ตอนที่ 145 หลิงเจินเหริน ม๊วฟม๊วฟ
บทสรุปของเหตุการณ์ในครั้งนี้นั้นโจวยี่ได้ให้ความช่วยเหลือแบบไม่มีที่ติ
ตำแหน่งผู้อำนวยการสมาคมร้อยโรงเรียนซึ่งถูกแต่งตั้งโดยเลขาซุนดาคัง ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ต้องคิดหน่อยว่ากำลังเจออยู่กับใคร หัวหน้าตำรวจจราจรบนทางด่วนนั้นไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับคนใหญ่คนโตแบบนี้ เขายืนเหงื่อแตกและปากสั่นเพราะความกลัว
“คุณรู้จักฉันไหม?” โจวยี่ยิ้มให้หัวหน้าตำรวจคนนั้น
เมื่อลุงหัวหน้าตำรวจได้ยินเสียงของโจวยี่สติของเขาก็กลับสู่สถาวะปกติ “ผมไม่คิดว่าจะได้เจอผู้อำนวยการโจวยี่ที่นี่”
นายตำรวจและลุงตำรวจทุกนายไม่กล้าที่จะเอ่ยคำพูดใดออกมา
“รถสามล้อคันนี้…?” โจวยี่เอ่ยขึ้น
หัวหน้าตำรวจรีบส่ายหัว “ไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณโจว ถ้าหากรถสามล้อคันนี้เป็นของคุณ พวกเราก็ไม่กล้ายึดมันหรอกครับ”
“รถสามล้อของฉันฝ่าฝืนกฎจราจร ฉันจะต้องโดนหักแต้มการขับขี่ไหม” โจวยี่ยิงคำถามไปอีกหนึ่งคำถาม
“รถคันนี้มันไม่มีคนขี่ ผู้อำนวยการโจวยี่คงไม่โดนกล่าวหาแบบนั้นหรอกครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง…”
“แล้ว…ค่าปรับหล่ะ” โจวยี่ยิงคำถามเพิ่มไปอีกหนึ่งคำถาม
หัวหน้าตำรวจรีบส่ายหัวตอบ “ไม่มีการหักแต้ม ค่าปรับใดๆทั้งนั้นครับ คุณโจวไม่ต้องเป็นห่วง….”
‘หืม…นายตำรวจคนนี้’
หวังลิ่งและเทพมือระเบิดซึ่งยืนมองภาพเหตุการณ์อยู่ข้างๆ ใครจะคาดคิดว่าครู่ต่อมาโจวยี่จะคว้าไหล่ของนายตำรวจคนนั้นและชำเลืองตาลงมองหมายเลขตำรวจที่ปักอยู่บนหน้าอก “PC12138”
“คุณโจว มีอะไรหรือเปล่าครับ…”
โจวยี่ถลึงตามองหัวหน้าตำรวจด้วยความโกรธและส่ายหัว “คุณหัวหน้า ฉันคิดว่าฉันควรจะต้องตำหนิคุณ! คุณเป็นถึงหัวหน้าตำรวจจราจร คุณกล้าเพิกเฉยต่อกฎหมายได้อย่างไร? ฉันนั้นกำลังทดสอบคุณอยู่…และคุณก็ทำให้ฉันผิดหวังมาก!”
หัวหน้าตำรวจและลูกน้องของเขานั้นเงยหน้าขึ้นมองโจวยี่พร้อมด้วยใบหน้างุนงง
“ด้วยตำแหน่งที่เป็นถึงหัวหน้าและผู้บังคับใช้กฎหมาย พวกคุณไม่ผ่านการทดสอบเล็กๆนี้เลยสักคนเดียว แล้วอนาคตในคดีใหญ่ๆจะเป็นเช่นไร? พวกคุณคิดว่าผู้บังคับบัญชาของพวกคุณจะเชื่อใจพวกคุณได้หรือ?” โจวยี่จ้องมองนายตำรวจทุกคนด้วยสีหน้าจริงจัง
หลังจากนั้นโจวยี่จึงชี้นิ้วไปที่อาคารซึ่งอยู่ใกล้ๆ “พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าฉันมาเยี่ยมใครในวันนี้? คนคนนั้นคืออดีตผู้บัญชาการตำรวจคนก่อน เช็นหยานฉี ก่อนที่เขาจะเข้าโรงพยาบาล เขาได้รับใช้ประเทศชาติทั้งกายและใจ เพื่อผดุงความยุติธรรมในสังคม ท่านคงเห็นสิ่งที่พวกนายทำในวันนี้หมดแล้ว!”
บรรดาตำรวจในที่แห่งนี้ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาและเอ่ยคำพูดใดๆขัด “การสอน” ของโจวยี่
เมื่อหัวหน้าตำรวจได้ยินเขาก็ก้มหน้าลงและยอมรับความจริง “ผู้อำนวยการโจวยี่พูดถูก…ผมบกพร่องในหน้าที่”
โจวยี่พยักหน้าให้ “เอาล่ะ ต้องตัดแต้มเมื่อคุณคิดว่าสำควรจะตัด ต้องปรับเมื่อคุณคิดว่าควรจะปรับ! จำเอาไว้ พวกคุณไม่ควรจะต้องเกรงกลัวคนอื่นแม้แต่ผู้บังคับบัญชาของตัวเอง พวกคุณเข้าใจใช่ไหม?”
หัวหน้าตำรวจยืดตัวตรงและยกมือขึ้นตะเบ๊ะทำความเคารพโจวยี่ “รับทราบครับผม!”
โจวยี่หยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ดังนั้นคุณสามารถตัดแต้มฉันได้และส่งใบเรียกค่าปรับมา…แต่ว่าไม่ต้องยึดรถสามล้อคันนี้และ…ตัดแต้มรวมไปถึงค่าปรับทำให้มันน้อยๆหน่อยก็แล้วกัน…”
“…” หัวหน้าตำรวจคนนั้นนิ่งไปครู่นึงก่อนที่จะพูดออกมา “ก็ได้ครับคุณโจว”
เทพมือระเบิดและหวังลิ่งยืนมองภาพเหตุการณ์อยู่ใกล้ พวกเขาต่างมีความคิดเป็นเสียงเดียวกันว่า
‘โจวยี่อาจจะไม่โจวยี่คนเดิมอีกต่อไปแล้วผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่งนี้มาเขาคงได้พบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตา นั้นอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้อุปนิสัยของเขาเปลี่ยนไปมากถึงขนาดนี้…’
………………………………..
เมื่อหวังลิ่งกลับถึงบ้าน พ่อของเขาก็กลับเข้าห้องทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จำเร่งจบต้นฉบับของแม่นมของฉันในอีกไม่กี่วันที่จะถึง ตอนนี้พ่อของเขากำลังไล่ตรวจทานคำผิดและเนื้อเรื่องทั้งหมดที่เขาร่างเอาไว้
นักเขียนนิยายส่วนใหญ่มักจะเขียนพล็อตเรื่องไว้แบบ “ตามสูตร” คือพวกเขาจะไม่สนใจเนื้อหาระหว่างกลางเสียเท่าไร จะสนใจเฉพาะฉากสู้ในตอนจบ ที่ตัวโกงจะต้องพ่ายแพ้ ซึ่งมันเป็นสูตรจบที่คนทั่วไปมักเรียกว่า “Bad ending”
พ่อของหวังลิ่งนั้นอยากจะให้เรื่องของเขาจบลงอย่างสวยงาม! ไม่มีทางที่เหล่าผู้อ่านจะมากร่นด่าเขาย้อนหลังได้
หวังลิ่งเดินเข้าห้องของตัวเองไป ด้วยความเบื่อเขาจึงล็อคอินเข้าไปในQQและพบว่ากลุ่มพูดคุยผู้ฝึกตนที่เขาอยู่นั้นจะคึกคักเป็นพิเศษ
เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะระหว่างทางกลับบ้านของเทพมือระเบิด เขาเปิดหัวข้อสนทนาที่เกี่ยวข้องกับหวังลิ่งขึ้นว่า “ลูกศิษย์”
ทันใดนั้นเองกลุ่มแชทที่เคยเงียบเหงาก็กลับครื้นเครงขึ้นมาทันที
ผู้ดูแลอย่างไฉ่เหรียนเจินเหรินก็ได้ส่งอีโมจิตกใจลงมา “หลิงเจินเหรินมีลูกศิษย์จริงหรือ? คนคนนั้นหน้าตาเป็งยังไง? พวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน? พวกเขามีพลังพิเศษอะไร?”
เทพมือระเบิดตอบแทบจะในทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ระดับแก่นแท้ปราณทองคำ แต่เขามีทักษะรับมือสิ่งต่างๆได้ดี บางทีนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่หลิงเจินเหรินรับเขาเป็นศิษย์…หน้าตาเขาก็ดูธรรมดาและดูเกย์นิดๆ”
ทุกคนในกลุ่มต่างพร้อมใจกันราวหนึ่งนาที
บูลังจอมดาบตอบกลับมา “จริงจัง! เงื่อนไขการเป็นลูกศิษย์ของหลิงเจินเหรินก็คือคนคนนั้นต้องหน้าตาธรรมดาและดูเกย์หรอ”
ไฉ่เหรียนเจินเหรินก็กระโดดลงมาร่วมแชทกับเขาด้วยอีกคน “เดี๋ยวนี้เขาฮิตคนหน้าตาธรรมดาและเกย์หรอ? โลกได้เปิดกว้างขึ้นมากแล้วจริงๆ!”
“…”
กลุ่มแชทก็ยังคงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนกระทั่ง “9ครั้งหนึ่งคืน” ได้แชร์โพสต์ลงมาในกลุ่มแชท “ดูนี่สิ ฉันเห็นมันในหมวด ‘ซุบซิบนินทา’ มันพูดถึงหลิงเจินเหรินและเทพมือระเบิด”
หวังลิ่งจ้องไปที่ลิงค์นั่นด้วยความเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ด้วยเหตุผลบางประการณ์เขารู้สึกไม่ดีกับลิงค์อันนั้น
โพสต์อันนี้ถูกโพสต์เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
ส่วนคนโพสต์นั้นชื่อว่า “ผู้อำนวยการโรงเรียนระดับสูง”
เพียงแค่ชื่อหวังลิ่งก็รู้แล้วว่าไอบ้าคนนี้มันเป็นใคร!
ใจความมีอยู่ว่า “อ้า! วันนี้ฉันเจอเทพมือระเบิดและหลิงเจินเหรินตัวเป็นๆด้วยหล่ะ พวกเขาเป็นสองในสี่คนที่ฉันชื่นชอบที่สุดในเว็บบอร์ดผู้ฝึกตน ในที่สุดฉันก็ทำสำเร็จไปแล้วสองในสี่อย่าง”
และมีโพสต์หนึ่งถามกลับมา “แล้วสี่คนนั้นคือใครบ้าง?”
เจ้าของโพสต์ตอบกลับ
หมัดจิ๋วไฉ่เหรียนเจินเหริน (0/1)
เทพมือระเบิดบาซาเห้ย (1/1)
โทยะจอมอมตะ (0/1)
และคนสุดท้าย
หลิงเจินเหรินม๊วฟม๊วฟ (1/1)
“…”
หวังลิ่งตอนแรกเขาก็อยากจะช่วยแชร์ต่อ แต่พอเขาเห็นจำนวนการแชร์ที่ปาเข้าไป 500 Share เขาเปลี่ยนใจไปเลือกรายงานโพสต์นี้เป็นโพสต์เท็จแอบอ้างและสแปม