หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 601 ผู้หญิงดีๆถูกผู้ชายคว้าไปแล้ว

บทที่ 601 ผู้หญิงดีๆถูกผู้ชายคว้าไปแล้ว

บทที่ 601 ผู้หญิงดีๆถูกผู้ชายคว้าไปแล้ว

ตั้งแต่ออกมาจากห้องครัว เพราะเรื่องที่หานแสจะสร้างเรือแห่งความสิ้นหวังอีกครั้ง นางยังมีเรื่องเล็กน้อยที่ไตร่ตรองไม่กระจ่าง จนกระทั่งเพิกเฉยต่อเย่แจ๋หยิ่งที่ยืนอยู่ข้างประตู

นางก้มหน้าครุ่นคิด สาวเท้าเชื่องช้า หลังจากที่ได้ยินเสียงกระแอมเบาๆดังมาจากด้านหลังแล้ว จึงได้หยุดฝีเท้าลง หันกลับไปมอง

เห็นเย่แจ๋หยิ่งในชุดสีดำกำหมัดเล็กน้อย วางไว้ข้างปาก สายตามองดูนางเงียบๆ เหมือนกับว่าร่างกายไม่ได้ไม่สบาย ราวกับว่าเป็นการจงใจดึงดูดความสนใจของนาง

“ท่านอ๋อง?”

“ซู่เอ๋อ เมื่อครู่เจ้าเดินผ่านข้างกายของข้าไป” เสียงของเขาค่อนข้างทุ้มต่ำ สีหน้าอารมณ์ไม่ชัดเจน

ความหมายของเขาชัดเจนมากแล้ว เย่แจ๋หยิ่งกำลังพูดว่านางทำเป็นมองแล้วเมินไปไม่เห็นเขา ในแววตาที่เย็นชาเต็มไปด้วยความน้อยใจ

“…….”

หลานเยาเยากลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที

หมุนตัวเดินเข้าไป พยุงแขนของเขาดึงเขาเดินไปพร้อมกัน

“เมื่อครู่ข้ากำลังคิดเรื่องบางอย่าง เกี่ยวกับเรื่องการสร้างเรือแห่งความสิ้นหวังอีกครั้งของหานแส…….”

จากนั้นเดินไปพลาง นางก็ได้เอาข่าวสารเมื่อครู่ที่รู้จากปากของซาหมั่นเฉิงบอกให้เย่แจ๋หยิ่งฟังอย่างละเอียด เห็นสีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ แต่ทว่าเคลื่อนแขนที่นางพยุงอยู่ลง จากนั้นใช้มือของตัวเองจับมือของนางไว้แน่น สิบนิ้วประสานกัน จับกันแนบแน่น

“ท่านอ๋อง!”

“ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าตลอด ไม่ว่าเป็นหรือตาย ก็จะไม่ปล่อยมืออีก” เย่แจ๋หยิ่งจ้องมองดวงตาของนาง ดวงตาที่ลึกล้ำสะท้อนใบหน้าที่สวยงามของนางออกมา

ใจสั่นขึ้นมาฉับพลัน!

หลานเยาเยาตื้นตันใจ น้ำตาจะไหลทันที มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว จับมือเขาตอบแน่น มือสองข้างจับกับแนบแน่น

“เย่แจ๋หยิ่ง ข้าก็เหมือนกัน!” ข้าก็จะอยู่ตลอด อยู่ตลอดไป

แม้ว่าในสมองจะมีความทรงจำในการข้ามเวลาครั้งแรกเพิ่มเข้ามา แต่ความรู้สึกที่มีต่อเย่แจ๋หยิ่งของนางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแค่ค่อนข้างมีความสับสนเล็กน้อยเท่านั้น

แต่นางยังคงตัดสินใจกลับมาจากทะเลทรายอย่างแน่วแน่ เพียงเพราะจะอยู่ข้างๆกายของเขาดีๆเท่านั้น แม้ว่าจะไม่ใช่ฐานะของผู้หญิงก็ไม่เสียดาย

ตอนนี้ที่กั้นขวางพวกเขาไว้มีเพียงความทรงจำของชาติหนึ่งนั้น และผู้นั้นที่หน้าตาเหมือนกับเย่แจ๋หยิ่งทุกอย่าง แต่กลับกลายเป็นฮ่องเต้ที่ตายไปแล้ว

นางเพียงแค่ต้องการเวลานิดหน่อยเท่านั้น

แต่นางจะไม่ผลักเขาออกไปอีก……

ได้รับการตอบสนอง ราวกับว่าความลึกล้ำในแววตาของเย่แจ๋หยิ่งจะกลายเป็นน้ำ อ่อนโยนและนุ่มนวล แม้ว่าจะเห็นยู่หลิวซูที่เดินใกล้เข้ามา เขาก็ไม่ได้มีสีหน้าท่าทางที่เย็นชาเคร่งขรึม กลับกันรู้สึกสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเก้ๆกังๆของยู่หลิวซูนั้นค่อนข้างน่ารัก

ยู่หลิวซูตั้งใจเพิกเฉยกับมือที่จับกันแน่นพวกเขา พยายามพูดจาอย่างปกติที่สุด :

“อ๋องเย่ คุณชายซ่างกวน พูดคุยเป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”

หลานเยาเยา : “ไปทะเลสาบหนานหูอาจจะสามารถหาเขาเจอได้!”

“เช่นนี้ก็ดี อาหารได้เตรียมเรียบร้อยแล้ว เดินทางเหน็ดเหนื่อย กินข้าวก่อนสักหน่อยเถอะขอรับ!”

ความจริง ยู่หลิวซูอยากจะบอกว่าป่วยไม่ร่วมทานอาหารกับพวกเขา เกรงว่าจะดูคนพลอดรักกัน ทั้งเกรงว่าหลังจากที่เหล่าผู้อาวุโสเห็นแล้วจะเร่งรัดให้เขาแต่งงาน

แต่ในฐานะของเจ้าสำนัก เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ จำเป็นต้องอดทนต่อความกดดัน

แต่ทว่าหลังจากไปกินข้าวด้วยกันแล้ว

เย่แจ๋หยิ่งที่น่าเกรงขามแต่ไม่ไร้ความเอ็นดูที่จะคีบอาหารไปในชามของหลานเยาเยา ทั้งหมดที่คีบเป็นอาหารที่นางโปรดปรานที่สุด ตอนแรกเริ่มหลานเยาเยายังรู้สึกเคอะเขิน หลังจากสายตาอธิบายโน้มน้าวสองสามครั้งไม่ได้ผลแล้ว ก็ยอมรับทันที

ไม่สนใจแล้ว!

ยังไงซะในใจของนางก็ชอบ เขาคีบให้เท่าไหร่นางก็กินเท่านั้น

แต่ว่า นางก็อดที่จะกินเพียงคนเดียวไม่ได้ และเย่แจ๋หยิ่งก็คีบอาหารให้ตัวเองเพียงอย่างเดียว ยังไม่ได้กินสักคำ ด้วยเหตุนี้นางก็คีบอาหารให้เขา แน่นอนว่าเลือกคีบที่เขาเคยโปรดปรานโดยเฉพาะ

ทั้งสองกะหนุงกะหนิงกันไปมา ผู้หนึ่งไม่มีแล้วซึ่งอำนาจความน่าเกรงขาม ท่าทางที่เย็นชาไร้ความรู้สึก อีกผู้หนึ่งก็ไม่มีท่าทางที่สงบนิ่ง ท่าทางการกระทำที่มีระดับ เป็นเหมือนชายหญิงที่เพิ่งจะได้ตกลงในแม่น้ำแห่งความรักไปโดยแท้ มองไม่เห็นสายตาที่แปลกประหลาดของคนอื่นโดยสิ้นเชิง

ยู่หลิวซูกวาดตามองผู้อาวุโสไม่กี่ท่านที่อ้าปากกว้างจนสามารถยัดไข่เป็ดลงไปได้สองฟอง คีบอาหารอย่างระมัดระวัง หลังจากวางลงในชามแล้ว กินข้าวด้วยรวดเร็ว ถึงระดับที่ข้าวชามหนึ่งกินหมดไปในสามคำ

ในใจเขาคิดเพียง รีบทำภารกิจให้เสร็จเร็วๆ รีบออกไปจากสถานการณ์พลอดรักไป

แต่ดวงตาของเหล่าผู้อาวุโสจ้องมองตรงไปยังอ๋องเย่พวกเขาสองคน ตะเกียบจิ้มลงในชามข้าว ทำให้เกิดกลิ่นหอมกรุ่น จิ้มข้าวสวยเม็ดขาวในชามจนทนมองไม่ได้

ระหว่างอ๋องเย่ที่คุ้นเคยและคุณชายซ่างกวนที่เพิ่งรู้จัก เดิมทีพวกเขาควรจะโน้มน้าวอธิบายให้อ๋องเย่ระวังการวางตัว จากนั้นก็กีดกันคุณชายซ่างกวนที่ไม่รู้กาลเทศะบนโต๊ะอาหารถึงจะถูก

แต่ตอนนี้รู้สึกว่าอ๋องเย่เป็นผู้นั้นที่เป็นส่วนเกินอย่างแปลกประหลาด

เห้อ! ผู้ชายดีๆถูกผู้หญิงธรรมดาคว้าไปแล้ว

เอ๊ะ? ไม่ถูก

เป็นผู้หญิงดีๆถูกผู้ชายคว้าไปแล้ว

ไม่ว่าใครจะคว้าใคร อย่างไรเสียก็คือคว้าไปแล้ว

เห็นเจ้าสำนักของตัวเองกินข้าวเสร็จอย่างรวดเร็ว ก็รีบหาข้ออ้างออกไปจากที่นั่งอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเหล่าผู้อาวุโสก็เก็บสายตากลับมา หันและมองไปทางเงาหลังของยู่หลิวซูที่จากไป ในใจล้วนแอบมีความคิด

เจ้าสำนักบรรลุนิติภาวะตั้งนานแล้ว ทั้งยังทนรับความเจ็บปวดทรมานของพิธีศีลมหาสนิท เหมาะสมที่จะแต่งงานแล้วอย่างยิ่ง แน่นอน ที่สำคัญที่สุดคือ ควรให้พวกเขาอุ้มเจ้าสำนักน้อยได้แล้ว

ต้องวางแผนดีๆสักหน่อย ให้เจ้าสำนักไปคว้าหญิงดีๆของครอบครัวอื่น…….

ทานอาหารเสร็จ เดิมทีหลานเยาเยาต้องการขอตัวลา แต่ในใจยังมีเรื่องที่ไม่วางใจ ดังนั้นจึงลังเลไม่ก้าวไปด้านหน้าสักที

“เย่แจ๋หยิ่ง ข้า…….”

นางไม่รู้ว่าจะเอ่ยอย่างไร ตัวตนยังระบุไม่ชัดเจน เรื่องนี้ถามใครก็ล้วนไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนผู้นั้นในสายตาของคนนอก ในราชวงศ์เก่าก็ได้ตายไปแล้ว และคนที่ยืนยันคนผู้นั้นได้ล้วนเป็นคนที่ใกล้ชิดเป็นอย่างมาก แต่ฐานะของนางตอนนี้เป็นเพียงแค่คนนอกผู้หนึ่ง

“อย่าพูด ข้าพาเจ้าไปสถานที่ที่หนึ่ง”

พูดจบ!

เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้บอกว่าจะพานางไปที่ไหน ลากนางแล้วก็ไป

ภูเขาหลังสำนักหงอี ใจกลางป่าไผ่ที่เขียวชอุ่มงดงามผืนใหญ่ มีสุสานโอ่อ่าและถูกต้องตามพิธีแห่งหนึ่ง เรียบง่ายแต่ไม่ไร้ความน่าเกรงขาม เคร่งขรึมและสุขสงบ บนป้ายศิลาหน้าหลุมศพมีเพียงสี่คำ : สุสานของตาเย่น

เครื่องบรรณาการของเซ่นไหว้ด้านหน้าป้ายศิลากองเป็นภูเขา ไฟธูปไม่มอด รอบๆของสุสานถูกกวาดทำความสะอาดจนสะอาดสะอ้าน ราวกับว่ามีคนมาเยี่ยมเยือนทุกวัน

เบ้าตาของหลานเยาเยาแดงทันที น้ำตาใสๆไหลลงมา คิดถึงตาเฒ่าผู้น่ารักผู้นั้นอย่างฉับพลัน

พวกเขาเคยทะเลาะกันตีกันวุ่น มอบความรักให้กันและกัน

แต่เพื่อนาง ตาเฒ่าโง่ผู้นี้ไม่สนอันตรายไปที่ทะเลทรายเป็นเพื่อนนาง และถูกฝังอยู่ในทะเลทรายตลอดกาล ทุกความโกรธและรอยยิ้มของเขายังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ เหมือนดั่งเมื่อวาน

คือตาเฒ่าเย่น!

แม้ว่าจะเป็นเพียงสุสาน แม้ว่าจะมีเพียงตาเย่นสองคำ นางก็รู้ว่านี่คือสุสานที่พวกเขาสร้างให้เขา

ในเวลาอันสั้นนางควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ปล่อยให้น้ำตาของตัวเองไหล…….

เย่แจ๋หยิ่งไม่ได้มองทางนาง สายตามองดูป้ายศิลาเงียบๆ ริมฝีปากบางๆเปิดขึ้นเล็กน้อย

“ซู่เอ๋อ นี่คือคนรู้จักที่สนิทของข้าท่านหนึ่ง และเป็นอาจารย์ของข้า ตอนเด็กๆเขาสอนข้าให้รู้ปรัชญาชีวิตมากมาย ยิ่งใหญ่ไปจนถึงเรื่องสำคัญของประเทศ เล็กน้อยไปถึงเรื่องทั่วๆเล็กๆน้อยๆที่ไม่สำคัญ

ต่อจากนั้น เขาบอกว่าเขาไม่มีอะไรสามารถแอบสอนข้าได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ เขาบอกความลับของสมบัติของราชวงศ์เก่าแก่ข้า ให้ข้าไตร่ตรองค่ายกลให้ทะลุปรุโปร่งด้วยตนเอง หลังจากนั้นเขาก็จากไปอย่างรีบร้อน ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีข่าวคราวอีก

ข้ายังคิดว่าเขาเบื่อหน่ายทางโลกทุกวันนี้เป็นที่สุดแล้ว คิดหาสถานที่ที่สงบ ใช้ชีวิตอย่างราบเรียบง่ายดาย

แต่พอโตแล้วเพิ่งจะได้รู้จากปากของคนสนิทของเขาที่หนีรอดจากความตายท่านหนึ่งว่า ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากใช้ชีวิตแบบที่เขาต้องการ แต่ถูกคนจับไปบีบคั้นถามถึงเบาะแสของสมบัติราชวงศ์เก่า มีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น

ข้าตัดสินใจหาเบาะแสของเขา แม้ว่าจะเหลือเพียงโครงกระดูก ก็ต้องการช่วยเขากลับมา

หลังจากหาพบแล้ว ระหว่างที่รีบไปช่วยเขา กลับมีคนอื่นช่วยไปก่อนแล้วก้าวหนึ่ง แต่เขาเกรงว่าจะทำให้ข้าลำบาก ไม่ยินยอมพบกับข้าอีก แม้ว่าจะทำเป็นคนแปลกหน้าเมื่อพบ

แต่ถึงเป็นเช่นนี้ เขายังคงปฏิบัติตามคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับบิดาบังเกิดเกล้า รวบรวมบุคคลในสังกัดเก่าๆ จัดการบริหารอิทธิพล ก็เพื่อช่วยข้าอีกแรงหนึ่ง แย่งชิงสิ่งของที่เดิมทีควรจะเป็นของข้า

แต่ข้าเพื่อความปรารถนาส่วนตัว สุดท้ายทำให้เขาผิดหวัง ถึงตอนนี้ข้ายังจำแววตาที่สิ้นหวังของเขาได้”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท