Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1395

ตอนที่ 1395

บทที่1395 ครอบครอง

จ้านเซินเคยคิดว่าเขาไม่มีหัวใจ แต่ในขณะที่ฉินซีพูดเรื่องออกไปจากที่นี่ มันเหมือนท้องฟ้าพลันมืดลง

เขาได้ยินเสียงหัวใจที่แตกสลายอย่างชัดเจน แสงในดวงตาหรี่ลง

ฝ่ามือที่วางอยู่ข้างลำตัวนั้นกำแน่น เส้นเลือดแขนที่ซ่อนอยู่ในเสื้อ เหมือนจะระเบิด

ความโกรธของจ้านเซินเหมือนจะระเบิดออกมา

ฉินซีกำลังสบกับดวงตาที่ล้ำลึกเหมือนหลุมดำของเขา ทันใดก็มีความกลัวบางอย่างเกิดขึ้นในใจ

เธอไม่เคยเห็นจ้านเซินเป็นแบบนี้ ราวกับปีศาจที่โหดเหี้ยม

ฉินซีขยับออกห่างจากจ้านเซินอย่างไม่รู้ตัว เธอไม่อยากอยู่ใกล้เขา

แต่ เธอไม่ทันคาดคิด ว่าการกระทำที่เธอทำโดยไม่รู้ตัว จะทำให้ใจของจ้านเซินโกรธจนถึงขีดสุด

ทันใดจ้านเซินก็โน้มตัวลงไปข้างหน้า ยื่นมือใหญ่ออกไปจับคางของเธอ เขากัดฟันและพูดว่า “เธอเกลียดฉันมากขนาดนี้เลยหรือฉินซี อยากออกไปจากที่นี่ใจจะขาดแล้วหรือไง?”

เขาคิดว่าตัวเองแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยทำตัวไม่ดีกับฉินซี เขาแม้กระทั่งปฏิบัติต่อเธอดีกว่าคนอื่น

จ้านเซินถามด้วยความเสียใจ “ทำไมเธอถึงทรยศฉัน!”

ดวงตาสีเข้มลุกโชนด้วยไฟโกรธ กลิ่นอายสังหารฟุ้งไปทั่วร่างกายของเขา

ตาดำของฉินซีหดตัว เผยให้เห็นความกลัวข้างใน

เธอไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกภายในใจอย่างไรดี แต่ตอนนี้เธอกลัวจริงๆแล้ว

ฉินซีต้องการหนีไปจากการควบคุมของจ้านเซิน แต่เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจ้านเซิน ได้แต่ถูกเขาคุมขัง

เธอขบริมฝีปาก ฉินซีสูดหายใจเข้าลึก บังคับให้ตัวเองใจเย็น “นายใจเย็นก่อนจ้านเซิน ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น… …”

เธอต้องการอธิบายกับจ้านเซิน

ฉินซีไม่ได้เกลียดจ้านเซิน เธอแค่เกลียดองค์กรที่โหดเหี้ยม แค่เกลียดบรรยากาศและระบบของมัน

แต่ จ้านเซินกลับไม่ได้ฟังมันสักคำ

“พอ!”

จ้านเซินขัดคำพูดของเธออย่างเย็นชา สีหน้ามืดมน

เขาค่อยๆออกแรงมือที่ใช้จับคางของฉินซี กระทั่งข้อนิ้วเป็นสีขาว “ฉันไม่อยากฟังคำอธิบายของเธอ ครั้งนี้เธอจะใช้ข้ออ้างอะไรมาหลอกฉันอีก”

จ้านเซินกล่าวด้วยความเจ็บปวดใจ เขารู้สึกว่าเขาให้อิสระแก่ฉินซีมากพอ แต่ฉินซีกลับต้องการที่จะหนีไป เธอไม่เห็นใจความรู้สึกเหนื่อยกายและใจของตัวเองสักนิด

“โอ๊ย……”

แรงจากมือของจ้านเซินหนัก บวกกับแรงอารมณ์ ทำให้เขาสูญเสียการควบคุมอารมณ์ตัวเอง ฉินซีเจ็บขนต้องร้องออกมา คางที่ถูกเขาบีบ ตอนนี้แดงเถือกไปหมด

ในเวลานี้ ร่างกายของจ้านเซินเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาค่อยๆถูกควบคุมโดยอารมณ์และสูญเสียความมีเหตุผล

“จ้านเซิน ฟังฉัน!”

ฉินซีฝืนทนต่อความเจ็บปวด พูดออกมาอย่างยากลำบาก

เธอรู้สึกว่าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป คางของเธอจะต้องแหลกสลายด้วยน้ำมือของจ้านเซินแน่

ดวงตาสีแดงเข้มมองไปที่เธอ มองไปที่เธอ ภายในหัวของเขามีแต่คำพูดของถังย่าสะท้อนไปมา “คุณเก็บเธอไว้ได้แค่ตัว แต่ไม่ใช่หัวใจ”

เขาถามขึ้นมาอย่างแสนเศร้า “ทำไม ทำไม… …”

เมื่อจ้านเซินกำลังจะสูญเสียการควบคุมและเอ่ยชื่อลู่เซิ่นขึ้นมา ถังย่าก็ปรากฏตัว

“จ้านเซิน”

ถังย่ามองไปยังภาพตรงหน้าที่ดูโหดร้าย รูม่านตาหดเล็กลงอารามตกใจ พลางตะโกนด้วยเสียงอันดัง

เธอไม่คิดว่าฉินซีจะมีอิทธิพลต่อจ้านเซินขนาดจะทำให้เขาเสียสติได้ขนาดนี้

“คุณกำลังทำอะไร!”

เสียงที่ดังขึ้น ทำให้จ้านเซินดึงสติของเขากลับมา

ก่อนที่เขาจะได้โต้ตอบอะไร ก็ถูกถังย่าลากตัวออกมา

“แค่ก แค่ก”

ฉินซีที่ได้อิสระไอออกมาอย่างแรง แก้มเธอย้อมด้วยสีแดงก่ำ

ถังย่าเห็นว่าตอนนี้คางของฉินซีช้ำเป็นสีเกือบม่วงแล้ว เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้จ้านเซินใช้แรงเยอะแค่ไหน

เธอมองไปที่จ้านเซินอย่างตำหนิ “คุณทำแบบนี้กับฉินซีได้ยังไง?”

ถึงอย่างไรพวกเขาก็มาจากองค์กรเดียวกัน ถังย่าอยากให้เราสามคนไม่หันหลังให้กัน

ฉากเมื่อกี้ ทำให้ถังย่าตกใจกลัวจริงๆ

หลังจากที่จ้านเซินถูกดึงออกมา สติของเขาก็ค่อยๆกลับมา

หลังจากหมอกหนาทึบตรงหน้าสลายไป เผยให้เห็นโลกตรงหน้า

เขาเห็นถังย่ามองตรงมาที่เขาด้วยความโกรธ จากนั้นสายตาของเขาก็ไปสบกับฉินซีที่นั่งอยู่บนโซฟา

ฉินซียังคงไออย่างแรง

ผิวของฉินซีขาวอยู่แล้ว บวกกับรอยมือของจ้านเซิน รอยแผลบนคางของเธอจึงดูน่าสยองมาก

จ้านเซินทรุดลงไปกับพื้น ตอนนี้หัวใจของเขาเจ็บปวด

เขามองไปที่ฉินซี ขยับปากจะพูด ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

จ้านเซินลดสายตาลง ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ฉันขอโทษ”

เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงสูญเสียการควบคุมตัวเอง บางทีอาจเป็นเพราะไม่เต็มใจ

จ้านเซินเป็นคนที่มีความอยากครอบครองสูง เขาไม่อาจทนดูคนที่ตัวเองรักหนีไปกับชายอื่นโดยไม่ทำอะไรไม่ได้

แม้ว่าจ้านเซินจะขอโทษ แต่ใจของฉินซีกลับปวดร้าวอย่างมาก

ตลอดมา เธอรู้สึกว่า ถึงแม้เธอกับจ้านเซินจะมีปัญหาอะไรกัน แต่ความรู้สึกในวัยเยาว์มันยังคงอยู่

แต่ทว่า ฉินซีเพิ่งจะรู้สึกได้อย่างชัดเจน ถ้าหากเธอไปจากเขาจริงๆ จ้านเซินจะโกรธ จนสามารถฆ่าเธอได้เลย

ความคิดนี้ที่ปรากฏให้เห็น ทำให้ฉินซีหวาดกลัว

เธอไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้น

ถ้าหากถูกจ้านเซินจับได้ ถ้าอย่างนั้นเธอกับลู่เซิ่น… …

“แค่กแค่กแค่ก”

ฉินซีไอแรงมากกว่าเดิม

ถังย่ามองไปที่เธอด้วยความเป็นห่วง เดินมาข้างกายเธอ นั่งลงก่อนถามเสียงต่ำ “ฉินซี ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ยังมีแผลอะไรบนตัวอีกไหม?”

เมื่อเจอกับความห่วงใย ฉินซีอยากจะพูด แต่ลำคอของเธอเจ็บมากเกินไป

เธอทำได้เพียงแค่ส่ายหน้า “ไม่ ไม่เป็นไร”

ซิวหน่ายซิงรินน้ำให้ฉินซีก่อนส่งสายตาให้เธอรับไป “คุณฉิน ดื่มน้ำให้ชุ่มคอหน่อยเถอะครับ”

เมื่อกี้จ้านเซินทำให้ซิวหน่ายซิงตกใจจริงๆ

ถึงแม้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ซิวหน่ายซิงได้เจอกับจ้านเซิน เขาก็รู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นคนที่ไม่น่าเข้าใกล้ แต่กลับไม่คาดคิดว่าเมื่อจ้านเซินโกรธจะน่ากลัวแบบนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ฉินซียังเป็นผู้หญิงที่จ้านเซินชอบอีกด้วย

ซิวหน่ายซิงอดไม่ได้ที่จะเริ่มกังวลกับถังย่าแล้วว่า ผู้ชายคนนี้คุ้มค่ากับความรักของเธอจริงหรือ?

ถ้าวันหนึ่งจ้านเซินทำร้ายถังย่าขึ้นมาละ จะทำอย่างไร?

เมื่อฉินซีรับน้ำแล้ว เธอก็พยักหน้าไปทางเข้า

“ขอบคุณค่ะ”

แม้ในเวลาแบบนี้ ฉินซีก็ยังคงรักษามารยาทเอาไว้ได้

ยิ่งเธออ่อนโยนและประพฤติตัวดีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งชัดเจนแล้วว่าเมื่อกี้จ้านเซินอำมหิตมากแค่ไหน

ฉินซีจิบน้ำ ในที่สุดเสียงเธอก็ดีขึ้นมาก

แต่รอยนิ้วมือที่คางก็ยังไม่หาย ถังย่ามองอย่างกังวล “ฉันจะไปเรียกหมอเหยามาช่วยดูให้”

พูดจบ ถังย่าก็หันหลังเดินออกไปจากห้อง

จ้านเซินยืนอยู่ตามลำพัง ดูโดดเดี่ยว

แม้การกระทำเมื่อครู่ของจ้านเซินจะทำให้ถังย่าโกรธมาก

แต่ เมื่อเห็นจ้านเซินทำท่าทางที่ดูยอมรับผิด ใจถังย่าก็อ่อนแล้ว

ถังย่าเดินไปยืนข้างๆจ้านเซิน ก่อนจะจับข้อมือของเขา ริมฝีปากสีแดงเปิดออก และพูดเบาๆ “คุณออกไปกับฉันหน่อย”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท