Chapter 255: จะไม่พักจนพวกมันตายกันทั้งหมด!
“ม่ายยยยยยยย!”
เมื่อพวกเขาเห็นแจ้งเตือนระบบ ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งทั้งหมดก็รู้สึกถึงความสิ้นหวังมากมายที่ถาโถมเข้ามา
1000 ทองนั้นไม่ได้มากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับจำนวนกิลด์ของพวกเขา ตราบเท่าที่ทุกคนจ่ายออกมาคนละ 1 ทอง พวกเขาก็จะมีมากพอ
1000 ค่าชื่อเสียงก็แก้ไขได้อย่างง่ายดาย สิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องทำก็คือการทำเควสกิลด์บางอย่างและพวกเขาก็จะได้รับมันกลับมาอย่างง่ายดาย
สิ่งที่สูญเสียใหญ่หลวงมากที่สุดก็คือกิลด์ของพวกเขาเสียระดับไป
ใน {REBIRTH} ระดับของกิลด์นั้นเป็นตัวที่บอกถึงจำนวนของสมาชิก เมื่อเริ่มต้นสร้างกิลด์ออกมา พวกเขาก็จะอยู่ที่ระดับ 3 แต่ละครั้งที่สำนักงานกิลด์ของพวกเขาถูกทำลายโดยสมบูรณ์ พวกเขาก็จะสูญเสียระดับไป เมื่อกิลด์ถึงระดับ 0 กิลด์ก็จะแตกไปตลอดกาล
ถ้าใครก็ตามต้องการที่จะเลื่อนระดับกิลด์ของพวกเขา พวกเขาก็จะต้องรับเควสที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพื่อที่จะเริ่มต้นเควส พวกเขาจะต้องจ่ายเงินจำนวนมากให้กับเจ้าเมือง ถ้าพวกเขาล้มเหลวเควส พวกเขาก็จะสูญเสียเงินที่พวกเขาจ่ายไป ค่าชื่อเสียงและค่าประสบการณ์กิลด์ด้วยเช่นกัน! ถ้าพวกเขาสูญเสียค่าประสบการณ์กิลด์มากเกินไป หลังจากนั้นระดับของกิลด์พวกเขาก็จะลดลงอีกครั้งหนึ่ง!
เนื่องจากเรื่องนี้ แม้ว่ากิลด์จะอนุญาตให้มีสมาชิกจำนวนสองพันคนในระดับที่ 5 มันก็ไม่มีใครสักคนที่รับเควสนี้
แต่ในตอนนี้ กฏสวรรค์อันบ้าคลั่งไม่ได้พยายามที่จะทำเควสและพวกเขาก็สูญเสียระดับไปแล้ว…ในตอนนี้พวกเขาก็ยังต้องเตะสมาชิกนับร้อยคนออกไปจากกิลด์อีก…
“พันธมิตรปึกแผ่น! พวกเราทั้งสองไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมด้วยกันได้อีกต่อไป!!!”
“ไม่ใช่แค่เนียนลู่หยุนงั้นเหรอ? ทำไมพวกเราไม่เล่นแม่งจนตายไปเลยละ?”
ตั้งแต่ที่มันเป็นแค่เกม ผู้เล่นก็จะจัดการข้อขัดแย้งอย่างบ้าระห่ำ ตามที่พวกเขาต้องการ ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ทำลายกฏ มันก็ไม่มีสิ่งที่เกมมาสเตอร์สามารถทำอะไรกับพวกเขาได้อยู่ดี
“เทพเจ้าสายฟ้า พวกเราควรที่จะทำอะไรดี?”จักรพรรดิสายฟ้าอันบ้าคลั่งก็ถามอย่างใจเย็น ตั้งแต่ที่เขาเห็นความแข็งแกร่งของเนียนลู่หยุนและสหายของเขา ดังนั้นเขาจึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะจัดการด้วย
“พวกเราควรที่จะทำอะไรงั้นเหรอ? แน่นอนว่าพวกเราจะกวาดล้างพวกหมาพันธมิตรปึกแผ่นนั่น!”เทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งขู่ออกมาแล้วเขาก็ส่งข้อความไปในแชทกิลด์ “ทุกคนมารวมตัวกัน! พวกนายสองร้อยคนป้องกันฐานทัพของเราพร้อมกับจักรพรรดิสายฟ้าและคนที่เหลือตามฉันกลับเข้าเมือง วันนี้พวกเราจะไม่พักจนกว่าพันธมิตรปึกแผ่นจะไม่มีอยู่อีกต่อไป!!!”
“กวาดล้าง! กวาดล้าง! กวาดล้าง!”เมื่อพวกเขาได้ยินการประกาศของเทพเจ้าสายฟ้า ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งก็กระตือรือร้นและพวกเขาก็เริ่มท่องซ้ำๆ
หลังจากนั้น ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งก็ไปยังรูปแบบเทเลพอร์ตและกลับไปยังเมืองฝนฟ้าคะนอง
…
หลังจากที่ออกมาจากปราสาทหน้าผาโลหะ หวังหยู่และคนอื่นก็กลับสู่ร่างเดิม
หมิงตู่และฤดูใบไม้ผลิที่ถูกฆ่าไปก่อนหน้านี้ พวกเขาจึงเลือกกลับมายังเมืองและหาสถานที่มานั่งรอหวังหยู่
เมื่อหวังหยู่เข้ามาในเมือง เขาก็ถูกหยุดโดยผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่ง
“แสดงตรากิลด์ของนายออกมา มิฉะนั้นอย่าโทษพวกเราว่าไม่มีเมตตา!”
สิ่งแรกที่ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งทำ เมื่อพวกเขากลับไปยังเมืองและยึดครองทางเข้าทั้งหมด ในตอนนี้ พวกเขาทำการตรวจสอบผู้เล่นทั้งหมดที่เข้าหรือออกเมือง
เมื่อผู้เล่นที่อยู่ด้านหน้าพูดกับกฏสวรรค์อันบ้าคลั่ง เขาก็พูดออกมาเบาๆ “ผมไม่มีกิลด์….”
“ไม่มีกิลด์? ถ้างั้นนายลืมที่จะเข้าเมืองได้เลย หรือนายจะถูกฆ่ากลับไปยังจุดเกิด ทางเลือกของนายเองนะ…”ผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งพูดออกมา
ใน {REBIRTH} มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าไปในกิลด์ ดังนั้นมันจึงมีผู้เล่นน้อยมากที่ ‘เร่ร่อน’ มันจึงไม่มีการการันตีว่า ‘ชายไร้กิลด์’ คนนี้จะไม่ใช่สมาชิกของพันธมิตรปึกแผ่น
มันเหมือนกับว่าความบาดหมางระหว่างทั้งสองกิลด์จนถึงจุดที่ผู้เล่นเหล่านี้จะฆ่ากัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตาของพวกเขา
กิลด์ใหญ่นั้นจะทำตัวโหดเหี้ยมอยู่เสมอๆ ดังนั้นมันจึงไม่มีสิ่งใดที่สามารถทำได้โดยปราศจากผู้สนับสนุนเบื้อหลัง ผู้เล่นคนนี้ก็สามารถทำได้เพียงถอนหายใจแล้วเขาก็หันกลับออกไป
เมื่อถึงตาของหวังหยู่ เขาก็เอาตรากิลด์ออกมาเพื่อที่จะทำให้ไม่เป็นที่น่าสงสัย สุดท้ายแล้ว เขาก็เก็บไอเทมเควสไว้ในช่องเก็บของ
เมื่อผู้เล่นกฏสวรรค์อันบ้าคลั่งเห็นตราของหวังหยู่ พวกเขาก็อ้าปากค้างอย่างประหลาดใจ “ตรานี่มีบางสิ่งบางอย่างจริงๆ! ทำไมพวกเราถึงไม่เคยเห็นมาก่อนกัน?”
“ผมมาจากกิลด์เล็กๆที่มีสมาชิกน้อยกว่าสิบคนเสียอีกครับ…”
“เหอะ ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วละก็…เข้าไปซะ…”ทั้งสองคนตอบกลับอย่างไม่แยแส
เมื่อหวังหยู่มาถึงจุดรวมตัว รัศมีฤดูใบไม้ผลิและหมิงตู่ก็กำลังดื่มอย่างสนุกสนานโดยปราศจากการสนใจโลกภายนอก
เมื่อเห็นดังนั้น หวังหยู่ก็พุ่งเข้าไปหาและกระซิบอย่างรีบร้อน “พวกนายนี่มีความกล้ามากจริงๆ! ทั่วทั้งเมืองกำลังจะทำสงครามกันและพวกนายก็ยังนั่งดื่มอยู่ในที่เปิดแบบนี้นี่นะ!”
“เหอะ! นายจะกลัวอะไรกัน?”หมิงตู่หัวเราะ
“ผมหมายถึงว่าพวกเขาไม่สามารถจับผมได้ แต่พวกนาย…”
“….”ถึงแม้ว่าหวังหยู่จะเป็นที่น่าสนใจสำหรับพวกเขา เขาก็เผลอทำลายเกียรติยศของพวกเขาไปโดยไม่ตั้งใจอีกครั้งหนึ่ง
ไม่เหมือนกับหมิงตู่ รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ยังคงใจเย็นและก็ยื่นแก้วเหล้าให้กับหวังหยู่และยิ้ม “อย่ากังวลให้มาก พวกเราปลอมตัวไปด้านในดันเจี้ยนนั่น!”
“โอ้ใช่…ถูกแล้ว…”
“แล้วของพวกเราอยู่ไหนกันละ?”
“อยู่นี่!”หวังหยู่หัวเราะแล้วเขาก็เอาไอเทมออกมาและยื่นให้กับพวกเขา
หลังจากที่ได้รับไอเทมเควส รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็พูดอย่างตึงเครียด “ตั้งแต่ที่พวกเราได้สิ่งที่พวกเราต้องการแล้ว ถ้างั้นพวกเราควรที่จะไปได้แล้ว สถานที่นี้ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป พวกเราส่งเควสให้เร็วมากเท่าไหร่ พวกเราก็จะหวาดกลัวน้อยมากเท่านั้น”
“ใช่!”หวังหยู่และหมิงตู่พยักหน้ารัวๆ เมื่อพวกเขากำลังออกจากโรงเตี๊ยม กุล่มของผู้เล่นก็เดินเข้ามา
ผู้นำของกลุ่มนี้ก็คือเทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งและคนอื่นที่เป็นสมาชิกสำคัญของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่ง
ตั้งแต่ที่พวกเขายืนอยู่ตรงประตู หวังหยู่และคนอื่นก็เห็นโรงเตี๊ยมทั้งหมดถูกล้อมรอบโดยผู้เล่นของกฏสวรรค์อันบ้าคลั่ง
“เหี้..! หมาฤดูใบไม้ผลิ ไม่ใช่ว่านายพูดว่าพวกเขาจะจำพวกเราไม่ได้งั้นเหรอ?”หมิงตู่รีบส่งข้อความไปในแชทกิลด์อย่างบ้าคลั่ง
“พวกเขาไม่น่าจะจำได้ มันไม่น่าจะมีใครในเมืองจำพวกเราได้นะ!”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตอบกลับ
“ใครจะไปแคร์กัน! พวกเขามีคนน้อยกว่าเดิมในรอบนี้ ดังนั้นผมคิดว่าผมจะพาพวกนายทั้งสองคนไปยังสถานที่ปลอดภัยได้!”หวังหยู่พึมพำ
“เยี่ยมเลย!”
เมื้อเทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งเข้ามาใกล้พวกเขา หวังหยู่ก็จดจ่อไปที่เขา ในเวลาเดียวกัน หมิงตู่และฤดูใบไม้ผลิก็จับคทาของพวกเขาแน่น ถ้าเกิดอะไรขึ้นแล้วละก็ พวกเขาก็จะสามารถทำอะไรได้ทันท่วงที
“ไอ้เหี้.. มึงมานั่งดื่มที่นี่อะนะ? หลังจากทุกสิ่งทุกอย่างที่มึงทำก็ยังกล้าที่จะปรากฏตัวในที่สาธารณะแบบนี้อีกงั้นเรอะ? มึงนี่มีความกล้าจริงๆ เนียนลู่หยุน!”
เมื่อพวกเขาทั้งสามคนกำลังจะโจมตี หนึ่งในผู้เล่นด้านหลังเทพเจ้าสายฟ้าอันบ้าคลั่งก็ตะโกนออกมา
“เนียนลู่หยุน?”
เมื่อพวกเขามองไปยังมุมของโรงเตี๊ยม พวกเขาก็ตระหนักได้ว่ามันมีนักต่อสู้ที่หน้าตาคุ้นๆกำลังดื่มเหล้าอยู่คนเดียว!