ได้อีกไม่กี่ปี ถึงแม้จะไม่มีอะไรให้เสียใจ แต่กลับหวังให้เซียวจิ่นหยูใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยชั่วชีวิต เช่นนั้นข้าก็พอใจแล้ว”

เขาไม่ได้พูดออกมาตรงๆว่าเป็นเรื่องอะไร แต่จากคำพูดนี้ของเขา หลานเยาเยาก็เข้าใจความหมายที่แท้จริงของเขา

ดังนั้น!

หลานเยาเยาจิบน้ำชาอีกครั้ง ริมฝีปากแดงที่มีคราบน้ำอยู่มีสีแวววาวดึงดูดน่าหลงใหลเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยปากกล่าวว่า:

“เจ้าพระยาเซียวคงจะเข้าใจอะไรผิดไปแล้ว เดิมทีเมื่อวานไม่ได้ตั้งใจจะรบกวน ทุกอย่างเป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้น เพราะเรื่องที่วิวาทะกับอ๋องเย่เมื่อหลายวันก่อนหน้านี้ร่ำลือกันไปทั่ว

ตาเฒ่าหนังเหนียวในตำหนักคนนั้น…….พ่อบ้านเลยคุมเข้มมาก เกรงว่าข้าจะไปก่อเรื่องอะไรข้างนอกอีก ดังนั้นจึงสั่งคนเพิ่มกำแพงให้สูงขึ้นอีกสามฟุต

แต่ว่า พอดีวันนี้มีเรื่องที่สำคัญมากต้องไปทำ เพื่อสามารถออกมาได้ เลยจำต้องหนีออกมากลางดึก ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับนักฆ่าที่เก่งกาจมากบนถนน และตอนนั้นเองก็บังเอิญพบกับเซียวซื่อจื่อพอดี

เซียวซื่อจือมีจิตใจที่มีคุณธรรม ช่วยข้าเอาไว้ ดังนั้นข้าถึงได้ปรากฏตัวที่นี่ได้”

ในเมื่อนางพูดไปตามความจริง เชื่อไม่เชื่อก็อยู่ที่เจ้าพระยาเซียวแล้ว

สำหรับคำอธิบายเช่นนี้ของนาง ดูท่าทางไม่ค่อยมีน้ำหนักเล็กน้อย และดูสายตาของนางก็ดูไม่เหมือนกำลังโกหกอีก เจ้าพระยาเซียวรู้สึกประหลาดใจมาก

“เทพธิดาก็มีคนที่กลัว?”

ไม่ว่าที่เทพธิดาพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ สิ่งที่เจ้าพระยาเซียวอยากรู้คือคนที่ทำให้เทพธิดากลัว

“เหอะๆ เจ้าพระยาพูดเล่นแล้ว ถึงแม้ชื่อเสียงข้าจะแผ่ไพศาล แต่ถ้านับโดยรวมแล้ว ข้าก็แค่เด็กสาวอายุสิบแปดคนหนึ่งเท่านั้น พ่อบ้านที่ตำหนักเข้มงวดมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ใช่คนใจแข็งไร้ความรู้สึกโดยกำเนิด ผู้อื่นดีต่อข้า ข้าก็เคารพเขาสามส่วน หากผู้อื่นต้องการทำร้ายข้า ข้าก็ต้องไม่ปล่อยไปอยู่แล้ว ดังนั้นเจ้าพระยาเซียววางใจได้ ข้ากับเซียวซื่อจื่อไม่มีความแค้นต่อกัน

และข้าสามารถได้รับการขนานนามว่าเทพธิดาในประเทศต่างๆ ยังสามารถอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็ต้องมีความสามารถเฉพาะตัวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องแสวงหาซื่อจื่อที่ไม่อยู่ในวิถีทางก้าวหน้าไปเป็นขุนนางมาคอยสนับสนุนข้า”

กล่าวถึงตรงนี้

หลานเยาเยาหยุดไปครู่หนึ่ง เห็นคิ้วของเจ้าพระยาเซียวที่คลายออก กล่าวต่อไปอีกว่า:

“เรื่องในราชสำนัก เปลี่ยนแปลงไปได้มากมายหลากหลาย บางทีเซียวซื่อจื่ออาจไม่ใช่ลูกผู้ดีมีเงินที่ไม่ทำการทำงานอย่างที่ท่านเห็นก็ได้ เท่าที่ข้าเห็น เขาเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง ไม่ใช่ว่าจะถูกชักจูงไปได้ง่ายๆ”

ได้ยินนางพูดเช่นนี้

เจ้าพระยาเซียวพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าคิดมากไปเองแล้ว”

แต่ที่น่าแปลกก็คือ……

เซียวงจิ่นหยูวันๆเอาแต่กินดื่มเที่ยวเล่นสนุก ไม่ดูแลจัดการเรื่องในจวน และไม่มีใจในวิถีทางก้าวหน้าไปเป็นขุนนาง มักจะดื่มเหล้ากับเพื่อนที่เอาแต่กินและเที่ยวเล่นพวกนั้นจนดึกดื่นค่อนคืนถึงจะกลับมา นี่ไม่ใช่ลูกผู้ดีมีเงินไม่ทำการทำงานแล้วคืออะไร?

เพราะอะไรเทพธิดาถึงบอกว่าเซียวจิ่นหยูไม่ใช่?

หรือว่าเซียวจิ่นหยูมีเรื่องอะไรปิดบังเขาอยู่?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท