Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1058

ตอนที่ 1058

บทที่ 1058 เธอในอดีต

ลู่เซิ่นรู้สึกว่าคำที่ตัวเองพูดออกไปนั้นเป็นแค่ประโยคธรรมดาๆเท่านั้น แต่ทำไมผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าถึงต้องหลบสายตาด้วย

เธอเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า สายตาลดต่ำลง “คุณ…อยากจะชมผลงานอื่นๆในนิทรรศการอีกไหม ฉันช่วยแนะนำให้ได้นะคะ”

ลู่เซิ่นเห็นความลำบากใจบนใบหน้าของเธอ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจู่ๆความคิดอยากแกล้งก็ผุดขึ้นมา เขาจึงตอบรับเธอไป “งั้นรบกวนด้วยนะครับ”

……

แม้ว่าฉินซีจะไม่มีความประทับใจกับเรื่องนี้ แต่เมื่อฟังคำอธิบายของลู่เซิ่น ทำให้เธอรู้สึกได้จริงๆว่าเขาเคยเจอเธอในอดีต

เพราะอิงจากความทรงจำของเธอแล้ว ตอนที่ลู่เซิ่นได้เจอกับตัวเองนั้น เธอได้ผ่านประสบการณ์ทรยศต่างๆจากฉินซึ่งเทียนแล้ว จนกลายเป็นคนที่ทั้งหดหู่และปิดกั้น

ทั้งที่เธอในอดีตไม่ใช่คนแบบนี้เลย

ฉินซีคือลูกสาวของตระกูลฉิน เธอมีครบทุกอย่างโดยเติบโตมาอย่างไม่มีอะไรให้ต้องเป็นกังวลบนอุ้งมือใหญ่ที่คอยโอบอุ้ม ดังนั้นเธอจึงไร้เดียงสา บุคลิกร่าเริง มีชีวิตชีวาและมักเป็นฝ่ายเริ่มชวนคุยอยู่เสมอ เมื่อมีคนชื่นชอบในผลงานของตัวเอง เธอจึงตื่นเต้นดีใจเหมือนนกที่ร้องเจื้อยแจ้ว ดูมีชีวิตชีวาและสดใส

เหมือนกับที่เธอพบจ้าวจิ้งในตอนนี้

คนที่ลู่เซิ่นพูดถึง คือคนเดียวกับที่เธอเคยเป็น

แล้วทำไมเธอถึงต้องหน้าแดงตอนที่ลู่เซิ่นเอ่ยปาก อีกทั้งยังเป็นฝ่ายอาสาพาเขาเดินชมนิทรรศการด้วยกันอีก…

ฉินซีไม่มีวันยอมรับกับลู่เซิ่นแน่นอนว่าเธอมีคุณสมบัติการควบคุมด้วยเสียงซ่อนอยู่

เมื่อใดที่ลู่เซิ่นใช้น้ำเสียงทุ้มต่ำในการพูดคุย เมื่อนั้นฉินซีก็แทบจะไม่สามารถต้านทานได้เลย

ในเรื่องนี้ เป็นมาแต่ไหนแต่ไรไม่เคยเปลี่ยน

แต่ถึงเธอจะไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่แน่ว่าลู่เซิ่นจะดูไม่ออก

ตัวอย่างเช่นในขณะนี้ สายตาที่ลู่เซิ่นมองมามีนัยของการสอบสวนแฝงอยู่

ฉินซีจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “อย่างนั้นแล้วเราสองคนไปชมนิทรรศการด้วยกันไหม”

ลู่เซิ่นมองเห็นจุดประสงค์ของเธอในการเปลี่ยนหัวข้อ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาเพียงแค่พยักหน้าและพูดขึ้น “ก็ดี”

……

เพราะมีเพื่อนที่คอยเจื้อยแจ้วอย่างฉินซี ลู่เซิ่นจึงไม่รู้สึกเบื่อเลย

“ทำไมคุณถึงถ่อมาถึงห้องจัดแสดงที่ไกลแบบนี้ได้ล่ะ” ฉินซีเอ่ยถามขึ้นในขณะที่พาลู่เซิ่นเดินชมด้านนอก

ลู่เซิ่นส่ายหัว “ผมก็แค่ดูไปเรื่อยๆ”

“ห่ะ?” ฉินซีสงสัย “คุณไม่ได้ตั้งใจมานิทรรศการโดยเฉพาะเหรอ”

ลู่เซิ่นนิ่งชั่วครู่แล้วจึงส่ายหัว “ไม่ใช่ ผมแค่แวะผ่านมาก็เท่านั้น”

ฉินซีลากเสียง“อ๋อ”ยาว จากนั้นก็ถามขึ้นอีกครั้ง “เพราะงั้นคุณก็ไม่ใช่ช่างภาพสินะ”

ครั้งนี้ลู่เซิ่นส่ายหัวอย่างตรงไปตรงมา “ไม่ใช่ ผมแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย”

สีหน้าฉินซีเผยให้เห็นความผิดหวัง แต่ในไม่ช้าก็กลับมาร่าเริงอีกครั้ง “ไม่เป็นไร แม้ว่าจะเป็นคนธรรมดาที่ชอบผลงานของฉัน แต่มันก็หมายความว่าฉันถ่ายออกมาได้ดีใช่ไหมล่ะ!”

เมื่อลู่เซิ่นได้ยินอย่างนั้นก็อยากจะหัวเราะออกมา แต่เขาก็ทำเพียงแค่พยักหน้าคล้อยตามเท่านั้น

ฉินซีกลอกตา “เนื่องจากคุณเป็นคนนอกวงการ…งั้นฉันจะเป็นคนพาคุณไปห้องนิทรรศการที่มีชื่อเสียงที่สุดเอง ข้างในนั้นมีแต่ผลงานของช่างภาพที่ฉันชอบทั้งนั้นเลย ทุกรูปมีราคาสูงทั้งนั้น”

ลู่เซิ่นมักจะซื้อภาพวาดสีน้ำมันหรืองานศิลปะอื่นๆ ในราคาสิบล้านเขาก็เคยยกมือขึ้นประมูลมาแล้ว แต่เมื่อได้ฟังน้ำเสียงของฉินซีแล้ว ดูเหมือนว่าผลงานของคนกลุ่มนี้ก็มีค่ามากเช่นเดียวกับวัตถุโบราณเหล่านั้น

เขามองฉินซีจากทางด้านหลัง ยิ่งทำให้รู้สึกสนใจเธอมากยิ่งขึ้น

ฉินซีนำเขาไปยังโถงจัดนิทรรศการ เธอคุ้นเคยกับที่นี่ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินไปเดินมาในห้องนั่งเล่นอย่างไรอย่างนั้น เมื่อเห็นภาพที่เธอรู้สึกว่าสวยก็จะหยุดนิ่งและลากลู่เซิ่นให้ไปชื่นชมด้วยกัน

ฉินซีมีนิสัยที่ค่อนข้างกระตือรือร้น แต่เมื่ออยู่ในสายงานเธอจะทุ่มเทเป็นอย่างมาก เป็นผู้หลงใหลในการถ่ายภาพ

เมื่อเจอผลงานจากช่างภาพที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษ เธอจะอาลัยอาวรณ์อยู่นาน วิเคราะห์เป็นต่อยหอยถึงแสงและเงาที่ใช้ให้คนนอกวงการอย่างลู่เซิ่นฟัง เมื่อพูดจบเธอก็เกิดรู้สึกเกรงใจขึ้นมาจึงเงยขึ้นเหลือบมองเขา “ฉันพูดมากไปแล้วใช่ไหม คุณ…รู้สึกรำคาญรึเปล่า”

ลู่เซิ่นยิ้มพลางโบกมือ “ไม่เลย”

ณ ตอนนั้นเขารู้สึกจริงๆว่าการที่ตัวเองมานิทรรศการนั้น เป็นเรื่องที่คิดถูกแล้วจริงๆ

มีเพื่อนที่คอยเจื้อยแจ้วอย่างฉินซี ทำให้ช่วงเวลาตลอดบ่ายนี้ไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย

เมื่อฉินซีได้ยินเช่นนั้น คิ้วของเธอก็ผ่อนคลายลง “โอเค งั้นเราไปดูผลงานอื่นกันต่อเถอะ!”

พูดจบก็ไม่พูดพร่ำทําเพลง ลากลู่เซิ่นให้เดินตามมาด้านหลัง

……

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อฟังลู่เซิ่นพูดถึงเธอในอดีต จู่ๆฉินซีก็รู้สึกอายขึ้นมา

ตอนนั้นเธอไม่กลัวคนแปลกหน้าเลย เพิ่งเจอกันแท้ๆอีกทั้งยังใกล้ชิดอีก…

เรื่องน่าอายแบบนี้ ยังคงอยู่กับเธอจนมาถึงปัจจุบัน

เมื่อนึกถึงตัวเองเจื้อยแจ้วอย่างมีชีวิตชีวาอย่างนั้น ฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาปิดหน้า

ลู่เซิ่นรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังเขิน จึงยกมือขึ้นเพื่อดึงมือเธอลง “ทำไม ฟังต่อไม่ไหวแล้วเหรอ”

“ไม่ใช่!” ฉินซีส่ายหน้า “แค่รู้สึกว่า…เมื่อก่อนฉันดูโง่มาก”

“โง่ยังไง!” ลู่เซิ่นเคาะหัวเธอเบาๆ “สดใสต่างหาก”

ทันใดนั้นฉินซีก็เงยหน้าขึ้นสบตากับลู่เซิ่น “แต่ว่านายตกหลุมรักฉันตั้งแต่แรกเห็นเลยเหรอ”

แต่เธอยังมีอีกครึ่งประโยคที่ไม่ได้พูดออกไป

แต่ว่าถ้าคนที่นายชอบคือฉันในอดีต แล้วจะอยู่กับฉันในปัจจุบันได้ยังไง

ในท้ายที่สุด แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ฉินซีกลับรู้สึกว่าเหมือนเป็นคนละคนกัน

ลู่เซิ่นหัวเราะ “ตอนนั้น ฉันไม่ได้ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็นหรอกนะ”

เขาแค่รู้สึกว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่มีชีวิตชีวาคนนี้น่าสนใจมาก แต่ก็ไม่ได้คิดเป็นอื่น

เพราะคุณหนูน่ารักไร้เดียงสาแบบนี้ ลู่เซิ่นเคยเจอมาเยอะแล้ว และฉินซีเองก็ไม่มีอะไรพิเศษ

แม้ว่าใบหน้าของฉินซีจะสวยมาก แต่ก็ไม่ได้กระตุ้นความสนใจของเขาเลย

ฉินซีรู้สึกสับสน “แล้วระหว่างเราเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้นายจำไม่ลืม”

ลู่เซิ่นเอื้อมมือออกและกดลงริมฝีปากของเธอ “เธอก็ค่อยๆฟังสิ ฉันบอกแล้วไงว่าเรื่องมันยาว”

ฉินซีอดกลั้นอย่างไม่เต็มใจเพื่อฟังคำอธิบายของลู่เซิ่นต่อไป

……

จากวิธีการเดินเล่นแบบนี้ของแล้ว ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงสำหรับโถงนิทรรศการเพียงแห่งเดียว

เป็นเวลาเกือบสามทุ่ม ผู้คนในโถงนิทรรศการก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้น

โถงจัดแสดงหลักที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ เนื่องจากเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ผู้คนจึงค่อยๆหนาแน่น

ลู่เซิ่นไม่สามารถปรับตัวกับสภาพที่แออัดเช่นนี้ได้ คิ้วของเขาจึงค่อยๆขมวดเป็นปม

และฉินซีก็สามารถรู้ได้ทันที

“อึดอัดใช่ไหม” เธอเป็นฝ่ายเอ่ยถาม “อย่างนั้นพวกเราไปโถงอื่นกันเถอะ หรือไม่คุณช่วยพาฉันไปที่หน้าผลงานฉันหน่อยได้ไหม ฉันอยากรู้ว่ามีคนอื่นมาชื่นชมผลงานฉันบ้างรึเปล่า”

คำพูดของเธอช่างตรงไปตรงมา ทำให้ลู่เซิ่นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะพร้อมกับพยักหน้าตอบรับ

ฉินซีกระพริบตาปริบๆ ท่าทางสดใส จู่ๆก็เอื้อมมือมาคว้าแขนเสื้อของลู่เซิ่นไว้ “ตอนนี้คนแน่นมาก คุณอย่าทิ้งฉันนะ!”

ลู่เซิ่นก้มมองไปที่นิ้วมือขาวของเธอที่อยู่บนแขนเสื้อของเขา มีความรู้สึกผันผวนเกิดขึ้นในใจ

เขาไม่เคยชอบให้คนอื่นแตะต้องตัวเอง แต่การใกล้ชิดของฉินซีกลับไม่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท