Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1242

ตอนที่ 1242

บทที่ 1242 ทัศนคติที่คลุมเครือ

ห้องประชุมเล็กในที่นี่ อารองและอาสามของลู่เซิ่น ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทุกคำพูดของทั้งสองคนได้ถูกบันทึกเอาไว้

ทั้งสองคนได้ตกลงกันสั้นๆเกี่ยวกับแผนการคร่าวๆและตกลงที่จะคุยรายละเอียดกันในตอนกลางคืนก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกจากห้องประชุมไป

อารองมีความกล้าน้อยกว่า ก่อนจะออกไป ยังหันหน้ากลับไปมองอาสาม สะดุ้งและถาม “พวกเราอย่างนี้จะไม่มีปัญหาจริงๆหรือ?”

อาสามกระตุกปากและหัวเราะอย่างเหยียดหยาม “หากลู่เซิ่นไม่มีพ่อแม่ของเขาอยู่ข้างหลัง เขาก็จะไม่ใช้อะไรเลย”

อารองพยักหน้าอย่างลังเล ไม่ค่อยเห็นด้วยมากนัก

ลู่เซิ่นที่อยู่ในห้องสำนักงาน แสดงออกถึงท่าทีที่เยาะเย้ย

……

สองวันต่อมา ในห้องสำนักงานของลู่เซิ่น

“ สองคนนี้เคลื่อนไหวเร็วมาก ”น้ำเสียงของหลินหยังดูเรียบเฉยมาก เขาก้มลงอ่านรายงานที่อยู่ในมือ ในเช่วงวลาสองวันนี้เขาได้ไปเยี่ยมผู้ถือหุ้มเกือบทั้งหมดที่ไม่ได้สนิทกับคุณ ใช้เสียงที่บันทึกในการโต้แย้งของคุณกับประธานสู” มาเป็นหลักฐานเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าคุณสูญเสียการสนับสนุนจากประธานลู่และประธานสู?

ลู่เซิ่นพยักหน้าอย่างเฉยเมย “ที่เหลือล่ะ?” หลินหยังกล่าวต่อว่า “ตามสถานการณ์ปัจจุบันที่เราควบคุมไว้นอกเหนือจากในบรรดายี่สิบคณะกรรมการจะปลดพวกเขาออก ยกเว้นคุณประธานลู่กับประธานสูแล้วอีกสิบเจ็ดท่าน มีสิบสองท่านได้แสดงการปฏิเสธ มีสามท่านนั้นมีท่าทีก้ำกึ่งและอีกสองท่านถูกล่อลวงอย่างเห็นได้ชัดขึ้น

ลู่เซิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย “สองคน?”

หลินหยังส่งรายชื่อให้กับเขา “สองคนนี้เอง”

ลู่เซิ่นจ้องไปที่รายชื่อสองสามวินาทีก่อนที่จะนึกออกถึงรูปลักษณ์ของสองคนนี้

ถ้าจำไม่ผิดสองคนนี้น่าจะสืบทอดสมบัติของตระกูลเพื่อให้ได้ตำแหน่งกรรมการบริหารของบริษัทลู่ซื่อ ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลสู โดยปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในคณะกรรมการ แทบจะไม่พูดอะไรเลย ลงคะแนนเสียงด้วยการแสดงมือก็มีแต่ที่จะเห็นด้วยทุกครั้ง

เขาไม่คาดถึงเลยจริงๆว่าพวกเขาจะมีความคิดอื่นๆ

ลองดูอีกสามคนที่มีทัศนคติที่เหมือนกัน

สองคนเป็นสมาชิกของฝ่ายบริหารและอีกคนเป็นคนใช้ของลู่เซิ่น.เป็นการส่วนตัว

บุคคลนั้นแทบจะไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวอะไรกับลู่เซิ่นและความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนั้นก็งั้นๆ แต่ในความเป็นจริง เขาเป็นหมากตัวหนึ่งหรือสายลับที่ลู่เซิ่นได้จัดเตรียมไว้ในคณะกรรมการ

ครั้งนี้ เขาได้ทำตามคำสั่งของลู่เซิ่นแสร้งทำเป็นคลุมเครือเพื่อหาว่าลุงสองคนนี้ของลู่เซิ่นสร้างปัญหาอะไรขึ้นอีก

แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลู่เซิ่น แม้กระทั่งหลินหยังก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ดังนั้นลู่เซิ่นจึงไม่ได้แสดงทาทีพิเศษใดๆเพียงแต่พยักหน้า “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”

เห็นได้ชัดว่าสองท่านที่หวั่นไหวมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลสู ดังนั้นเขาจึงต้องกลับไปปรึกษากับสูหยิง

สำหรับผู้จัดการทั้งสอง ลู่เซิ่นหัวเราะเยาะ

เพียงแค่ปล่อยให้ลุงที่แสนดีทั้งสองคนนั้นช่วยทดสอบว่าเขาคิดอย่างไร ว่าสองคนนี้มีจุดประสงค์อะไร

“ยังมีอะไรรายงานอีกไหม” ลู่เซิ่นถามอย่างลวกๆ ใบหน้าของหลินหยังแสดงออกถึงความลำบากใจเล็กน้อย เขาได้ชะงักไปไม่กี่วินาที จากนั้นถึงพูดต่อ “ที่ยังมีก็คือ เรื่องที่เกี่ยวกับงานแต่งงานของคุณในอีกไม่กี่วัน ยังมีเรื่องบางอย่างที่ต้องได้รับการยืนยันกับคุณก่อน”

ลู่เซิ่นยังไม่ได้บอกความจริงเกี่ยวกับทุกสิ่งให้กับหลินหยัง แต่หลินหยังก็อยู่เคียงข้างเขาทุกวันแม้ว่าลู่เซิ่นจะไม่พูดมันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้อะไรเลย

ก็แค่…เขาเองก็สับสนเล็กน้อย

ฉินซีหายไปนานกว่าสามเดือนแล้ว ตลอดมาลู่เซิ่นยังไม่ยอมแพ้ในการตามหา แต่จู่ๆก็ประกาศต่อสาธารณะว่ากำลังจะแต่งงาน ในบางโอกาสส่วนตัว เขาได้บอกว่าเจ้าสาวตัวของตนเองนั้นชื่อ เวินจิ้ง

หลินหยังยังคงจำได้ว่าตอนที่เขาอยู่ที่เมืองหนาน ลู่เซิ่นบอกกับตนเองอย่างแน่ชัดว่าเขากับเวินจิ้งไม่มีทางที่จะแต่งงานกันได้จริงๆเขาแค่ใช้สิ่งนี้เป็นของอ้างในการบรรลุเป้าหมายของเขาเท่านั้น ตอนนี้กลับเปลี่ยนคำพูด ซึ่งทำให้เขาสับสนจริงๆ

แต่ถ้าจะบอกลู่เซิ่นอยากจะแต่งงานกับเวินจิ้งจริงๆ….ดูเหมือนจะไม่ใช่

เพราะดูเหมือนลู่เซิ่นก็ไม่ได้ใส่ใจกับงานแต่งครั้งนี้มากนัก

อย่างเช่น นับหลังจากห้าวันก็เป็นงานแต่งแล้ว ลู่เซิ่นไม่ได้ขอให้เขาปรับเปลี่ยนชุดแต่งงานและแหวนแต่งงานใหม่

แม้ว่าขนาดของแหวนงานแต่งงานจะเท่ากัน แต่ชุดแต่งงานก็ไม่น่าจะเหมือนกันได้ใช่ไหมล่ะ

ครั้งที่แล้วที่ลู่เซิ่นแต่งงานกับฉินซี ไม่ได้รับการยอมรับจากตระกูลลู่และไม่ได้จัดพิธีงานแต่ง และคราวนี้ลู่เหวยกับสูหยิงก็เข้าใจดี ไม่ได้เตรียมพิธีงานแต่งแต่อย่างใด ขั้นตอนการจัดงานแต่งงานและสถานที่ ทั้งหมดถูกเตรียมการโดยบริษัท จัดงานแต่งงาน ดูเหมือนลู่เซิ่นไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับชีวิตคู่ของตนเอง มีเพียงเป้าหมายเดียวคือต้องยิ่งใหญ่ให้ได้ นี่เป็นอีกหนึ่งความขัดแย้ง

บริษัทจัดงานแต่งงานไม่สามารถเข้าใจข้อกำหนดที่คลุมเครือของเขาได้ เพียงว่าลู่เซิ่นให้งบประมาณที่เพียงพอ ดังนั้นพวกจึงทุ่มเทอย่างหนักเพื่อสร้างงานแต่งงานที่หรูหราแบบไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน งานแต่งงานในปราสาทและรถม้าที่รับ-ส่ง พอไปถึงที่ลู่เซิ่น กลับถูกปฏิเสธ

เขาขอให้จัดงานแต่งงานให้เสร็จสิ้นในบ้านตระกูลลู่

ผู้วางแผนจัดงานแต่งงานคิดว่าลู่เซิ่นคงมีความรู้สึกว่าบ้านของเขาคงมีอะไรพิเศษกว่า ดังนั้นจึงเปลี่ยนตามคำของเขาโดยซื่อตรง อย่างไรก็ตามหลินหยังรู้ดีว่า ตั้งแต่ลู่เซิ่นย้ายมาอยู่ที่ประเทศ f แทบจะไม่เคยอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลลู่เป็นเวลานาน ความรู้สึกที่มีต่อสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ลึกซึ้งเท่ากับบ้านในเมืองหนาน เหตุใดเขาจึงร้องขอเช่นนี้ มันทำให้หลินหยังสับสนจริงๆ

อย่างไรก็ตาม…บางแง่มุมของงานแต่งงานยังคงต้องได้รับการยืนยันจากตัวของลู่เซิ่นเอง ดังนั้นเขาจึงได้แต่หัวรั้นและคุยกับลู่เซิ่นขั้นตอนของการจัดงานแต่งงาน ฉันได้ส่งให้คุณในรูปแบบอีเมลแล้ว การเตรียมการทั่วไปคือ เราจะต้อนรับญาติในตอนเช้า พิธีจะจัดขึ้นในตอนเที่ยงส่วนช่วงบ่ายและมื้อค่ำเป็นการปาร์ตี้เซสชั่น

ลู่เซิ่นเปิดอีเมลและใส่หัวอย่างเบาๆ “ใช้ได้ ”

เขาไม่ได้ยินอะไรผิดปกติในน้ำเสียงของเขา แต่หลินหยังหดตัวลงอย่างอธิบายไม่ถูกไปชั่วขณะ จากนั้นก็พูดต่ออย่างไม่เต็มใจ “กำหนดการของคุณ ในกล่องอีเมลก็มีเช่นกัน ฉันจะเตือนคุณล่วงหน้าก่อนหนึ่งวัน”

ลู่เซิ่นชำเลืองมองไปคร่าวๆจากนั้นก็ส่งเสียง “อืม ”

หลินหยังหยุดพูดมากขึ้นและลดสายตาลง “ฉันไม่มีอะไรจะรายงานแล้ว ”

ทันทีที่ลู่เซิ่นโบกมือเขาก็ออกจากห้องทำงานไป

ลู่เซิ่นหันหน้าไปมองวันที่ที่มุมขวาล่างของคอมพิวเตอร์ อยู่ในความงุนงงชิ่วครู่

ยังมีเวลาอีกห้าวัน

ฉินซี จะปรากฏหรือไม่?

ลู่เซิ่นรู้สึกตนเองเหมือนเป็นนักโทษที่รอให้ขวานบนหัวของเขาตกลงมา รู้สึกกังวลไม่สามารถมองเห็นผลลัพธ์ในตอนสุดท้ายได้ ทำได้เพียงตั้งตารอเท่านั้น

ครั้งหนึ่งหลินยี่เคยถามว่า ถ้าฉินซีไม่ปรากฏตัวในวันนั้น เขาจะทำอย่างไร

ลู่เซิ่นตอบอย่างใจเย็นเขาบอกว่าเขามีแผนสำรอง

แต่แท้จริงแล้วลู่เซิ่นไม่ต้องการใช้แผนนั้นเลย

ถ้าเกิดไม่มีฉินซีแล้วล่ะก็

ลู่เซิ่นมองไปที่กำหนดการที่หนาแน่นบนคอมพิวเตอร์ ดวงตาของเขาเริ่มเย็นชาลง

หากไม่มีเธอแล้วทั้งหมดนี้จะเป็นเพียงแค่เรื่องตลกเท่านั้นไม่มีความหมายใดๆ

ลู่เซิ่นเม้นปากของเขา เอื้อมมือไปปิดหน้าต่างอีเมลและมองลงไปที่รายการบนโต๊ะ

ยังไงก็กังวลไปก่อน กับปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท