Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 689

ตอนที่ 689

บทที่ 689 ตบหน้าอย่างจัง

เจ้าของรถอีกคันก็รีบลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว เป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปี มองไปที่รถของตัวเองที่ถูกชนจนพังไปเป็นแถบด้วยความโมโห ชี้นิ้วไปที่เวยอานแล้วตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า “เธอขับรถเป็นหรือเปล่าหา รถคันนี้ฉันเพิ่งจะถอดออกมาเลยนะ เธอจะชดใช้ได้เหรอ”

เวยอานขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะพูดแก้ตัว “นี่คุณ ที่ฉันชนก็เพราะว่าคุณเบรกกะทันหันต่างหาก”

ถึงแม้ว่าฝีมือการขับรถของเธอจะไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ขนาดที่จะชนรถคนอื่นโดยไม่มีเหตุผลก็แล้วกัน

หลังจากที่ชายคนนั้นได้ยินเธอพูดก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม “เธอหมายความว่ายังไง เธอคิดจะปัดความรับผิดชอบใช่ไหม”

เวยอานขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “คุณจะให้ชดใช้เท่าไหร่”

ชายคนนั้นยกนิ้วมือทั้งห้าขึ้น บอกจำนวนตัวเลขอย่างรวดเร็ว

ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างทันที พูดด้วยเสียงเย็นว่า “คิดจะหลอกต้มกันหรือไง เงินมากขนาดนั้นคุณซื้อรถใหม่ได้สองคันเลยนะ”

ชายคนนั้นหัวเราะเสียงเย็นทันที “ถ้าอย่างนั้นเธอก็ซื้อรถให้ฉันสองคันสิ”

เขาชี้ไปที่รถที่อยู่ด้านหลังตัวเองอย่างยโส “รถฉันไม่ใช่ว่ามีเงินก็ซื้อได้หรอกนะ”

เห็นเวยอานเผยสีหน้าไม่น่ามอง ชายคนนั้นก็ยิ่งเพิ่มความกำเริบเสิบสาน “ถ้าเธอชดใช้ไม่ไหวก็พูดออกมาตรง ๆ แล้วพูดเราค่อยไปแจ้งตำรวจให้มาจัดการ”

“ไปสถานีตำรวจก็ไปสถานีตำรวจสิ” เวยอานกล่าวเสียงเย็น

เธอพูดพลางหยิบโทรศัพท์ แต่ตอนที่ยังไม่ทันจะได้กดเบอร์โทรศัพท์ จู่ ๆ ชายคนนั้นก็คล้ายกับถูกอะไรบางอย่างกระตุ้น เขาทุบโทรศัพท์ของเธออย่างแรง สีหน้าเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหดอยู่หลายส่วน “ทำไม เธอคิดจะโทรเรียกใครหา พวกเราตรงไปเจอกันที่สถานีตำรวจ!”

เวยอานนิ่งอึ้ง รู้สึกในทันทีว่าความตั้งใจของผู้ชายคนนี้ไม่ง่ายเลย

อีกทั้งแววตาของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย เธอเย็นวาบไปทั้งแผ่นหลัง เธอรีบเหยียบรองเท้าส้นสูงหมุนตัวเดินไปที่รถอีกคนทันที

รอบ ๆ มีเจ้าของรถคันอื่นจอดรถชนเรื่องสนุกนี้อยู่ไม่น้อย “ขอโทษนะคะ ขอฉันยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมคะ”

คิดว่าทุบโทรศัพท์เธอแล้วจะทำให้เธอโทรไปไหนไม่ได้แล้วหรือไง

“ได้แน่นอน”

พอเธอรับโทรศัพท์มา ผู้ชายคนนั้นก็รีบเดินมาทันที แล้วกระชากโทรศัพท์ของเธอไปอีกครั้ง เธอพูดเสียงเย็นเยียบ “ทำอะไรของคุณน่ะ ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะ ถึงฉันชนคุณแต่คุณก็กล้าแย่งโทรศัพท์ฉัน เชื่อไหมว่าฉันจะแจ้งความคุณทำร้ายร่างกายได้”

ครั้งนี้เวยอานดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก ชายวัยกลางคนไม่กล้าขยับไปชั่วขณะ เวยอานจึงรีบโทรไปหาหมายเลขโทรศัพท์ที่คุ้นเคยอย่างรวดเร็ว สัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นอยู่สองครั้ง น้ำเสียงเกียจคร้านก็ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้น”

จู่ ๆ เวยอานเริ่มรู้สึกกระวนกระวายและวิตกกังวล…

เมื่อกี้ตอนที่ชนกับรถปอร์เช่เธอยังไม่กังวลขนาดนี้เลย…

เธอกัดริมฝีปากแล้วถามขึ้นอย่างระมัดระวัง “นายยุ่งอยู่หรือเปล่า”

วันนี้ตอนรับโทรศัพท์และออกไปข้างนอกเขาดูกังวลมาก น่าจะมีเรื่องสำคัญมาก

น้ำเสียงของหลินยี่เต็มไปด้วยการยั่วเย้า “เธอโทรมาหาฉันเพื่อจะถามว่าฉันยุ่งอยู่ไหมงั้นเหรอ”

“ไม่ใช่…”เธอลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็รีบรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมาอย่างหงุดหงิด “เมื่อกี้ฉันเพิ่งขับรถชน…อีกฝ่ายอาจจะเป็นคนของบ้านฉัน เขาจะพาฉันไปสถานีตำรวจ…ฉันอยากให้คุณอยู่ด้วย”

ถ้าเขาอยู่ด้วย เธอก็จะรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาก

น้ำเสียงของชายหนุ่มยังคงเป็นไปอย่างสบาย “เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันไร้เงินไร้อำนาจ ช่วยอะไรไม่ได้ทั้งนั้น”

ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นซีดขาว น้ำเสียงของเขานอกจากเยาะเย้ยถากถางแล้ว ก็ไม่มีความห่วงใยเธอแฝงอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ว่าเธอจะเตรียมใจเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ท่าทีเย็นชายแบบนี้ก็ยังคงทำให้เธอน้อยใจมากอยู่ดี

“โอเค” เธอพูดเสียงเบา “ถ้าอย่างนั้นนายก็จัดการเรื่องของนายเถอะ ฉันจัดการตัวเองได้”

พูดจบก็วางสายทันที

เพียงวินาทีถัดมาหลังจากวางโทรศัพท์ ก็มีเสียงกระแทกชนอย่างกะทันหันดังขึ้นมา จู่ ๆ รถปอร์เช่ที่ถูกชนท้ายแล้วยังคงจอดอยู่ก็ถูกชนจนยังไปทั้งคัน…

เสียงถอนหายใจดังขึ้นมาอีกครั้ง…

ผู้ชายคนนั้นตกใจจนแทบจะกระโดด ใบหน้าที่ค่อนข้างอ้วนนั่นสั่นระริก เขาเกือบจะเดินไปที่รถคันนั้น ทว่าไม่ทันได้ยื่นมือออกไป กระจกหน้าต่างรถก็ถูกเปิดออกอย่างไม่รีบไม่ร้อน

พอเห็นเจ้าของใบหน้าที่หล่อเหลาจนทำให้ผู้คนต้องยอมสยบ เวยอานก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก

เขามาได้ยังไงกัน หรือว่าตอนที่คุยโทรศัพท์กับเธอเมื่อกี้เขาก็อยู่ที่นี่อยู่แล้ว

ชายวัยกลางคนไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้พูด ชายในรถก็ยื่นมือเรียวสวยออกมา แล้วถือเช็คที่อยู่ในมือโยนไปที่หน้าของเขา

เป็นการตบหน้าอย่างจัง

หน้าต่างรถถูกปิดอย่างรวดเร็ว กว่าเวยอานจะตอบสนองได้ก็มองไม่เห็นหน้าของหลินยี่แล้ว เธอรีบคืนโทรศัพท์ให้ผู้ชายที่เธอยืมเขามา แล้วเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถ

ทันทีที่ขึ้นรถชายหนุ่มก็ไม่แม้แต่จะให้โอกาสเธอพูด เขาสตาร์ทรถแล้วรีบขับออกไปทันที

บนถนนรถติดมาก หลินยี่เองก็ไม่ได้รีบ แววตาคมกริบ ตอนที่คนเขายังไม่ทันได้ตอบสนอง เขาก็แซงไปอย่างรวดเร็ว

เวยอานมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา แต่เพราะว่าบรรยากาศค่อนข้างที่จะอึดอัด เธอเลยพูดขึ้นมาว่า “รถของฉันยังอยู่ตรงนั้น”

เขาพูดขึ้นมาอย่างเฉยเมย “ก็หาคนขับรถไปขับกลับมา”

เวยอานส่งเสียงรับคำ หลังจากนั้นก็ก้มหน้าโทรศัพท์ เรื่องนี้จึงได้รับการแก้ไขไปอย่างง่ายดาย

เพียงแต่เวยอานข่มกลั้นเอาไว้นานแล้ว เลยถามขึ้นมาอย่างระมัดระวังว่า “รถคันนั้นแพงมากไหม”

ตอนนี้เธอตัดขาดกับคนในตระกูลแล้ว เงินเก็บก็มีไม่เยอะ แถมยังต้องเลี้ยงดูหลินยี่อีก…

หลินยี่เพียงส่งเสียงเหอะเบา ๆ “เธอคิดว่าไงล่ะ”

เวยอานยิ่งรู้สึกไม่สบายใจเข้าไปใหญ่ พันนิ้วแล้วถามอย่างกังวลว่า “นายไม่ได้เป็นหนี้ใช่ไหม”

เมื่อกี้เธอเห็นแล้วว่าตัวเลขบนเช็คใบนั้นเยอะมาก

หลังจากที่เธอได้พบกับหลินยี่ ก็พอจะรู้ว่าเขาไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น

“เธอคิดว่าไงล่ะ” หลินยี่เหลือบตามองเธอ

เวยอานไม่ค่อยรู้สึกอยากจะเชื่อว่าหลินยี่ยืมเงินคนอื่นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งยังยืมมาเพื่อเธออีก

“นายเอาเงินพวกนั้นมาได้ยังไง”

ชายหนุ่มพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เมื่อก่อนแม่ให้บัตรฉันไว้ใบหนึ่ง ในนั้นมีเงินอยู่ไม่น้อย”

“แม่ของนายเหรอ ฉันไม่เคยได้ยินนายถึงพูดถึงครอบครัวตัวเองมาก่อน” เวยอานพูดอย่างอึดอัดใจ

สมัยยังเป็นวัยรุ่น ตอนที่กำลังสับสนก็ได้พบคนที่รักเป็นอย่างมาก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร

“แม่ของเวินจิ้ง”

“คุณหมอเวินน่ะเหรอ” เวยอานเบิกตากว้าง นึกได้ว่าเมื่อก่อนเธอค่อนข้างที่จะสนิทกับเวินจิ้ง แถมยังเคยไปกินข้าวที่บ้านเจ้าหล่อนตั้งหลายครั้ง แม่ของเวินจิ้งแว่หลิน

มิน่าล่ะ

ทำไมเธอถึงไม่เคยนึกถึงกันนะ…

หากเป็นสกุลหลิน ถ้าอย่างนั้นหลินยี่ก็เป็นคุณชายตกอับสินะ

ก่อนหน้านี้เขาโกหกเธอมาตลอด

“ฉันรู้สึกว่าเงินนี้ เป็นเงินที่ฉันแลกมาสินะ” ทว่าเวยอานพูดอย่างรู้สึกผิดในใจ

เดิมทีเธอเป็นคนที่ขับรถชนตั้งแต่แรก ถึงแม้ว่าทีหลังหลินยี่จะชนซ้ำอย่างแรงอีกครั้งก็ตาม

“ทำไม เธอคิดจะเอาใจแม่ฉันหรือไง” เขาถามอย่างหยอกล้อ

เวยอาน “…”

ถ้ามีโอกาสเธอก็ยินดี

แต่หลินยี่ไม่มีทางให้เธอเข้าไปในโลกของเขาอย่างแน่นอน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท