Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1374

ตอนที่ 1374

บทที่ 1374 ท่าทางเปลี่ยนไป

“ได้ คุณถาม”

ถังย่าพ่ายมือออก ท่าทางไร้ความกังวล

เห็นสีหน้าสบายๆ ของเธอ ในใจของเจ้านายหลอเต็มไปด้วยความโกรธ : “ชื่อนามสกุล?”

“ถังย่า”

“อายุ?”

“24”

“อาชีพ?”

คำถามก่อนหน้านี้ถังย่าสามารถตอบออกมาได้อย่างง่ายดาย เมื่อถามถึงอาชีพ เธอปิดปากทันที

การจดบันทึกของเจ้านายหลอหยุดลงชั่วคราว มองไปที่ถังย่า และถามคำถามซ้ำอีกครั้ง : “อาชีพ?”

ถังย่าเป่าหมากฝรั่ง

“อันนี้บอกไม่ได้ เป็นความลับ”

เธอทำหน้าทะเล้นกะพริบตาปริบๆ ใส่เจ้านายหลอ ยิ้มบางและพูด

เมื่อพูดอย่างนี้ออกมา ความโกรธในใจของเจ้านายหลอเพิ่มขึ้นอีกสามระดับ

มือจับปากกาแน่น เขาถามอีกครั้ง : “ฉันถามอาชีพของคุณ”

ลูกทีมที่นั่งอยู่ด้านข้างดูออกว่าเจ้านายหลอโมโหแล้ว

อย่ามองแค่ว่าปกติเจ้านายหลอค่อนข้างเข้าหาได้ง่าย แต่เมื่อโกรธขึ้นมา ก็น่ากลัวอย่างยิ่ง

ถังย่ากลับไม่เห็นด้วย : “เจ้านายหลอ เมื่อกี้คุณบอกว่า เมื่อเจอคำถามที่ฉันไม่อยากตอบ ฉันมีสิทธิ์ที่จะเงียบ อาชีพของฉัน ฉันบอกไม่ได้”

เธอมองตรงไปที่เจ้านายหลอ ดวงตาสีดำส่องประกายความแน่วแน่

ถังย่าแสดงออกชัดเจน คำถามนี้ไม่สามารถยอมให้ได้

เจ้านายหลอเคยเรียนจิตวิทยานิดหน่อย พอจะดูออกว่านี้คือขีดจำกัดของถังย่า

และคนแบบนี้อย่างถังย่า เขาบังคับถามไปก็ไม่ได้อะไร

คิดได้อย่างนี้ เจ้านายหลออารมณ์เสียเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เขาก็ทำงานมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่กลับถูกเด็กน้อยทำให้ลำบากเสียแล้ว

เจ้านายหลอหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับความหงุดหงิดไว้ในใจ : “คำถามต่อไป ทำไมคุณถึงลงมือฆ่าคนกลางถนน?”

เขาเลือกที่จะข้ามไปอย่างหมดความอดทน

ครั้งนี้ถังย่าไม่ได้มีท่าทีคิดจะสู้อะไรกับเขา เอ่ยปากให้ความร่วมมืออย่างดี : “เดิมฉันก็ยืนอยู่ตรงลาดจอดรถของสนามบินอยู่ดีๆ ลูกเศรษฐีคนนั้นที่คิดว่าตัวเองมีเงินมาก แถมยังหื่นอีกขับรถมาจอดตรงหน้าฉันกะทันหัน ทำให้ฉันอับอาย คุกคามฉัน ให้ฉันไปค้างคืนกับเขา เข้ามาลวนลามฉัน ฉันก็แค่เอาอาวุธขึ้นมาปกป้องตัวเองเท่านั้น คุณตำรวจ ฉันอยากรู้ฉันทำอะไรผิด?”

เธอพูดประโยคเหล่านี้จบอย่างคล่องแคล่ว เจ้านายหลอถึงขนาดสงสัยว่าตอนที่อยู่บนรถเธอคิดข้อแก้ตัวเอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นจะพูดออกมาอย่างฉะฉานได้ยังไง

“ ดีที่วันนี้คนที่เขาเจอเป็นฉัน ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น ไม่แน่อาจจะโดนเขาบังคับขึ้นรถไปแล้ว พรุ่งนี้ ในประเทศก็จะมีข่าวทำร้ายข่มเหงหญิงสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งข่าว เรื่องเลวทรามอย่างนี้ คุณทนได้หรือไง?”

ถังย่ายิ่งพูดน้ำเสียงยิ่งเคร่งขรึม

เธอทุบโต๊ะ รอยยิ้มบนหน้าค่อยๆจางหายไป

ถังย่าพูดต่อ เธอพูดด้วยเหตุผลว่า : “เจ้านายหลอ ฉันอยากรู้จริงว่าสถานีตำรวจไม่สนใจดูแลคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ให้ดีๆ แต่กลับจับผู้หญิงอ่อนแอไม่มีอำนาจอย่างฉันมาสอบสวนที่สถานีตำรวจ แบบนี้ถือเป็นการละเว้นไหม พวกคุณควรจะรู้ถ้าปล่อยคนเลวแบบนั้นไว้ด้านนอก จะมีเด็กสาวไร้เดียงสาอีกมากมายที่ถูกข่มเหง”

ที่เธอพูดเป็นความจริง เจ้านายหลอเองก็รู้ว่าพวกลูกเศรษฐีพวกนี้เย่อหยิ่ง

เขาเองก็อยากจะสั่งสอนสักครั้ง แต่ลูกเศรษฐีพวกนั้นมีทั้งอำนาจและยศศักดิ์ ด้านหลังยังมีคนคอยคุ้มกัน ไม่ง่ายเลยที่จะไปแตะ

หลังฟังที่ถังย่าพูดมาจบ ถึงแม้เจ้านายหลอจะไม่เห็นด้วยว่าเธอเป็นผู้หญิงอ่อนแอ แต่ก็ยังพอเข้าใจกับวิธีการของเธอได้

“โอเค เรื่องราวที่ผ่านมาฉันเข้าใจแล้ว ถึงแม้เขาจะทำไม่ถูก แต่คุณเลือกที่จะไม่สนใจได้ และไม่ใช่การเอามีดออกมาทำร้ายคน โชคดีที่เขาบาดเจ็บเล็กน้อยและสลบไป ไม่อย่างงั้น คุณต้องรับผิดทางอาญา”

น้ำเสียงของ เจ้านายหลออบอุ่นขึ้นนิดหน่อย ภายในสายตาที่มองถังย่าเต็มไปด้วยความไม่เห็นด้วย

ถังย่าฟังออกได้อย่างชัดเจนว่าน้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไป และเอนพิงพนักเก้าอี้อีกครั้ง : “ฉันก็ถือว่าเป็นอีกคนที่สั่งสอนเขา ทำให้เขารู้ว่าไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะเป็นแกะน้อย”

เธอตะคอกเสียงเย็นชา การถากถางปรากฏขึ้น

เจ้านายหลอรู้นิสัยของเธอ จะพูดเกลี้ยกล่อมก็ไม่ช่วยอะไรและไม่พูดอะไรอีก : “คุณถัง คุณโทรหาคนในครอบครัว ให้พวกเขามาประกันตัวคุณออกไปเถอะ”

เขาเก็บสมุดบันทึก

หลังจากรู้ความจริง เขาก็รู้สึกเป็นศัตรูกับถังย่าน้อยลง

ถึงแม้วิธีการของเธอจะไม่เหมาะสม แต่ถังย่าสวยขนาดนั้นถ้านิสัยไม่ใจร้อนขนาดนั้น ผู้ชายพวกนั้นต้องไม่ยอมแพ้แน่นอน

“ได้”

ถังย่าตกใจสักพัก คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะจัดการได้ค่อนข้างเร็ว เดิมที่เธอคิดว่าต้องอยู่ต่ออีกสักสองชั่วโมง

ประสิทธิภาพการทำงานของเจ้านายหลอคนนี้ทำให้เธอพอใจเป็นอย่างมาก

ถังย่าอยากจะไปเอาโทรศัพท์ แต่กลับพบว่ามือของตัวเองยังถูกใส่กุญแจมือไว้

เธอโบกมือไปมาตรงหน้าเจ้านายหลอ : “เจ้านายหลอ ตอนนี้ปล่อยฉันได้รึยัง?”

เจ้านายหลอหยิบกุญแจออกมา ปล่อยเธอออกจากกุญแจมือ

ถังย่า เผยรอยยิ้มสดใส กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า : “ขอบคุณ”

รอยยิ้มนี้ของเธอหวานจนทำให้คนใจอ่อน เจ้านายหลอได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นช้าลงอย่างชัดเจน

หลังจากขอบคุณเสร็จ ถังย่าก็ไม่ได้มองอาการของเจ้านายหลออีกต่อไป

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเปิดเครื่องแต่กลับพบว่าโทรศัพท์ของตัวเองแบตหมดไปแล้ว

ไม่รู้จะทำยังไง ถังย่าทำได้แค่มองเจ้านายหลออีกครั้ง : “เจ้านายหลอ คุณให้ฉันยืมโทรศัพท์คุณหน่อยได้ไหม ของฉันแบตหมดไปแล้ว”

ถึงว่า ทำไมซิวหน่ายซิงเด็กขี้เหร่นั้นถึงไม่โทรหาเธอ ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง

เห็นถังย่าจ้องมาที่ตัวเอง เจ้านายหลอเอาโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่ค่อยเป็นตัวเอง : “เอาไป รหัสผ่าน1234”

รหัสผ่านง่ายๆ แบบนี้ ดูก็รู้ว่าไม่มีรหัสผ่าน

ถังย่ามองโต๊ะที่เป็นระเบียบเรียบร้อย คิดแล้วคิดอีก ในที่สุดก็โทรหาเบอร์ของจ้านเซิน

เธอจำเบอร์โทรศัพท์ซิวหน่ายซิงไม่ได้ และถังย่าก็อยากรู้ว่าถ้าจ้านเซินได้ยินว่าตัวเองอยู่ที่สถานีตำรวจจะรีบมาหาไหม

……

ในขณะเดียวกัน

จ้านเซินกำลังอยู่ในพักผู้ป่วยของฉินซี

ฉินซีกำลังกินซุปบำรุงที่เขาซื้อมาให้ ยิ้มพลางพูดว่า : “ช่วงนี้กินอาหารได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ฉันนอนอยู่บนเตียงทั้งวัน รู้สึกเหมือนตัวเองจะอ้วนขึ้นไม่น้อย ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดไปเองหรือเรื่องจริง จ้านเซิน ตอนคุณออกไป คุณช่วยซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักอิเล็กทรอนิกส์มาให้ฉันหน่อย ฉันอยากชั่งน้ำหนัก”

หลังจากฟื้นขึ้นมา ท่าทางของฉินซีที่มีต่อจ้านเซินดูสนิทสนมยิ่งขึ้น

จ้านเซินยินดี เห็นเธออยากได้ที่ชั่งน้ำหนัก ไม่ได้คิดอะไรมากจึงตอบตกลง

“ฉันจะให้คนไปซื้อมาให้คุณเดี๋ยวนี้เลย คุณดื่มซุปให้หมดก่อน”

จ้านเซินใช้สายตาบอกให้เธอดื่มต่อ

“ได้”

ฉินซีพยักหน้าอย่างว่าง่าย ยกถ้วยขึ้นมาอีกครั้ง

การทำงานของลูกน้องรวดเร็วมาก หลังจากที่ฉินซีกินหมด เครื่องชั่งน้ำหนักก็ซื้อกลับมาเรียบร้อยแล้ว

จ้านเซินเปิดด้านข้างเตียงออก : “ลองดู”

ฉินซียิ้มบางๆ ลงจากเตียงมาลองชั่งดู ตอนที่เห็นตัวเลขด้านบน ความรำคาญปรากฏบนสีหน้า

เธออดถอนหายใจออกมาไม่ได้ : “เป็นจริงด้วย ฉันบอกแล้วว่าฉันอ้วนขึ้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท