พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่512 คุกเข่าลงมากราบฉัน

บทที่512 คุกเข่าลงมากราบฉัน

บทที่512 คุกเข่าลงมากราบฉัน

“นายพูดเองนะ พี่อารีหลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในวันนั้น ก็หายตัวไปเหรอ?”

หลังจากที่ยันยืนเงื่อนไขนั้นกับรพีพงษ์แล้ว จารุณีก็ถามเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ

รพีพงษ์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภายหลังให้กับจารุณี สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นหดหู่ขึ้นมา เมื่อกี้เขายังจะระวังไม่ให้จารุณีสนใจลูกชายของตัวเองอยู่เลย ตอนนี้ตัวเองถึงค่อยนึกได้ว่าภรรยาของตัวเองนั้นยังไม่รู้ชะตากรรมที่แน่ชัด แม้ว่าจะอยากจะมีลูกชาย ก็ต้องหาตัวอารียาเจอถึงจะมีได้

“ในตอนนี้ได้ค้นหาด้วยกำลังทั้งหมด และพบเบาะแสบางอย่างที่เป็นไปได้ เธอไม่ต้องเป็นห่วงมากเกินไป ฉันจะหาหล่อนกลับมาได้อย่างแน่นอน”รพีพงษ์กล่าว

จารุณีพยักหน้า แม้ว่าเธอจะต้องการรพีพงษ์มาก แต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นหญิงสาวที่มีจิตใจที่ดี เธอก็ไม่คิดที่จะใช้ประโยชน์จากเวลานี้ในการเข้ามาแทนที่ แต่กลับเป็นเช่นเดียวกับรพีพงษ์ ที่เป็นห่วงกับสถานการณ์ของอารียา

“คนที่อยู่เบื้องหลังถูกจับได้หรือยัง ทำไมหล่อนถึงน่ารังเกียจขนาดนี้ ถึงได้ใช้วิธีนี้มาสู้กับนาย”จารุณีถาม

รพีพงษ์หรี่ตาลง แล้วพูดว่า: “หล่อนจะมีชีวิตที่ดีอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว ในอีกสองวันข้างหน้าฉันจะไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ถึงเวลา คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดนี้ ฉันไม่มีทางปล่อยไว้แน่!”

จากนั้นไม่นาน ธีรศานติ์ก็กลับมาในห้องพักผู้ป่วยพร้อมกับอาหารร้อนๆ รพีพงษ์ช่วยป้อนให้จารุณี และอยู่เป็นเพื่อนจารุณีจนถึงตีสี่กว่า ก่อนจะกลับไปที่คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์

สองวันต่อมา ร้านอาหารคิมลิงในเกียวโต

รพีพงษ์และธีรศานติ์ค่อยๆทยอยมาถึงประตูร้านอาหาร หลังจากที่ธีรศานติ์เห็นรพีพงษ์ ก็รีบวิ่งเข้าไปทันที

บนใบหน้าของเขามาพร้อมกับความกังวล มีบอดี้การ์ดผู้ทรงพลังสี่คนตามอยู่ด้านหลัง เห็นได้ชัดว่าสำหรับงานเลี้ยงของจิรเวชในครั้งนี้ ให้ความสำคัญและระมัดระวังอย่างยิ่ง

“รพีพงษ์ นายไม่ได้พาคนมาด้วยเลยสักคนเหรอ? คนเหล่านั้นของกรุ๊ปKIN อาจจะวางกลอุบายพวกเราอยู่ด้านในแล้ว”ธีรศานติ์กล่าว

รพีพงษ์ยิ้มให้กับเขาเล็กน้อย และพูดว่า: “ฉันคนเดียวก็เพียงพอแล้ว”

ธีรศานติ์ขมวดคิ้วขึ้นมา เขารู้ว่ารพีพงษ์สามารถต่อสู้ได้ แต่ว่าจิรเวชก็น่าจะรู้ว่ารพีพงษ์สามารถต่อสู้ได้ ถ้าหากว่าต้องการวางกลอุบายให้กับพวกเขาจริงๆ ทำไมจิรเวชจะไม่คิดค้นหาวิธีมุ่งเป้าไปยันรพีพงษ์ได้ยังไง

อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปที่ใบหน้าที่สบายๆของรพีพงษ์ ธีรศานติ์ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ ในเมื่อตอนนี้มาก็มาแล้ว ทำได้เพียงกัดฟันเข้าไป

ทั้งคนสองคนเข้าไปในร้านอาหารคิมลิงด้วยกัน ด้านในว่างเปล่า มีเพียงพนักงานเสิร์ฟสองคนที่รออยู่ที่ทางขึ้นบันได พนักงานหนึ่งในเห็นรพีพงษ์ทั้งสองคนเข้ามา ก็เดินเข้ามาทันที และพูดว่า: “วันนี้สถานที่ของพวกเราได้ถูกเหมาจองไว้หมดแล้ว ขออนุญาตถามคุณทั้งสองคนคือ?”

“รพีพงษ์”รพีพงษ์ตอบอย่างหน้าตาเฉย

เมื่อพนักงานเสิร์ฟได้ยินชื่อนี้ ก็รีบแสดงท่าทางเชิญให้รพีพงษ์ และพูดว่า: “ท่านที่จองสถานที่นี้ไว้รออยู่ชั้นบนแล้ว เชิญตามฉันมา”

หลายคนขึ้นไปชั้นบนด้วยกัน และมาถึงที่หน้าประตูห้องวีไอพีที่หรูหรามาก พนักงานคนนั้นบอกคนที่จองสถานที่ไว้รอพวกเขาอยู่ด้านในแล้ว จากนั้นจึงออกจากที่นี่

รพีพงษ์เดินไปถึงหน้าประตู เอื้อมมือผลักประตูเปิดออก และพบว่าพื้นที่ด้านในค่อนข้างใหญ่ และการตกแต่งที่สวยงาม และโคมไฟขนาดใหญ่ที่ห้อยลงดูสวยงามสว่างไสว

โต๊ะในห้องวีไอพีไม่ได้ใหญ่เกินไป เป็นแบบที่ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป เกรงว่าคนที่นั่งร่วมโต๊ะกันจะต้องตะโกนกลางอากาศ ในตอนนี้ที่หน้าโต๊ะตัวนี้ นั่งอยู่เพียงแค่สองคน จิรเวชและโยษิตา

หลังจากที่จิรเวชเห็นรพีพงษ์และธีรศานติ์ ก็ลุกขึ้นมาจากที่นั่งทันที และรีบร้อนไปที่หน้าประตูพร้อมด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ได้ลงไปต้อนรับพวกคุณสองคนที่ด้านล่าง ไม่มีมารยาทจริงๆ เข้ามานั่งลงก่อนเถอะ ผมได้เตรียมสุราอย่างดีเสิร์ฟไว้เรียบร้อยแล้ว วันนี้สามารถต้อนรับทั้งสองคนได้เป็นอย่างดีแน่นอน”บนใบหน้าของจิรเวชมองไม่ออกเลยว่าเกลียดขยะแขยงรพีพงษ์ ราวกับอยากจะขอโทษรพีพงษ์ธรรมดาจริงๆ

รพีพงษ์และธีรศานติ์ทั้งสองคนนั่งลงหน้าโต๊ะ บอดี้การ์ดทั้งสี่ของธีรศานติ์ยืนอยู่ข้างๆธีรศานติ์ เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

หลังจากนั่งลงที่รพีพงษ์ก็เหลือบมองไปที่โยษิตา โยษิตาและรพีพงษ์สบตากัน จากนั้นก็รีบหลบสายตา เห็นได้ชัดว่าร้อนตัว

“ทำไมล่ะในเมื่อบอกว่าอยากจะขอโทษฉัน ทำไมถึงไม่กล้าสบตากับฉันล่ะ? หรือว่าวันนี้พวกคุณมีจุดประสงค์อื่นอีก คุณเลยร้อนตัวเหรอ?”รพีพงษ์พูดอย่างไม่เกรงใจ

โยษิตาส่งเสียงอย่างเย็นชา และกล่าวว่า: “รพีพงษ์ นายอย่าทะนงตัวเกินไป วันนี้คุณชายจิรเวชอยากที่จะขอโทษนาย แต่ไม่ใช่ฉัน ความแค้นระหว่างฉันกับนาย ไม่ใช่ว่าขอโทษครั้งเดียวก็จบ!”

รพีพงษ์เบะปาก แล้วพูดว่า: “ถ้าอย่างนั้นทำไมวันนี้คุณยังมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ? ตั้งใจมาดูเรื่องเยาะเย้ยของคุณชายจิรเวชของพวกคุณเหรอ?”

ใบหน้าของโยษิตาแข็งทื่อ และในขณะนี้ก็ไม่สามารถหาคำตอบโต้รพีพงษ์ได้

เมื่อจิรเวชเห็นการมาถึงของรพีพงษ์ บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นตึงเครียด ก็ขมวดคิ้ว จากนั้นหัวเราะแฮะๆ แล้วพูดว่า: “นายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ได้โปรดอย่าโกรธเลย โยษิตาผู้หญิงคนนี้นิสัยค่อนข้างดื้อรั้น วันนี้ที่ผมพาเธอมา ความจริงแล้วก็เพื่อขอโทษคุณ เพียงแต่ว่าหล่อนละอายที่จะพูดมันออกมาเท่านั้นเอง”

“ผมรู้ดีว่านายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์มีอคติกับกรุ๊ปKINของพวกเรา พวกเราก็เคยทะเลาะเบาะแว้งมีความเข้าใจผิดที่ไม่พึงประสงค์กันมาก่อน แต่ในโลกนี้ไม่มีศัตรูที่ถาวร ตอนนี้พวกเราสามตระกูล ก็ถือว่าอยู่ในค่ายเดียวกัน ดังนั้นขอให้พวกเราใช้เหล้าแก้วนี้ ยุติความแค้นที่ผ่านมาในอดีต จากวันนี้ไปร่วมมือกัน ทำกำไรร่วมกัน ว่ายังไงล่ะ?”

ด้วยคำพูดนั้น จิรเวชจึงถือแก้วเหล้าในมือของตัวเองขึ้นมา และทำความเคารพให้กับรพีพงษ์

ธีรศานติ์หันหน้าไปมองรพีพงษ์ วันนี้เขามาเป็นกำลังเสริมของรพีพงษ์ ดังนั้นเพียงแค่ดูท่าทีของรพีพงษ์ก็พอ

รพีพงษ์ส่งเสียงอย่างเย็นชา มองลงไปที่แก้วไวน์บนโต๊ะ และพูดว่า: “ใครจะไปรู้ว่านายใส่ยาพิษลงในแก้วเหล้าหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นนายก็ดื่มเหล้าแก้วตรงหน้าฉันไปด้วย ฉันก็จะปล่อยวางความแค้นที่มีต่อนาย ว่ายังไงล่ะ?”

ทันใดนั้นใบหน้าของจิรเวชก็แสดงความลำบากใจ จากนั้นก็วางแก้วเหล้าในมือของตัวเองลง แล้วพูดว่า: “ในเมื่อนายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่เชื่อผม ดูเหมือนว่าการดื่มเหล้า ก็ไม่มีทางที่จะคลี่คลายปัญหาได้”

เมื่อธีรศานติ์เห็นการแสดงออกของใบหน้าที่เปลี่ยนไปของจิรเวช คาดเดาได้ว่า ในแก้วเหล้า มีบางอย่างผิดปกติ

“ในเมื่อวันนี้ผมมาขอโทษนายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ ถ้าอย่างนั้นก็เชื่อฟังนายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ดีกว่า คุณอยากให้ผมทำยังไง ถึงจะยุติความแค้นของพวกเราก่อนหน้านี้ได้ และจากนี้ไปร่วมมือกันอย่างไรล่ะ?”จิรเวชเริ่มถามอีกครั้ง

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ถ้าหากฉันพูดแล้ว พวกคุณจะทำได้จริงเหรอ?”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ในเมื่ออยากจะขอโทษ ก็ต้องจริงใจเป็นธรรมดา”จิรเวชตอบ

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ นายและโยษิตา ตอนนี้รีบคุกเข่าลงตรงหน้าฉัน ก้มกราบให้ฉันสิบทีครั้ง จากนั้นนายก็บีบบังคับให้โยษิตาดื่มเหล้าแก้วนี้ที่อยู่ตรงหน้าฉันลงไป ฉันก็จะปล่อยวางความแค้นระหว่างพวกนาย ว่ายังไงล่ะ?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท