Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1120

ตอนที่ 1120

ทที่ 1120 เหลือไว้แต่ความประทับใจที่ดี

เป็นวันที่สองที่เธอย้ายเข้าไปในชิงหยวน

เธอเพิ่งถูกลู่เซิ่นทิ้งเอาไว้คนเดียวเมื่อคืน เมื่อลืมตาขึ้นมาตอนสิบโมงกว่า ลู่เซิ่นก็ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว

เธอยันหายขึ้นมานั่งอย่างเกียจคร้าน ลูบท้องที่หิวของตัวเอง แล้วตัดสินใจลงไปหาอะไรกินข้างล่าง

จากประสบการณ์ของเธอในตระกูลฉิน เวลานี้คงไม่มีใครเหลืออาหารเช้าไว้ให้ เธอไม่ใช่เจ้าของบ้าน ก็คงไม่มีใครเข้ามาประจบประแจงเธอหรอก

แต่ถ้าคุณครัวไปดู อาจจะหาอาหารพอรองท้องได้

เธอล้างหน้าล้างตา เปิดประตูห้องนอนออกไป แต่ก็ต้องชะงักกึก

——สาวใช้กำลังรอเธออยู่ที่หน้าประตู

เมื่อเธอได้ยินเสียงคนเคลื่อนไหว จึงเงยหน้าขึ้นมาทักทายฉินซีด้วยรอยยิ้ม “คุณฉินตื่นแล้วเหรอคะ? พ่อบ้านสั่งว่าถ้าคุณออกมาแล้วให้พาคุณลงไปทานอาหารเช้าข้างล่างค่ะ”

ฉินซีตาพร่าไปกับความสดใสของสาวใช้ที่ถูกส่งมา ไม่ได้คิดอะไรมาก ก่อนตามลงไป

พ่อบ้านคือคนเมื่อวานที่เธอเคยเห็น บนใบหน้าของเธอยังคงมีรอยยิ้มบนหน้า “ตื่นแล้วหรือครับ? วันนี้ให้คนครัวเตรียมอาหารเช้าแบบตะวันตกกับอาหารเช้าแบบจีนเอาไว้ คุณคุ้นเคยกับแบบไหนครับ?”

ฉินซีครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนที่จะตอบ “ตะวันตกแล้วกันค่ะ”

พ่อบ้านพยักหน้า “ผมจะให้คนยกออกมา”

เมื่อฉินซีเดินไปที่โต๊ะ เธอพบว่าตำแหน่งของเธอจัดอยู่ตรงข้ามกับที่นั่งของเจ้าของบ้าน

โต๊ะยาวตัวนี้ ยึดหลักตามการจัดโต๊ะแบบตะวันตก และที่นั่งตำแหน่งนี้ ก็คือเป็นภรรยาของเจ้าของบ้าน

ฉินซีมองไปที่พ่อบ้านด้วยความงงงวย เขาแค่ยิ้ม ไม่ได้คิดว่าการจัดโต๊ะของเขาจะเป็นปัญหาอะไร

ฉินซีนั่งรอให้คนรับใช้ออกมาจัดโต๊ะอีกรอบ

เมื่อเธอกัดขนมปังปิ้ง คิ้วของเธอก็เลิกขึ้นด้วยความประหลาดใจ

—— อร่อยมาก!

นี่เป็นความประทับใจสองอย่างเมื่อตอนเธอนั่งกินข้าวคนเดียวที่นี่

……

“คุณผู้หญิงครับ?” เสียงพ่อบ้านเรียกสติฉินซีให้หลุดออกจากภวังค์ “คนครัวเตรียมของช่วยย่อยหลังมื้ออาหารมาแล้วครับ”

ฉินซีหันไปมอง พบว่าในมือพ่อบ้านถือแก้วใบเล็กที่มีของเหลวใสสีแดงเข้มขนาดเล็กบรรจุอยู่ในนั้น

“นี่คืออะไร” ฉินซีถาม

“ป้ากัวทำเองครับ น่าจะเป็นซุปหวานที่ทำจากดอกบ๊วย”​​ พ่อบ้านตอบ

ฉินซีแค่ได้ยินคำว่า ดอกบ๊วย ก็รู้แล้วว่าป้ากัวจะสื่อถึงอะไร

เธอโบกมือไปมา “ไม่ใช่เรื่องจริงเสียหน่อย เฮ้อ ช่างเถอะ เอาไปเก็บเถอะค่ะ”

ฉินซีรู้ว่าถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่าง ป้ากัวก็จะกลับมาอีก

ถึงอย่างไรนี่ก็จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอ เหลือความทรงจำดีๆไว้จะดีกว่า

เธอจึงหยิบขึ้นมาจิบ

ฝีมือป้ากัวยังดีเหมือนเดิม ซุปนี่รสชาติอร่อย เปรี้ยวหวานลงตัว

น่าเสียดายที่เธอไม่ได้ท้องจริงๆ

ไม่ เธอไม่ควรพูดแบบนี้ โชคดีที่เธอไม่ท้อง โชคดีที่หนึ่งปีมานี้ เธอป้องกันทุกครั้งเวลาที่มีอะไรกับเขา

ที่ผ่านมามันเป็นเพราะเธอไม่อยากเกี่ยวข้องกับลู่เซิ่นจริงๆ แต่หลังจากนั้นเป็นเพราะ เธอแค่รอโอกาสที่จะเป็นของเธอ

แต่มันไม่มี

เมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังคิดไปในทางลบ ฉินซีจึงส่ายหัว สั่งตัวเองให้หยุดคิดอะไรไร้สาระเสียที

“ป้ากัว คุ้นเคยกับเมืองA แล้วหรือยัง?” ทันใดเธอก็ถามขึ้นมา

ป้ากัวเป็นคนทางเหนือ และเมือง A ค่อนไปอยู่ทางทิศใต้ จึงมีอะไรที่แตกต่างกันมาก

ดูเหมือนพ่อบ้านจะแปลกใจเล็กน้อย ที่จู่ๆเธอก็ถามคำถามนี้ขึ้นมาเขาจึงพยักหน้าตอบอย่างลังเลไปว่า “ป้ากัวบอกครับว่า ดีขึ้นมากแล้ว ลูกชายและลูกสาวของเธอก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ ไม่มีปัญหาอะไรครับ”

ฉินซีพยักหน้า ก่อนถามต่อว่า “เสี่ยวเจิ้งล่ะ? แต่งงานแล้วหรือยัง?”

เสี่ยวเจิ้งเป็นคนขับรถของเธอ เมื่อเธอไม่ได้ขับรถเอง เสี่ยวเจิ้งจะเป็นคนขับให้

พ่อบ้านมองไปยังฉินซีด้วยความสงสัย แต่ในที่สุดเขาก็ตอบ “ยังครับ แต่ก็มีแฟนแล้ว ยังคุยกันเรื่องงานแต่งกันอยู่”

ฉินซีถามเรื่องราวของคนรับใช้แต่ละคนที่ชิงหยวน ว่าอยู่ดีกินดีหรือไม่

พ่อบ้านเริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถูกถาม ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะถามกลับไปว่า “ทำไม จู่ๆถึงสนใจเรื่องพวกนี้ล่ะครับ”

ฉินซีก้มหัวลง พลางยิ้ม “ตอนบ่ายโดนคนคนนั้นทำให้ตกใจ เลยพึ่งรู้ตัวน่ะ ว่าไม่ค่อยคุ้นเคยกับคนที่นี่เท่าไหร่”

ข้ออ้างของเธอดูไม่ค่อยสมเหตุผล แต่พ่อบ้านก็ไม่ได้ถามต่อ และพยักหน้าเพื่อแสดงว่าเขาเข้าใจ

ฉินซีถามทุกอย่างที่เธออยากรู้ถาม ในที่สุดก็วางตะเกียบลงและยืนขึ้น

เธอรู้ดีว่าเมื่อเธอไปจากที่นี่แล้ว เธออาจจะไม่มีโอกาสกลับมาอีกและเธอก็จะไม่มีโอกาสแสดงความขอบคุณต่อคนรับใช้ที่คอยช่วยเหลือเธอและให้การดูแลเธอเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

เธอทำได้เพียงแค่จำทุกอย่างไว้ในใจ แม้ว่าเธอจะจากไปแล้ว เธอก็จะไม่ลืมพวกเขา

พ่อบ้านเดินตามเธอไปได้ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นฉินซีก็หยุดเดิน

“หลานสาวคุณเป็นยังไงบ้าง” เธอหันหน้าไปมองพ่อบ้าน

ทันทีที่พ่อบ้านถูกถามถึงหลานสาวของตัวเอง เขาก็หัวเราะขึ้นมาอย่างมีความสุข “ดีครับ เกิดมาก็ตัวจ้ำม่ำเลย ทางนู้นโทรมาจะให้ผมไปหาไวๆ ผมแค่ยังกังวลเกี่ยวคุณและประธานลู่น่ะครับ ไม่งั้นคงรีบที่จะไปหาหลานของผม”

ฉินซีหัวเราะ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังก่อนจะกำชับอย่างจริงจัง “คุณต้องดูแลรักษาตัวเองให้ดี ถ้ามีอาการปวดข้อ ก็ให้คนไปตามหมอประจำตระกูลมารักษาล่ะ”

ครู่หนึ่ง พ่อบ้านรู้สึกว่าท่าทางฉินซีดูแปลกเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอก็ดูจริงจังเกินไป แต่เมื่อดูอีกครั้งก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ

เขาส่ายหัวและบอกตัวเองว่าอย่าไปคิดมาก

“ฉันเหนื่อยแล้วล่ะ จะกลับห้องไปพักผ่อนสักหน่อย” ฉินซีหันกลับ และก้าวเท้าตรงไปยังห้องนอน

“พักผ่อนเถอะครับ” พ่อบ้านกล่าว “ผมจะบอกพวกคนรับใช้ว่าอย่าขึ้นไปรบกวนคุณให้”

ฉินซีพยักหน้า “ฝากด้วยนะ”

พ่อบ้านเฝ้าดูร่างบางของเธอค่อยๆลับหายไป มีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นภายในใจของเขา แต่ความรู้สึกนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว

ฉินซีเดินช้าๆกลับไปที่ห้อง

เมื่อครั้งที่แล้วเสื้อผ้าของเธอถูกคนรับใช้น้ำไปเก็บ แต่วันนี้เธอก็รีบไปเอาลงมา กลัวจะไม่มีโอกาสได้ออกไปจากที่นี่

ดังนั้นเธอจึงเปิดกระเป๋าเดินทางที่อยู่อีกด้านหนึ่ง พลางหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขึ้นมาจากอีกด้านหนึ่ง เลือกเสื้อผ้าที่พอใส่ได้สักสองสามชุดแล้วยัดลงไปในกระเป๋าเดินทาง

หลังจากเก็บของเสร็จ เธอก็ลุกขึ้นยืนดูเสื้อผ้าที่เธอวางทิ้งไว้ คิดในหัวว่าควรแบ่งเป็นสองกอง

กองหนึ่งเป็นชุดที่เธอเลือกมาใส่เอง อีกกองเป็นชุดที่ลู่เซิ่นเลือกมาให้ และยังไม่ได้ใส่

ตัวที่เคยใส่แล้ว ไว้มีโอกาสจะมาเอาไปแล้วกัน

สำหรับเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ใส่ … ถ้าหากผู้หญิงคนใหม่ของลู่เซิ่นไม่ทิ้งมัน เธอก็คงลองมัน ถึงอย่างไรมันก็เป็นของใหม่ทั้งหมด

ถ้าหากมันไม่เหมาะกับเธอคนนั้น ไว้ครั้งหน้าเธอจะเอาพวกมันไปอยู่ด้วยแล้วกัน

ฉินซียืนอยู่กลางห้อง พลางมองไปรอบ ๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท