Chapter 529: นายมีสิทธิ์อะไรที่จะสั่งให้พวกเราหยุด?
ลู่เทียนหลงรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้ยินเรื่องตลก ซึ่งมันไม่ได้ขาเลยแม้แต่นิดเดียว “พวกเราจําเป็นที่จะต้องปรึกษานาย? นายคิดว่าชายที่ยืนอยู่ด้านหน้านายคือใคร? เขาคือนายพลเลยนะ!
“มันเป็นเรื่องของการร่วมมือกันระหว่างทีมของนายและทีมของฉัน ตําแหน่งมันไม่ได้เป็นเรื่องสําคัญ ถ้านายต้องการให้ฉันนับถือนาย นายก็จําเป็นที่จะต้องนับถือฉันด้วยเช่นกัน!” เจียงลู่ฉีพูดโต้กลับ
จากมุมมองของเจียงลู่ฉีแล้ว มันไม่มีใครหน้าไหนที่สามารถสั่งการเขาได้ ไม่แม้แต่นายพลจางที่จะต้องให้เขารับฟังคําสั่ง เขาเลือกที่จะตกลงร่วมมือกันทําภารกิจนี้ ถ้าเขาอนุญาตให้ฮานหยวนออกคําสั่งได้ มันก็เหมือนกับว่าเขาส่งตัวเองและเพื่อนร่วมทีมของเขาขึ้นไปบนเขียง เจียงลู่ฉีจะไม่สัญญาอะไรก็ตาม ที่คุกคามทีมของเขาแบบนั้น
“นาย!”
ฮานหยวนหยุดลู่เทียนหลง ไม่ให้เขาเถียงกับเจียงลู่ฉีต่อ ถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไปแล้ว ทั้งสองฝั่งคงจะจบไม่สวยกันทั้งคู่
“กัปตันเจียงครับ ที่จริงแล้ว ทุกคนในหน่วยจู่โจมต่างมีอิสระ และไม่จําเป็นที่จะต้องทําตามคําสั่งส่วนใหญ่ครับ พวกเขาสามารถที่จะอยู่กับหน่วยเดิมของพวกเขาก็ได้ ถ้าพวกเขาต้องการ ถึงแม้ว่าผมจะมีหน้าที่รับผิดชอบก็ตามที่ ผมไม่เคยคิดที่จะกดดันใครเลยครับ” ฮานหยวนอธิบายออกมาอย่างสุภาพ
“แต่ผมคิดว่าคุณควรที่จะรู้เกี่ยวกับอย่างหนึ่งนะครับ มีเพียงหน่วยจู่โจมที่อยู่ภายใต้คําสั่งของผมเท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตให้ออกล่าสัตว์ป่ากลายพันธุ์” ฮานหยวนพูดเพิ่มเติม
ฮานหยวนเน้นําเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเขาต้องการให้เจียงลู่ฉีรู้ว่า เขานั้นทําให้เจียงลู่ฉีได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ไม่มีหน่วยกองทัพทีมไหน ที่สามารถเสนอแบบที่ฮานหยวนทําได้ ในความคิดของฮานหยวนแล้ว เจียงลู่ฉีก็เหมือนกับกัปตันของผู้รอดชีวิตทีมอื่น ที่ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับกองทัพ เพื่อตําแหน่ง และผลประโยชน์ส่วนตัว
โชคร้ายที่ฮานหยวนประเมินเจียงลู่ฉีผิดไป เขาไม่ได้ต้องการที่จะเข้าร่วมกับกองทัพเลยแม้แต่น้อย เหตุผลที่เข้าร่วมกับพวกเขา มันเป็นเพียงเพราะว่า มันมีโอกาสที่จะหาแสงดําได้มากเพิ่มขึ้น ในอีกความหมายหนึ่ง เจียงลู่ฉีกําลังมองหาความร่ำรวยและวิถีทางในการเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของทีม สําหรับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแล้ว สัตว์ป่ากลายพันธุ์แสดงถึงความร่ำรวยและความแข็งแกร่ง มันเป็นเรื่องปกติที่เจียงลู่ฉีต้องการที่จะล่าสัตว์ป่ากลายพันธุ์เหล่านั้น
ฮานหยวนเชื่อว่าเจียงลู่ฉีจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ถ้าเขาเข้าร่วมกับกองทัพ ยังไงก็ตามการได้รับการปกป้องจากทางกองทัพ เจียงลู่ฉีจะสามารถหาโอกาสในการฆ่าสัตว์ป่ากลายพันธุ์ข้างนอกได้มากยิ่งขึ้น
“สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เจ้าหลุมดําเป็นอันตรายอย่างมากกับพวกเราทั้งหมด” ฮานหยวนพูดอย่างกระวนกระวายใจ เขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะทําให้เจียงลู่ฉีสนใจ
เมื่อเจียงลู่ฉีได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาหัวเราะอยู่ในใจ เขาเห็นถึงเจตนาของฮานหยวนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่เขาเน้นย้ำเกี่ยวกับกองทัพจะสามารถช่วยป้องกันเขาได้ โชคร้าย ที่ฮานหยวนจะรู้ได้ยังไงว่า เป้าหมายหลักของเจียงลู่ฉีคือการทําลายและดูดซึมเจ้าหลุมดํา?
“โอ้? นายพลฮานครับ นั่นหมายความว่าคุณปฏิเสธที่จะร่วมมือกับผมอย่างเท่าเทียมสินะครับ? ผมขอโทษจริงๆ ผมคงไม่สามารถที่จะตกลงอะไรเกี่ยวกับอะไรที่มากกว่านี้ได้” เจียงลู่ฉีพูดพร้อมกับโบกมือไปด้วย
รอยยิ้มของฮานหยวนแข็งที่อ เมื่อเขาได้ยินมัน ถึงแม้ว่าทีมจี้หยิงจะแข็งแกร่ง และเขาสนใจในตัวรถมินิบัส ฮานหยวนก็ไม่สามารถที่จะปฏิบัติกับพวกเขาแตกต่างไปจากทีมผู้รอดชีวิตทีมอื่นได้ เขาจะยอมกับคนนอก และรับฟังคําแนะนําจากเจียงลู่ฉี หลังจากที่เขามอบผลประโยชน์ไปมากมายได้ยังไงกัน? เขาหงุดหงิดและไม่พอใจกับความโอหังของเจียงลู่ฉีมาก
“มันน่าเศร้าจริงๆ” ฮานหยวนมองไปที่เจียงลู่ฉีอย่างลึกซึ้ง “ผมเชิญกัปตันเจียงอย่างจริงใจ แต่กัปตันเจียงไม่ได้ปฏิบัติกับผมได้ดีเท่าไหร่เลย คนหนุ่มนี่ช่างไม่เชื่อฟังผู้คนจริงๆ แต่ผมยังคงเป็นคนที่เข้าใจผู้อื่นอยู่ดีครับ”
“ถ้าทุกคนมีความต้องการเหมือนกับนาย กองทัพก็คงจะไม่มีตัวตนอยู่อีกแล้ว” การ์ดหญิงพูดออกมาอย่างเย็นชา
ฮานหยวนไม่ได้หยุดเธอในครั้งนี้ ในสายตาของฮานหยวนแล้ว หรือพูดให้ถูก ในสายตาของนายพลแล้ว มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สําหรับเขา ที่จะต้องปรึกษากับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติกลุ่มหนึ่ง และยังเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวอีกด้วย การที่จะทําตามคําขอของเขา ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีความสามารถที่เท่าเทียมกัน
เจียงลู่ฉีเมินการ์ดหญิงและยังคงนิ่งเงียบ
หวันยี่หลิงขยับแว่นอย่างหงุดหงิดใจ เมื่อเธอเชิญเจียงลู่ฉีก่อนหน้านี้ เธอคาดการณ์ไว้ว่าเจียงลู่ฉีจะเข้าร่วม และฟังคําสั่งของทางกองทัพ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีความต้องการแบบนี้
ในเวลาเดียวกัน ทีมอีกทีมหนึ่งได้มาถึงด้านหน้าของสํานักงาน บนรถถังคันหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีจากที่ห่างไกลออกไป
“ไม่ใช่ว่านั่นเป็นรถมินิบัสของทีมฉ่หยิ่งงั้นเหรอ? ไปทางนั้นกันเถอะ!” เจ้าหน้าที่ออกคําสั่งออกมา
“หื้อ? ฉันสัมผัสได้ถึงพลังจิตที่คุ้นเคยละ” พีชอุทานออกมา
“จริงเหรอ?” เว่ยเฟยเฟยถามออกมาในทันที “ที่ไหนกัน? เธอมั่นใจนะ?”
“มัน….อยู่ด้านนอกประตูนี่เอง!” พีชตอบกลับ
“ไปดูกันเถอะ” เว่ยเฟยเฟยพูด เธอต้องการที่จะจากที่นี่ให้ไวที่สุดอยู่แล้ว เมื่อเธอทนเห็นใบหน้าที่น่ารําคาญของถังคังหยุนไม่ได้ มันเป็นโอกาสที่ดีสําหรับพวกเธอที่จะได้ผ่อนคลายสักเล็กน้อย
ถังคังหยุนกลับตามพวกเธอมา และตะโกนออกมาอย่างไม่คาดคิด “เฮ้ เธอทําอะไรอยู่? อย่าวิ่งซนไป นายพลฮานจะมาที่นี่แล้ว!”
ถังคังหยุนนั้นมีเจตนาที่จะใช้ประโยชน์จากความสามารถพิเศษของเว่ยเฟยเฟยและพีช ในการที่จะทําให้นายพลฮานสนใจ แต่ว่า ในช่วงที่สําคัญเช่นนี้ ทั้งสองสาวต่างต้องการที่จะออกไปข้างนอกซะงั้น!
“ฉันหวังว่ามันจะเป็นทีมของกัปตันเจียงนะ!” พีชพูดออกมาพร้อมกับดวงตาที่สว่างสดใส
“เจียงลู่ฉีอีกแล้ว!”
“เธอไปไม่ได้!” ถังคังหยุนพูดออกมาอย่างเย็นชา
“อะไร? นายมีสิทธิ์อะไรที่จะมาสั่งให้พวกเราหยุดกัน!?” เว่ยเฟยเฟยถามออกมา
“โอ้ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น” ถังคังหยุนยิ้ม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พอใจกับทั้งสองสาว และต้องการที่จะสอนบทเรียนกับเธอทั้งสอง เขาเก็บกักความโกรธนี้ไว้ และยิ้มออกมา
“ตั้งแต่ที่ทีมของกัปตันเจียงอยู่ที่นี่ ฉันเดาว่าพวกเขาก็จะมาเข้าร่วมกับหน่วยจู่โจมนี่เหมือนกัน พวกเขาน่าจะเข้ามา…” ก่อนที่เขาจะพูดจบ เว่ยเฟยเฟยก็ลากพี่ชออกไปด้านนอกแล้ว การแสดงออกของถังคังหยุนดูน่าเกลียดอย่างมาก เมื่อเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“ยัยพวกขายตัวเอ้ย!” เขาอดที่จะด่าออกมาไม่ได้ เขารีบเดินตามพวกเธอไปอย่างเร่งรีบ ถ้าพวกเขาไปพบเจียงลู่ฉีช้ากว่านี้ ถังคังหยุนคงจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
“เธอมั่นใจนะ?” เว่ยเฟยเฟยถามออกมาอีกครั้งหนึ่ง
“เอ่อ มันคุ้นจริงๆนะ” พี่ชพูด “ฮ่าๆ เธอนี่กังวลเกี่ยวกับเขาอยู่ตลอดเวลาเลยนะ เธอควรที่จะแสดงตัวออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่ทําได้แล้วละ ว่าเธอนั้นตกหลุมรักเขาเข้าให้แล้ว!”
“อย่าพูดไร้สาระ!” เว่ยเฟยเฟยตะโกนออกมา พร้อมกับทุบพีชเบาๆ
ความอิจฉาและโกรธเคืองนั้นถาโถมเข้าใส่ถังคังหยุน เมื่อเขาได้ยินบทสนทนานี้
“โอ้! มันเป็นกัปตันเจียงจริงๆด้วย!”
หลังจากที่ออกมาด้านนอก เว่ยเฟยเฟยและพีชเห็นเจียงลู่ฉี รวมทั้งทหารอีกหลายคนที่อยู่ข้างเขา
“นั่นคือเขางั้นเหรอ? เจียงลู่ฉี?” ถังคังหยุนกระซิบออกมา ดวงตาของเขาจดจ้องไปยังชายหนุ่มที่มีอายุยี่สิบ ที่ดูเหมือนกับเด็กมหาวิทยาลัย
ในช่วงเวลาต่อมา ความสนใจของถังคังหยุนนั้นถูกดึงดูดไปโดยคนอีกคนแทน หรือพูดให้ถูกคือตรายศบนไหล่ของเขา ซึ่งเป็นช่อมะกอกสีทองพร้อมกับดาวทองอีกสองดวง! เขาคือนายพลใหญ่!
“ฮานหยวน!” ดวงตาของถังคังหยุนส่องประกายออกมา เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าฮานหยวนจะอยู่ที่นั่นและเขากําลังคุยกับเจียงลู่ฉีอยู่ เขานั้นเต็มไปด้วยความอิจฉา ถังคังหยุนกลับได้ยินเสียงแหลมของการ์ดหญิง
“นายมันก็แค่ทีมเล็ก นายมีสิทธิ์อะไรที่จะร่วมมือกับกองทัพอย่างเท่าเทียม?” การ์ดหญิงตะโกนออกมา เมื่อเธอหงุดหงิดกับรอยยิ้มของเจียงลู่ฉี