หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 669 ปะปนเข้ากองทัพศัตรู

บทที่ 669 ปะปนเข้ากองทัพศัตรู

เรื่องเมื่อคืนสำหรับเย่แจ๋หยิ่งแล้ว พอใจเป็นอย่างมาก

นอนกอดนางทั้งคืน ไม่อยากปล่อย แม้แต่หลับแล้ว มุมปากบางๆยังยกขึ้นเล็กน้อย

พอเช้าตรู่ก็ลุกขึ้นก่อน ยังไม่ลืมที่จะบรรจงจูบตรงหน้าผากของนางจูบหนึ่ง จากนั้นอยู่ด้านหลังฉากกั้นมีเสียงซุบซิบๆเบาๆช่วงหนึ่ง กำชับให้นางนอนให้ดีๆครู่หนึ่ง จึงออกไป

ไม่นานนักก็เปิดประตูห้องเข้ามาอีกครั้ง

เวลานี้หลานเยาเยาก็ตื่นนอนแล้ว เย่แจ๋หยิ่งยกอาหารด้วยตัวเอง

ทั้งสองกินอาหารเช้า ก็พูดคุยเรื่องที่เป็นทางการ

ก่อนหน้านี้พวกเขาค่อนข้างไม่เข้าใจว่าทำไมประเทศเชียนหลิงจำเป็นจะต้องโจมตีประเทศก่วงส้าของพวกเขา ไปหมู่บ้านชาวประมงทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของประเทศเชียนหลิงรอบหนึ่งจึงได้รู้ โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะสาเหตุของคนจากนอกแผ่นดิน

ราชสำนักของประเทศเชียนหลิง จะต้องรู้การดำรงอยู่ของคนจากนอกแผ่นดิน อีกทั้งเคยแอบส่งกำลังทหาร ปรารถนาที่จะสังหารคนจากนอกแผ่นดิน น่าจะเสียหายหนักเกินไป และหลังจากที่พวกเขาก็ไร้แรงกำลังจะรับมือ จึงจำเป็นต้องคิดวิธีอื่น

เพื่อป้องกันไม่ให้คนจากนอกแผ่นดินปรากฏตัวมากขึ้น ทำให้ประเทศเชียนหลิงถูกทำลายล้างในเวลาอันสั้น

พวกเขาวางแผนการใช้ข้ออ้างที่เลิศล้ำก่อน เปิดสงครามโดยง่าย

ใครจะรู้……

ถูกทำลายแล้ว

พวกเขาจำเป็นต้องเปิดเผยนิสัยเดิม บีบบังคับเปิดสงครามกับประเทศก่วงส้า ได้รับชัยชนะเป็นเรื่องจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ อย่างไรเสียประเทศก่วงส้าในปัจจุบันไม่มีทางเทียบได้กับในอดีตในขณะที่รุ่งเรือง

เพียงแค่ชนะประเทศก่วงส้า พวกเขาก็สามารถเอาราชสำนักย้ายจากตะวันตกเฉียงเหนือไปตะวันตกเฉียงใต้ได้ หากคนจากนอกแผ่นดินมาโจมตีครั้งใหญ่ พวกเขาจะต้องให้ประเทศก่วงส้ารับผิดชอบก่อนแน่

การคาดเดาเช่นนี้ หลังจากครึ่งชั่วยาม การมาถึงขององครักษ์ลับส่งข่าวกรองมาผู้หนึ่งได้พิสูจน์และยืนยันแล้ว

ตอนนี้ สองประเทศไม่สามารถทำสงครามได้อีกแล้ว

จำเป็นต้องร่วมกันเป็นหนึ่งกับแต่ละประเทศก่อนคนจากนอกแผ่นดินจะบุกรุกครั้งใหญ่ เตรียมทุกอย่างให้พร้อมล่วงหน้า

ทว่า อยากทำให้สองประเทศยุติการสู้รบกัน อย่างแรกที่จัดการยากที่สุดคือทหารม้าของประเทศเชียนหลิงที่คิดต้องการบุกยึดเมืองโยวกวง ตั้งแต่กลับมาจากหมู่บ้านชาวประมง หลานเยาเยาก็ไตร่ตรองปัญหานี้มาโดยตลอด

ตอนนี้มีวิธีการแก้ไขปัญหาแล้ว

นี่เป็นช่วงเวลาที่นางและเย่แจ๋หยิ่งจำเป็นต้องแยกจากกันระยะหนึ่ง

เมื่อคืน คิดว่าเย่แจ๋หยิ่งต้องเดาสิ่งที่นางคิดได้แล้ว ทำอะไรไม่ได้ต้านทานต่อความงดงามของนางไม่ได้ ยังคงยอมจำนนอย่างเชื่อฟังแล้ว

“เย่แจ๋หยิ่ง หากข้าพูดความคิดของข้าออกไป ท่านอย่าโกรธเชียว” อย่างไรเสียเมื่อคืนนางก็ทุ่มพลังออกมาอย่างมาก

เย่แจ๋หยิ่งที่มีโฉมหน้าสง่างามเลิศล้ำในครอบครอง ทีแรกสีหน้ายังคงอบอุ่น ขณะที่หารือเรื่องทางการ อย่างมากก็เพียงไตร่ตรองครู่หนึ่ง ตอนนี้ทันทีที่นางเอ่ยเช่นนี้ ใบหน้าของเขาเย็นชาลงมาทันที ราวกับว่ารู้ว่านาต้องการพูดอะไร

“ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าไปเสี่ยงอันตราย!”

“ข้ายังไม่ได้พูดเลยนะ!” หลานเยาเยาแบะปาก ค่อนข้างจนปัญญา

“เจ้าคิดปะปนเข้าไปในค่ายของกองทัพศัตรูผู้เดียว อีกทั้งจะปะปนเข้าไปในทหารหั่วโถวของกองทัพศัตรู จากนั้นฉวยโอกาสที่พวกเขาไม่ระวัง วางยาทั้งค่ายทหาร ก็จะชนะโดยไม่ต้องทำสงคราม

ทหารม้าเหล่านี้ก็คือจุดอ่อนเป็นเครื่องต่อรองของราชสำนักของประเทศเชียนหลิง บีบให้พวกเขาตกลงร่วมกำลังเตรียมพร้อมป้องกันจัดการเรื่องการเข้าโจมตีของคนจากนอกแผ่นดิน”

กล่าวสิ่งเหล่านี้จบ เย่แจ๋หยิ่งอดถอนใจไม่ได้

การคำนวณเหล่านี้ในใจของหลานเยาเยา จะเล็ดลอดสายตาของเขาได้ที่ไหนกัน?

รู้เพียง เรื่องที่นางตัดสินใจ เขาจนปัญญาจะขัดขวาง และไม่สามารถไปขัดขวางได้ เพราะการตัดสินใจของนางถูกต้อง

แต่เขาทำใจไม่ได้

แทบอยากจะเอานางแขวนไว้ที่เอวตลอดเวลา ที่ไหนก็ไม่ให้นางไป

แต่ทว่า ความรักไม่ใช่การกักขัง!

ทีแรกหลานเยาเยายังมีความรู้สึกผิดอยู่บ้าง ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ แอบโล่งใจ หลังจากที่ตะลึงเล็กน้อยแล้ว คือรอยยิ้มที่อ่อนหวาน

“ที่แท้ท่านก็ไม่ได้เป็นเพียงสามีของข้า ยังเป็นเป็นพยาธิไส้เดือนในท้องของข้าด้วย มีท่านสนับสนุนดีจริงๆ!”

“ข้ายังไม่เห็นด้วย”

“ท่านเห็นด้วยแล้ว” หลานเยาเยามีเจตนาจะชี้แนะ

“ข้า……” เย่แจ๋หยิ่งไม่มีอะไรจะพูดทันที แต่ถูกทำให้โกรธแล้ว หันหน้าอันสง่างามดั่งเทพเซียนไปในพริบตา

ท่าทางเช่นนี้ ทำให้หลานเยาเยากลืนไม่เข้าคายไม่ออก นางอดไม่ได้ที่จะโอบช่วงเองที่มีแรงแข็งแกร่งของเขาจากทางด้านหลัง เอาศีรษะพิงแผ่นหลังของเขา กระซิบเบาๆ:

“ก่อนหน้านี้องครักษ์ลับมารายงาน เมืองโยวกวงเกรงว่าจะถูกตีแตก ข้าเข้าใจทั้งหมด เมื่อท่านไปนาน เกรงว่าจะกระทบต่อขวัญกำลังใจทหาร พวกเขาต้องการท่าน

ท่านอย่าเอาข้าทำเป็นคนที่ต้องการการคุ้มครองตลอดเวลา ท่านน่าจะรู้ พวกเราอยู่ด้วยกันก็ต้องไม่เป็นสองรองใคร แยกจากกันแต่ละคนยอดต้องยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ ข้าไม่ใช่คนที่ผู้อื่นจะจัดการได้ง่ายๆ ท่านต้องเชื่อมั่นภรรยาของตัวเอง

พวกเราต้องพยายามมีชีวิตอยู่ รอให้ทุกอย่างสงบลงมาแล้ว พวกเราก็สามารถไปใช้ชีวิตสันโดษในป่าเขาได้ สามารถท่องเที่ยวไปทุกแห่งหนไปหลายประเทศได้ สามารถไปทุกที่ที่ต้องการอยากจะไป ทำทุกๆเรื่องที่ชอบได้”

หลานเยาเยากำลังวางอนาคตที่สวยงาม

นางและเย่แจ๋หยิ่งผ่านประสบการณ์ชีวิตมาชั่งมากมายนะ ควรละทิ้งความวุ่นวายทางโลกไปตั้งนานแล้ว ใช้ชีวิตครอบครัวเล็กๆของตัวเองให้ดี ชีวิตคนไม่ได้เหมือนอาส้งเช่นนั้น สามารถมีชีวิตได้นานมากนานมากๆ และไม่มีความรู้สึกที่ซับซ้อนมากนัก

“เยาเยา ข้าเพียงแค่ทำใจไม่ได้ เจ้าก็รู้”

ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกับมักจะเป็นเวลาสั้นๆเสมอ และแยกจากกันก็ยาวนานขนาดนั้นอีก ทำใจให้นางไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้จริง ทั้งเป็นกังวลว่านางจะบาดเจ็บ หรือเกิดเรื่องอะไรขึ้น

เย่แจ๋หยิ่งคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะมีวันหนึ่งที่เปลี่ยนเป็นคนงอแงขึ้นมา

“วางใจ ข้าจะรีบกลับมา”

“ได้!”

เย่แจ๋หยิ่งดึงมือของหลานเยาเยาที่โอบช่วงเอวของเขาออก หมุนตัวและกอดนางแน่นๆในอ้อมกอด อย่างเนิ่นนานไม่ยอมปล่อย

เมื่อเย่แจ๋หยิ่งเปิดประตูออกมาจากด้านในห้อง หลานเยาเยาก็จากไปแล้ว ครั้งนี้พาส้งเย่นกุยไปเพียงคนเดียว จื่อซีและจื่อเฟิงก็อยู่ข้างกายเย่แจ๋หยิ่ง กลับเมืองโยวกวงพร้อมกับเขา

จื่อซีและจื่อเฟิงก็สามารถเข้าใจต่อสิ่งนี้ได้

แฝงตัวเข้าไปในค่ายของกองทัพศัตรู พวกเขาองครักษ์ลับเหล่านี้ล้วนหน้าตาคุ้นเคย ไม่เหมาะสมจะติดตามเป็นธรรมดา ตัวตนถูกเปิดเผยได้ง่าย อีกทั้งตอนนี้โฉมหน้าคุณหนูของตัวเอง เป็นธรรมดาที่กองทัพศัตรูจะไม่คุ้นหน้า หากเปลี่ยนการแต่งตัวเพิ่มเล็กน้อย ปะปนเข้าไปในกองทัพสามารถทำได้แน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น!

ขณะที่คุณหนูเคยเป็นเทพธิดา รู้จักประเทศเชียนหลิงดีเป็นที่สุดแล้ว

เช่นนี้โอกาสชนะก็มากขึ้น

……

หลานเยาเยาใช้เวลาไม่กี่วัน ปะปนเข้าไปในกองกำลังส่งผักให้ค่ายของกองทัพศัตรูได้ในที่สุด เดิมทีใบหน้าเล็กๆที่ขาวสะอาดถูกนางทำจนดำเมี่ยม อีกทั้งก้มศีรษะที่เงยสูงๆลง ยังจะงอร่างกายเล็กน้อยอีก

แบบนี้ คนที่อยู่ข้างๆเห็นนางก็รู้สึกว่าเป็นคนซื่อๆปัญญาไม่ดี

เพราะรู้จักกิน

ทั้งแสดงฝีมือเล็กน้อยในทหารหั่วโถว ทำให้เหล่านายทหารของกองทัพศัตรูทั้งหมดล้วนพูดว่าอาหารอร่อย มีนายทหารชั้นสูงสองสามท่านในกองทัพศัตรูเข้ามาถือโอกาสชื่นชมนางอีกด้วย ฝีมือทำอาหารไม่เลว คิดจะให้นางเข้าร่วมทหารหั่วโถว แต่กลับถูกนางตั้งใจปฏิเสธ กล่าวว่ายังมีเรื่องอีกมากมายรอให้นางไปทำ

เห็นนางไม่ได้มีความคิดจะอยู่

ผู้บัญชาการทหารกองทัพศัตรูจึงได้วางความข้องใจลง ปล่อยนางจากไป หลังรอให้นางจากไปแล้ว เหล่านายทหารบ่นอย่างขุ่นเคืองทันที บอกว่าอาหารไม่อร่อย ถึงกระทั่งมีผลกระทบต่อขวัญกำลังใจทหารเล็กน้อย

และผู้บัญชาการทหารกองทัพศัตรูก็เป็นนักกินจุท่านหนึ่ง มองดูอาหารที่จืดชืดทุกวัน ในใจคิดถึงอาหารรสเลิศหอมกรุ่นของวันนั้นมาก

ด้วยเหตุนี้!

ผู้บัญชาการกองทัพศัตรูที่มีเรื่องในใจหนักหน่วงทั้งวัน ใช้เวลาว่างสั่งให้คนไปตรวจสอบคนที่แสดงมีฝีมือในการทำอาหารรสเลิศในทหารหั่วโถววันนั้น พบว่าที่แท้ก็เป็นคนที่ออกมาจากร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเชียนหลิงของพวกเขา เพราะฝีมือการทำอาหารเหนือกว่าพ่อครัวใหญ่ในร้านอาหาร หลังจากถูกบีบคั้นก็ไม่กล้าทำแล้ว ติดตามหน่วยงานรัฐทำการค้าขึ้นมา

ได้รู้เช่นนี้ ผู้บัญชาการทหารที่ระยะนี้จิตใจกลัดกลุ้มมาตลอด ปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อยแล้วในที่สุด

รอจนขณะที่คนรับผิดชอบในการจัดซื้อในทหารหั่วโถวต้องการจะออกไปซื้ออาหาร ผู้บัญชาการทหารออกคำสั่งเป็นการเฉพาะ ต้อง‘เชิญ’หลานเยาเยาที่ได้ปลอมตัวมา

หลังจากที่เชิญมา ก็ไม่ให้ออกไปแล้ว

หลานเยาเยานั่งบนพื้นเอะอะโวยวายขึ้นมา ใช้เหตุผลว่ายังมีเรื่องมากมายต้องทำอีกครั้ง ไม่ยินยอมอยู่ในทหารหั่วโถว ผู้บัญชาการทหารกองทัพศัตรูและเหล่านายทหารมองดูท่าทางเอะอะโวยวายไปๆมาๆของนาง อดที่จะหัวเราะไม่ได้ แต่ก็คือไม่ให้นางจากไป

เหล่านายทหารหัวเราะทั้งกลุ่ม

นี่ก็คือรอยยิ้มที่ห่างหายไปนานของพวกเขา

สุดท้ายโดนบังคับจนปัญญาจึงอยู่ต่อ หลานเยาเยาเห็นได้ชัดว่าเมื่อเห็นว่าในที่สุดบนใบหน้าของผู้บัญชาการทหารกองทัพศัตรูก็มีรอยยิ้มแม่ทัพไม่กี่คนก็ถอนหายใจโล่งอกลึกๆ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท