ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 95

ตอนที่ 95

เจสันต่อสู้กับเซรอนนานกว่า 2 ชั่วโมงและพัมนาความเชี่ยวชาญอย่างรวดเร็ว ในขณะที่คู่ต่อสู้ของเจสันนั้นเสียเปรียบเล็กน้อยจากการเคลื่อนไหวที่ว่องไวของเจสัน

สิ่งเดียวที่เซรอนทำได้คือการตั้งรับ ในขณะเดียวกันเจสันทำได้เพียงหาช่องว่างและใช้ดวงตามานามองการเคลื่อนไหวของเซรอน หลังจากผ่านไป 3 ชั่วโมง เจสันประทับใจกับการใช้มานาของเซรอน และจดจำการใช้เอาไว้ แต่เจสันไม่รู้ว่าน้ันคือเทคนิคแบบไหน

ทั่งคู่ยังคงปกติดี ในขณะที่เหงื่อซุ่มตัว แต่เซรอนมองดูเจสันราวกับว่าเป็นปีศา่จ ในขณะที่ทักษะของทั้ง 2 เพิ่มขึ้นในขณะที่สร้างแรงกดดันใส่กันและกัน หลังจากที่ชนะ เด็กนักเรียนในห้องนี้ก็ไม่ร่าเริงเหมือนตอนแรกๆ และต้องฝึกและแก้ไข้จุดบกพร่องของตัวเอง

เวลาก็ผ่านไปในแต่ละวัน เจสันก็ฝึกสอบกับเซรอนเป็นเวลากว่า3 ชั่วโมงในทุกวัน และมันก็แก้ไข้จุดบกพร่องของทั้ง 2 ได้อย่างมากมาย ในขณะที่เจสันรู้ว่าเซรอนนั้นกำลังซ่อนอะไรบางอย่าง และเซรอนก็ชอบเจสัน ทำให้ทั้งคู่เป็นคู่ฝึกกันเป็นเวลานาน

โชคไม่ได้สำหรับเจสันที่เซรอนได้พัฒนาจนมาถึงผู้ชำนาญระดับ 3 และตอนนี้เซรอนสามารถเอาชนะเจสันได้อย่างง่ายดายเนื่องจากแรงกดดันที่เจสันต้องเจอในการฝึกไได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่มันก็เป็นประโยชน์สำหรับเจสันในการฝึก

ถ่านจะกลายเป็นเพชรได้เฉพาะแรงดันที่สูงเท่านั้น

ในวันศุกร์ห้องของเจสันได้เลื่อนเป็นห้อง 55 และอุปสรรคขนาดใหญ่ก็เริ่มปรากฏ ช่องว่างระหว่างแกนมานานั้นเพิ่มขึ้นอยากมาก ในขณะที่ห้องที่ลำดับสูงกว่า มีสัวต์พันธะที่แข็งแกร่งและมีแกนมานาระดับสูงกว่า

ตัวอย่างเช่นห้อง 54 ส่วนใหญ่นักเรียนในห้องนั้นมีแกนมานาอยู่ในขั้นผู้ชำนาญระดับ 3-4 ซึ่งมีระดับที่สูงกว่าถึง 2-3 ระดับ

การต่อสู้ในครั้งนี้ยากกว่าครั้งก่อนๆ และยากที่จะบอกว่าจะสามารถชนะได้หรือไม่ กรีลเองก็สงสัยว่าเด็กของตัวเองนั้นจะไปได้ถึงระดับไหน ในขณะที่พวกเด็กที่ก้าวข้ามห้อง 60 มาได้ ก็ทำให้กรีลประหลาดใจมากพอแล้ว

คู่ต่อสู้ของเจสันเป็นผู้ชำนาญระดับ 3 ที่มีพลังธาตุลมทำให้ว่องไว เจสันไม่สามารถขวางมีดได้ เเนื่องจากสายลมทำให้มีดของเจนเบี่ยงไปทิศทางอื่น เจสันคิดวิธีเอาชนะไม่ออกแล้ว เจสันจึงตัดสินที่จะเลียนแบบทักษะของเซรอนถึงแม้ว่ามันจะอันตรายหากไม่ได้เรียนรู้อย่างถูกวิธีก็ตาม แต่เจสันก็ไม่สนใจเนื่องจากต้องการที่จะเอาชนะให้ได้

คู่ต่อสู้ของเจสัน สังเกตว่าตัวเองนั้นเคลื่อนที่ช้า….ไม่ ความเร็วของเจสันที่เพิ่มขึ้นต่างหาก เจสันใช้มานาที่เหลือเสริมร่างกายทั้งหมดและใช้เทคนิคการต่อสู้ที่ลอกเลียนเซรอนมา

ความเร็วของเจสันเพิ่มขึ้น 20 % มันเร็วขึ้นจนเจสันไม่สามารถตั้งตัวกับความเร็วนี้ได้ แต่เมื่อผ่านไปสักพักเจสันก็สามารถควบคุมความเร็วได้ เจสันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วจนคู่ต่อสู้ไม่สามารถรับรู้ตัวตนของเจสันได้

เจสันพุ่งโจมตีไปที่ขาของคู่ต่อสู้ทำให้เสียการตั้งหลักและเจสันก็ขวางมีดใส่ในช่องโหว่ที่ปรากฏขึ้น เซรอนที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้ ก็ได้มาดูการต่อสู้อันดุเดือดของเจสัน และสังเกตุเห็นความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมากขอเจสัน

อย่างไรก็ตาม เซรอนสงสัยว่าเทคนิคที่เจสันใช้มันดูคุ้นๆ สำหรับเขา

อยู่ๆ เซรอนก็อุทานออกมา

“อะไรหน่ะ !!!”

ก่อนที่จะเงียบลงเพราะการอุทานที่ดังจนเป็นจุดสนใจ

ปกติเซรอนเป็นคนพูดน้อย แต่เสียงอุทานของเขาดึงดูดความสนใจของเพื่อนและนักเรียนคนอื่นๆ ก่อนที่จะเซรอนจะหันกลับมาดูการต่อสู้ของเจสัน ที่เจสันสามารถชนะได้อย่างไม่คาดคิด

แม้แต่กรีลยังประหลาดใจกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นของเจสันอย่างกระทันหัน เนื่องจากไม่เคยเห็นเจสันใช้ความเร็วขนาดนี้ในชั้นเรียนต่างๆ

เจสันเป็นคนสุดท้ายในห้องนี่ที่เพิ่งจะต่อสู้เสร็จ และเพื่อนทุกคนกำลังดูเจสันต่อสู้ ตลอดการปะทะของเจสัน เห็นได้ชัดว่าเจสันน่าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่อยู่การเคลื่อนไหวของเจสันก็เปลี่ยนไปและความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างกระทันหันและเซรอนก็อุทานออกมาเสียงดัง และเจสันเองก็ไม่สามารถดึงศักยภาพของทักษะนี้ออกมาได้ทั้งหมด เมื่อเจสันมองไปที่เซรอนก็พบกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆ

และเห็นได้ชัดว่าเซรอนตกใจมากขณะที่มองเจสัน เซรอนไม่คาดคิดว่าเจสันจะสามารถลอกเลียนทักษะของเขาได้

‘เขากำลังลอกเลียนทักษะของฉันรึเปล่า ? เป็นไปได้ยังไง’

เซรอนคิด

‘จริงสิ ครูเคยพูดเกี่ยวกับดวงตามานากับเจสัน แสดงว่าเจสันสามารถมองเห็นการไหลเวียนของมานาได้งั้นหรอ งั้นที่ผ่านมา 2-3ที่ฝึกซ้อมกับเจสัน เขาได้ลอกเลียนทักษะของเราอย่างนั้นรึ’

ความคิดต่างๆ ได้แล่นเข้ามาในหัวของเซรอน แต่ความการแก้ไขปัญหาว่าเจสันได้ลอกเลียนหรือเปล่านั้นก็ง่ายๆ เพียงเซรอนเข้าไปถามตรงๆ

‘ถามเขาสิ !!

เซรอนพูดกับตัวเองขณะที่เดินไปหาเจสันที่กำลังเดินออกมาจากลานประลองอย่างหน้าซีด

“เจสัน คุณโอเคไหม?”

เซรอนถามอย่างกังวล เพราะเขาต้องใช้เวลาฝึกทักษะนั้นเป็นเวลาหลายเดือน แต่เมื่อเห็นเจสันสามารถใช้มันได้เลยเขาก็ตกตะลึง

เจสันที่ใช้ทักษะที่ตัวเองไม่รู้และไม่เข้าใจเกี่ยวกับทักษะนั้น ค่อนข้างอันตรายอย่างมาก กรีลที่สังเกตเห็นใบหน้าของเจัสนที่ดูไม่ค่อยดีนัก จึงบลิงค์มาตรงหน้าของเจสันและเซรอน ขณะที่นำน้ำยาฟื้นฟูระดับต่ำออกมาให้เจสันได้ดื่นเพื่อฟื้นฟู

เจสันที่กำลังเหนื่อยล้าอย่างมาก เมื่อได้ดื่มน้ำยาฟื้นฟู ก็รู้สึกดีขึ้น เจสันสามารถยืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง แต่ยังรู้สึกเหนื่อย ขณะที่รู้สึกหิวอย่างมาก เหมือนไม่ได้กินอะไรมานาหลายอาทิตย์

“ร่างกายของคุณดึงสารอาหารที่สะสมไว้ในร่างกายออกมาใช้เนื่องจากการใช้มานาที่เกินขนาด อย่าใช้ทักษะที่คุณไม่รู้ เจ้าเด็กโง่”

กรีลอธิบาย

หลังจากนั้นเจสันก็หยิบอาการออกมาจากพื้นที่เก็บของ ในขณะที่เซรอนกำลังแสกนร่างกายขอเจสันดูว่ามีอะไรผิดปกติไหม

เจสันเขินอายและถามว่าเกิอะไรขึ้น ในขณะที่เซรอนกำลังจะโมโหที่เจสันทำอะไรโง่ๆ

“คุณเลียนแบบเทคนิคโฟลติ้งสกายงั้นหรอ”

เซรอนถามด้วยความสงสัย และเซรอนก้ไม่ควรพูดชื่อมันออกมา

“อ่าาา นั่นน ฉันขอโทษนะเซรอนนน ฉันไม่รู้ว่าจะเอาชนะยังไงแล้ว ฉันเลยต้องเลียนแบบทักษะของนาย ฮี่ฮี่ๆ”

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

จากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง

ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต

ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา

คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม

ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย

ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท