พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่875 สาขาใหญ่กลุ่มสิงโต

บทที่875 สาขาใหญ่กลุ่มสิงโต

บทที่875 สาขาใหญ่กลุ่มสิงโต

ภาคตะวันตกของประเทศจีน เทือกเขาคุนหลุนที่มีมายาวนาน มีความยาวกว่ากี่พันลี้ ถือเป็นสถานที่ที่ใหญ่และสูงที่สุดของประเทศจีน

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เกี่ยวกับตำนานของเทือกเขาคุนหลุน เรื่องราวลี้ลับ แล้วยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับแต่ล่ะชนเผ่าอีก ไม่ซ้ำกัน ทำเอาเทือกเขาคันหลุนที่มีคนมาน้อยอยู่แล้วนั้นยิ่งกลายเป็นสถานที่ที่ลึกลับเข้าไปอีก

คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าเทือกเขาคุนหลุนเป็นที่อยู่ของเทพเซียน ที่นี่มีตำหนักเซียนที่คนทั่วไปคาดไม่ถึงตั้งอยู่ เซียนที่อยากเลื่อนขั้นมักจะมาที่เทือกเขาคุนหลุนนี้ ลึกลับเกินกว่าบรรยาย

แน่นอน นี่เป็นเพียงเทือกเขาคุนหลุนในสายตาของคนทั่วไปเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นกับตามาก่อน

สาขาใหญ่ของกลุ่มสิงโต อยู่บนเขาอันลี้ลับนี้

รพีพงษ์และธัชธรรมนั่งเครื่องบินมายังทางตะวันตกของประเทศจีน และได้นั่งรถมาถึงตีนเข้าเทือกเขาคุนหลุน จากนั้นก็เดินไปยังสาขาใหญ่ของกลุ่มสิงโต

เทือกเขาคุนหลุนอยู่ในภูมิประเทศที่สูงชัน คนทั่วไปไม่มีทางเดินขึ้นไปได้ แต่สำหรับรพีพงษ์และธัชธรรมแล้ว นี่ไม่เป็นเรื่องที่ต้องกังวลใดๆ ทั้งคู่ใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ก็เดินผ่านหลายหุบเขา ถึงยังสถานที่ที่ธัชธรรมพูดว่าเป็นกลุ่มสิงโต

ระหว่างทางมา ธัชธรรมได้พูดกับรพีพงษ์แล้ว ให้รพีพงษ์มารายงานตัวที่สาขาใหญ่ของกลุ่มสิงโตเสียก่อน ต้องผ่านพิธีการนี้ก่อน รอให้รพีพงษ์เข้าใจในกลุ่มสิงโตเสียก่อน แล้วเขาจะเลือกว่าจะอยู่ที่กลุ่มสิงโตหรือออกไปทำภารกิจ

โดยทั่วไป กลุ่มสิงโตจะไม่จำกัดอิสระของสมาชิกในกลุ่ม อยากอยู่หรืออยากไปก็แล้วแต่ใจตน แต่ในเมื่อเข้าร่วมกลุ่มสิงโต ก็ต้องมีข้อกำหนด ก่อนหน้าที่สมาชิกทุกคนจะเข้าร่วมกลุ่มสิงโต ล้วนต้องเซ็นสัญญา ตอนที่กลุ่มสิงโตต้องการพวกเขา พวกเขาต้องฟังคำสั่งกลุ่มสิงโตอย่างเคร่งครัด

หลังจากที่เซ็นเอกสารสัญญานี้แล้ว แต่ไม่อยากฟังคำสั่งของกลุ่มสิงโต จะต้องถูกจับโดยยอดฝีมือของกลุ่มสิงโต แล้วมารับการลงโทษ

โดยทั่วไป กลุ่มสิงโตจะไม่ค่อยไปเรียกร้องให้สมาชิกทำอะไรมากนัก นอกจากจะมีเหตุการณ์ด่วนจริงๆ

ในเหตุการณ์ทั่วไป สมาชิกเพียงแค่ต้องสะสมผลงานให้มากพอ เวลาที่เหลือจะทำอะไรกลุ่มสิงโตจะไม่ยุ่งเกี่ยว

หลังจากที่รพีพงษ์ทำความเข้าใจกับข้อบังคับของกลุ่มสิงโตแล้วนั้น ก็วางแผนมารายงานตัวที่กลุ่มสิงโตก่อน แล้วมาดูว่าถ้าจะเอาหยกโยงจิตต้องสะสมผลงานขนาดไหน จากนั้นก็กลับเกียวโต จากนั้นค่อยเริ่มทำภารกิจของกลุ่มสิงโต อีกด้านก็ทำเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้กับตัวเอง อีกด้านก็เพื่อรวบรวมหยกโยงจิตทั้งสามให้กับอาจารย์โดยเร็ว

ธัชธรรมไม่คัดค้านใดๆกับความคิดของรพีพงษ์ แม้ในสายตาเขารพีพงษ์ไม่เหมือนกับสมาชิกคนอื่นๆในกลุ่มสิงโต เขาสร้างความหวังไว้กับรพีพงษ์อย่างมาก

แต่เขาไม่อยากเรียกร้องให้รพีพงษ์ทำอะไรในตอนนี้ อย่างน้อยเขาก็รอให้รพีพงษ์เข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มสิ่งโตก่อน และเข้าใจพื้นฐานของกลุ่มสิงโตก่อน จึงจะสามารถพูดกับรพีพงษ์ในเรื่องที่คนอื่นรู้ไม่ได้

ให้รพีพงษ์ทำภารกิจไปก่อน แบบนี้จะทำให้รพีพงษ์เข้าใจกลุ่มสิงโตมากขึ้น ในเวลาเดียวกันก็จะได้สังเกตถึงนิสัยของรพีพงษ์ ดูว่าเขาเป็นคนที่ตนอยากได้คนนั้นจริงๆหรือไม่

ผ่านไปไม่นาน ทั้งสองได้มาถึงเทือกเขาคุนหลุน ในที่ไกลๆ รพีพงษ์ได้เห็นสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้น แล้วยังมีด่าน ที่มีคนจำนวนไม่น้อยอยู่ตรงนั้นอีกด้วย

แล้วหลังจากสิ่งก่อสร้างหลังด่าน ดูเป็นสไตล์โมเดิร์น มีสิ่งปลูกสร้างบางสิ่งที่ทะลุเข้าไปในเขา สิ่งปลูกสร้างแบบนี้แค่ดูก็รู้แล้วว่าใช้คนจำนวนไม่น้อย

นี่เป็นส่วนน้อยของกลุ่มสิงโตเท่านั้น ในเทือกเขาคุนหลุน สถานที่ที่เหมือนที่นี่ มีทั้งหมดเก้าแห่ง ทุกที่จะรับผิดชอบในที่ของตัวเอง รับผิดชอบในเรื่องที่ต่างกันไปของกลุ่มสิงโต

รพีพงษ์กำลังมองสถานที่ที่ลึกลับ ด้วยความตะลึง แล้วกล่าว “คิดไม่ถึงว่ากลุ่มสิงโตจะสร้างสถานที่แบบนี้ในเขาได้ คิดไม่ถึงจริงๆ ตอนแรกผมคิดว่าพวกคุณเป็นเหมือนกับสำนักที่หลบๆซ่อนๆ อยู่ในที่ที่โบราณเสียอีก

ธัชธรรมยิ้มพลางกล่าว “เวลาเปลี่ยน พวกเราก็ต้องตามให้ทัน ถ้ายังเป็นเหมือนกับสำนักที่หลบๆซ่อนๆนั้น อยู่ในที่ที่ไม่มีคน งั้นพวกเราก็เหมือนกับตัดขาดออกจากโลกภายนอกแล้ว แล้วจะรู้เรื่องที่เกิดในประเทศจีนได้อย่างไรกัน”

“กลุ่มสิงโตทั้งหมด ก็มีแค่ฉันที่อาศัยในเขาโบราณ เพราะฉันอายุร้อยกว่าปีแล้ว สไตล์แบบนี้ก็มีแต่พวกวัยรุ่นอย่างพวกแกนั่นแหละที่ชอบ

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของธัชธรรม ก็รู้สึกมีเหตุผล กลุ่มสิงโตต้องได้รับข่าวสารจากโลกภายนอก จะขาดความช่วยเหลือของวิทยาศาสตร์ไปไม่ได้เลย

“เดี๋ยวแกเอาป้ายแรกเข้าที่ฉันให้ ไปรายงานตัว จะมีคนพาแกไปยังที่รายงานตัวและดำเนินการในขั้นต่อไป ถ้าโชคดีล่ะก็ แกจะได้เจอกับคนที่มารายงานตัวที่กลุ่มสิงโต

“ฉันไม่ไปพร้อมกับแกแล้ว แม้แกจะเป็นคนที่ฉันหามาเป็นพิเศษ แต่แกน่าจะไม่อยากได้รับการต้อนรับที่พิเศษ เรื่องที่ฉันพูดกับแกก่อนหน้านี้ แกไตร่ตรองให้ดีๆ อนาคตถ้ามีโอกาสแล้วเรามาคุยกัน

ธัชธรรมมองรพีพงษ์แล้วกล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า ไม่พูดอะไร เดินต่อไปด้านหน้า

ผ่านไปอีกสักพัก รพีพงษ์อยากถามธัชธรรมถึงขั้นตอนที่แน่ชัดในการรายงานตัว แต่เมื่อหันมาก็ไม่พบธัชธรรมแล้ว ไม่รู้ว่าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่

เห็นด้านหลังเป็นเขาที่ว่างเปล่า รพีพงษ์ก็ส่ายหน้าแล้วยิ้ม คิดว่าความสามารถของคนนี้มันชั่งน่ากลัวจริงๆ เขาจากไปโดยที่ตนไม่รู้สึกอะไรเลย

ไม่รู้ว่าเจ้าสำนักกลุ่มสิงโตนี้ เทียบกับอาจารย์ของตน ใครจะเก่งกว่ากัน

ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์ได้เดินไปที่ด่าน คนที่อยู่ด้านในเห็นรพีพงษ์ตั้งนานแล้วแต่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จ้องไปที่รพีพงษ์เดินไปนอกด่านนั้นตลอด

“มิทราบว่าคุณเป็นใคร?” สองคนที่เฝ้าด่านจ้องรพีพงษ์ หนึ่งในนั้นถามขึ้นมา

รพีพงษ์มองไปที่สองคนนี้ พบว่าฝีมือของทั้งสองคือเน่ยจิ้งขั้นกลาง ดูๆไปกลุ่มสิงโตไม่ธรรมดาจริงๆ แม้แต่คนเฝ้าประตูก็เก่งกาจขนาดนี้ ไม่แปลกที่ถูกขนานนามว่าเป็นกลุ่มที่ร้ายกาจที่สุดของประเทศจีน

รพีพงษ์เอาป้ายแรกเข้าที่ธัชธรรรมให้ออกมา ยื่นให้คนนั้น แล้วกล่าว “ผมมารายงานตัวที่นี่”

คนนั้นรับป้ายแรกเข้า หลังจากดูอย่างละเอียดแล้ว ก็พึมพำ “มารายงานตัวอีกแล้ว วันนี้ครึกครื้นจริงๆ นี่เป็นคนที่ห้าของวันแล้วนะ”

พูดจบ เขาก็มองไปที่รพีพงษ์ กล่าว “มากับผม ผมจะพาคุณไป”

รพีพงษ์พยักหน้า เดินไปพร้อมกับคนนั้น

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท