ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 94

ตอนที่ 94

พวกเขาอยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร เจสันตะลึงเมื่อมองไปที่คู่ต่อสู้ของตัวเอง เจสันเคลือบมานาลงไปที่แขนเพื่อเพิ่มความเร็วและความแข็งแกร่งในการขว้างมีดขนาดเล็ก 5 เล่ม ออกจากมือภายใน 2 วินาที

คู่ต่อสู้ของเจสันสามารถปัดมีด 2 เล่มแรกได้ แต่ถูกเล่มที่ 3 พุ่งไปเสียบที่มือ และอีก 2 เล่ม ปักไปที่ท้องและหน้าอก เจสันรู้สึกแปลกๆ เมื่อเห็นว่า การต่อสู้ได้จบลงอย่างรวดเร็ว และคิดว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะสามารถปัดมีดได้ทั้งหมด

แต่เห็นได้ชัดว่าเขาทำไม่ได้ เจสันหยุดการโจมตีที่กำลังจะโจมตีต่อเนื่องเมื่อ AI ประกาศผลชัยชนะที่เป็นของเจสัน เจสันไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้ของเขายอมแพ้ตั้งแต่เริ่มต้นแล้วด้วยซ้ำเนื่องจากดวงตาที่น่ากลัวของเจสัน

ตอนนี้เจสันต้องรอให้เพื่อนคนอื่นๆ เสร็จสิ้นจากการต่อสู้ ขณะที่มองไปรอบๆ และพบว่าห้อง 74 นั้นอ่อนแอกว่าห้องของเขาเป็นอย่างมาก

จาก 200 คู่ ใน 2 ห้อง ห้อง75 ชนะการต่อสู้ถึง 163 ครั้ง ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กรีลยิ้มหลังจากเห็นผลการแข่งขัน ขณะที่ครูคนอื่นๆ ตกใจกับความสามารถของเด็กนักเรียนห้องนี้

ครูห้อง 74 มองด้วยความประหลาดในขณะที่ห้องของตัวเองเปลี่ยนไปเป็นห้อง 75

‘ทำไมความสามารถของเด็กพวกนั้นถึงสูงนัก ดูเหมือนว่าจะได้รับการฝึกเทคนิคที่คล้ายกันๆ เราควรสอนเทคนนี้หลังจากครึ่งหลังของปีไม่ใช่หรอ’

ครูคนนั้นจ้องมองกรีลราวกับว่าเขาเป็นคนทรยศและกรีลก็มองกัลบด้วยความเรียบเฉย

“ฉันไม่ได้โกงสักหน่อย”

กรีลพูดออกมาราวกับว่าอ่านใจคนได้

สิ่งที่เจสันและครูของห้อง 74 ไม่รู้ก็คือความกดดันที่เจสันได้สร้างขึ้นหลังจากการต่อสู้กับลีโอ ฮาร์ท ที่ทำให้เพื่อนในห้องทุ่มเทให้กับการฝึก และยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่เจสันสู้กับไบรอัน ด้วยจิตสารที่น่ากลัว ยิ่งทำให้เพื่อนในห้องเกิดความกระตือรือร้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม

สิ่งนี่ทำให้พวกเขากดดันเหมือนถ้าทำไม่สำเร็จจะถูกเจสันฆ่าได้ และในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทุกคนที่เพิ่มพลังความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากเพราะสิ่งที่นักเรียนในห้อง 75 โดนเหมือนกันคือการโดนดูถูกว่าอยู่ในห้องเรียนที่แย่ที่สุดของระดับชั้น

แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ เด็กนักเรียนของห้อง 75 ต่อสู้ด้วยความตั้งใจและความแข็งแกร่งเท่าที่พวกเขาสามารถรีดมันออกมาได้ เจตจำนงของพวกเขามั่นคงและต้องการที่จะให้คนอื่นๆ อื่นยอมรับในความสามารถ ห้อง 75 รู้สึกประหลาดใจกับคาวมแข็งแกร่งและความอ่อนแอที่แตกต่างกันของห้อง 74 แต่ตอนนี้ห้องเรียน 74 ได้ถูกลดขั้นมาเป็นห้อง 75 และห้องเรียนของเจสันก็เลื่อนมาเป็นห้อง 74 แล้ว

การแข่งขันในรอบนี้ใช้เวลาไม่ถึง 25 นาที กรีลหยิบหมายเลข 75 ออกจากระเป๋าและวางลงบนมือของครูอีกคนที่กำลังอยู่ในท่าทางที่เหมือนวิญญาณหลงทาง

ห้องเรียน 75 ใหม่ รีบวิ่งออกจากพื้นที่นั้นทันทีและครูของพวกเขาก็เช่นกัน เนื่องจากความอับอายจากการโดนเยาะเย้ย เพียง 5 นาทีต่อมา ห้องเรียน 74 ที่ถูกจัดใหม่ก็ได้ครองพื้นที่นั้นไป

คลาส 75 ใหม่รีบวิ่งออกจากเวที เนื่องจากครูของพวกเขาเขินอายเกินกว่าจะเผชิญกับการเยาะเย้ยจากชั้นเรียนตรงข้าม เพียงห้านาทีต่อมา พื้นที่ทั้งหมดก็ถูกครอบครองโดยชั้น 74 ที่ก้าวหน้าขึ้นใหม่

ในขณะนั้นนักเรียนของห้องเจสันก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มจากชัยชนะ ในขณะที่เจสันยิ้มที่มุมปากแต่ยังคงนิ่ง กรีลกำลังมองดูทุกอย่าง และเห็นนักเรียนกำลังเชียร์ด้วยความดีใจ

ไม่นานนักนักเรียนทุกคนก็หยุดเชียร์และเริ่มพักผ่อนกันและเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ต่อไป ในขณะที่กรีลมั่นใจในตัวเด็กนักเรียนของเขา ในขณะที่กรีลเกือบลืมเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ในแอสทริกซ์

เมื่อนึงถึงงานของตัวเอง กรีลก็ไปหาเจสัน เจสันรู้สึกได้ถึงความผันผวนของมานาอย่างกระทันหันที่อยู่ด้านหลังของเขา เจสันหันหลังมองและเห็นกรีลที่มีสีหน้าแปลกๆ เจสันงงว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากผ่านไป 5 นาที ทุกคนก็เงียบจากการดีดนิ้วของกรีล

ทุกคนคุ้นชินกับบเสียงดีดนิ้ว

“ทุกคนทำได้ดีมาก แต่เรายังห่างไกลจากจุดหมายของเราใช่ไหม”

ทุกคนขานตอบรับด้วยเสียงที่ดัง

” ใช่ครับ/ค่ะ”

“เหลือเวลาอย่างน้อยอีก 1 ชั่วโมง ก่อนห้องอื่นๆ จะแข่งขันเสร็จ อย่าเสียเวลาและแก้ไขข้อบกพร่องของพวกคุณมราฉันมองเห็นได้จากการต่อสู้ พวกคุณยังคงผิดพลาดกับเทคนิคง่ายๆ แบบนี้ ไม่มีใครเลยที่บรรถุถึงความเชี่ยวชาญของเทคนิคยกเว้นเจสันและเซรอน ฉันเห็นตวามผิดพลาดของพวกคุณ และน่าแปลกที่พวกคุณคว้าชัยชนะมาได้”

กรีลกล่าว

ทุกคนคิดว่าพวกเขาทำได้ดีแล้ว และหลังจากที่ได้รับคำชม พวกเขาก็ได้รับคำติเช่นกัน

‘เราแย่ขนาดนั้นเลยหรอ’

แต่ก่อนที่จะได้คร่ำครวญ กรีลก็ได้จับคู่ให้พวกเขา ในขณะที่กรีลเลือดข้อบกพร่องของเด็กนักเรียนแต่ละคน เจสันก็ต้องการปรับปรุงความเชี่ยวชาญของเทคนิคการต่อสู้ ดังนั้นเจสันจึงเลือกคู่กับ เซรอน

เซรอน กิเออร์ เป็นผู้ชำนาญระดับ 2 ในขณะที่จิตวิญญาณของเขานั้นใหญ่กว่าผู้ชำนาญทั่วไปนิดหน่อย หมายความว่าสัตว์พันธะของเขาอ่อนแอเหมือนกับเจสัน

ความสำเร็จของเซรอนในเทคนิควีโพนรี่ ไนท์ นั้นเกือบจะเชี่ยวชาญเท่ากับเจสัน ในคณะที่เซรอนไม่ได้มองเห็นการไหลมานาแบบเจสัน ท้ายที่สุดเจสันต้องยอมรับว่า เซรอนนั้นมีความเข้าใจที่ฉลาดกว่าเจสันอย่างมาก ซึ่งทำให้เจสันประหลาดใจ เพราะเจสันทั้งมองเห็นการไหลของมานาและยังได้เริ่มการพัฒนาและปรับปรุงสมอง เจสันสงสัยว่าเซรอนทำได้อย่างไร และเรื่องที่แปลกอีกเรื่องคือ

มานาของเซรอนถูกแปลงจากมานาปกติ แต่เจสันไม่พบว่าเซรอนได้รับธาตุหรือความสามารถแบบไหน ทำให้เจสันถามตัวเองว่า เซรอนนั้นมีภูมิหลังเป็นแบบไหนเพราะเสื้อผ้า และเครื่องแต่งกายของเซรอนนั้นมีราคาแพงและยังเห็นว่าเซรอนมีอาวุธวิญญาณอยู่ด้วย

เป็นครั้งแรกที่เจสันเห็นอาวุธวิญญาณ และเมื่อเซรอนหยิบมันออกมา เจสันก็ตกใจราวกับฟ้าผ่า เส้นดายที่เชื่อมระหว่างเซรอนและอาวุญวิญญาณที่สามารถมองเห็นได้ด้วยดวงตามานา แม้มันจะเส้นบางและเจสันก็เริ่มสงสัย

หลังจากที่เห็นว่าเวรอนมีอาวุธวิญญาณ เจสันก็สรุปได้ว่าสัตว์พันธะวิญญาณของเซรอนนั้นไม่ได้ธรรมดาหรืออ่อนแอ แต่มันยังพิเศษอีกด้วย

ดังนั้นความเป็นไปได้จึงเข้ามาในหัวของเจาสัน

‘มีความเป็นไปได้ไหมที่จะมีสัตว์พันธะที่สามารถพัฒนาระบบสมองของเจ้าของ’

ซึ่งสามารถตอบได้ทันทีว่ามันมีสัตว์พันธะแบบนี้แน่นอน

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

จากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง

ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต

ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา

คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม

ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย

ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท