พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1457 กรรมตามสนอง

บทที่ 1457 กรรมตามสนอง

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสิ่งที่รพีพงษ์ใช้เมื่อสักครู่ไม่ใช่พลังเน่ยจิ้ง แต่เป็นบางสิ่งที่ลึกลับกว่าพลังเน่ยจิ้ง!

ตอนนี้มกรธวัชไม่รู้ระดับรพีพงษ์ แต่เขารู้ว่าวันนี้ตนเองนั้นพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง ถ้าไม่มีรพีพงษ์ ตนเองสามารถจัดการคนเหล่านี้ได้แน่นอน อย่างไรก็ตาม วันนี้รพีพงษ์ปรากฏที่นี่ ไม่ว่ายังไง ตนเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!

“พี่ใหญ่!”

ข้างหลังของมกรธวัช หลังจากลูกน้องเป็นร้อยเห็นพี่ใหญ่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาอยากจะไปดู!

“ใครกล้าก็เข้ามา!”

ธฤตญาณกล่าวอย่างเย็นชา “มกรธวัชพิการแล้ว นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมเป็นใหญ่ในธุรกิจมืดของเกียวโต!”

“นี่……”

ดวงตาของธฤตญาณเย็นชา และรัศมีการสังหารก็ปรากฏขึ้นทันที “พวกคุณจะอยู่หรือไป สำหรับผมแล้วไม่สำคัญ แต่ถ้าใครกล้าเป็นปรปักษ์กับผม กริชในมือของผม จะสังหารพวกคุณทีละคน!”

ทุกคนเห็นว่ามกรธวัชไม่ใช่คู่ต่อสู้ของธฤตญาณ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าออกหน้าอีก

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังแอบสังเกตอยู่ตลอด และเห็นชัดเจนแล้วว่า ตอนนี้มกรธวัชหมดสิ้นพลังอำนาจแล้ว ส่วนธฤตญาณกับไตรทศได้รับการสนับสนุนจากนายน้อยตระกูลลัดดาวัลย์ที่เจริญรุ่งเรืองดุจดั่งพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า

นี่เป็นสิ่งที่เลือกง่ายมาก

สำหรับพวกลูกน้องเหล่านี้ ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นพี่ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาความเป็นความตาย ไม่จำเป็นต้องพูดถึงน้ำใจไมตรี

“พวกเรายินดีที่จะให้พวกคุณสองคนเป็นพี่ใหญ่!”

ทุกคนกล่าวพร้อมเพรียงกัน

“พวก……พวกคุณ!”

มกรธวัชโกรธจนเลือดพุ่งออกมาจากปาก

“มกรธวัช คุณก็มีวันนี้ด้วย!”

พวกยิ่งคุณเดินเข้าไป

“ไอ้เด็กเปรต วันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยของตระกูลลัดดาวัลย์ ผมฆ่าคุณแล้วแน่นอน!” มกรธวัชกล่าว

“แม่ง หยุดพูดไร้สาระเสียที ตอนนี้คุณเป็นแค่คนพิการแล้ว กูจะฆ่ามึง!”

จากนั้น ชายหัวโล้นเตะมกรธวัชเต็มแรงไปสิบกว่าครั้ง

“ยิ่งคุณ ถ้าเตะเช่นนี้ต่อไป จะทำให้เขาตายได้น่ะ!”

ขณะนี้เตวิชได้หยุดชายหัวโล้นไว้

“คุณหลีกไป ผมจะเตะมันให้ตาย!”

ชายหัวโล้นกล่าวอย่างโกรธเคือง

“ถ้าคุณทำร้ายเขาจนตาย ต่อไปจะทำอย่างไรดี ที่นี่คือเกียวโต พวกเราเพิ่งติดตามพวกพี่ธฤตญาณ หรือคุณจะให้พวกพี่ธฤตญาณตามล้างตามเช็ดสิ่งที่พวกเราทำไว้หรือ?” เตวิชกล่าวเสียงดัง เขาเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล

การฆ่าคนไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะในเกียวโต!

“แล้วคุณคิดว่า ควรจะทำอย่างไรดี? ไม่มีทางที่ผมจะแก้แค้นมันได้แล้วหรือ?” ชายหัวโล้นกล่าวอย่างโกรธจัด

“สรุป…….สรุปแล้ว คุณฆ่าเขาไม่ได้” เตวิชกล่าว

ในเวลานี้เอง รพีพงษ์ได้เดินเข้ามา และกระซิบกับธฤตญาณ

ธฤตญาณพยักหน้า และกล่าวกับชายหัวโล้น “วางใจเถอะ ในเมื่อผมเป็นพี่ใหญ่ของคุณ ผมจะล้างแค้นให้คุณแน่นอน ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่สามารถฆ่าเขาได้ แต่ก็มีวิธีที่สะใจกว่าการฆ่าเขา”

“จริงเหรอ พี่ใหญ่ วิธีอะไร?” ชายหัวโล้นกล่าวถาม

ธฤตญาณเดินมาที่ด้านข้างของมกรธวัช และข้างหน้าเขามีลูกน้องชายจากแก๊งมังกรทองมากมาย

“วันนี้ ในเมื่อผมเป็นพี่ใหญ่ของพวกคุณแล้ว ผมมีเรื่องที่จะประกาศสองเรื่อง”

ธฤตญาณกล่าวเสียงดัง “เรื่องที่หนึ่ง ผมธฤตญาณจะยึดธุรกิจและกองกำลังทั้งหมดของแก๊งมังกรทอง ขณะเดียวกัน ชื่อแก๊งมังกรทองจะถูกลบทิ้ง นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราจะเรียกว่าแก๊งรพี!”

“แก๊งรพี?” ลูกน้องต่างสับสนเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อนี้ แต่ธฤตญาณกับไตรทศรู้ว่าที่พวกเขามีวันนี้ได้ ทั้งหมดล้วนเกิดจากรพีพงษ์ ดังนั้นกองกำลังของพวกเขาจึงถูกเรียกว่าแก๊งรพี และเพื่อเป็นการแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ในอนาคตไม่ว่าธฤตญาณกับพวกไตรทศจะมีอำนาจยิ่งใหญ่เพียงใด พี่ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังก็คือรพีพงษ์ตลอดไป!

“เรื่องที่สอง” ธฤตญาณกล่าวต่อ “วันนี้แก๊งรพีได้ก่อตั้งขึ้น และผมจะออกคำสั่งฆ่าครั้งแรก!”

“คำสั่งฆ่า?” พวกลูกน้องมองไปที่ธฤตญาณด้วยความงุนงง

“ถูกต้อง!”

จากนั้น ธฤตญาณชี้มกรธวัชที่อยู่บนพื้น “จากนี้ไป ไม่ว่าใครก็ตาม ขอแค่เห็นคนคนนี้ก็ทุบตีได้เลย ทำให้เขาไม่มีวันตั้งหลักในเกียวโตได้อีก!”

“น้อมรับคำสั่ง!”

ยิ่งคุณกับเตวิชรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านั้นพวกเขาเคยถูกมกรธวัชสั่งฆ่า และพวกเขาเกือบจะต้องไปจากเกียวโต ตอนนี้กรรมตามสนองมกรธวัชแล้ว

“พวก…พวกคุณมันถ่อย” มกรธวัชถอนหายใจ ไม่คาดคิดว่า การตกมาจากจุดที่สูงสุดมันใช้เวลาแค่ชั่วพริบตาเดียว

“คำสั่งฆ่า มีผลทันที” ธฤตญาณกล่าวอย่างเย็นชาแล้วถอยไปอยู่ด้านข้าง

หลังจากฟังทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพวกเขาก็ไล่ทำร้ายมกรธวัชพร้อมกัน

“แค่ไม่ฆ่ามันตายก็พอ พี่น้องลุยเลย!”

“การจู่โจม” ของคนมากกว่าร้อยคนทำให้มกรธวัชหน้าซีดเผือด เขารีบลุกขึ้นและวิ่งหนีไปโดยไม่คำนึงถึงอาการบาดเจ็บของตนเอง

ทางเข้าบาร์เริ่มสงบ ผู้คนที่อยู่ข้างในยังคงเต้นรำ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าหลังจากวันนี้ ธุรกิจมืดของเกียวโตก็เป็นของแก๊งรพี!

“พี่ใหญ่ ไม่นึกเลยว่า ผมเป็นแค่อันธพาลเล็ก ๆในเมืองริเวอร์ ก็สามารถครอบครองธุรกิจมืดของเกียวโตได้จริง ๆ” ไตรทศกล่าวกับรพีพงษ์ เห็นได้ชัดว่าเขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ใบหน้าที่สงบของธฤตญาณก็มีร่องรอยความตื่นเต้นเช่นกัน ตอนแรก ถ้าไม่ใช่เพราะรพีพงษ์ เกรงว่าชีวิตของตนเองคงจะสับสนวุ่นวายไปตลอดชีวิต และรพีพงษ์ เป็นคนที่ทำให้เขากลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง!

“แก๊งรพีเพิ่งก่อตั้ง ถึงอย่างไรเกียวโตก็ไม่ใช่เมืองริเวอร์ พวกคุณยังไม่รู้เบื้องลึกของลูกน้องเหล่านี้ของมกรธวัช นอกจากนี้ พวกคุณจะต้องไปตรวจสอบอำนาจและธุรกิจของแก๊งมังกรทองก่อนหน้านั้น ธฤตญาณ ไตรทศต่อไปพวกคุณจะต้องยุ่งแน่นอน” รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ผมมีผู้ช่วยที่ดีอยู่คนหนึ่งแล้ว”

ธฤตญาณกล่าว “เตวิช มานี่สิ”

จากนั้น เตวิชที่ตาเล็กก็วิ่งเข้ามา

“อีกสองวันผมจะกลับไปเมืองริเวอร์ เรื่องในเกียวโตมอบให้คุณดูแลเป็นเวลาหนึ่งเดือน ผมต้องการให้คุณทำให้ชัดเจน คุณทำได้หรือไม่” ธฤตญาณกล่าว

“ทำได้ครับ” เตวิชกล่าว เขารู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ไม่เคยคิดว่า ตนเองเป็นแค่อันธพาลเล็ก ๆ กลับได้รับความสำคัญเป็นพิเศษจากธฤตญาณ

“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ผมก็ควรจะกลับแล้ว พรุ่งนี้ผมสัญญาว่าจะพาหนูลินไปเที่ยวที่สวนสนุก”

รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม หลังจากอำลาธฤตญาณและคนอื่น ๆ เขาก็กลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์ด้วยตนเอง

เมื่อกลับถึงบ้าน ทุกคนต่างนอนหลับกันหมดแล้ว รพีพงษ์มาที่ห้องของตนเอง และทุกอย่างก็ถูกจัดเหมือนกับก่อนที่ตนเองจะจากไป

อารียากับหนูลินหลับสนิทแล้ว รพีพงษ์นั่งมองสองคนนี้ที่ตนเองคู่ควรที่จะปกป้องมากที่สุดในโลกนี้ด้วยรอยยิ้ม

ตอนที่อยู่ในกลุ่มสิงโต คำพูดของอารียาได้ปรากฏขึ้นในสมองของรพีพงษ์

รพีพงษ์มองหนูลินที่น่ารัก และคิดอยู่ในใจว่า ถ้าตนเองพาอารียาไปฝึกกับตนเอง แล้วทิ้งหนูลินไว้ สำหรับหนูลินแล้ว เธอต้องอยู่ห่างจากพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย คิดดูแล้วเรื่องเช่นนี้มันจะมีผลเสียต่อการเจริญเติบโตของเธอ

“ดูเหมือนว่าสิ่งที่ตนเองคิดก่อนหน้านี้จะง่ายเกินไป”

รพีพงษ์กล่าวเบา ๆ ตอนนี้ความแข็งแกร่งของตนเองอยู่ในจุดสูงสุดของประเทศจีนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น นักฝึกตนที่มีความแข็งแกร่งชั้นนำในประเทศจีน ล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเอง

ยิ่งไปกว่านั้น ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดอย่างทวีปโอชวินก็ได้ถูกกำจัดไปแล้ว ตอนนี้ประเทศจีนนั้นถือว่าสงบสุข รวมถึงผู้คนใกล้ชิดที่สุดของตนเอง จะต้องมีชีวิตที่ดีและสงบสุขมาก

อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของญาณิดา และคำพูดของเธอตอนที่แยกกัน ทำให้รพีพงษ์ตระหนักว่านอกเหนือจากโลกใบนี้แล้วยังมีสถานที่ที่เรียกว่าเทวโลก และความแข็งแกร่งของเทวโลก ก็มาถึงจุดที่น่ากลัวที่สุดแล้ว!

สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์กังวลยิ่งกว่านั้นก็คือ สายตาที่แสดงออกของญาณิดาในตอนที่แยกกัน จนถึงทุกวันนี้ เมื่อใดก็ตามที่ภาพนั้นปรากฏขึ้นในใจของตนเอง รพีพงษ์จะรู้สึกเย็นแวบที่หลัง

เพราะเบื้องหลังสายตานั้น น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกสาวของตนเอง คนที่กำลังหลับใหลคนนี้น่าจะพรสวรรค์มากกว่าหนูลินของตนเอง!

ถ้าเป็นเมื่อก่อน รพีพงษ์อาจจะให้ชยนต์กับตมิสาปกป้องหนูลินไว้ตลอดเวลา ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาสองคนที่อยู่ในระดับแดนดั่งเทพชั้นยอด ปัจจุบันคนที่สามารถเอาชนะพวกเขาได้นั้นมีไม่มาก ทำให้ตนเองสามารถวางใจที่จะพาอารียาไปฝึกที่ป่าหมอก

แต่ตอนนี้ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา รพีพงษ์ได้คิดไตร่ตรองเรื่องนี้มาตลอด บางทีอารียาพูดถูก การให้หนูลินอยู่ข้างกายตนเอง เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

มิเช่นนั้น หากหนูลินเกิดเป็นอะไรไป ตนเองจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!

รพีพงษ์นอนบนเตียง และหลังจากนั้นไม่นาน ฟ้าก็สว่างแล้ว!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท