Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1082

ตอนที่ 1082

บทที่ 1082 ต่างเป็นจุดประสงค์ร้าย

“ฉันจริง ๆ แล้ว…ไม่ได้ตื่นเต้นอย่างที่คิด” ฉินซีคิดอยู่พักหนึ่ง และค่อยๆพูด “เมื่อเห็นฉินซึ่งเทียนถูกจับ สิ่งที่ฉันคิดไม่ใช่ ‘เขาควรจะเป็นแบบนี้’ แต่เป็น ‘เขาควรจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก’ “

อานหยันไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของเธอได้ทั้งหมด แต่ก็ยังแสดงความเห็นด้วย “อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก”

หลังจากมีข่าวใหญ่ ทั้งสำนักข่าวก็ยุ่งมาก ตั้งแต่ระดับบนจนถึงล่าง อานหยันหาเวลาว่างโทรหาฉินซี เพียงแค่คุยกันได้ไม่กี่ประโยค ก็ได้ยินคนเรียกเธอแว่วๆดังมาจากข้างหลัง ดังนั้นเธอจึงวางสายไป

….

ฉินซึ่งเทียนหนีเร็วเกินไป ข่าวออกมาตอนแปดโมง ซึ่งเป็นเวลาที่ครอบครัวจะมารวมตัวกัน และพูดคุย ดังนั้นข่าวด่วนของเขาจึงถูกพูดถึงตลอดทั้งคืน ว่าทำไมเขาถึงต้องหนี เหตุผลนั้นมีข้อมูลเชิงลึกมากมายนับไม่ถ้วน จนถึงขนาดมีคนพูดว่าเขาทำลูกสาวของศัตรูท้องป่อง จึงต้องรีบหนีไป

แต่ทั้งคืนผ่านไปก็ยังไม่มีข่าวแน่ชัด

ทุกคนหลับไปด้วยความเสียดายที่ไม่ได้รู้อะไรเพิ่ม เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาพบว่ากลางดึกสื่อที่ปล่อยข่าวว่าฉินซึ่งเทียนถูกจับได้ปล่อยสัมภาษณ์ออกมา

‘ฉันถูกฉินซึ่งเทียนล้อมกรอบอย่างไร’

คำสามคำ ‘ฉินซึ่งเทียน’ มาพร้อมกับเอฟเฟกต์แสงที่โดดเด่นเป็นประกาย ถึงทุกคนจะยังง่วงนอนอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะเปิดบทสัมภาษณ์เข้าไปดู

หลังจากอ่านบทสัมภาษณ์นี้ ทุกคนก็สดชื่นขึ้นมา

ข่าวนี้วิเศษจริงๆ

คนที่แทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ ในสัมภาษณ์ก็คือเห้อเสียง เป็นพนักงานโรงแรมที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ในสัมภาษณ์เขาเล่าเรื่องราวโดยละเอียด

ในเรื่องเล่าว่า ฉินซึ่งเทียนต้องการจะหย่ากับภรรยาของเขา เขาจึงให้คนมาวางยานอนกลับ และถ่ายภาพอนาจารขณะที่เธอหลับ โดยใช้สิ่งนี้เป็นตัวการเพื่อบีบบังคับให้ภรรยาของเขาหย่ากับเขา

อย่างไรก็ตาม หลังจากทำสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ ฉินซึ่งเทียนก็กลัวความผิดมาก เขาจึงทำเรื่องเลวร้ายต่อ โดนการใช้การฟอกเงิน มาทำให้เห้อเสียงติดคุก

หากเป็นเพียงแค่การสัมภาษณ์ ผู้คนคงอดสงสัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า เห้อเสียงอาจใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงที่ไม่ดีของฉินซึ่งเทียน และจงใจออกมาเพื่อทำลายชื่อเสียง

แต่เสียงบันทึก และภาพถ่ายเอกสาร ที่เผยแพร่โดยนิตยสารในภายหลัง ทำให้ผู้คนต้องเชื่อว่าฉินซึ่งเทียนทำสิ่งเหล่านี้จริงๆ

“ดังนั้นเมื่อวานนี้ที่เขาถูกตำรวจจับที่สนามบิน ไม่ใช่เพราะการยักยอกเงิน แต่เป็นเพราะการฟอกเงินใช่ไหม” ในตอนท้ายของบทความนักข่าวถาม

“ไม่ใช่แน่นอน” เห้อเสียงตอบ “ผมได้พบกับคนดีสองคน เขาได้ล้างมลทินให้ผมในการตัดสินข้อกล่าวหา และยังช่วยหาข้อพิสูจน์ว่าฉินซึ่งเทียนทำการฟอกเงิน ตำรวจต้องมาเชิญเขาไปให้ปากคำอยู่แล้ว”

รายงานข่าวดูเหมือนจะเน้นพูดถึงวิธีที่เห้อเสียง ถูกฉินซึ่งเทียนล้อมกรอบ เพื่อฟอกเงินตั้งแต่ต้นจนจบ จุดประสงค์ของการกระจายข่าว ก็ดูเหมือนจะเพื่อให้ทุกคนรู้ว่า ฉินซึ่งเทียนถูกจับเมื่อวานนี้ โดยไม่มีเหตุผลแปลกๆ แต่เป็นเพราะเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน

แต่ความสนใจของทุกคนไม่ได้อยู่ที่สองสิ่งนี้

ทุกคนต่างถูกดึงดูดด้วยเรื่องที่เห้อเสียงเล่าว่า ‘ฉินซึ่งเทียนวางแผนล้อมกรอบภรรยาของเขา’

บนอินเทอร์เน็ตมีการจดจำ และในไม่ช้าก็มีคนมาพูดอย่างล้นหลาม เกี่ยวกับเหยาหมิ่น ภรรยาของฉินซึ่งเทียนเมื่อปีก่อน

แน่นอนว่าในข่าวมีรูปถ่ายที่ไม่เหมาะสมมากมาย เปรียบได้กับรายงานนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะที่แฝงไปด้วยคมดาบมากมาย นิตยสารที่ตั้งใจจะดึงดูดความสนใจ ที่แท้ก็เต็มไปด้วยการมุ่งร้าย

แม้แต่ชาวเน็ตหลายคนเองก็มีส่วนร่วมในความรุนแรงทางไซเบอร์ต่อเหยาหมิ่น

ในเวลานั้น ความคิดเห็นของสาธารณชนมีเพียงด้านเดียว ไม่มีใครถามว่าภาพนี้มาจากไหน และไม่มีใครถามว่า การรายงานข่าวนี้ที่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่ไม่ใช่สาธารณะนั้นถูกกฎหมายหรือไม่ มีการโจมตีจากความคิดเห็นสาธารณะมากมาย จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ต และอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เหยาหมิ่นก็ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตึก ชาวเน็ตหลายคนแสดงความคิดเห็นว่า ‘สาแก่ใจนัก’ ‘สมควรตาย’

ราวกับว่าเธอเป็นคนชั่วร้ายจริงๆ

แต่หนึ่งปีต่อมา เรื่องนี้กลับตาลปัตรอย่างรุนแรง

หากภาพนี้ถ่าย และถูกจัดเตรียมโดยฉินซึ่งเทียนจริง ถ้าเหยาหมิ่นไม่ได้ทำอะไรเลย และบุคคลที่สามนั้นไม่มีอยู่จริง หากฉินซึ่งเทียนเพียงแค่วางแผนใช้ความรุนแรงจากอินเทอร์เน็ตมาบีบบังคับให้เธอหย่าร้าง นั่น…มันน่ากลัวเกินไป

อีกด้านหนึ่ง ทุกคนตำหนิว่าพวกเขาถูกใช้เป็นเครื่องมือของฉินซึ่งเทียน อีกด้านพวกเขาก็รู้สึกขอโทษเหยาหมิ่นอย่างจริงใจ แน่นอนว่ายังมีบางคนที่ยังหลงผิดอยู่ พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่าพวกเขามองพลาดไป แถมยังแสดงความคิดเห็นว่า ‘เพียงแค่หย่าเองไม่ใช่หรือ ทำไมฉินซึ่งเทียนถึงต้องลงทุนขนาดนี้ เห้อเสียงแค้นฉินซึ่งเทียนอยู่หรือเปล่า ถึงได้ออกมาทำลายชื่อเสียงเขา’

หลายคนเห็นด้วยกับคำพูดของเขา อย่างไรก็ตามฉินซึ่งเทียนก็เป็นประธานบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป แม้ว่าตระกูลฉินและตระกูลเหยาจะดองกัน แต่ตระกูลเหยาก็ตกต่ำมาหลายปีแล้ว ถ้าเขาต้องหย่ากับเหยาหมิ่น เขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีเสี่ยงขนาดนี้

มีข่าวดังออกมาตั้งแต่เช้า เกือบทุกคนกำลังกระซิบกระซาบเพื่อพูดคุยกันว่าเหยาหมิ่นนอกลู่นอกทางหรือไม่ และฉินซึ่งเทียนเป็นคนเลวหรือไม่ เมื่อข่าวใกล้จะเป็นข่าวเด่น จู่ๆก็มีข่าวอื่นออกมา

ฉินซีจะจัดงานแถลงข่าวในช่วงบ่าย

การแถลงข่าวอย่างกะทันหันนี้ เหมือนกับการฉีดน้ำลงในกระทะน้ำมันที่กำลังเดือด ชั่วขณะหนึ่งความสนใจของเกือบทุกคนก็ถูกดึงดูดโดยความเมตตาและความคับแค้นใจของตระกูลฉิน และในเวลาไม่นานก็มีคนกระจายข่าวเมื่อหลายวันก่อนที่เห็นฉินซีไปที่ศาลออกมา คนที่สนใจก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเป็นพิเศษ ก่อนจะพบว่าคนที่ฉินซีไปฟังคำพิพากษาก็คือ เห้อเสียง

และชื่อของเหยาหมิ่น ก็รวมอยู่ในบันทึกเสียงการตัดสิน ที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตในวันนั้นด้วย

“ถ้าเห้อเสียงใช้หลักฐานเดียวกัน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาในศาล นั่นหมายความว่าฉินซึ่งเทียนทำสิ่งที่เลวร้าย”

“ที่เห้อเสียงบอกว่าเจอคนดี คือฉินซีใช่หรือไม่”

“มันจริงหรือหลอก ฉินซึ่งเทียนไม่ใช่พ่อของเธอหรอ ทำไมเธอถึงต้องทำลายพ่อของตัวเอง”

“เอาเถอะถ้าสิ่งที่ฉินซึ่งเทียนทำเป็นเรื่องจริง เขาก็เป็นขยะ และถ้าพ่อของฉันเป็นแบบนี้ ฉันก็ทนไม่ได้เช่นกัน”

“ฉันจะรอดูว่าฉินซีจะพูดอะไรในบ่ายวันนี้”

“ฉันด้วย”

ภาคการเงินมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วที่สุด หลังจากข่าวการจับกุมของฉินซึ่งเทียนเมื่อคืนนี้ สถาบันหลายแห่งออกข่าวว่าพวกเขาจะขายหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ทันทีที่ตลาดเปิดในตอนเช้าราคาหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็ลดลงจนถึงขีดสุด ต้องประกาศระงับการซื้อขายโดยเร็วที่สุด เพื่อหยุดการดิ่งลงของราคาหุ้นอย่างต่อเนื่อง

ในความสับสนวุ่นวาย ในที่สุดงานแถลงข่าวของฉินซีก็มาถึง

ฉินซีไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นในตอนเช้า เธอพูดคุยกับบุคคลที่ประชาสัมพันธ์ส่งมาสักพัก จากนั้นเธอก็แต่งตัวเพื่อเตรียมการแถลงข่าว

เป็นการแถลงที่ดีที่สุด ทุกรายละเอียดไม่มีใครมองข้าม และเธอก็รู้ด้วยว่าการแต่งหน้า และเสื้อผ้าแบบไหนที่จะได้ผลดีที่สุด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท