พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 526 พวกเขาอยู่ชั้นล่างแล้ว

บทที่ 526 พวกเขาอยู่ชั้นล่างแล้ว

บทที่ 526 พวกเขาอยู่ชั้นล่างแล้ว

เมื่อชายสกินเฮดได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ในใจก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย ที่เขาบอกว่าเขามีสายสัมพันธ์และสามารถโทรหาคนได้มากกว่าหนึ่งร้อยคนในการโทรเพียงครั้งเดียว ก็เพื่อทำให้รพีพงษ์กลัวเท่านั้น

ถ้าจะให้เขาไปหาใครสักคนจริงๆ เขาอาจจะไม่สามารถโทรหาคนมากขนาดนี้มาได้ เส้นสายที่เขาบอกนั้น ก็เป็นแค่ลูกน้องของมาเฟียในเซี่ยงไฮ้เพียงไม่กี่คนที่เขารู้จักเท่านั้น

ปัญหาธรรมดาๆพวกเขาอาจช่วยชายสกินเฮดแก้ไขได้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะหาคนมากกว่าร้อยคนมาสนับสนุนที่เกิดเหตุ

ตอนนี้ รพีพงษ์ได้ฟังคำพูดของเขาแล้ว เขากลับต้องการใช้เส้นสายของตัวเอง ซึ่งทำให้ชายสกินเฮดสงสัยเล็กน้อยว่าต้องทำอย่างไร

แต่ในไม่ช้าเขาก็โล่งใจ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถโทรหาเพื่อนๆมากกว่าร้อยคนมาที่นี่ได้ด้วยการโทรเพียงครั้งเดียว แต่เขาก็ยังคงมีเส้นสายอยู่บ้าง กองกำลังมาเฟียในเซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่ก็มีคนที่เขารู้จัก มิฉะนั้นเขาก็ไม่กล้าทำสิ่งนี้หลังจากดื่มเหล้า

เขาฟังดูสำเนียงของรพีพงษ์ดูเหมือนจะมาจากต่างจังหวัด อีกอย่างอายุก็ไม่มาก ไม่ว่าเขาจะเก่งแค่ไหน เขาก็คงไม่มีเส้นสายที่ใหญ่ในเซี่ยงไฮ้หรอก บางทีคนที่รพีพงษ์โทรเรียกมาแล้วเป็นคนที่เขารู้จักพอดี สิ่งนี้ก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น

เยาวเรศที่อยู่ด้านข้างแสดงความอยากรู้อยากเห็นเมื่อรพีพงษ์บอกว่าเขาจะใช้เส้นสายของตน เธอคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะมีเส้นสายในเซี่ยงไฮ้

เธอจำได้ว่าตอนอยู่บนเครื่องบินรพีพงษ์บอกเธอว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่เซี่ยงไฮ้ แสดงว่ารพีพงษ์ยังรู้จักคนไม่มากนัก ถึงจะมี ก็คงเป็นหญิงสาวขาวรวยคนนั้นที่มาพบเขาที่สนามบิน

เมื่อคิดเช่นนี้เยาวเรศก็เริ่มกังวลอีกครั้ง ดังที่กล่าวมังกรที่แข็งแกร่งก็ไม่บดขยี้งูในพื้นที่ คนที่มีอำนาจก็ไม่ไปจัดการคนพาลในพื้นที่ ตอนนี้พวกเขาไม่รู้ภูมิหลังของชายสกินเฮดคนนี้หากจะสู้เส้นสายเช่นนี้กับอีกฝ่าย ความเสี่ยงที่ต้องเผชิญนั้นสูงเกินไป

ดังนั้น เยาวเรศจึงเตือนรพีพงษ์”ไม่ก็เราไปกันเถอะ ยังไงพวกเขาก็ได้รับการสั่งสอนจากคุณแล้ว คนเหล่านี้กล้าทำเรื่องแบบนี้อย่างโจ่งแจ้ง บางทีพวกเขาอาจจะมีกองกำลังที่พึ่งพาได้จริงๆ คุณมาที่เซี่ยงไฮ้เป็นครั้งแรก เพื่อนที่รู้จักในเซี่ยงไฮ้นั้น คงไม่เก่งกาจเท่าคนในพื้นที่อย่างแน่นอน หากยังคงดำเนินต่อไปแบบนี้ เราต้องรับความเสี่ยงอีกมาก ไม่ก็ช่างมันเถอะนะ ”

ชายสกินเฮดได้ยินเยาวเรศพูดว่ารพีพงษ์มาเซี่ยงไฮ้เป็นครั้งแรก ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นทันที หากเป็นเช่นนี้ เขาก็มั่นใจมากขึ้น คนต่างถิ่น อยากแข่งเส้นสายในเซี่ยงไฮ้กับเขา ช่างเป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

รพีพงษ์เหลือบมองไปที่เยาวเรศและกล่าวว่า “ถ้าเรื่องแบบนี้ไม่ได้รับการแก้ไขทั้งหมดในครั้งเดียว ก็จะมีปัญหาตามมาอีกมากมายในอนาคต พวกเขาอาศัยอยู่ชั้นล่างและพวกเขาสามารถแก้แค้นอย่างง่ายดาย ดังนั้น คุณไม่ ต้องกังวล แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมมาที่เซี่ยงไฮ้ แต่ก็ยังมีคนรู้จักอยู่ที่นี่บ้าง ”

ทันใดนั้น ชายสกินเฮดก็เยาะเย้ยและพูดว่า “ถ้าคุณมีความสามารถก็โทรหาคนมา ผมก็อยากดูเหมือนกัน ว่าคุณจะสามารถหาใครมาได้ ถ้าเป็นเพื่อนเก่าของผม งั้นผมก็ไม่ต้องเสียเวลาไปโทรหาพวกเขา”

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจคำพูดของชายสกินเฮด แต่หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและโทรหาวิไลพร

“นายน้อย ในที่สุด มีนาก็รอสายของคุณมาจนได้ นายน้อยต้องการมีนาใช่ไหม ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้ ” ทันทีที่รับสาย เสียงออดอ้อนของวิไลพรก็ดังขึ้น

ใบหน้ารพีพงษ์ดำลงในทันที จากนั้นก็ไอสองสามคำและพูดว่า “ที่คุณมีกองกำลังมาเฟียไหม ผมเจอปัญหาเล็กน้อยที่นี่ ต้องแก้ไขมันหน่อย”

เมื่อวิไลพรได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ เธอก็เริ่มจริงจังทันทีและพูดว่า “มี นายน้อยอยู่ที่ไหนฉันจะส่งคนไปหา”

รพีพงษ์ไม่ลังเล ระบุตำแหน่งของเขาโดยตรง นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำเรื่องนี้ในภายหลังเพียงส่งคนมาก็พอแล้ววิไลพรไม่จำเป็นต้องมา

แน่นอนว่าในใจวิไลพรเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แต่เธอไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของรพีพงษ์ หลังจากวางสายแล้วเธอก็รีบไปจัดหาคน

วิไลพรสามารถเป็นผู้รับผิดชอบของเทือกเขากิสนาในเซี่ยงไฮ้ได้ หากเธอไม่มีความสามารถรพีพงษ์จะไม่เชื่ออย่างแน่นอน แม้ว่าวิไลพรจะไม่ใช่นักธุรกิจที่มีอำนาจมากที่สุดในเซี่ยงไฮ้ แต่เขาก็มั่นใจได้ว่า ตามหลักการที่ไม่ชอบออกสื่อของเทือกเขากิสนาจะช่วยวิไลพรอย่างลับๆด้วยทรัพยากรที่มีเพียงตระกูลชั้นนำเหล่านั้นเท่านั้น

ดังนั้น รพีพงษ์ไม่ต้องกังวลว่าคนที่วิไลพรหามานั้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาในปัจจุบันได้ หากไม่สามารถจัดการกับอันธพาลเพียงไม่กี่คนได้ วิไลพรก็ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าดูแลของเซี่ยงไฮ้ต่อไป

หลังจากโทรเสร็จ รพีพงษ์ก็หันไปมองเยาวเรศและพูดว่า “คุณขึ้นไปก่อนนะ ที่นี่เดี๋ยวผมจัดการเอง”

เยาวเรศมองไปที่รพีพงษ์อย่างเป็นห่วงและพูดว่า “ฉันก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย ฉันจะปล่อยให้คุณอยู่ที่นี่คนเดียวได้อย่างไร”

รพีพงษ์ยิ้มและพูดว่า “คุณขึ้นไปก่อน ถ้าผมไม่สามารถจัดการพวกเขา คุณสามารถช่วยผมโทรเรียกตำรวจได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเตรียมอีกทางไว้”

เขารู้ว่า ถ้าเขาไม่พูดอย่างนั้น เยาวเรศจะไม่ยอมขึ้นไปก่อนแน่นอน

เยาวเรศรู้สึกว่าที่รพีพงษ์พูดนั้นถูก จึงพยักหน้าให้รพีพงษ์แล้วพูดว่า “งั้นฉันจะขึ้นไปก่อนถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในภายหลัง คุณต้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ฉันจะรีบโทรหาตำรวจ”

รพีพงษ์พยักหน้าและกล่าวว่า “คงไม่เกินสถานการณ์แบบนี้ คุณไปรอผมที่ข้างบนก็พอแล้ว”

เยาวเรศไม่ได้พูดอะไร หลังจากจ้องไปที่ชายสกินเฮดแล้วก็เดินออกไป

หลังจากที่เยาวเรศจากไป ชายสกินเฮดหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาใส่รพีพงษ์พูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยมั่นใจในเส้นสายของคุณเท่าไหร่ คนต่างถิ่นอย่างคุณยังกล้าที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเส้นสายต่อหน้าผม ผมคิดว่าคุณควรรีบคุกเข่าลงต่อหน้าผม ขอร้องให้ผมยกโทษให้คุณ เพื่อที่เรื่องนี้จะไม่ยุ่งวุ่นวายกว่านี้”

รพีพงษ์หันหน้าไปมองชายสกินเฮดแล้วพูดว่า “นั่นเพราะผมเกลี้ยกล่อมให้เธอขึ้นไปต่างหาก ทำไมคุณถึงฟังไม่ออก?เดี๋ยวคุณอาจจะจบลงอย่างน่าสังเวช เธอเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆไม่สะดวกที่จะเห็นสิ่งนี้ .”

“ฮ่าฮ่า อย่ามาสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาเลย กูจะบอกมึงนะ กูรู้จักผู้คนจากกองกำลังใต้ดินที่สำคัญในเซี่ยงไฮ้ ไม่ว่าคุณจะเรียกใครมา ก็ต้องไว้หน้ากู ถึงตอนนั้นคนที่จะจบลงอย่างน่าอนาถ ก็จะมีแค่มึง” ชายสกินเฮดพูดอย่างมั่นใจ

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไป แต่เอาเก้าอี้มานั่งลง

หลังจากนั้นไม่นาน โทรศัพท์มือถือของรพีพงษ์ก็ดังขึ้น มันเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคยรพีพงษ์ หยิบมันขึ้นมา รับสาย เสียงที่แสดงความเคารพดังมาจากที่นั่น “คุณรพี ผมได้พาคนมาถึงที่ที่คุณพูดแล้ว แต่คนของพวกเราเยอะไปหน่อย ไม่สามารถขึ้นไปได้ในคราวเดียวรอสักครู่ ผมจะให้พี่น้องบางคนขึ้นไปช่วยคุณจัดการกับปัญหาก่อน”

“ไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวผมลงไป” รพีพงษ์ตอบ

จากนั้น รพีพงษ์ก็คว้าคอเสื้อของชายสกินเฮด ลากเขาไปด้านนอก

ทันใดนั้น ชายสกินเฮดก็ดุและพูดว่า “แม่งมึงทำบ้าอะไร ปล่อยกู มึงหาคนมาไม่ใช่เหรอ!”

“พวกเขาอยู่ชั้นล่างแล้ว” รพีพงษ์กล่าว

“คนที่คุณหามาเป็นไอ้อันธพาลสองสามคนนั้นใช่ไหม แม้แต่ขึ้นมายังไม่กล้า คุณทำให้ผมขำจนฟันร่วงแล้ว” ชายสกินเฮคหัวเราะ

รพีพงษ์เพิกเฉยต่อเขาและลากเขาลงไปชั้นล่าง มีคนสองคนเดินออกจากอาคาร ชายสกินเฮดยังคงภูมิใจและอยากดูว่าคนที่รพีพงษ์มีปัญญาหามานั้นเป็นใคร

แต่เมื่อเขามองออกไปข้างนอก ร่างกายของเขาก็แข็งตัว

ในเวลานี้ ที่ชั้นล่างมีผู้ชายจำนวนมากในชุดสูทสีดำและแว่นกันแดด มารวมตัวกัน มีหลายร้อยคน พวกเขายืนอยู่ด้วยกัน ทำให้เกิดออร่าที่พุ่งสูงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้คนทั้งชุมชนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ที่นี่แม้แต่ครึ่งก้าว

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท