Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 307

ตอนที่ 307

บทที่ 307 อยากให้เธอเต็มใจ

ข้างนอก เวินจิ้งเดินออกมาจากบ้านหลัก ท้องฟ้ามืดลง เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กินอะไร

แต่ยังไง เธอก็ไม่อยากอยู่ที่บ้านตระกูลหลินแล้ว

ทันใดนั้น มีเสียงเบรกดังอยู่ข้างๆ รถคันสีฟ้าไพลินค่อยๆจอดลงข้างเธอ

หลิงอี้ลงจากรถ เปิดประตูรถ “ที่นี่ต่อรถยาก ฉันส่งเธอไปสนามบิน เธอไปคนเดียว ฉันไม่วางใจ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว แต่ก็ขึ้นรถ

เพียงแต่ครั้งนี้ หลิงอี้ไม่ได้ส่งเธอไปสนามบิน

รถลีมูซีนขับไปยังใจกลางเมือง ระยะทางยิ่งอยู่ยิ่งห่างจากสนามบิน

เวินจิ้งมองไปยังหลิงอี้ “คุณจะพาฉันไปไหน?”

“บ้านฉัน”

“ฉันจะกลับไปหนานเฉิง” เวินจิ้งพูดอย่างเงียบๆ

“เธอยังไม่เปิดเรียน กลับไปหนานเฉิงอยู่คนเดียว กลับไปกับฉันดีกว่า จะได้สานสัมพันธ์”

“ใครจะสานความสัมพันธ์กับคุณ!” เวินจิ้งโกรธ

ต้องการเปิดประตูลงจากรถ แต่หลิงอี้ได้ล็อคประตูไว้แต่แรกแล้ว

“ตอนนี้มู่วี่สิงไม่อยู่ข้างกายเธอ ฉันอยากใช้โอกาสนี้” หลิงอี้พูดอย่างไร้ยางอาย

“หลิงอี้ ฉันต้องการลงจากรถเดี๋ยวนี้!” เวินจิ้งถลึงตามองเขา

หลิงอี้ไม่ไหวติงเลย

“ไม่อย่างนั้น ฉันจะแจ้งตำรวจแล้ว” เวินจิ้งหยิบมือถือ

การข่มขู่นี้หลิงอี้มองแล้ว ไม่มีผลกระทบเลยสักนิด

เขาหัวเราะเบาๆ “อยู่ที่บ้านตระกูลหลิน ฉันได้ถอดซิมการ์ดมือถือของเธอออกแล้ว มือถือของเธอตอนนี้ไม่มีสัญญาณ”

เวินจิ้งกดมือถือ สรุป…ช่องเสียบการ์ดว่าง

“ไอ้บ้า!” เวินจิ้งด่าด้วยความโกรธ

หลิงอี้ยิ่งพอใน เวินจิ้งที่โกรธ ทำให้เขารู้สึกว่าเธอน่ารักมาก

ในไม่ช้ารถก็ขับเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็ว หลิงอี้เปิดประตูหลัง “คุณเวิน เชิญ”

เวินจิ้งลงจากรถ ก้าวขาวิ่งออกไป แต่เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ตั้งนาน แล้วจับเธอไว้อย่างง่ายดาย เข้ามาไว้ในอ้อมแขน

“หลิงอี้!”

“อย่าบังคับให้ฉันต้อบใช้กำลัง ฉันแค่อยากให้เธออยู่ข้างกาย ฉันไม่ทำร้ายเธอ อยู่บ้านตระกูลหลิง ฉันก็จะไม่ยุ่งกับอิสรภาพของเธอ”

“ตอนนี้คุณก็กำลังยุ่งกับอิสรภาพของฉัน!” เวินจิ้งถลึงตาใส่เขา

“เว้นแต่ตอนนี้ แค่เธอไม่ออกไปจากหนานเฉิง อยู่ข้างกายฉัน เธอจะทำอะไรก็ได้” หลิงอี้พูดอย่างจริงใจ แต่เวินจิ้งไม่เห็นคุณค่า

พาเธอเดินออกมาจากลานจอด หลิงอี้นำเธอไว้ในอ้อมแขน

“คุณปล่อยฉัน ฉันไม่ไปไหนก็พอแล้ว” เวินจิ้งไม่ชอบเข้าใกล้กับหลิงอี้มากๆ

หลิงอี้ขมวดคิ้ว เดินเข้ามาจนถึงลิฟต์เขาถึงจะปล่อยเธอ

เธอรีบออกห่างจากเขา

เมื่อมองตัวเลขในลิฟต์ สีหน้าของเวินจิ้งยิ่งอยู่ยิ่งขาวซีด

สำหรับหลิงอี้ เธอฝืนจิตใต้สำนึก

“ไม่ต้องกลัวฉัน ฉันไม่เคยทำร้ายเธอ ไม่ใช่เหรอ?”

เวินจิ้งยิ้มเยือกเย็น “คุณวางยาฉัน แล้วพยายามจะมีอะไรกับฉัน แบบนี้ไม่ถือว่าทำร้ายเหรอ?”

“ฉัน…” หลิงอี้เม้มริมฝีปาก

เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เขาพูดไม่ออก

คุณปู่เป็นคนจัดการ แต่เขายอม แม้ว่าต่อมา เขาก็เสียใจ

เพียงเพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นเวินจิ้ง เขาทำไม่ลง

เขาอยากให้เธอเต็มใจ

“พวกคุณทุกคนบอกว่าทำเพื่อฉันแต่ภายใต้หน้ากากนั้นคอยทำร้ายฉันอย่างไร้ยางอาย ฉันพอแล้ว” เวินจิ้งอดที่จะใส่อารมณ์ไม่ได้

เธอไม่ชอบความรู้สึกที่ถูกควบคุม เธอต้องการได้รับการเคารพ

แต่ว่าอยู่ที่บ้านตระกูลหลิน เหมือนว่าจะไม่สามารถทำได้เลย

หลิงอี้มองเวินจิ้งอย่างเงียบๆ ตอนนี้ เหมือนว่าเข้าใจเธอเพิ่มขึ้น

“ฉันยอมรับว่าเรื่องนั้นฉันทำไม่ถูกต้อง ฉันคิดว่าฉันได้ชดเชยความผิดไปแล้ว” น้ำเสียงของหลิงอี้อารมณ์เสียเล็กน้อย

“นั่นแค่คุณคิดไปเอง”

“เธอจะให้ทำยังไง ถึงจะอภัยให้ฉันได้?” หลิงอี้ยกมือ

เขากักเวินจิ้งไว้ระหว่างกำแพงกับแขนของเขา

เวินจิ้งรู้สึกรังเกียจมาก และใช้แรงผลักเขาออก

“คุณออกห่างจากฉันหน่อย!”

“บอกฉัน ทำยังไงถึงจะอภัยให้ฉัน” หลิงอี้ถามเธอซ้ำๆ

เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น และหัวเราะอย่างเยือกเย็น “งั้นตอนนี้คุณ ปล่อยฉันไป”

“เธอเกลียดฉันไปก่อน”

ตระกูลหลิงตั้งอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร หลิงอี้เปิดประตูออก

เมื่อเห็นเวินจิ้งยืนอยู่ตรงประตู เขาผายมือในท่าเชื้อเชิญ

ในที่สุดเวินจิ้งก็ทำหน้านิ่ง

คุณนายหลิงเห็นเวินจิ้ง บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มหวาน “หลิงอี้ ทำไมแกพาผู้หญิงมาที่บ้านก็ไม่บอกฉันสักคำ?”

“ชั่วคราว” หลิงอี้พูด เขาสั่งคนใช้ “ไปเก็บกวาดห้องนอนแขก”

“คุณนายหลิง” เวินจิ้งทักทายอย่างมีมารยาท

“เข้ามาเถอะ ไม่ต้องกังวล”

สังเกตได้ถึงเวินจิ้งอึดอัด รอยยิ้มของคุณนายหลิงอ่อนโยน

“เวินจิ้ง หลานสาวของคุณปู่” หลิงอี้แนะนำ

คุณนายหลิงเดินเข้ามา และถามอย่างรวดเร็ว “หลิงอี้แกล้งเธอรึเปล่า ไม่ค่อยมีความสุข?”

เวินจิ้งจมวดคิ้ว ดูเธอเก็บอารมณ์ไม่เป็น เรื่องในใจอยู่บนหน้า

“อืม ฉันไปพักผ่อนก่อน” น้ำเสียงของเวินจิ้งเรียบๆ

คุณนายหลิงมองลูกชาย สายตาของเขามองแต่เวินจิ้ง

“ทำไมถึงพาเธอกลับมา? เธอตเองอยู่ที่ตระกูลหลินไม่ใช่เหรอ?” คุณนายหลิงถามอย่างสงสัย

“เธออยากกลับไปหนานเฉิง ฉันบังคับให้เธออยู่ที่นี่”

“มิน่า ดูออกว่าเธอต่อต้าน”

“เธอเกลียดผม ก็ยังดีกว่าไม่มความรู้สึกอะไรกับผมเลย” หลิงอี้พูดติดตลก

อย่างน้อย เวินจิ้งแบบนี้ก็มีอารมณ์ แต่ไม่ใช่คนที่ไร้ความรู้สึก

“วันนี้เนื้อหาของหลินเจิ้ง คืออะไร?” คุณนายหลิงถาม

“บริษัทหลินซื่อยังมีทรัพย์สินส่วนมาก แต่เธอยอมแพ้ ตอนนี้มรดกมีคุณนายหลินดูแล”

“เพราะอะไร?” คุณนายหลิงแปลกใจ

“เธอไม่ยอมแต่งงานกับผม จึงไม่สามารถรับช่วงดูแลมรดกของคุณปู่ได้”

“เด็กคนนั้นไม่เหมือนใคร” คุณนายหลิงหัวเราะ

ลูกชายของเธอมีคนเป็นหมื่นหลงใหล ไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธได้ แต่เวินจิ้ง ยอมทิ้งมรดกและไม่ยอมแต่งงานกับหลิงอี้

“แต่ว่าเธอเป็นภรรยาเก่าของมู่วี่สิง เกรงว่าคงยังไม่ลืมมู่วี่สิง” คุณนายหลิงนึกขึ้นได้

“ผมจะทำให้เธอค่อยลืม”

“แกดูเอาเองก็แล้วกัน หากขอเวินจิ้งแต่งงานได้ สำหรับตระกูลหลิงจองเราก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นโดยธรรมชาติ”

กลางคืน เวินจิ้งหาห้องของหลิงอี้เจอแล้ว

“นอนไม่หลับ?” เขายกมุมปากขึ้น

“ในเมื่อฉันก็อยู่ที่นี่แล้ว คุณจะคืนซิมการ์ดให้ฉันได้แล้วใช่ไหม?”

“รอให้เธอกลับหนานเฉิง ฉันจะคืนให้ วางใจได้ จะเติมเงินให้เธอตลอด”

“คุณรู้สึกไหมว่าคุณทำเกินไป? คุณกับการจำคุกมีอะไรแตกต่างกัน!” เวินจิ้งถลึงตาใส่เขา

“อืม รู้สึกเกินไปจริงๆ แต่ก็เพื่อให้เธออยู่ ฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้ พรุ่งนี้ฉันพาเธอไปเดินเล่นรอบๆ ไปผ่อนคลาย ดีไหม?”

“คุณไปเดินเล่นคนเดียวเถอะ ฉันไม่อยากไป”

เมื่อคุยไม่รู้เรื่อง เวินจิ้งจึงกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง

หลิงอี้ไล่ตามมา “อยู่ที่นี่คุ้นชินไหม?”

“ไม่ชิน ฉันอยากกลับบ้าน” เงินจิ้งจ้องเขา

เธอจะชินกับที่นี่ได้ยังไง เธอแค่อยากออกไปจากที่นี่

“ไม่แน่ ต่อไปที่นี่จะเป็นบ้านของเธอ” หลิงอี้มองไปที่เธออย่างร้อนแรง เขาหวังให้เวินจิ้งชอบที่นี่

“หลิงอี้ นายพอได้แล้ว ตอนนี้ ต่อไป ยังไงที่นี่ก็จะไม่ใช่บ้านของฉัน” เวินจิ้งพูดเงียบๆ

สิ้นเสียง “ปัง” ปิดประตู

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท