Infinite Competitive Dungeon Society – ตอนที่ 315

ตอนที่ 315
บทที่ 315 – แนวทางการขัดแย้ง (2)
[ก๊าซซซซซซซ]
เจ้าหมียักษ์ได้คำรมออกมาอย่างน่ากลัวและยื่นขาหน้าออกมาฟาดเขาที่ด้านข้างของภูเขาส่งก้อนหินลอยออกมา เดซี่ได้เก็บไอกันธ์ลงไปและเรียกลากิออกมาจากช่องเก็บของอย่างรวดเร็ว
“มอนสเตอร์ที่ยังไม่ถูกฆ่าให้พวกตั๊กแตนจัดการ”
“ค่ะ เด็กๆของหนูกินพวกนั้นได้”
ยุยได้ปล่อยให้ตั๊กแตนของเธอออกไปล่ามอนสเตอร์ตัวอื่นๆและเรียกแค่ลูน่ากลับมา ยังไงก็ตามฉันได้พุ่งออกไปหาศัตรูก่อนแล้ว
“มาสู้กันเจ้าตัวใหญ่”
[ก๊าซซซซซซซซซซ!]
เนื่องจากว่าฉันเข้ามาใกล้มันมากขึ้นทำให้ฉันได้เห็นเลยว่าขนาดของมันใหญ่จนบ้ายังไง แต่ก็น่าแปลกถึงแม้ว่าฉันจะเจอหมีแล้วยังไงก็ไม่ได้มีการพูดอะไรจากเชอริฟิน่าเลย ฉันได้เข้าใจได้ในทันทีว่าทำไม พลังของดันเจี้ยนมันอ่อนแอลงในที่นี่ มันเริ่มต้นขึ้นมาจากเทือกเขาแห่งนี้
มันดูเหมือนว่าเคียร่าจะพูดถึงสถานที่แห่งนี้ที่มีบางอย่างอยู่มันทำให้ฉันกังวล
“แต่ว่าน่าเศร้าที่มันไม่ใช่แก!”
[ก๊าซซซซซซ]
หลังจากที่ขยี้ยอดเขาเหมือนกับว่ามันเป็นเจ้าของแล้วเจ้าหมีก็ยังจะดูเหมือนเต็มไปด้วยพลัง มันได้กระโดดพุ่งเข้ามาใส่ตจัวฉัน พวกเราที่อยู่ห่างกันหลายกิโลเมตรมากๆ แต่ว่าระยะห่างนี้มันดูจะไม่มีค่าอะไรเลย
[กรรรร!]
เจ้าหมีขนาดเท่าภูเขาได้ทิ้งตัวลงมาจากท้องฟ้าและเหวี่ยงขาหน้าของมันเข้ามาใส่ฉัน ฉันได้บินขึ้นด้วยพลังของเชอริฟิน่าและเลืกอที่จะไม่หลบ ถ้าหากฉันทำแบบนั้นเยอึน เดซี่ และยุยได้ถูกโจมตีแน่
กลับกันเลย ฉันได้ดึงพลังของวงจรเพรูต้ามามากขึ้นและส่งมันไปในจุดๆเดียวที่หอกของฉัน หลังจากนั้นฉันได้ใช้พลังเทพสายฟ้าและสร้างพายุสายฟ้าขึ้นมา จากนั้นไพก้าก็ได้เข้าไปในหอกของฉันด้วยตัวเองและเร่งพลังสายฟ้าจนถึงขีดสุด
“ฉันจะเจาะขาแกให้เป็นหลุมเลย”
ฉันได้ตะโกนออกมาอย่างเต็มไปด้วยพลังและแทงหอกออกไปที่ขาหน้าของหมี พลังงานที่รวมกันอยู่ได้เริ่มดูมานารอบๆในขณะที่เจาะเข้าไปในขาหน้าของหมู ไม่นานนักขาหน้าของหมีก็ได้ระเบิดออกมาเหมือนกับในหนังเลย มันดูเหมือนว่าจะใช้น้ำหนักมาขยี้ฉันแต่ว่ามันได้จบลงด้วยการที่มันถูกผลักกลับไปแทนมากกว่า
[ก๊าซซซซซซซซ!]
“เยี่ยม นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันอยากจะได้ยิน! ดอร์ตู!”
[ข้าดอร์ตู กำลังโจมตีศัตรู]
กระจกโลหะที่ยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้าสได้เปลื่ยนแปลงไปเล็กน้อย มันได้เล็กลง แหลมขึ้น และทนทานมากขึ้่น
เศษโลหะนับร้อยนับพันได้พุ่งผ่านอากาศเก็บมานาของฉันเอาไว้และแทงเข้าไปใส่ขาหน้าของหมีอย่างไม่หยุดยั้งทำให้มันไม่สามารถคงตัวอยู่บนอากาสได้ ทั้งตัวของหมีได้เต็มไปด้วยเศษโลหะจำนวนมาก
“เจ้าหมียักษ์นั่นอ่อนจัง….”
“พี่เท่มากเลย!”
“ฉัรก็ปีนอยู่ในดันเจี้ยนเดียวกับชินนะ แล้วทำไมฉันถึงทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ล่ะ….?”
เจ้าหมียักษ์ได้ล่วงลงไปเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ทำลายในทุกๆอย่างในเส้นทางที่มันตกลงไป จากนั้นเดซี่ก็เริ่มใช้งานลากิทันที
“ลากิเผามัน”
[กรรรรรรรรร!]
ลากิได้พ่นลมหายใจเพลิงสีดำแดงออกมาจากปากเหมือนกับกระสน ความร้อนของมันดูน่ากลัวจนดูเหมือนจะย่างได้ทุกๆอย่าง
[ก๊าซซซซซซซ]
“ว้าว เขาแข็งแกร่งจัง หนูสงสัยจะว่าเมื่อไหร่ลูน่าของหนูจะทำแบบนั้นได้”
[กรร กรรร]
ลูน่าได้ทำตาเป็นประกายเมื่อได้เห็นการโจมตีของลากิ ฉันไม่สามารถจะพูดได้ว่าลากิเป็นพ่อแม่ของลูน่า แต่ว่าเขาก็ยังเป็นแหล่งที่มาของลูน่า เธอออาจจะได้เรียนรู้อะไรสักอย่างจากการเฝ้าดูลากิแน่
ยังไงก็ตามสิ่งที่ยุยพูดต่อมาทำให้ฉันต้องสงสัยในสิ่งที่ได้ยิน
“ลูน่าช่วยลากิ”
[กรรร]
ลูน่าได้หยักน่าและเพลิงของลากิก็ได้รุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เสียงร้องของหมีก็ยังคงดังขึ้นมาอีกด้วย ฉันได้ถามออกไปอย่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
“นั่นมันเป็นบัฟหรอ?”
“เธอสามารถจะเพิ่มพลังของเพลิงทั้งหมดได้ เธอได้เรียนรู้มันมาเมื่อไม่นานมานี้เอง!”
[กรรรรรรรรร!]
ไม่นานนักกลิ่นไหม้ก็ได้ลอยขึ้นมา ลากิก็ดูเหมือนจะใช้ลมหายใจเพลิงเสร็จแล้วทำให้ลากิไอออกมาสองสามครั้งก่อนจะปิดปากลงไป หลังจากนั้นเทือกเขาทั้งหมดก็ได้เริ่มสั่นทันที
[ก๊าซซซซซซซซซซ!]
“ให้ตายสิ เจ้าหมีนี่มันต้องทำให้ภูเขาสั่นในทุกๆครั้งที่ขยับเลยหรือยังไงเนี้ย!?”
แคร๊ก แคร๊ก เทือกเขาได้เริ่มแยกออกมาพร้อมเสียงอันดัง จุดสูงสุดของภูเขาได้เริ่มตกออกมาเป็นหินก้อนเล็กๆไปจนถึงก้อนใหญ่ น่าแปลกมากที่พวกมันทั้งหมดกำลังพุ่งเข้ามาทางเรา!
“ลากิ!”
ลากิได้ขยับตามเสียงตะโกนของเดซี่ในทันที ลากิได้กางปีกขึ้นมาและเริ่มออกบิน ฉันได้สงสัยว่าเขาจะพาเราออกไปจากสถานการณ์นี้เพียงลำพังได้ไหม แต่ว่ามันดูเหมือนว่าฉันกำลังดูถูกเขาอย่างมาก เมื่อมาคิดดูแล้วครั้งหนึ่งเขาเป็นถึงราชาลาวาเลยนะ ก้อนหินที่ลอยเข้ามาหาพวกเราจากผลของมานาเจ้าหมีนั่นได้หยุดอยู่ต่อหน้าเวทย์พายุของลากิ
“ชาราน่าช่วยลากิ!”
[นี่คือสิ่งที่ฉันเชี่ยวชาญที่สุดนายท่าน]
หลังจากเสียงของชาราน่าดังขึ้นปีกที่กระพืออยู่ของลากิก็รุนแรงขึ้นไป ชาร่าน่าได้ใช้ลมของเธอช่วยแทนที่จะเสริมพลังให้กับลากิตรงๆ เจ้าหมีนั่นก็ได้ลุกขึ้นมาจากอาการมึนและกระโดดขึ้นมาบนท้องฟ้า
[กรรรรรรร]
เนื่องจากเพลิงที่น่ากลัวของลากิได้ทำให้มันมีเลือดไหลออกมาทั่วทั้งตัว ทั้งขนและหนังของมันได้ไหม้ไปจนหมด จะมีเพียงก็แค่ดวงตาสีแดงฉานกับเสียงคำรามที่น่ากลัวของมันเท่านั้นที่ยังดูเหมือนเดิม
แน่นอนว่ามันก็ยังมีแผลขนาดใหญ่ที่ขาหน้าที่ฉันสร้างขึ้นมาด้วยซึ่งดูเหมือนมันจะเจ็บปวดอย่างมาก แต่มันก็พยายามที่จะทำอะไรสักอย่างกับก้อนหิน
“ชิน หอกของชินมันดูเหมือนกับไม้จิ้มฟันเมื่อเทียบกับขาของหมีนั่น แล้วนายทำมันได้ยังไง?”
“ฉันก็แค่บีบอัดพลังลงไปในจุดนึงมากๆไง”
“มันไม่มีขีดจำกัดที่นายจะบีบพลังได้เลยหรอ?”
“ไม่มีนะ”
ฉันได้ตอบกลับไปเบาๆและใส่มานาลงไปในหอกประมาณ 1 แสน ถึงแม้ว่าออร่าของหอกจะมีพลังของเทพสายฟ้าเหมือนก่าอนหน้านี้แต่ว่ามันก็ไม่ได้แสดงออกมา สิ่งเดียวที่รู้สึกได้ก็คือบางอย่างที่โปร่งใสอยู่ตามคมหอก
“เธอก็น่าจะทำแบบนี้ได้เหมือนกับเยอึน ไม่ว่าจะเป็ฯมีดหรือไม้จิ้มฟันธรรมดามันก็เป็นไปได้ที่จะใช้เทคนิคนี้”
เจ้าหมีนั่นได้โยนก้อนหินยักษ์เข้มาใส่ลากิ หินก้อนนั้นได้เต็มไปด้วยมานาและส่องประกายสีดำออกมา ฉันสงสัยจังเลยว่าลากิจะรับมือก้อนหินนี้ได้แต่น่าจะบาดเจ็บทำให้ฉันได้ดีดตัวออกไปและแทงหอกออกไปแทง ในตอนนี้คือเวลาที่ปลายหอกที่มีมานาประมาณหนึ่งแสนได้ปะทะเข้ากับก้อนหิน
ฉันได้ตะโกนออกไป
“ไกอา บัสเตอร์”
ในครั้งที่แล้วฉันได้ใช้มันกับโลหะ แต่ว่าคราวนี้เป็นหิน ก้อนหินยักษ์ได้แตกออกไปเป็นเศษนับหมื่นและพุ่งกลับไปหาเจ้าหมีนั่น เจ้าหมีได้ขยับเท้าจนดูเหมือนกับตกใจ เนินเขาที่มันได้ยืนอยู่ได้สั่นขึ้นมาและหินยักษ์แหลมคนก็พุ่งขึ้นมาและป้องกันเษหินที่ตกลงไป
ฉันคิดเรื่องนี้ได้ตั้งแต่แรกที่เห็นมันแล้ว แต่ว่าดูเหมือนว่าเจ้าหมีนี่จะสามารถใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมได้อย่างเต็มที่ทั้งในการโจมตีและป้องกัน ตราบใดที่เท้าของมันแตะพื้นอยู่มันก็จะมีพื้นที่ที่แข็งแกร่งคอยช่วย!
“ลูน่า!”
[กรร!]
ในตอนนี้เองมันเป็นช่วยที่ฉันคิดไม่ถึงเลยลูน่าได้ร้องออกมาอย่างน่ารัก ในเวลาต่อมาฉันก็รู้ถึงสิ่งที่เธอทำ ภูเขาหินที่ถูกหมียักษ์ยกขึ้นมาได้กลายเป็นแม๊กม่า
[ก๊าาาาา!?]
“การเติบโตของลูน่าต่างไปจากลากิงั้นหรอ? บัฟให้กับเพลิงแล้วก็เปลื่ยนก้อนหินเป็นแม๊กม่า… เอาเถอะ…”
นี่มันเป็นโอกาสดีเลย! ฉันได้พุ่งเข้าไปหามันในทันที! ยังไงก็ตามความแข็งแกร่งเพลิงของลูน่าอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในระดับ EX ซึ่งมันก็หมายความว่ามันไม่มีทางจะผ่านการป้องกันของผ้าคลุมฉันมาได้ ฉันได้ดำเข้าไปในแม๊กม่าโดยไม่ลังเลและวางแผนที่จะแทงหอกออกไปใส่หมีทันที
แต่ว่าได้มีสิ่งที่ไม่คาดคิดที่รอฉันอยู่ภายในแม๊กม่า เจ้าหมีนั่นได้เสยหมัดเข้ามาเหมือนกับมันรอฉันอยู่
ในทันทีที่ฉันเห็นมันฉันได้ตะโกนชื่อของภูติธาตุที่น่าไว้ใจที่สุดในสถานการณ์แบบนี้
“ริยู!”
[อื้อ!]
ได้มีชั้นน้ำแข็งปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าฉันออกไปเรื่อยๆอย่างไม่สิ้นสุดทันที หมัดของหมีได้ทำลายชั้นบาเรียที่ริยูสร้างขึ้นมาได้สามฉันและเข้ามาปะทะกับหอกของฉัน
บัลลังก์แห่งหนามได้ทำงานในทันทีและหอกกระดูกก็ได้ปรากฏขึ้นมาจากปลายหอกแทงเข้าไปในหมัดของมัน ในทางกลับกันฉันก็ลอยออกไปด้วย
“ฮ่าห์”
ฉันได้ไอเลือดออกมาเล็กน้อย อย่างที่ฉันคิดเลยในแง่ของพลังกายภาพแล้วก็พลังเวทย์มันน่าจะเป็นราชาแห่งสรรพสัตว์ตัวต่อไป
“แกต่อยฉันในขณะที่จมอยู่ในแม๊กม่างั้นหรอ? ฉันชอบแบบนี้นะ”
[กรรรรรรร!]
แน่นอนว่าความเสียหายมันไม่ใช่สิ่งที่มองข้ามได้เลย มันได้อยู่ในแม๊กม่าของลูน่าและเนื่องจากว่ามันโดนหอกกระดูกโจมตีสวนกลับไปด้วยซึ่งสัดส่วนความเสียหายที่มันได้รับน่าอยู่ในสภาพที่น่าสงสารแล้ว
[ก๊าซซซซซซซซซซซซ!]
อย่างที่ฉันคิดเลย ฉันได้เห็นบาดแผลที่เต็มร่างของมันและเลือดจำนวนมากที่ไหลออกมา เจ้าหมีมันได้ร้องโหยหวนออกมา จากนั้นก็ได้เกิดการเปลื่ยนแปลงขึ้นมา เลือดที่ไหลลงไปของมันได้ปกคลุมร่างกายและบาดแผลของมันทำให้เกิดขนใหม่งอกออกมา สีแดง มันเป็นขนสีแดงเหมือนกับเลือด ขนแต่ละเส้นได้ยืดยาวออกมาและสายตาของเจ้าหมีมันก็ดูเหมือนจะบ้าไปแล้ว นอกไปจากนี้ร่างกายที่ใหญ่โตอยู่แล้วของมันก็ใหญ่มากขึ้นไปอีกและส่วนของภูเขาทั้งหมดก็จมลงไปภายใต้น้ำหนักของมัน
มันดูเหมือนว่าเจ้านี้มันจะมีลักษณ์ของสัตว์ป่าที่บ้าเลือด มันกำลังคลั่งไปแล้ว นี่มันเป็นความสามารถของสัตว์ที่พอใกล้จะตายจะคลั่งฆ่าทุกๆอย่างในสายตาของมัน
[ข้าดอร์ตู]
ยังไงก็ตามมันสายเกินไปแล้ว
[เริ่มดำเนินการ]
เสียงระเบิดได้ดังออกมา
[กรรรรรรรรรรรรร]
ขนสัตว์ที่ถูกย้อมด้วยเลือดได้ระเบิดและเนื้อกระดูกของมันก็กระจายออกไปทั่ว หมีได้ร้องออกมา มันต่างไปจากก่อนหน้านี้เลยนี่เป็นเสียงที่มีแต่ความเจ็บปวดเพียงอย่างเดียว เป็นความเจ็บปวดที่แม้ว่ามันจะคลั่งอยู่ก็ไม่สามารถจะเมินเฉยได้ เป็นความเจ็บปวดจากความตาย
ความเจ็บปวดนี่มันก็มีที่มาง่ายมากๆ เศษโลหะหมื่นของดอร์ตูก่อนหน้านี้ได้ถูกแม๊กม่าละลายจนกลายเป็นของเหลวและจากนั้นมันก็ได้ปกคลุมร่างของหมีและบางส่วนก็ได้ไหลเข้าไปในร่างของหมี ในตอนนี้ดอร์ตูก็แค่ระเบิดมันออกมาเท่านั้นเอง
[ข้าดอร์ตู นี่คือศิลปะแห่งการระเบิด]
“ใช่แล้วดอร์ตู มันเป็นแบบนี้เลย!”
ฉันได้หยักหน้าขึ้นมาอย่างพอใจ จากนั้นก็มองไปที่เจ้าหมีที่แทบจะยืนไม่อยู่แล้ว มันได้ยกส่วนหนึ่งของร่างกายที่ฉันยังไม่ได้แตะต้องขึ้นมานั่นคือขาหน้าที่เหลืออีกข้างหนึ่ง
[ก๊าซซซซซซซซซซ]
“ลาก่อนเจ้าหมี”
ฉันได้ขว้างหอกออกไป
“เหลืออุ้งตีนหมีให้หนูได้ลองด้วยนะ”
หอกของฉันได้เจาะหัวของมันและปักลงไปบนพื้น เจ้าหมีที่ได้ยกมือขึ้นมาเหมือนกับเด็กที่ยกมือถามคำถามในชั้นเรียนได้ล้มลงไปในทันที การล่าได้จบลงไปแล้ว
Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

Status: Ongoing

เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง

เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป

สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท