Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 60

ตอนที่ 60

บทที่ 60 ความสามารถพิเศษ

ด้วยความที่เสี้ยวหงและอั้ยเถียนติดประชุม พวกเขาจึงรีบกลับกันไปก่อน

ในห้องพักพื้นตอนนี้จึงเหลือแค่เธอคนเดียว เมื่อคืนมู่วี่สิงอยู่กับเธอทั้งคืน แต่วันนี้เขากลับไม่มา เวินจิ้งได้แต่คิดแล้วก็นั่งกอดเข่าตัวเอง

เธอไม่ชอบบรรยากาศของโรงพยาบาลเอาซะเลย

ตอนนี้มู่วี่สิงกำลังทำอะไรอยู่นะ

เขาคงยุ่งอยู่ล่ะมั้ง ก็เขามาทำงานนี่นา

เวินจิ้งคิดไปคิดมาจนค่อยๆคล้อยหลับไป

แต่อยู่ดีๆ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นเรื่อยๆ เวินจิ้งที่กำลังหลับอยู่นั้นเลยตื่นขึ้นมา

หัวใจของเธอเต้นรัว ไม่รู้ว่าเสียงฝีเท้านั้นเป็นเสียงฝีเท้าของใคร

แต่เธอก็เข้าใจผิดอย่างมหันต์

ทำไมเขาถึงมาดึกขนาดนี้ล่ะ

เขาไม่รู้รึไง ว่าเธอกลัวมากแค่ไหน…

เวินจิ้งกระพริบตามองเขา และหลับตาลงอีกครั้ง

พอมู่วี่สิงเปิดไฟ เขาก็เดินมาหยุดอยู่ข้างๆเธอ ร่างของเขาอยู่ในชุดเสื้อคลุมแล็บ เห็นได้ชัดว่าเขามาจากตึกวิจัยนั่น

เขาทั้งโกรธเธอ และโกรธตัวเอง

“คุณผู้หญิงมู่”

เวินจิ้งไม่ตอบ ได้แต่นอนหันหลังให้กับเขา

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และเดินไปอีกฝั่งอย่างไม่ลังเล ปลายนิ้วเรียวยาวของเขาค่อยๆแตะที่ริมฝีปากสีชมพูอ่อนของเธอ

เวินจิ้งที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ลืมตาขึ้นมาแล้วกัดเข้าที่นิ้วของเขาเข้าทันที

ใบหน้าที่หล่อเหลาของผู้ชายตรงหน้านั้นแดงเพราะความเจ็บปวด หลังจากที่ถูกเธอกัด

“อย่า…” เธอถอยไปด้านหลัง แต่นิ้วของมู่วี่สิงยังอยู่ที่เดิม

“อยากโดนดีใช่ไหม” เขาหรี่ตามองอย่างซุกซน

เวินจิ้งงุนงงกับคำพูดของเขา แต่พอเธอนึกขึ้นมาได้ เธอก็รีบส่ายหัวทันที

เธอเอื้อมไปจับศอกของเขา ทำให้เขาต้องละนิ้วมือออกจะปากของเธอ

เขา… บ้าไปแล้วรึไง

“อย่าทำแบบนี้” เธอพูดพร้อมกับหลบสายตาอันเร่าร้อนของเขา

“แบบไหนล่ะ” มู่วี่สิงขยับริมฝีปากบาง

ยิ่งเธอเขินแบบนี้ ก็ยิ่งมีเสน่ห์เข้าไปอีก

เขาจะทำยังไงกับหัวใจที่เต้นรัวของเขาดีนะ

“ไม่ใช่ว่านายยุ่งอยู่เหรอ” เธอนั่งหลังตรงพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวไว้อย่างแน่นหนา

มู่วี่สิงยิ้ม

“อื้ม ฉันยุ่งมาก แต่ก็ไม่ได้ยุ่งจนลืมว่าภรรยาของตัวเองกำลังเข้าโรงพยาบาลอยู่หรอกนะ”

“หมอบอกว่าพรุ่งนี้ฉันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”

“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็กลับเมืองหนานเฉิงกันเลยแล้วกัน”

“แล้วนายทำงานเสร็จแล้วหรอ” เวินจิ้งถาม

“เดี๋ยวมะรืนนี้มีไปงานแต่งน่ะ ยังไงก็ต้องกลับก่อน”

งานแต่ง…

ใช่สิ มะรืนนี้ก็เป็นวันแต่งงานของฉืออี้เหิงและฉินเฟยแล้วนี่นา

แล้วมู่วี่สิงจะไปอย่างงั้นเหรอ

“งานแต่งของใครหรอ”

“อดีตผู้บังคับบัญชาของเธอไง”

เวินจิ้งเงียบไม่พูดอะไร : “…”

“นายจะพาฉันไปด้วยไหม” เวินจิ้งถามขึ้น หลังจากถูกเขาจ้องมองอย่างนาน

“เธอไม่กลัวว่าสามีจะถูกขโมยไปหรอ ถ้าเธอไม่ไปน่ะ” มู่วี่สิงหรี่ตามอง พลางถามอย่างซุกซน

เวินจิ้งกัดริมฝีปากตัวเอง ก็น่าคิดอยู่นะ ก็เขาทั้งหล่อทั้งมีเสน่ห์ขนาดนี้ ใครเห็นจะไปทนไหว

อีกทั้งฐานะของเขา และบรรดากลุ่มแฟนคลับที่ยกยอเขานั่นอีก เป็นใคร ใครก็ต้องตกหลุมรักเขากันทั้งนั้นแหละ

“ถ้าฉันไป นายจะไม่ถูกขโมยไปใช่ไหม” เวินจิ้งถามเสียงเบา

“นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณผู้หญิงมู่แล้วแหละว่ามีมากน้อยแค่ไหน” เขาพูดพร้อมกับจูบเบาๆที่หน้าผากของเธอ

เวินจิ้งเขินจนทำตัวไม่ถูก ยิ่งนับวันไปการแต่งงานลับๆของเขาและเธอก็ยิ่งจะเป็นการเปิดเผยมากขึ้น พร้อมกับความรู้สึกของคนทั้งคู่ที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ

วันถัดมา หลังจากที่เวินจิ้งออกจากโรงพยาบาลแล้ว เธอก็ได้เดินทางกลับไปยังเมืองหนานเฉิงกับมู่วี่สิงทันที พอลงจากเครื่อง เธอก็เห็นข่าวๆนึง ทั้งจากนิตยสารและสื่อเว็บไซต์ต่างๆเต็มไปหมด

“หัวหน้าฉือแห่งบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแอบนัดพบกับผู้หญิงที่โรงแรมแห่งหนึ่งในช่วงเวลากลางคืน”

เวินจิ้งอ่านหัวข้อข่าว แล้วเลื่อนสายตาไปดูรูปที่ถูกแอบถ่าย แม้ว่าจะเห็นไม่ชัด แต่นั่นมันคือห้องที่เธออยู่ที่โรงแรมนั่น และวันนั้นก็เป็นวันที่ฉืออี้เหิงเอายามาให้เธอ

ตอนนี้มันถูกตีพิมพ์และใส่ไข่กันไปต่างๆนาๆโดยนักข่าวมากมาย ไม่ว่าจะทั้งในเว็บไซต์หรือสื่ออื่นๆ

มู่วี่สิงที่นั่งอยู่ข้างๆจ้องมองมาอย่างเยือกเย็น เขาต้องเห็นข่าวนี้แล้วแน่ๆเลย

เวินจิ้งก้มหน้าด้วยความรู้สึกกลัว

แม้ว่าข่าวนี้จะไม่ใช่ความจริง แต่ยังไงเธอก็แต่งงานแล้ว แล้วคนที่เธอแต่งงานด้วยก็เป็นมู่วี่สิงอีก

“มู่วี่สิง นี่มันไม่จริงอย่างที่ในข่าวพูดนะ” เวินจิ้งเปิดปากพูดก่อน

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว สายตาของเขานั้นแข็งขึ้นเรื่อยๆ

“อืม” เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ใส่ใจอะไร

เวินจิ้งรู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ

และอยู่ดีๆ มู่วี่สิงก็ได้โทรไปหาใครก็ไม่รู้พร้อมกับบอกว่า : “ภายในหนึ่งชั่วโมง ฉันต้องไม่เห็นข่าวของฉืออี้เหิงอีก”

เวินจิ้งตกใจ นี่คือไม่ว่าเขาจะสั่งอะไรก็ได้อย่างนั้นเลยใช่ไหม!

พวกเขาทั้งสองคนกลับกันมาถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับข่าวนั้นที่ถูกลบออกไปจากเว็บไซต์และสื่อต่างๆ และมีข่าวอื่นเข้ามาแทนที่

‘ข่าวตระกูลฉิน งานแต่งของฉืออี้เหิงและฉินเฟยถูกเลื่อนออกไปกะทันหัน ไม่แน่ว่าอาจจะมีการยกเลิกงานแต่งเกิดขึ้น!’

‘เห็นได้ชัดว่า ตระกูลฉินนั้นผิดหวังในตัวของฉืออี้เหิงมาก เขาไม่เหมาะที่จะเป็นคนในตระกูลฉิน และอนาคตของเขาก็อาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลฉินอีกต่อไป’

อั้ยเถียนส่งข่าวล่าสุดมาให้เวินจิ้งอย่างต่อเนื่อง ส่วนเธอนั้นก็นั่งอ่านมันอย่างตั้งใจ

‘ฉินเฟยที่คาดว่าตอนนี้กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นคิดจะไปทำแท้ง’ ทำแท้งอย่างนั้นเหรอ

“ฉินเฟยท้องอยู่หรอ ถึงว่าทำไมรีบแต่งงานจัง แต่ถึงยังไงฉันว่านี่มันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องจริง เพราะตระกูลฉินก็รวยมหาศาล เลี้ยงเด็กคนเดียวคงไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าเกิดเป็นเรื่องนี้จริงล่ะก็ แผลนี้จะเป็นแผลใหญ่ที่ฉืออี้เหิงไม่มีวันลบออกเลยนะ”

“แต่จิ้งจิ้ง เธอไม่ต้องการให้ฉันไปหาจริงๆหรอ เธอถูกเขียนว่าเป็น ‘มือที่สาม’ นะ”

พอเห็นข่าวที่เวินจิ้งถูกโจมตี อั้ยเถียนเองก็อยากจะมาหาเธอเพื่อปลอบใจ

แต่จุดที่ข่าวอยากจะเน้นก็คือฉืออี้เหิง ส่วนเธอนั้นจะเป็นใคร ไม่ได้มีใครสนใจอะไรเท่าไหร่หรอก

“ฉันบริสุทธิ์ใจ แต่ถ้าฉืออี้เหิงไม่ออกมาแก้ข่าวล่ะ ฉันก็จะต้องถูกคนโจมตีแบบนั้นต่อไปใช่ไหม” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

หวังว่าจะไม่มีใครดูออกว่าเป็นเธอ

“แต่ยังไงตอนนี้หมอมู่ก็จัดการปิดข่าวเรื่องนั่นเรียบร้อยแล้ว นี่ก็ไม่มีข่าวของเธอแล้ว เธอวางใจเถอะ”

พอวางสายเสร็จ เวินจิ้งก็โยนมือถือของเธอลง เธอไม่สนใจเรื่องที่เธอถูกเขียนว่าเป็น ‘มือที่สาม’ เท่าไหร่ แต่สิ่งที่เธอกำลังสนใจคือ เธอต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกแล้วหรอ

ในสามปีที่ผ่านมานี้ เธอเคยคิดอยากจะให้เขากลับมา แต่ตอนนี้เธอกลับพบว่า เธอไม่ได้มีความรู้สึกกับเขาขนาดนั้นแล้ว

เป็นเพราะข่าวอื้อฉาวของฉืออี้เหิง ทำให้ราคาหุ้นของตระกูลฉินตกลงฮวบๆภายในไม่กี่วันเท่านั้น อีกทั้งโปรเจกต์ที่ได้ร่วมงานกับบริษัทการผลิตยาเทียนอีก็ได้หยุดลงชั่วคราวอีกด้วย

ที่บริษัทการผลิตยาเทียนอีเต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกี่ยวกับข่าวของฉืออี้เหิงเต็มไปหมด

“ผู้หญิงคนนั้นดีกว่าฉินเฟยตรงไหนนะ ฉินเฟยเธอสวยไม่พอรึไง ถึงไปเอาผู้หญิงคนอื่น”

“แกไม่รู้อะไร การที่จะจับผู้ชายสักคนนึง แค่สวยน่ะไม่พอนะ…”

“แต่ต้องอาศัยความสามารถพิเศษด้วย…”

เวินจิ้งที่กำลังชงชาอยู่ พอได้ยินอย่างนั้น มือเธอก็เกิดอาการสั่นขึ้นมา ทำให้ถ้วยชานั้นพลิกไปพลิกมาไปด้วย

“ชงชายังชงไม่ได้เลย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงยังเป็นพนักงานต๊อกต๋อยอยู่แบบนี้” เพื่อนร่วมงานคนนึงพูดแดกดันเธอ

“เลิกพูดได้แล้ว เธอพึ่งจะไปทำหน้าที่เลขาให้หัวหน้าเสี้ยวมาเองนะ”

“เป็นไปได้ไง นี่เธอมีความสามารถพิเศษอะไรกัน ถึงไปทำงานเป็นเลขาให้หัวหน้าเสี้ยวได้น่ะ”

เวินจิ้งที่ทนฟังอยู่นาน ก็ได้สาดชาในถ้วยที่เธอถืออยู่ใส่หน้าของพนักงานคนนั้น

“ขอโทษค่ะ พอดีมือมันลื่น”

“โอ๊ย ร้อย! นี่เธอมือลื่นอย่างงั้นเหรอ คิดว่าฉันจะเชื่อเธอรึไง” ผู้หญิงคนนั้นตะโกนลั่น พร้อมกับเครื่องสำอางบนหน้าเธอที่ค่อยๆไหลเยิ้มลงมา

เธอมองหน้าเวินจิ้งอย่างโกรธแค้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท