Chapter 252: การต่อสู้อันดุเดือด
“เนียนลู่หยุน!”
เมื่อเทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งได้ยินข่าวการปรากฏตัวของเนียนลู่หยุนอย่างฉับพลันนั้นทำให้เขาตกอยู่ในความเงียบงันในทันที เหตุผลหลักที่พันธมิตรปึกแผ่นมีโอกาสในการยืนเผชิญหน้ากับกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งนั้นก็เป็นเพราะตัวตนของเนียนลู่หยุน…
“ข่าวนี้น่าเชื่อถือได้ไหม?”เทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งถาม
“เขาฆ่าโจรไปหกคนในทันที นายคิดว่าไงละ?”จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งโต้กลับ
ในเมืองฝนฟ้าคะนอง มันไม่ได้มีนักต่อสู้คนไหนที่ก้าวข้ามเนียนลู่หยุนเลยแม้แต่นิดเดียว
“เหี้..เอ้ย มันเป็นเขาจริงๆ! นายควรที่จะยื้อเขาไว้ก่อน ฉันจะพากำลังเสริมไปในไม่ช้า!”เทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งรีบตอบกลับ
“ถ้างั้นนายควรรีบมาได้แล้ว พวกเราไม่สามารถที่จะยื้อได้นานมากกว่านี้! คนช่วยเหลือของเขานั้นก็แข็งแกร่งมากด้วยเช่นกัน พวกเขาต่างมีเวทย์หมู่กันทั้งคู่!”
“แล้วตราปิดผนึกละ?”
“พวกเขาทำลายไปสองแล้ว…ทั้งหมดที่เหลือในตอนนี้ก็คือผู้นำโนมส์…ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถบินหนีไปได้ เขาก็ไม่สามารถอยู่ได้นานด้วยเช่นกัน…สกิลของหมอผีนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะดูถูกได้เลย…”จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งอ้อนวอน
“อึ้ก! ทุกคนลืมสงครามนี้ไปซะ! กลับไปป้องกันตราปิดผนึกกัน!”เทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งออกคำสั่งในแชทกิลด์
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับพวกเขาในการหลบหนีแบบนี้ การปกป้องสำนักงานกิลด์ของพวกเขานั้นสำคัญยิ่งกว่าหน้าตาของพวกเขา!
โชคดีสำหรับเขาที่ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งเป็นปึกแผ่น ทันทีที่พวกเขาได้รับคำสั่ง พวกเขาก็เริ่มล่าถอยในทันที
เมื่อผู้เล่นของพันธมิตรปึกแผ่นเห็นผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งล่าถอย พวกเขาก็รีบไล่ตามในทันที เมื่อพวกเขาได้ยินข้อความจากนักแอบซุ่ม “อย่าเสียแรงไป! ตราบเท่าที่พวกเขารู้ว่าใครเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็พอแล้ว!”
ถึงแม้ว่าผู้เล่นของพันธมิตรปึกแผ่นรู้สึกไม่พอใจที่สงครามจบแบบนี้ พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะท้าทายนักแอบซุ่มด้วยเช่นกัน
นอกไปจากนี้ นี่มันยังเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของเกม ผู้เล่นส่วนใหญ่นั้นพยายามที่จะหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกิลด์ใหญ่แบบนี้ ยิ่งไปกว่านี้ มันไม่ใช่ว่าว่าพันธมิตรปึกแผ่นนั้นสามารถจัดการกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งได้อย่างสมบูรณ์ มันก็ยังมีโอกาสที่มันจะเป็นกับดักอยู่เหมือนกัน
มีเพียงคนเดียวที่ระแคะระคายกับความจริงของเรื่องนี้ก็คือนักแอบซุ่ม จากจุดเริ่มต้นจนถึงตอนนี้ นักแอบซุ่มก็ไม่เชื่อว่าหัวใจสายฟ้าอันบ้าคลั่งจะโจมตีผู้เล่นของพันธมิตรปึกแผ่นที่ไม่ยั่วยุเขา…
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ด้านในปราสาทหน้าผาโลหะ หวังหยู่ก็อยู่ด้านหน้าของผู้เล่นกฏสวรรค์อันบ้าคลั่ง ในขณะที่พวกเขายังไม่ฟื้นตัวจากอาการตกตะลึงได้เลย
พร้อมกับการเหวี่ยงคทา หมอผีของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งก็ร่ายเวทย์ [บิดเบือน] ใต้ฝ่าเท้าของหวังหยู่ ในขณะที่อัศวินใช้ [พุ่งเข้าชน]
เมื่อหวังหยู่เห็นวงกลมสี่วงปรากฏขึ้นบนพื้น เขาก็รู้ทันทีว่าหมอผีกำลังจะร่าย [บิดเบือน] เขาก็เตะลงไปบนพื้นและส่งตัวเขาข้ามหัวของอัศวินคนแรก เมื่ออัศวินคนอื่นเห็นดังนี้ พวกเขาก็รีบยกเลิก [พุ่งเข้าชน] และใช้ [ฟาดโล่] แทน
ในขณะที่อยู่กลางอากาศ หวังหยู่ยิง [ระลอกคลื่น] ไปบนโล่ของอัศวินและใช้แรงดีดของมันส่งเขาขึ้นไปอีกหนึ่งเมตร ในครั้งนี้ เวทย์ระยะไกลอันมากมายและการโจมตีของนักจู่โจมคนอื่นก็ยิงเข้าใส่หวังหยู่
หลังจากนั้นหวังหยู่ก็ใช้ [เหยี่ยวเหยียบย่ำ] เพื่อลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เปลี่ยนจากหมัดเป็นพลองยาว ก่อนที่เขาจะลงพื้น เขาก็แทงพลองยาวลงบนพื้นและส่งตัวของเขาเองไปท่ามกลางนักเวทย์!
“พระเจ้าช่วย! อย่านะ!”
เมื่อจักรพรรดิอันบ้าคลั่งเห็นสิ่งที่หวังหยู่ทำ เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี…
ไอ้สัตว์ประหลาดนี่โกงเกมอยู่หรือเปล่า???
เมื่อหวังหยู่ปรากฏตัวด้านหน้าพวกเขา นักเวทย์ก็รีบล่าถอยในทันที อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่หวังหยู่เป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีโอกาสที่จะทำมันเลยแม้แต่นิดเดียว
โดยปราศจากความเมตตา หวังหยู่ก็แสดงอำนาจของศาสตร์พลองยาวออกมาตั้งแต่เริ่มต้น มันเหมือนกับว่านักเวทย์กำลังเผชิญหน้ากับมังกรเสียมากกว่าพลองยาวอีก เพียงเวลาไม่ถึงวินาที พวกเขาก็ไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียว…
หลังจากที่ถูกฆ่าโดยหวังหยู่ นักเวทย์ต่างคิดกับตัวเองอย่างเงียบงัน “ฉันไม่เคยได้ยินมาว่าเนียนลู่หยุนจะใช้พลองยาวได้..”
ในช่วงเวลานั้นเอง หมิงตู่และรัศมีฤดูใบไม้ผลิพึ่งจะสังหารนักรบเครื่องจักรที่เหลือ ผู้นำโนมส์ที่อยู่กลางอากาศก็ตะโกนออกมาและพุ่งลงบนพื้นดิน
“ตึ้ง!”
เพียงแค่ผู้นำโนมส์เข้าสู่ระยะการโจมตีของพวกเขา เขาก็โดนโจมตีด้วย [หอกสายฟ้า] ของหมิงตู่ในทันที
[หอกสายฟ้า] ของหมิงตู่มีผลกระทบทำให้กระเด็นออกไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นมันจึงทำให้ผู้นำโนมส์หล่นลงจากบอร์ดลอยได้ ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ร่าย [บิดเบือน] เพื่อเตรียมการสำหรับการลงบนพื้นของเขาเสร็จแล้ว
“บูม!”
เมื่อบอร์ดลอยได้โดน [บิดเบือน] ของรัศมีฤดูใบไม้ผลิ มันก็ระเบิดออกมาในทันที และเหลือผู้นำโนมส์ทิ้งไว้
“โอ้พระเจ้า! นี่มันการคาดการของปีศาจประเภทไหนกัน???”
เมื่อเขาเห็นฉากนี้ ตาของจักรพรรดิอันบ้าคลั่งก็แทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตา
ถึงแม้ว่า “เนียนลู่หยุน” จะแข็งแกร่ง มันก็ไม่ใช่ความลับในเมืองฝนฟ้าคะนอง ดังนั้นจักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งได้เตรียมการกับความสามารถอันโดดเด่นของหวังหยู่ ในอีกทางหนึ่งความสามารถของหมิงตู่และรัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นยุ่งยากกว่ามาก
ผู้นำโนมส์นั้นรวดเร็วมากและความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเขาพุ่งตัวลงมาด้านล่าง
กับความจริงที่หมิงตู่นั้นสามารถโจมตีใส่หัวของเขาได้อย่างแม่นยำในขณะที่เขาเคลื่อนที่นั้นก็ไม่ได้ต่างไปจากปาฏิหารย์
สิ่งที่จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งตื่นตระหนกมากที่สุดก็คือเวทย์บิดเบือนของรัศมีฤดูใบไม้ผลิ หลังจากที่โดน [หอกสายฟ้า] บอร์ดลอยได้ก็พังลง แต่รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็สามารถที่จะคาดเดาตำแหน่งที่จะลงบนพื้นได้อย่างแม่นยำและร่ายเวทย์ก่อนหน้านั้น! ถ้าเขาคำนวนจุดที่บอร์ดลอยได้ลงบนพื้นได้จริงๆแล้วละก็ ความสามารถในการคาดเดาของเขานั้นจะท้าทายสวรรค์อย่างมาก!
ตั้งแต่ไหนกันที่พันธมิตรปึกแผ่นมีสัตว์ประหลาดอีกสองตัวแบบนี้กัน?
ในตอนนี้ผู้เล่นที่หวังหยู่พึ่งฆ่าไปต่างกลับมาเกิดและกลับมายังห้องประชุม
โดยปราศจากความลังเลใจ หวังหยู่ก็เหวี่ยงพลองยาวอีกครั้งและจัดการปัดกวาดผู้เล่นที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมของเขา
พร้อมกับประสิทธิภาพในการร่วมมือกันนั้น รัศมีฤดูใบไม้ผลิและหมิงตู่ก็ผลักดันผู้นำโนมส์ไปติดมุม
โดยปราศจากบอร์ดลอยได้ ผู้นำโนมส์นั้นก็ไม่ได้ต่างไปจากระสอบทรายที่มีพลังชีวิต 100000หน่วย สิ่งที่เขาทำได้ก็คือการเรียกนักรบเครื่องจักรให้มามากกว่านีเพื่อป้องกันตัวของเขาเอง อย่างไรก็ตาม ภายใต้สกิลควบคุมสถานะผิดปกติของผู้ฤดูใบไม้ผลิ มันก็ทำให้นักรบเครื่องจักรล่าช้าลงจนติดค้างไว้ในที่เดียวให้หมิงตู่โจมตี
ในขณะที่หมิงตู่กำลังร่ายเวทย์ไฟอย่างมีความสุข ผู้เล่นของกิลด์กฏสวรรค์อันบ้าคลั่งก็ดูพลังชีวิตของบอสตัวสุดท้ายลดลงอย่างทำอะไรไม่ได้…
ทันใดนั้นพวกเขาก็ต่างพุ่งตัวไปอย่างบ้าคลั่งเพื่อช่วยสำนักงานกิลด์ของพวกเขา
ตั้งแต่ที่พวกเขามีสี่สิบคน ตราบเท่าที่พวกเขาพุ่งตัวไปอย่างต่อเนื่อง แม้แต่หวังหยู่ก็มีปัญหาในการขัดขวางพวกเขา
ในขณะที่หมิงตู่ถูกดึงดูดโดยอัศวิน โจรทั้งหกคนที่เขาพึ่งฆ่าไปก็ลอบผ่านเขาไปและล้อมรอบหมิงตู่
“เฒ่าหลี่ ระวังด้วย!”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตะโกนออกมาอย่างดังก้องแล้วเขาก็ขว้างหมอกพิษใส่พวกเขา
โดยปราศจากการหันตัวกลับ หมิงตู่ก็สลับตำแหน่งกับผู้นำโนมส์อย่างสบายๆ
การสลับอย่างฉับพลันนั้นเร็วเกินไปสำหรับโจรที่จะทำอะไรได้ทัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถหยุดการโจมตีของพวกเขาได้…
“ไอ้พวกสกปรก…”
ตั้งแต่ที่ผู้นำโนมส์กำลังจะตาย เขาก็ไม่ได้มีโอกาสพูดประโยคสุดท้ายก่อนที่จะหายไป เมื่อผู้นำโนมส์ตาย นักรบเครื่องจักรที่เขาเรียกออกมาก็หายไปด้วยเช่นกัน
“โอ้โห! ฉันไม่ได้คิดว่าพวกนายจะเลือดเย็นยิ่งกว่าฉันอีกนะนี่! นี่มันความตั้งใจของพวกนายหรือเปล่าเนี่ย!”หมิงตู่ร้องออกมา
“ไอ้เย็…แม่!”
โจรทั้งหกคนกราดเกรี้ยว เมื่อโดนหมิงตู่ยั่วยุ พวกเขาสูญเสียเหตุผลทั้งหมดและพุ่งตัวใส่เขาอย่างบ้าคลั่งอีกครั้งหนึ่ง