Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 288

ตอนที่ 288

บทที่ 288 เขาเพียบพร้อมพอที่จะคู่ควรผม

ไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างแต่ละคนจะคิดยังไง มู่ซือซือดูถูกเหยียดหยาม เวินจิ้งหันหลัง เดินออกจากงานเลี้ยง

เพียงแต่มู่ซือซือมีหรือจะปล่อยเธอไป ผลักรถเข็นแล้วไล่ตามเธอไป

“เวินจิ้งสารเลวหยุดนะ!” เธอคว้าขวดเหล้าปาใส่เวินจิ้ง

เวินจิ้งเม้มปาก เท้าหยุดชะงัก เห็นขวดเหล้าที่กำลังลอยมาหาเธอ เธอไม่ลุกลี้ลุกลนแม้แต่น้อย ถอยหลังหนึ่งก้าว เห็นขวดเหล้าปลิวมาหาเธอ ขวดเหล้าผ่านไหล่เธอไปอย่างหวุดหวิดแตกกระจายลงพื้น

“มู่ซือซือ” ส้งวี่ไล่ตามมาอย่างตกใจ

“เธอบ้าพอยัง อย่าทำให้ตระกูลมู่เสียหน้า” เวินจิ้งพูดน้ำเสียงเย็นชา

“เธอต่างหากทำให้ตระกูลมู่เราขายหน้า มีพี่ชายฉันยังไม่พอใจหรอ? ถึงได้ไม่เจียมเนื้อเจียมตัวขนาดนี้

ทันใดนั้น เสียงกระซิบรอบตัวค่อยๆดังขึ้น พี่ชายของมู่ซือซือก็คือมู่วี่สิง คนๆนี้มีคนรู้จักไม่น้อยเลย

แต่สำหรับเวินจิ้ง เมื่อกี้หลินเวยแนะนำ เธอคือคุณหนูของตระกูลหลิน งานแต่งของเวินจิ้งกับมู่วี่สิงเมื่อครึ่งเดือนที่แล้วก็ไม่ได้น้อยหน้า มีคนรู้จักพอสมควร

แต่เมื่อกี้เวินจิ้งกับหลิงอี้กอดเต้นรำกัน กลับมีเสียงที่ไม่พอใจอยู่ไม่น้อย

“ที่แท้เป็นคุณหญิงมู่หรอเนี่ย แต่เมื่อสักครู่เธอกับหลิงอี้อยู่ใกล้ชิดกันมากเลยนะ”

“ก็ใช่สิ ดูท่าน่าจะหาความสุขเล็กๆน้อยๆลับหลังมู่วี่สิง”

“……”

“ซือซือ นี่มันอะไรกัน?” ในฐานะที่เป็นเจ้าของงาน หลินเหยาดูการทะเลาะวิวาทที่อยู่ตรงหน้า พลางขมวดคิ้ว

“เหยาเหยา ผู้หญิงคนนี้แหละที่คลานขึ้นบนเตียงพี่ชายฉัน ตอนนี้ก็มายั่วพี่ชายเธอ”

“มู่ซือซือ เธอนี่ช่างสร้างเรื่องได้เก่งจริงๆเลยนะ” เวินจิ้งพูดอย่างเสียงนิ่ง

เธอกับหลิงอี้บริสุทธิ์ใจ

“ฉันพูดผิดหรอ?” มู่ซือซือมองหน้าเธอแบบหน้าตาใสซื่อ

หลิงเหยามองไปที่พี่ชาย เขาเงียบขรึมไม่พูดอะไร ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

แต่เวินจิ้งเป็นคนของตระกูลหลิน แน่นอนเธอไม่สามารถไล่เขาออกจากงานนี้ได้

“เธอพูดผิดแล้ว ฉันไม่เคยยั่วหลิงอี้ ที่นี่มีกล้องวงจรเธอสามารถไปเปิดดูได้ ฉันเลี่ยงเขาตลอด แต่เขากลับไม่ลดละตามมาบังคับฉัน”

“เธออย่าพูดเหลวไหล คุณหลิงมีหรือจะมาชอบคนที่มีสามีอย่างเธอ หน้าไม่อาย”

“นั่นสิ ไม่ดูสารรูปตัวเอง หล่อนคู่ควรกับคุณหลิงหรอ?”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้างกำลังด่าว่าเวินจิ้ง

ทันใดนั้น มีร่างที่สูงใหญ่เดินเข้ามาจากข้างนอก ทุกคนหลบหลีกทางให้

“เวินจิ้งคู่ควรกับหลิงอี้หรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ในเมื่อเธอเป็นคุณหญิงมู่ เธอเพียบพร้อมพอที่จะคู่ควรกับผม” เสียงมู่วี่สิงแว่วมา เวินจิ้งเงยหน้า เห็นผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสีดำ หน้าตาหล่อเหล่า กำลังเดินมาจากที่ไกลๆ

โอบเอวของเวินจิ้งไว้ เขากับเธอยืนท่ามกลางฝูงชน นัยน์ตาคมชัดสีดำ

“พี่ พี่ยังจะปกป้องเธออีก เมื่อกี้ฉันเห็นหมดแล้ว คนที่นี่ทุกคนก็เห็น

เธอกับหลิงอี้สนิทสนมกันมาก” มู่ซือซือตอบอย่างบ้าคลั่ง

“ใช่หรอ? จากที่พี่เห็นการเต้นรำก็คือมารยาทอย่างหนึ่งของการต้อนรับแขก พี่ไม่รู้สึกว่าคุณหญิงมู่เต้นรำกับหลิงอี้ ก็ไม่ได้ลำเอียงนะ แต่ว่าผมต้องสืบสาเอาเรื่อง ดูเหมือนคุณหลิงจะบังคับภรรยาผมนะครับ” สายตาเยือกเย็นของมู่วี่สิงมองไปที่หลิงอี้ สีหน้าหลิงอี้ไม่สะทกสะท้านนิ่งสงบ ยกริมฝีปากขึ้น เขาพูดว่า “ผมยอมรับผมชื่นชมคุณหนูเวินมาตลอด เธอเต้นรำไม่เป็น ผมแค่แนะนำเท่านั้น”

“คุณว่างั้นไหมครับ คุณหนูเวิน” หลิงอี้หรี่ตา

อยู่ที่ ประเทศB ยังไงก็เป็นถิ่นของตระกูลหลิง

เวินจิ้งก็ไม่อยากมีเรื่อง ยิ่งมู่ซือซือก็อยู่ที่นี่ เธอก็ไม่อยากให้กระทบกระเทือนเขา

“ฉันเหนื่อยแล้ว กลับกันเถอะ” เธอมองไปที่มู่วี่สิง

“อืม”

มู่วี่สิงมองส้งวี่ที่ยืนอยู่ข้างหลังมู่ซือซือ “พา คุณหนูมู่กลับไป” น้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่ส้งวี่ฟังออกว่าเขาโกรธ

“ซือซือ เธออย่าหาเรื่องเลย” ส้งวี่ปวดหัว

ทำไมบังเอิญขนาดนี้ พอดีเวินจิ้งกับมู่วี่สิงก็อยู่ประเทศBด้วย ถ้ารู้แต่แรก เขาจะไม่ยอมให้มู่ซือซือมาแน่นอน “ฉันเปล่านะ ฉันแค่หมั่นไส้ผู้หญิงคนนั้น เธอไม่เห็นหรือไงใกล้ชิดหลิงอี้ขนาดนี้?”

“เขากับหลิงอี้ไม่มีอะไรกัน” ส้งวี่ชักสีหน้า

เมื่อกี้เขาเห็นอย่างชัดเจน หลิงอี้บังคับและฝืนใจเธอชัดๆ

“ทำไมแม้แต่คุณก็เข้าข้างผู้หญิงคนนี้ คุณออกไปเลย ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ” มู่ซือซือโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

หลิงเหยารีบปลอบใจเธอ “ซือซืออย่าโมโหเลย นี่ก็ดึกมากแล้ว คืนนี้เธอก็นอนที่บ้าน

หลิงแล้วกัน”

“ได้ แต่ว่าเมื่อกี้ขอโทษด้วยนะ เหยาเหยา ดูเหมือนฉันจะก่อเรื่องขึ้นแล้ว” มู่ซือซือรู้สึกผิด

เธอก็ไม่อยาก แต่พอได้เห็นเวินจิ้งจึงควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่

“ดูเหมือนเธอมีอคติกับเวินจิ้งมาก” หลิงเหยาถามอย่างสงสัย

“ฉันเกลียดเขา”

……

ตลอดทางที่ออกจากงานเลี้ยง เวินจิ้งใส่รองเท้าส้นสูงรู้สึกเหนื่อยมาก ก้มลงถอดรองเท้าออก

มู่วี่สิงรับรองเท้าเธอมา จับมือที่หนาวเย็นของเธอไว้

เขารู้ว่า เมื่อกี้เธอกลัวมาก

มู่ซือซือครั้งหนึ่งเคยเกือบทำเธอตาย เรื่องนั้นเธอยังจำได้จนฝังใจ

เธอพิงไปที่อ้อมกอดของมู่วี่สิง กอดเขาไว้แน่น

“คุณเชื่อฉัน?” เธอกระซิบ

เมื่อกี้ทุกคนล้วนต่อว่าเธอ แต่มู่วี่สิงเดินเข้ามา เขาเชื่อเธอเสมอมา

“ผมบอกแล้ว ผมเชื่อคุณหญิงมู่ เรื่องของมู่ซือซือ ผมขอโทษด้วย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง

“วันนี้อารมณ์ของเขารู้สึกจะควบคุมได้ดีกว่าเก่า อย่างน้อยก็ไม่ได้บ้าคลั่งเหมือนเมื่อคราวที่แล้ว”

เวินจิ้งมองเขา เธอไม่ห่วงตัวเอง ที่เป็นห่วงก็คือมู่ซือซือ อาการกำเริบตอนอยู่ในงาน ก่อเรื่องวุ่นวายที่ยากจะแก้ไข

“อืม ส้งวี่บอกกับผมแล้ว เขารู้สึกว่าอาการของเธอดีขึ้น ถึงกล้าพามางานเลี้ยง”

“แต่ว่าคุณกับหลิงอี้เต้นรำกันผมก็หึงนะ” มู่วี่สิงพูดเสียงต่ำลง

ถึงจะรู้ว่าเวินจิ้งไม่ได้เต็มใจ แต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ

“อึ่ม คุณก็รู้ว่าฉันเต้นรำไม่เป็น ไม่รู้ว่าเหยียบเท้าเขาไปกี่รอบ อย่าใช้คำว่าเต้นรำเลย สำหรับหลิงอี้แล้วพูดได้ว่าเป็นการทรมานมากกว่า”

“ใช่หรอ?”

ความโกรธของมู่วี่สิงก็ยังไม่ลดลงสักนิด

“ใช่…”

เวินจิ้งก้มหน้า ยังไม่ทันตั้งตัว ร่างที่บอบบางของเธอถูกเขาผลักไปที่กำแพง ร่างสูงใหญ่ของเขาเข้ามาใกล้ จูบลงอย่างบ้าคลั่งเอาแต่ใจ

เวินจิ้งขัดขืน เสียงแรงเปล่าไม่ได้ผล ได้แต่จมอยู่อย่างนั้น

ในสายตาคนอื่นมู่วี่สิงเป็นคนสุภาพเรียบร้อย แต่ด้านนี้เป็นคนแข็งกร้าวเกินขอบเขตระเบียงที่อยู่ตรงข้าม ฉากกั้นห้องกั้นอยู่ สามารถมองเห็นภาพนี้ได้อย่างชัดเจน

หลิงอี้คีบบุหรี่อยู่ รอบตัวเต็มไปด้วยควันบุหรี่

แต่เวินจิ้งกับมู่วี่สิงกำลังทำอะไรอยู่ หลิงอี้มองเห็นชัดเจน

แววตาที่เยือกเย็นค่อยๆแพร่กระจาย

หลิงเหยาผลักประตูเข้ามา ก็เห็นภาพที่เร่าร้อนนั่นเหมือนกัน

“พี่ พี่คงไม่ใช่ชอบเวินจิ้งนะ?” หลินเหยาขมวดคิ้ว

“อืม” หลิงอี้ไม่ได้ปฏิเสธ

“อย่าบ้าหน่า เขาคือคุณหญิงมู่”

“วันนี้เธอก็เห็นปฏิกิริยาของมู่ซือซือแล้ว เวินจิ้งอยู่ตระกูลมู่ได้ไม่นานหรอก” หลิงอี้พูดอย่างมั่นใจ

“สาเหตุ”

หลิงอี้ยิ้ม “เหตุผลก็คือ นอกจากเขาแล้วฉันก็ไม่เอาคนอื่น”

“พี่คิดว่าแม่จะเห็นด้วยหรอหรอ?”

“เห็นด้วย เขาเหมาะที่จะเป็นคุณหญิงหลิง มากกว่าใคร”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท