Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1315

ตอนที่ 1315

บทที่ 1315 สาขาเมืองหนาน

“ที่จ้านเซินต้องการให้คุณอยู่ที่นี่…..มีบอกเหตุผลหรือเปล่า” ลู่เซิ่นเอ่ยปากถาม

ฉินซีชะงักไปชั่วขณะ

เธอรู้ดีที่ลู่เซิ่นถามแบบนี้ คงเพราะเกิดความสงสัยขึ้นในใจแล้ว

“ไม่มี” ฉินซีตอบไปตามความจริง “ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจกะทันหันเช่นนี้”

สีหน้าลู่เซิ่นหม่นลง :“ถึงอย่างไร…..คุณก็ต้องระวังตัวด้วยนะ”

ฉินซีพยักหน้ารับ แล้วทั้งคู่ต่างเงียบไปสักพัก

เป็นลู่เซิ่นที่กระแอมปรับเสียงในลำคอ ให้เป็นเสียงดีใจแล้วก็เปลี่ยนหัวข้อเรื่องสนทนา : “ถ้าอย่างนั้น ในช่วงนี้คุณก็จะต้องอยู่ที่เมืองหนานใช่ไหม”

เนื่องด้วยฉินซีเมื่อสักครู่เพิ่งจะบอกข่าวนี้ให้กับเขาด้วยความดีใจ แต่ตัวเขา…..นอกจากเป็นห่วงแล้ว เขานั้นก็รู้สึกดีใจกับข่าวนี้ด้วยเช่นกัน

ขอเพียงแค่ไม่ต้องกลับไปที่องค์กรใหญ่ การพบกันของพวกเขาทั้งคู่ก็จะเป็นเรื่องที่ยิ่งง่ายมากขึ้น ยิ่งอยู่เมืองหนานด้วย อำนาจของตระกูลลู่เกือบจะแทบปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือเดียวได้ ก็ยิ่งง่ายต่อการสร้างโอกาสในการพบเจอกันของคนทั้งคู่

กำลังครุ่นคิดอยู่ ลู่เซิ่นจึงได้หยุดความสงสัยที่มีต่อจ้านเซินไว้ชั่วคราว

หากทหารมาจะใช้ขุนพลในการต้าน หากน้ำมาจะใช้ดินในการต้าน ไม่ว่าจะมาไม้ไหนก็ไม่ยำเกรง ยิ่งเป็นเมืองหนาน เขาย่อมได้เปรียบกว่า

ต่อให้จ้านเซินมีจุดประสงค์อื่นจริงๆ เขาก็สามารถรับมือได้ ทำไมต้องกังวลจนทำให้โอกาสที่จะได้เจอกันได้ง่ายๆกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้น

ทางฝั่งคู่สายนั้น เสียงฉินซีได้เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายขึ้น : “ใช่ ฉันคงจะอยู่ที่เมืองหนานสักพัก”

ลู่เซิ่นยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากพูด ฉินซีก็เหมือนคิดอะไรได้ น้ำเสียงจึงตึงเครียดขึ้น :“คุณหมอได้สั่งกำชับให้คุณพักผ่อนเยอะๆหรือเปล่า!”

ลู่เซิ่นถึงกับเป็นใบ้ไปชั่วขณะ แพทย์ประจำตัวของเขาและเวินจิ้ง…..ก็บอกเช่นนั้น

สาเหตุโรคกระเพาะของเขาส่วนหนึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการพักผ่อนที่น้อยเกินไป ความเครียดสะสมก็ส่งผลต่อกระเพาะทำงานหนักมากขึ้น

เมื่อเห็นลู่เซิ่นเงียบ ฉินซีก็พอจะนึกออก จึงสั่งสอนด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม : “ไม่พูดแล้ว คุณรีบไปพักผ่อนซะ พรุ่งนี้ฉันค่อยไปเยี่ยมคุณ”

แน่นอนว่าเธออยากจะไปตอนนี้ใจแทบขาด แต่ว่าตอนนี้เธอยังไม่ทราบถึงการสอดส่องเธอนั้นอยู่ในขั้นไหน ดังนั้นจะทำอะไรผลีผลามไม่ได้

ลู่เซิ่นมีชีวิตอยู่จนถึงป่านนี้ ก็ยังไม่เคยถูกใคร “ออกคำสั่ง” เช่นนี้ จึงรู้สึกเป็นเรื่องที่น่าขำ แต่ก็พยักหน้ารับ : “ครับ”

ทั้งคู่พูดร่ำลาอีกสองสามคำ จึงได้วางสายโทรศัพท์ลง

หน้าจอโทรศัพท์ค่อยๆดับลง ลู่เซิ่นก้มหน้าจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ เมื่อรู้ว่าคนรับใช้เคาะประตูเข้ามา จึงได้เก็บอาการของสีหน้าขึ้น

“ประธานลู่ พักผ่อนได้แล้ว” คนรับใช้ก้มหน้าพูดอย่างระมัดระวัง

ลู่เซิ่นก็ยิ่งนึกถึงคำพูดแบบนี้ของฉินซีที่น้ำเสียงเมื่อสักครู่“ดุดัน” จนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

ถ้าหากถูกคนรับใช้เห็นรอยยิ้มนี้ คงจะต้องตกใจแน่ๆ

“ครับ” เขาขานรับ แล้วก็ลุกยืนขึ้น

คนรับใช้ถึงกับประหลาดใจและมองดูเขาที่วันนี้ว่านอนสอนง่าย แต่เมื่อเห็นเขานั้นนอนลงบนเตียงแล้วจริงๆ ถึงได้วางใจแล้วเดินไปปิดประตูของห้องผู้ป่วยลง

และอีกฝั่งหนึ่งของเมืองหนาน ฉินซีที่อยู่เขตในสาขาขององค์กรก็ได้ปิดไฟลงเช่นกัน ได้ทอดกายลงบนเตียง แล้วก็หลับตาลง

วันนี้ผ่านเรื่องราวต่างๆมากมาย ทำให้ไม่ว่าจะร่างกายหรือจิตใจของเธอนั้นรู้สึกเหนื่อยล้ามาก เมื่อทอดตัวลงนอน เธอก็ค่อยๆหลับใหลไปในที่สุด

……

เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวัน ฉินซีเพ่งมองที่เพดานในห้องนอน ที่ยังคงไม่รู้สึกชิน

ฉันได้ออกมาจากที่ตรงนั้นแล้ว ไม่ต้องถูกจ้านเซินสอดส่องดูตลอดเวลาอีกแล้ว

สองประโยคนี้ทำให้ดวงตาของฉินซีเป็นประกายวับขึ้น เธอยกผ้าห่มออก แล้วก็ลุกนั่งแล้วมองไปรอบๆอีกครั้ง

ที่นี่ไม่ใช่องค์กรใหญ่ ห้องนี้เตรียมไว้ให้กับผู้ดูแลของสาขา คงไม่น่าจะมีการติดตั้งอุปกรณ์สอดแนมไว้ล่วงหน้า

ถ้าเป็นเพราะเธอมาที่นี่ แล้วทำการติดตั้งชุดดักฟังและอุปกรณ์สอดแนม ก็จะต้องมีการทิ้งร่องรอยเอาไว้

เมื่อคืนตอนที่ฉินซีได้โทรหาลู่เซิ่นนั้นได้เปิดเครื่องตัดสัญญาณเอาไว้ ซึ่งก็เป็นอุปกรณ์ที่เธอใช้ขณะที่เข้าห้องนั้นตอนที่อยู่บนเรือสำราญเพื่อขโมยเอกสารบ่อน้ำมัน

แต่ว่า…..อุปกรณ์แบบนี้ไม่สามารถที่จะใช้ทุกวันได้ ดังนั้นอาศัยช่วงที่มีแสงสว่างในตอนนี้ เธอต้องรีบทำการสำรวจภายในห้องอย่างละเอียด

ฉินซีเคยได้รับการฝึกฝนในการค้นหาเครื่องดักฟัง เธอมั่นใจว่าองค์กรไม่น่าจะมีอุปกรณ์ที่เกินความสามารถในการค้นหาของเธอได้

ดังนั้นจึงได้สำรวจรอบๆภายในห้องอย่างละเอียด มั่นใจว่าไม่มีการติดตั้งชุดอุปกรณ์ดักฟัง ฉินซีจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็เริ่มสงสัยมากขึ้น——จ้านเซินต้องการทำอะไรกันแน่

แต่การสงสัยไม่ได้นำมาซึ่งผลลัพธ์ใดๆ ฉินซีจึงต้องเก็บความสงสัยไว้ในใจชั่วคราว เพื่อเตือนตัวเองให้ระวังตัวตลอดเวลา จากนั้นจึงไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายแล้วก็ออกไป

ที่ทำการของสาขาเป็นบ้านสไตล์ตะวันตกห้าชั้น ฉินซีพักอยู่ชั้นบนสุด ทั้งชั้นล้วนเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผู้ดูแล ส่วนชั้นสี่นั้นเป็นห้องพักรับแรงแขก ที่เตรียมไว้ให้พนักงานขององค์กรที่มาเยี่ยมเยือนได้พักอาศัย และตั้งแต่ชั้นสามลงไปนั้นเป็นห้องสำนักงาน

ทั้งหมดนี้เมื่อวานเหล่าหวางเป็นคนแนะนำให้ฉินซี แต่ไม่ทราบว่าเนื่องด้วยเมื่อคืนนั้นดึกเกินไป หรือเป็นเพราะความตั้งใจของเหล่าหวาง ที่ทั้งตึกนั้นนอกจากพวกเขาแค่สองคนแล้ว ก็ไม่เห็นมีคนที่สามอยู่ในที่ตรงนั้น ที่นั่งทำงานตั้งแต่ชั้นแรกถึงชั้นสามนั้นล้วนว่างเปล่า

แต่วันนี้กลับแตกต่าง ที่นั่งว่างเปล่าจากเมื่อคืน ตอนนี้มีคนนั่งเต็ม ฉินซีเพ่งมองไป กลับไม่สามารถนับได้ว่ามีจำนวนกี่คนที่นั่งทำงานอยู่ในสำนักงาน

ไม่นานพนักงานเหล่านั้นก็เห็นการปรากฏตัวของฉินซีขึ้นในทันใด

ขนาดองค์กรมีขนาดที่ใหญ่มาก แต่สมาชิกหลักนั้นมีแค่ส่วนน้อย สมาชิกหลักเหล่านี้นอกจากผู้ดูแลของแต่ละสาขาแล้ว หลักๆก็จะอยู่ที่องค์ใหญ่บนเกาะ ส่วนสมาชิกกับองค์กรที่เหลือเป็นเพียงความสัมพันธ์ในการว่าจ้างธรรมดา พวกเขาจะไม่สามารถรับรู้ความลับขององค์กร และจะไม่สามารถเข้าร่วมภารกิจขององค์กรได้ พวกเขาส่วนมากมองที่นี่เป็นเพียงบริษัทที่ลึกลับเท่านั้น

ดังนั้นคนเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้าของฉินซี ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงสมาชิกธรรมดา

พวกเขาคงได้รับการแจ้งเตือนว่าที่นี่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ดูแล แต่คงไม่รู้ว่าเปลี่ยนเป็นใคร

มองฉินซีเดินลงมาจากชั้นบน พวกเขาก็เกิดการคาดเดาสถานะของเธอขึ้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก

จนในที่สุดเหล่าหวางปรากฏตัวได้ทันเวลา

“มา ผมขอแนะนำให้กับทุกท่าน ว่านี่คือผู้ดูแลคนใหม่ของพวกเรา คุณฉินซี”

หลังจากที่ทุกอย่างหยุดไปชั่วขณะ ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครคนแรกที่เริ่มต้นการปรบมือให้

ต่อหน้าสายตาผู้คนฉินซีก็ไม่รู้สึกประหม่า เมื่อพยักหน้ารับไปรอบๆแล้ว ก็ถูกเหล่าหวางดึงตัวออกไป

“ทั้งหมดนี้เป็นพนักงานธรรมดาทั่วไปของที่นี่ คุณทำความเข้าใจคร่าวๆก็พอ” เหล่าหวางพูดกับฉินซีด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น “คนที่สำคัญๆนั้น ผมได้ให้พวกเขารอคุณอยู่ที่ห้องประชุมแล้ว”

ฉินซีเข้าใจดีกับคำว่า “สำคัญๆ” จริงๆแล้วก็คือโฉมหน้าผู้ที่รู้ความลับขององค์กรนั่นเอง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท