Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 614

ตอนที่ 614

บทที่ 614 ทำไมเธอต้องหลบเขา

“ขโมย? งั้นเธอไม่เป็นไรใช่ไหม? เงินทองเป็นของนอกกาย ความปลอดภัยสำคัญที่สุก” เวยอานพูดอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร พอดีเจอเพื่อนคนหนึ่ง”

“เพื่อน? ดังนั้นถึงได้มีความรักแล้ว?”เวยอานยิ้ม

“คือหยูจิ่งห้วน”เวินจิ้งถอนหายใจ

“มีความหวังนะเนี่ย”

“คิดเยอะไปแล้ว”เวินจิ้งแตะที่หน้าผากของเวยอาน แล้วส่ายหัว

“คงไม่ใช่เพราะเขาเด็กกว่าเธอ เธอก็เลยปฏิเสธแล้วเหรอ? หรือจะบอกว่า จริงๆแล้วเธอชอบโจวเซิน เอ่ย เหมือนเขาไม่ได้มาโรงพยาบาลมานานแล้วนะ”เวยอานถึงมีปฏิกิริยา

ปกติโจวเซินจะมาโรงพยาบาลตลอด แต่เวยอานเหมือนไม่เห็นเขามานานแล้ว

“เขาโดนย้ายตำแหน่งแล้ว ปีครึ่งคงไม่อยู่ที่เมืองหนาน”

การตัดสินใจของโจวเซิ่งเกินความคาดหมายของเวินจิ้ง ไม่พอความสัมพันธ์พ่อลูกไม่ค่อยดีมาตลอด เวินจิ้งอยู่บ้านโจวมาสามปี ต้นสายปลายเหตุสามารถเห็นหมด

ตอนเย็นเลิกงาน เวินจิ้งไปเยี่ยมหลินเวยที่โรงพยาบาลเป็นสิ่งแรก อีกหนึ่งอาทิตย์หลินเวยถึงสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เพราะเวินจิ้งกลับมาแล้ว เวลาของโจวเซิ่งก็สามารถอยู่กับงานได้เยอะขึ้น

“แม่ วันนี้แม่รู้สึกอย่างไรบ้าง?”ทุกวันคนใช้ก็เอาอาหารมาให้ทั้งสามมื้อ เวินจิ้งเปิดกล่องข้าว

“กินอิ่มหลับสบาย แม่วางแผนอยากจะออกจากโรงพยาบาลก่อน”

“หนูลองไปถามหมอดูค่ะ”

สองวันนี้หลินเวยสีหน้าดีขึ้นไม่น้อย มีชีวิตชีวามาก แต่ควรอยู่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตการณ์หลังการผ่าตัดจะดีกว่า

หลังจากยืนยันเวลาออกโรงพยาบาล เวินจิ้งกลับมาที่ห้องผู้ป่วย อยู่เป็นเพื่อนแม่ไม่นาน โรงพยาบาลก็โทรมา บอกว่าพรุ่งนี้ในประเทศFมีการประชุมแลกเปลี่ยนวิชาแพทย์ เวินจิ้งเป็นตัวของโรงพยาบาลแผนกประสาท

“มีงานก็รีบกลับไปเถอะ”หลินเวยกำชับ

“พรุ่งนี้มีประชุมค่ะ แม่ งั้นแม่พักผ่อนดีๆนะ”

กลับมาถึงบ้านโจว หวินจิ้งเปิดอีเมลในโทรศัพท์ กำหนดการประชุมพรุ่งนี้ส่งมาแล้ว เวินจิ้งมองอย่างคร่าวๆ สุดท้ายสายตาหยุดที่การประชุมสิบโมงเช้า

เนื้อหาการประชุม: การศึกษารายละเอียดสาเหตุของอาการปวดหัว

ผู้บรรยาย : ดร.หลิงเหยา

เวินจิ้งจ้องชื่ออย่างตกตะลึง ไม่ไร้ร่องรอยของความลุ่มหลงในใจ เธอรีบบังคับตัวเองให้ปิดอีเมล

เช้าวันถัดมา แปดโมงเช้า เวินจิ้งมาถึงโรงแรมระดับดาวอันงดงามใจกลางเมืองตรงเวลา

พึ่งเข้ามานั่งได้ไม่นาน เวินจิ้งก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

“ฉันแค่มาลองดู”

เวินจิ้งหันหัวไปอย่างไม่รู้ตัว มองผู้หญิงวัยรุ่นที่ยืนอยู่ข้างๆตัวเอง

เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่ายและกางเกงขายาวสีเทาเงิน มีเข็มขัดสีแดงไวน์สุดหรูที่เอว บนไหล่เป็นผ้าพันคอผ้าขนสัตว์สีดำขาว…..แต่ตัวอย่างสบายๆ

ตอนนี้หลิงเหยา นิสัยใจคอแตกต่างจากเมื่อสามปีก่อนมาก

เธอมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แถมเต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้หญิง

ทันใดนั้นขมับเต้น เวินจิ้งเก็บสายตา ไม่มองเธออีก

“คุณเวิน โทรศัพท์คุณ”

ทันใดนั้นคนด้านหลังเรียกเธอ เวินจิ้งหันหัว สบตากลับหลิงเหยา

หลังจากสามปี ทั้งสองคนคุยกันแบบเห็นหน้าครั้งแรก

“เวินจิ้ง พวกเราเจอกันอีกแล้ว”น้ำเสียงของหลิงเหยาค่อนข้างหยิ่งผยอง

ตอนนี้เธอเป็นศาสตราจารย์ระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยหนานเฉิง แล้วเป็นสมาชิกของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ในความคิดของเธอ ตำแหน่งเหนือกว่าเวินจิ้ง

“อืม”เวินจิ้งตอบกลับไม่แสดงอาการอะไร

หลิงเหยาไปเตรียมตัวกล่าวสุนทรพจน์อย่างรวดเร็ว เวินจิ้งเรียกสติกลับมา มองลงไปที่กำหนดการของการประชุมอย่างละเอียด ด้านบนมีการแนะนำภูมิหลังของหลิงเหยา

เหตุการณ์พาไป เธอเกือบจะฉีกตารางกำหนดการแล้ว

เช้าสิบโมง เริ่มประชุมอย่างตรงเวลา

ห้องประชุมที่จุคนได้มากกว่าร้อยคนนั้นเต็มไปหมด และผู้หญิงที่สง่างามหน้าเวที กำลังอธิบายความรู้ด้านการวิจัยทางการแพทย์อย่างใจเย็น

คำพูดของหลิงเหยาชัดเจน เป็นระเบียบอย่างชัดเจน แบบนี้ของหลิงเหยาอยู่ในสายตาของเวินจิ้ง รู้สึกไม่คุ้นเคยมากเหมือนกัน

ที่จริงแล้วคนทั้งหมดเปลี่ยนไปแล้ว

มู่วี่สิงเปลี่ยนแล้ว หลิงเหยาก็เปลี่ยนแล้ว

เธอยิ้มอย่างประชดประชัน ปฏิเสธไม่ได้ ตอนนี้ทั้งตัวของหลิงเหยาเต็มไปด้วยเสน่ห์ ไม่น่าแปลกใจที่อยู่ในสายตาของมู่วี่สิง

เธอดูเหมือนปีศาจร้าย ฟังอย่างใจจดใจจ่อ

จนจบการประชุมช่วงบ่าย เวินจิ้งยังนั่งอยู่ หลิงเหยากล่าวสุนทรพจน์ประสบความสำเร็จอย่างมาก หลายคนปรบมือให้กับงานวิจัยของเธอ

เวินจิ้งจดบันทึกอย่างตั้งใจ เป็นคนสุดท้ายที่ออกจากห้องประชุม มีงานเลี้ยงฉลองในช่วงเย็น ตัวเอกคือหลิงเหยาอย่างไม่ต้องสงสัย

เวินจิ้งไม่ได้อยากไปมาก แค่เพื่อนที่โรงพยาบาลนั้นไปกันหมดแล้ว เลยลากเวินจิ้งไปด้วย

“ฉันได้ยินมาว่า ศาสตราจารย์หลิงคนนี้เป็นศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุดของมหาวิทยาลัยหนานเฉิง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ”

“นั่นแหละ วิจัยเดียวกันคนอื่นสิบปีก็ไม่สำเร็จ เธอประสบความสำเร็จในระยะสั้นๆในเวลาเพียงสามปี ไม่แปลกที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะเซ็นสัญญากับเธอ”

“แถมเธอยังสวยอีกต่างหาก พวกเธอเห็นรึเปล่าเมื่อกี้มีหมอผู้ชายหลายคนขึ้นไปพูดคุยด้วย”

“ฉันรู้สึกก็ธรรมดานะ ฉันคิดว่าหมอเวินมีนิสัยใจคอดีกว่าเธอ”

ทันใดนั้นcueมาถึงเวินจิ้งทำให้เธอเรียกสติกลับมาได้ เธอดึงรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา“คุณหลิงโดดเด่นกว่าทุกคน เมื่อกี้ที่กล่าวบรรยาย สะเพร่าไปหน่อย”

เวินจิ้งตั้งใจฟังทั้งหมดไม่ได้ใจลอย เอาที่จดบันทึกของตัวเองขึ้นมา เธอพูดคุยกับแพทย์ข้างกายเธอหลายคน

“คุณหมอเวิน พวกนี้คุณก็ค้นพบได้ ไม่แปลกที่ผู้อำนวยการถึงไว้วางใจคุณ”

“ยังดี ข้อบกพร่องเล็ก ๆ เหล่านี้ สามารถมองข้าม”

“ไม่น่าใช่ เนื่องจากข้อบกพร่องเหล่านี้ ผู้ป่วยจะเสียชีวิตในไม่กี่นาที”

ทุกคนพูดคุยกันแค่คำสองคำ เวินจิ้งหยิบแชมเปญข้างๆขึ้นมา ทันใดนั้นเงยหน้าขึ้น สายตาไม่สามารถมองได้อีกต่อไป

ผู้ชายคนนั้น ยังคงเป็นเสื้อผ้าสีขาวและกางเกงสีดำตามปกติ แต่กลับสะดุดตาของฝูงชน ทำให้คนนั้นยากที่จะลืม

พอดี สายตาเขาไม่หนักไม่เบามองมาที่เธอ ปลายนิ้วยกแก้วไวน์แดง และข้างๆเขาคือหลิงเหยาในชุดกระโปรงสีขาว กำลังพูดคุยกับหมอข้างๆหลายคน

เวินจิ้งหันหน้าอย่างรวดเร็ว แค่ไม่มีความคิดที่อยากจะอยู่ต่ออีกแล้ว

เป็นความคิดเดียวที่อยู่ในสมอง อยากออกจากที่นี่

แต่ว่า ทำไมเธอต้องหลบเขา?

อันที่จริงโลกทางการแพทย์จะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ได้ใหญ่ จะบอกว่าเล็กก็ไม่ได้เล็ก เจอหน้าไม่ใช่เรื่องยาก

แต่ตอนนี้เธอ…….ต่อต้านมู่วี่สิงจริงๆ

พิเศษคือรู้แล้ว เขาและหลิงเหยาใกล้ชิดกันจนมีลูกแล้วหนึ่งคน งั้นพวกเขา…..แต่งงานแล้วเหรอ?

เธอไม่อยากรับรู้ และก็ไม่อยากไปสืบหา

เงยหน้าขึ้น เธอรินเหล้าเข้าปากเต็มๆ

ของเหลวร้อนผ่าวตกลงไปในกระเพาะอาหาร ทันใดนั้น เวินจิ้งแสบจมูกหายใจติดขัด

เธออยากร้องไห้ แต่ยังคนกลั้นเอาไว้

“โรงพยาบาลทางนั้นยังมีเรื่อง ฉันขอตัวกลับก่อนนะ”เวินจิ้งวางแก้วเหล้า ความรู้สึกวิงเวียนค่อยๆเข้ามาอย่างหนัก

แต่เวลานั้น สายตาของมู่วี่สิงจ้องมองเวินจิ้งอย่างไร้ร่องรอย เห็นว่าเธอออกไปแล้ว เขาค่อยๆหรี่ตา พูดอย่างเย็นชา“สักพักให้คนขับรถส่งเธอกลับไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท